# เสาร์ 5 ส.ค. 2023
หลังจากที่ตอนที่แล้วได้เดินทางมาจนถึงจังหวัดอากิตะ
https://phyblas.hinaboshi.com/20230807เป้าหมายแรกของเราเที่ยวครั้งนี้คือใน
เมืองคิซากาตะ (象潟町)คิซากาตะนั้นปัจจุบันไม่ได้มีสถานะเป็นเมือง เนื่องจากเกิดการควบรวมเมืองในปี 2005 โดย ๓ เมืองเล็กทางใต้ของจังหวัดอากิตะได้รวมเข้าด้วยกันกลายเป็น
เมืองนิกาโฮะ (にかほ市) ในจำนวนนั้นเมืองคิซากาตะคือส่วนที่ใหญ่ที่สุดและได้กลายมาเป็นใจกลางของเมืองนิกาโฮะในปัจจุบัน
แผนที่จังหวัดอากิตะ แสดงตำแหน่งเมืองนิกาโฮะเป็นสีชมพูเข้มเล็กๆด้านซ้ายล่างสุด
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/chizu/akita/nikaho.jpg)
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/chizu/akita.jpg)
นอกจากเมืองคิซากาตะแล้วอีก ๒ เมืองที่ถูกรวมเข้าด้วยกันได้แต่
เมืองโคโนอุระ (金浦町) กับ
เมืองนิกาโฮะ (仁賀保町) โดยเมืองนิกาโฮะเดิมนั้นต่างจากเมืองนิกาโฮะในปัจจุบันตรงที่เขียนด้วยอักษรคันจิ ในขณะที่เมืองนิกาโฮะหลังควบรวมจะใช้ฮิรางานะล้วน
เมืองคิซากาตะนั้นเป็นบ้านเกิดของนักวาดที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งคือ
อิเกดะ ชูโซว (池田 修三) ซึ่งภาพวาดของเขาก็ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองนี้ จะเห็นภาพวาดของเขาได้ตามที่สำคัญต่างๆในเมือง
ที่จริงเมืองนี้ก็ไม่ใช่ที่เที่ยวชื่อดังอะไร เป็นแค่เมืองเล็กๆที่ดูไม่มีอะไรมาก ที่เราเลือกมาแวะเที่ยวเมืองนี้ก็เพราะว่าเป็นเมืองที่ติดชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น มีทั้งหาดทรายและท่าเรือ น่ามาเดินเล่นดู และสถานีศูนย์กลางของเมืองนี้คือ
สถานีคิซากาตะ (象潟駅) นั้นตั้งอยู่บน
สายหลักอุเอตสึ (羽越本線) ซึ่งโยงไปสู่เมืองอากิตะ
ที่น่าสนใจคือบริเวณคิซากาตะนั้นในอดีตเคยเป็นทะเลสาบน้ำเค็มริมฝั่งทะเลด้วย บริเวณที่ตั้งสถานีคิซากาตะและย่านเมืองรอบๆนั้นก็เคยเป็นผืนน้ำมาก่อน แต่ว่าเนื่องจากเกิดแผ่นดินไหวในปี 1804 ทำให้แผ่นดินบริเวณนี้สูงขึ้น กลายเป็นแผ่นดิน และกลายเป็นที่ตั้งเมืองและท้องนา
ในตอนที่แล้วเราได้นั่งแท็กซีที่ทางการรถไฟเตรียมไว้ให้แทนรถไฟด่วนที่ถูกยกเลิกไป เขาพาเรามาถึงคิซากาตะ แต่เราให้เขาจอดให้ลงก่อนที่ป้ายรถเมล์ฮามายามะ (
浜山) เนื่องจากตรงนี้อยู่ใกล้กับ
พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านคิซากาตะ (象潟郷土資料館) ซึ่งเป็นสถานที่เที่ยวแรกในเมืองนี้ที่เราตั้งเป้าจะแวะมาชม
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/065.jpg)
จากตรงนี้ก็เดินไปทางตะวันออก
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/066.jpg)
ข้ามรางรถไฟไป
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/067.jpg)
ระหว่างทางนั้นอากาศร้อนทรมาน ภาพในกล้องมือถือเองก็สั่นและบิดเบี้ยว ในเที่ยวนี้มีหลายภาพที่ถ่ายออกมาแล้วออกมาบิดเบี้ยวหยึกหยัยกอย่างในรูปนี้
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/068.jpg)
มองไปทางโน้นเห็นที่ว่าการเมืองนิกาโฮะ (にかほ
市役所) ซึ่งเดิมทีแล้วเคยเป็นที่ว่าการเมืองคิซากาตะ แต่ปัจจุบันหลังจากที่ควบรวมกลายเป็นเมืองนิกาโฮะแล้วจึงกลายมาเป็นที่ว่าการของเมืองนิกาโฮะไป
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/069.jpg)
