เริ่มจากขึ้นรถเมล์จากหน้าหอดูดาวแห่งชาติมาที่สถานีมิตากะ

ถึงสถานีมิตากะ

ไปขึ้นสายจูโอว

เวลานั้นคนแน่นเต็ม ไม่ต้องหวังที่จะนั่งเลย

แล้วก็มาถึงสถานีโตเกียว แต่ในจังหวะนั้นก็เห็นว่าเย็นแล้ว หิวแล้ว ก็เลยเปลี่ยนแผน ไปหาอะไรกินก่อนค่อยมาแวะร้านหนังสือดีกว่า ก็เลยตัดสินใจนั่งไปตามสายยามาโนเตะต่อไปอีกสถานี ไปลงที่
สถานียูรากุโจว (有楽町駅) ซึ่งอยู่ติดกับสถานีโตเกียว ถัดลงไปทางใต้เพียงสถานีเดียว

ถึงสถานียูรากุโจว

บรรยากาศแถวๆสถานี


เดินไปทางตะวันออกนิดหน่อยก็เข้าสู่ย่านกินซะ (
銀座) หรือ กินซ่า เห็นชื่อแล้วชวนให้นึกถึงของกิน

ที่มาที่นี่เพราะตั้งใจจะมากินอาหารนั่นเอง ครั้งนี้กะจะไปกินร้านไซเซริยะ (サイゼリヤ) อาหารอิตาลี ร้านอยู่ที่ตึกชื่อกินซะอินซ์ (
銀座インズ)


ภายในตึก

แต่ว่าพอเข้าไปถึงหาร้านไซเซริยะเจอก็พบว่าร้านต้องรอคิวนาน เลยเปลี่ยนใจ เลือกกินร้านกัสโต (カスト) ที่อยู่ข้างๆแทน

ร้านนี้มีอาหารหลายประเภทมาก อาหารอิตาลีก็มี เลยสั่งพิซซามากิน ไม่ได้กินของไซเซริยะก็มากินร้านนี้แทน อันนี้พิซซาหน้ากุ้ง

ราคารวมภาษีแล้วเป็น ๘๖๓ เยน

จากนั้นก็เดินไปที่ศูนย์หนังสือยาเอสึ ที่หมายที่ตั้งใจจะมาตั้งแต่แรก

ตึกระหว่างทางในย่านกินซะ ที่จริงแถวๆนี้เรียกว่าเป็นขอบทางตะวันตกสุดของกินซะ เราไม่ได้เข้าไปเดินตรงใจกลางของย่าน

ระหว่างทางผ่านสถานีรถไฟใต้ดิน
สถานีกินซะอิจโจวเมะ (銀座一丁目駅)
แล้วก็มาถึงศูนย์หนังสือ ที่นี่กว่้างใหญ่พอๆกับร้านหนังสือจุงกุโดวที่อิเกบุกุโระที่ไปมาวันก่อน

ภายในร้าน

ขึ้นมาดูตรงหมวดหนังสือดาราศาสตร์ มีเยอะมาก เสียดายค่อนข้างดึกแล้วเลยได้แต่ดูผ่านๆ ไม่ได้ใช้เวลามาก

จากนั้นมาดูตรงแถวหมวดหนังสือเรียนภาษา

ที่นี่ก็มีหนังสือเรียนภาษาทิเบตเล่มเดียวกับที่ซื้อในร้านจุงกุโดววันก่อน แต่นอกจากนั้นแล้วยังเจอหนังสือเรียนภาษาอุยกูร์ (ئۇيغۇر تىلى) ด้วย เป็นภาษาของชนกลุ่มน้อยในเขตปกครองตัวเองซินเจียง

อันนี้หนังสือเรียนภาษาลาว เป็นหนังสือในชุดนิวเอ็กซ์เพรส เช่นเดียวกับหนังสือเรียนภาษาทิเบตที่ซื้อมาวันก่อน

ทางมุมหนังสือภาษาเกาหลีก็มีหนังสือมากมาย เพราะเป็นภาษาที่นิยมเรียนมากที่สุดภาษานึงในญี่ปุ่น เจอเล่มน่าสนใจเล่มนึงคือหนังสือสอนการออกเสียงอักษรฮันกึล เพราะอักษรเกาหลีมีกฎการอ่านที่ดูเผินๆเหมือนจะง่ายแต่จริงๆซับซ้อนมาก เต็มไปด้วยข้อยกเว้นมากมายกว่าที่คิด ต้องสรุปเป็นเล่มแบบนี้เลยทีเดียว

ส่วนทางมุมนี้เป็นพวกหนังสือการ์ตูนให้ความรู้

หนังสือสอนประวัติศาสตร์เต็มไปหมดทั้งชั้น

จากนั้นเดินไปต่อ
ไม่นานก็ถึงฝั่งตะวันออกของสถานีโตเกียว

สถานีโตเกียวตั้งอยู่เขตจิโยดะใจกลางเมืองโตเกียว เป็นสถานีที่เก่าแก่ ตัวอาคารถูกสร้างขึ้นจากสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกอย่างสวยงาม
แต่ว่าตัวอาคารที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ที่คนรู้จักกันนั้นอยู่ทางฝั่งตะวันตก แต่ตอนนี้เราเดินจากทางฝั่งตะวันออก จึงต้องเดินต่อไปอีกหน่อย
ตอนแรกคิดว่าถ้าเข้าไปในตัวอาคารจะหาทางข้ามทะลุไปยังฝั่งตรงข้ามได้ แต่ก็หาทางผ่านไปไม่เจอ มีแต่ต้องแตะบัตรเข้าไปด้านในสถานี