ถึงตรงนี้เจอป้ายชี้ไปยังพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านคิซากาตะ
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/070.jpg)
เลี้ยวเข้ามาตรงนี้
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/071.jpg)
แล้วก็มาถึง นี่คืออาคารพิพิธภัณฑ์ ดูแล้วเล็กนิดเดียว มี ๓ ชั้น
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/073.jpg)
เข้ามาด้านใน ตรงประตูเต็มไปด้วยภาพวาดของอิเกะ ชูโซว
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/074.jpg)
ภายในอาคารบริเวณชั้น ๑ มีช่องขายตั๋ว จ่ายค่าเข้าชมราคา ๑๕๐ เยน ที่เห็นอยู่ตรงหน้านี้คือภาพวาดของอิเกดะ ชูโซว ภาพเด็กผู้หญิงที่เขาวาดดูโดดเด่นมีเอกลักษณ์
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/075.jpg)
ชั้น ๑ ไม่ได้มีส่วนจัดแสดงอะไร การชมจึงเริ่มที่ชั้น ๒ ต้องขึ้นบันไดจากตรงนี้ไป
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/076.jpg)
นี่คือห้องจัดแสดงชั้น ๒ ซึ่งจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเมืองนี้ แต่ว่าด้านในห้ามถ่ายรูป จึงไม่ได้เก็บภาพมาลงในนี้
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/077.jpg)
จากนั้นก็ขึ้นไปชมชั้น ๓ ประกอบด้วยห้องจัดแสดง ๒ ห้อง ทางซ้ายนี้คือห้องจัดแสดงผลงานของอิเกดะชูโซว ส่วนที่อยู่ลึกเข้าไปคือส่วนจัดแสดงของเก่าของเมืองนี้ ไม่ว่าจะห้องไหนก็ห้ามถ่ายรูป จึงได้แต่ถ่ายภาพด้านหน้าห้อง ซึ่งก็เต็มไปด้วยผลงานของอิเกดะ ชูโซวเหมือนกัน
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/078.jpg)
ภาพ ๓ สาวที่ตั้งอยู่หน้าห้องนี้ดูสวยเด่นดี
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/079.jpg)
ภาพเด็กสาวเล่นเครื่องดนตรีเป่าบนประตูห้องจัดแสดง
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/080.jpg)
ภาพบนหน้าต่าง
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/081.jpg)
ที่ตรงหน้าต่างนี้มีป้ายเขียนไว้ชัดว่าที่นี่ถ่ายรูปได้
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/082.jpg)
และจากหน้าต่างนี้มองลงไปเห็นส่วนจัดแสดงชั้น ๒ ซึ่งห้ามถ่ายรูป แสดงว่าถ้าเข้าไปในห้องนั้นห้ามถ่าย แต่กลับให้ถ่ายจากด้านบนได้ เห็นแล้วก็ดูย้อนแย้ง เลยได้แต่ถ่ายจากตรงนี้
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/083.jpg)
ลึกเข้าไปตรงนี้ก็เจอภาพวาดของอิเกดะ ชูโซวอีก
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/084.jpg)
การชมภายในพิพิธภัณฑ์ก็จบลงเท่านี้ ใช้เวลาชมแค่ ๑๐ นาทีเท่านั้นเอง เพราะมันเล็กมากจริงๆ
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/085.jpg)
จากนั้นก็เดินเที่ยวในเมืองต่อ คราวนี้เดินไปทางตะวันตกมุ่งไปยังชายฝั่งทะเล
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/087.jpg)
ตรงนี้เป็นป้ายแสดงบอกว่าเป็นเส้นทางที่มัตสึโอะ บาโชว (
松尾 芭蕉) กวีชื่อดังเดินทางผ่าน และได้เขียนถึงไว้ในโอกุโนะโฮโซมิจิ (おくのほそ
道)
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/088.jpg)
เดินเข้าไปผ่านย่านเมืองไปเรื่อยๆ
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/090.jpg)
ตรงนี้มีศาลเจ้าเล็กๆแห่งหนึ่งชื่อ