สุดท้ายก็เลยต้องหาทางเดินอ้อมไปทางเหนือ

ข้ามมาทางตะวันตก ระหว่างทางยังผ่าน
สถานีโอเตะมาจิ (大手町駅) เป็นสถานีรถไฟใต้ดิน

แล้วก็มาถึงหน้าสถานีโตเกียว

จากด้านหน้าตัวอาคาร ดูแล้วเป็นอาคารที่สวยงามโดดเด่น


จากนั้นเข้ามาในสถานีเพื่อขึ้นรถไฟที่นี่

ด้านในโดมอาคารสถานีสวยดี

เนื่องจากเห็นว่ายังพอเหลือเวลา ยังไม่ดึกเกินไป จึงตัดสินใจตามเพื่อนไปนั่งเล่นคุยกันแถวห้องเช่าที่เขาพักอยู่
ห้องเช่านั้นอยู่ที่
สถานีคิจิโจวจิ (吉祥寺駅) อยู่ใน
เมืองมุซาชิโนะ (武蔵野市)เป็นที่น่าสนใจว่าสถานีที่อยู่ถัดจากสถานีคิจิโจวจิไปก็คือสถานีมิตากะ และถัดไปอีกเป็นสถานีมุซาชิซาไก แต่สถานีมุซาชิซาไกและสถานีคิจิโจวจินั้นอยู่ในเมืองมุซาชิโนะ ในขณะที่สถานีมิตากะซึ่งอยู่ตรงกลางนั้นอยู่ในเมืองมิตากะ นี่เป็นเพราะการแบ่งเขตสองเมืองนี้มีเส้นแบ่งที่หยึกหยักไปมา

แผนที่แสดงตำแหน่งเมืองมุซาชิโนะ สีชมพูเข้ม ทางใต้เป็นเมืองมิตากะ สถานีมิตากะอยู่ตรงรอยต่อระหว่างเมืองมิตากะกับเมืองมุซาชิโนะ แต่ค่อนไปทางเมืองมิตากะ

การเดินทางจากสถานีโตเกียวไปยังคิจิโจวจินั้นก็แค่ไปตามทางรถไฟสายจูโอว รถไฟที่ขึ้นมาเที่ยวนี้มีปลายทางอยู่ที่
สถานีโอวเมะ (青梅駅) ใน
เมืองโอวเมะ (青梅市) ซึ่งอยู่ไกลทางตะวันตกของโตเกียว


เดินทางมาถึงสถานีคิจิโจวจิ

ทางฝั่งเหนือของสถานีเป็นย่านร้านค้าจิจิโจวจิซันโรด (
吉祥寺サンロード
商店街) มีร้านค้ามากมาย แต่ว่ามาดึกไปหน่อย ตอนนั้นสี่ทุ่มกว่าแล้ว ร้านจำนวนมากปิดไปแล้ว


เราแวะร้านกาแฟนี้ ซึ่งปิดห้าทุ่ม นั่งกันอยู่จนถึงห้าทุ่ม

ตอนอยู่ในร้านสั่งโกโก้มาดื่ม พอหมดก็ขอเติมน้ำเปล่าได้

ราคา ๓๖๐ เยน รวมภาษีแล้ว

หลังออกมาจากร้านแล้วก็เดินไปที่ห้องเช่าของเพื่อน ซึ่งอยู่ทางใต้ของสถานี
ระหว่างทาง

เจอร้านอาหารไทยด้วย

แวะดูแป๊บเดียวแล้วก็กลับมาที่สถานีเพื่อขึ้นรถกลับโรงแรม

การเดินทางกลับโรงแรมจากที่นี่มีหลายวิธี แต่ที่ราคาถูกที่สุดคือนั่งรถไฟของเคย์โอว โดยนั่งสาย
อิโนะคาชิระ (井の頭線) ไปถึง
สถานีเมย์ไดมาเอะ (明大前駅) แล้วต่อสายเคย์โอวไปลงสถานีฟุจู เนื่องจากใช้รถไฟของเคย์โอวทั้งหมด เวลาต่อรถจึงไม่ต้องแตะบัตรแล้วออก จ่ายค่ารถต่อเดียว จึงถูกกว่าวิธีอื่น แม้ว่าเส้นทางจะดูค่อนข้างอ้อมก็ตาม

รถไฟที่ขึ้นนี้เป็นรถไฟแบบด่วน จอดเฉพาะสถานีที่สำคัญ จึงไปถึงสถานีเมย์ไดมาเอะที่เป็นเป้าหมายได้ในเวลารวดเร็ว

รถไฟออกจากสถานีคิจิโจวจิ


ถึงสถานีเมย์ไดมาเอะ มาเปลี่ยนรถไฟไปยังสายเคย์โอว เพื่อกลับไปถึงสถานีฟุจู แล้วก็เข้าโรงแรม ตอนที่ถึงก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว

เล่าเรื่องจบไปอีกวัน ตอนต่อไปจะเป็นตอนสุดท้าย วันเดินทางกลับ
https://phyblas.hinaboshi.com/20190321