ศาลเจ้าโคชิโอว (古四王神社) เลยแวะเข้ามาเดินในนี้สักหน่อย แต่ว่าระหว่างนั้นกล้องมือถือสภาพไม่ค่อยดีเลยได้ภาพเบลอๆบิดเบี้ยวซะมาก
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/091.jpg)
เข้ามาเดินดูด้านใน
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/094.jpg)
ออกจากศาลเจ้าแล้วเดินต่อไป
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/098.jpg)
แล้วในที่สุดก็มาถึงทะเลแล้ว ตรงนี้เรียกว่า
ท่าเรือประมงคิซากาตะ (象潟漁港) ![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/099.jpg)
เดินชมริมอ่านท่าเรือ
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/100.jpg)
มองไปไกลทางโน้นเห็นภูเขาไฟสูงเด่น นั่นคือภูเขา
โจวไคซัง (鳥海山) ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดอากิตะกับจังหวัดยามางาตะ แต่ยอดสูงสุดสูง ๒๒๓๖ เมตรอยู่ที่ฝั่งจังหวัดยามางาตะ
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/101.jpg)
เดินชมเรือที่จอดอยู่ที่ท่าเรือ
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/105.jpg)
ตรงนี้มีศาลเจ้าแม่กวนอิมอยู่ด้วย
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/106.jpg)
เดินต่อไปจะเป็นบริเวณชายหาดที่เรียกว่าสถานที่เล่นน้ำทะเลคิซากาตะ (
象潟海水浴場)
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/107.jpg)
ร้านขายของและร้านอาหารริมชายหาด ดูแล้วถ้ามีเวลาก็แวะกินอะไรตรงนี้ได้
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/108.jpg)
แล้วก็มาเดินเล่นบนหาดทราย
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/109.jpg)
และก็เหมือนเป็นธรรมเนียมว่าถ้ามาเที่ยวหาดทรายจะต้องขีดเขียนอะไรเป็นภาษาไทยสักหน่อย จึงเขียนชื่อจังหวัด "อากิตะ"
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/110.jpg)
และก็เขียนชื่อเมือง "คิซากาตะ" ไว้ด้วย แต่ว่าเขียนยาก อาจดูไม่ค่อยชัดเท่าไหร่
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/111.jpg)
เนื่องจากเป็นฤดูร้อนเลยเห็นคนมาเล่นน้ำกัน แม้ว่าคนจะดูไม่เยอะนัก อาจเพราะตอนนี้อากาศมันร้อนมาก แดดก็จ้า
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/114.jpg)
อันนี้ไม่รู้ก้อนอะไร
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/115.jpg)
ภาพบนชายหาดที่มีฉากหลังเป็นภูเขาโจวไกซังและท้องฟ้าสวย
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/116.jpg)
เนื่องจากบริเวณชายหาดก็เล็กนิดเดียว และอากาศร้อน เดินไปนานๆก็ทรมาน จึงเดินอยู่แค่แป๊บเดียวแล้วก็รีบมาหลบร่ม
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/118.jpg)
ภาพถ่ายทะเลครั้งสุดท้ายก่อนเดินจากไป
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/119.jpg)
จากนั้นก็แค่เดินตรงไปถามถนนนี้ไปเรื่อยๆก็จะไปถึงสถานีคิซากาตะ
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/124.jpg)
แล้วก็เดินมาจนถึงสถานีคิซากาตะ จากตรงนี้ไปเราจะขึ้นรถไฟที่นี่เพื่อเดินทางไปยังเมืองอากิตะ
![](https://phyblas.hinaboshi.com/rup/nihon/2023/08/125.jpg)
สำหรับเรื่องเล่าภายในบริเวณสถานีคิซากาตะและการเดินทางรถไฟไปตามทางจนถึงเมืองอากิตะนั้นจะยกไปเล่าในตอนหน้า
https://phyblas.hinaboshi.com/20230809