นั่งชิงกันเซงจากฟุกุโอกะเดินทางไปทำงานที่โตเกียวแล้วค้างที่โยโกฮามะคืนนึงก่อนกลับ
เขียนเมื่อ 2024/09/27 05:52
แก้ไขล่าสุด 2024/10/03 18:37
# 26 ~ 27 ก.ย. 2024
ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ย้ายมาอาศัยอยู่ที่ฟุกุโอกะก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานอยู่แต่ในเมืองฟุกุโอกะตลอดไม่ได้ออกไปไหนเลย จนถึงวันที่ 26 กันยายน เวลาผ่านไปเกือบครึ่งปีพอดี ก็มีธุระต้องไปทำงานที่โตเกียว
การเดินทางระหว่างฟุกุโอกะกับโตเกียวนั้นอาจนั่งเครื่องบินหรือชิงกันเซงก็ได้ แต่เราเลือกไปโดยชิงกันเซง แม้ว่าจะต้องใช้เวลาถึง ๕ ชั่วโมงแต่ก็สะดวกกว่า แล้วสถานที่เป้าหมายก็อยู่ในเขตจูโอวใกล้กับสถานีโตเกียว ดังนั้นลงชิงกันเซงแล้วก็นั่งรถไฟใต้ดินไปถึงได้เลย
เนื่องจากการเดินทางใช้เวลานาน การเดินทางไปกลับภายในวันเดียวจึงยาก ครั้งนึงจึงค้างคืนนึงแล้วค่อยกลับ โดยเลือกค้างคืนที่โยโกฮามะแทนที่จะเป็นในโตเกียวเพราะว่าราคาถูกกว่า แล้วจากโยโกฮามะก็มีชิงกันเซง กลับได้เช่นกัน
ก่อนอื่นซื้อตั๋วไว้ล่วงหน้าทั้งขาไปและขากลับ ขาไปจากสถานีฮากาตะไปลงสถานีโตเกียว 26 ก.ย. 6:36~11:33 ขากลับขึ้นจากสถานีชินโยโกฮามะกลับมาฮากาตะ 27 ก.ย. 8:31~13:09
ตอนเช้าวันที่ 26 ตื่นแต่เช้าตรู่มา เดินไปยังสถานี ทิวทัศน์บนสะพานเฮียกุเนง (百年橋) ระหว่างทางเดินไป
มาถึงสถานีฮากาตะ
เข้าไปขึ้นชิงกันเซง
แล้วก็มาถึงสถานีโตเกียว
จากนั้นเราถือโอกาสแวะมาทำบัตร Suica ด้วย เพราะก่อนหน้านี้ทำหายไป และที่ฟุกุโอกะก็ไม่สามารถทำบัตรนี้ได้ แต่ก็พบว่าตอนนี้บัตร Suica ไม่สามารถทำได้ง่ายแบบเมื่อก่อนเนื่องจากความขาดแคลนชิปตั้งแต่ปีที่แล้ว ต้องใส่ข้อมูลทั้งชื่อ วันเกิด หมายเลขโทรศัพท์ จึงจะทำได้ สุดท้ายก็ทำได้ แต่ก็ใช้เวลามากกว่าที่คิด
จากนั้นเราก็ไปขึ้นรถไฟใต้ดินเพื่อมุ่งไปยังเป้าหมายที่ทำงานครั้งนี้ซึ่งอยู่ที่ตึกอินุอิคาจิโดกิ (イヌイビル・カチドキ) ซึ่งอยู่ใกล้สถานีคาจิโดกิ (勝どき駅)
การไปนั้นเริ่มจากไปขึ้นรถไฟใต้ดินที่สถานีโอเตะมาจิ (大手町駅) ซึ่งอยู่ข้างๆสถานีโตเกียว
โดยต้องมาต่อรถไฟที่สถานีมนเซงนากะโจว (門前仲町駅)
แล้วจึงมาถึงสถานีคาจิโดกิ
เดินขึ้นมา แถวนี้เป็นย่านใจกลางเมืองเต็มไปด้วยตึกสูง
ระหว่างทางเดินไป
ทางโน้นเป็นสะพานคาจิโดกิ (勝鬨橋)
แล้วตึกอินุอิคาจิโดกิซึ่งเป็นเป้าหมายก็อยู่ตรงริมแม่น้ำข้างๆสะพานนี้ จากบนตึกเห็นทิวทัศน์ริมแม่น้ำสวยทีเดียว
จากนั้นก็เข้าไปทำธุระจนเสร็จ ออกมาก็ตอนกลางคืนฟ้ามืดแล้ว
กลับมาขึ้นรถไฟใต้ดินที่สถานีคาจิโดกิ
คืนนี้ค้างคืนที่โรงแรมในโยโกฮามะ เป้าหมายอยู่ที่สถานีบาชามิจิ (馬車道駅) การเดินทางไปเริ่มจากไปเปลี่ยนรถที่สถานีไดมง (大門駅) เพื่อนั่งรถไฟไปยังโยโกฮามะ ลงที่สถานีโยโกฮามะ (横浜駅) แล้วจึงนั่งรถไฟใต้ดินไปถึง
ระหว่างรอรถไฟในสถานีคาจิโดกิ
ลงที่สถานีไดมง
เดินไปเปลี่ยนรถไฟ
ตรงนี้เป็นชานชลาขึ้นรถไฟที่จะไปยังโยโกฮามะได้ แต่ว่าตอนไปถึงนั้นรถไฟที่กำลังจะออกนั้นเป็นขบวนที่ไปยังสนามบินฮาเนดะ เป็นคนละเส้นกัน ต้องรอก่อน
แล้วรถไฟสำหรับไปโยโกฮามะก็มาถึง
รถไฟที่ขึ้นนั้นเป็นแบบด่วน จอดเฉพาะสถานีที่สำคัญเท่านั้น จึงไปถึงโยโกฮามะได้เร็ว
แล้วก็มาถึงสถานีโยโกฮามะ
เราออกมาจากสถานีเดินเล่นแถวนี้นิดหน่อยก่อนที่จะไปต่อ
กลับลงไปนั่งรถไฟใต้ดิน
ชั้นใต้ดินตรงนี้เป็นห้าง ก็น่ามาเดินอยู่
จากห้างใต้ดินเชื่อมเข้าสู่สถานีรถไฟใต้ดิน
บนชานชลารถไฟใต้ดิน
แล้วก็มาถึงสถานีบาชามิจิ
ภายในสถานีนี้ดูกว้างขวาง เพดานสวยงามมาก
เดินขึ้นมา ออกจากสถานี
ตึกอากโรงแรมที่พักคืนนี้อยู่ตรงหน้านี้แล้ว คือโรงแรม APA ตึกโยโกฮามะเบย์ทาวเวอร์ (横浜ベイタワー)
ที่เห็นเป็นตึกสูงนี้คือเป็นโรงแรมทั้งตึก เต็มไปด้วยห้องพักมากมาย
ก่อนอื่นเข้ามาเช็กอิน ภายในห้องเช็กอินเองก็ดูหรูหรามาก เห็นเป็นตึกใหญ่หรูหราแบบนี้แต่ว่าราคาค่าห้องถูกมาก ห้องที่เราพักนี่ราคาแค่คืนละ ๖,๔๖๐ เยนเท่านั้น เป็นโรงแรมที่เหมาะกับคนที่ต้องการเที่ยวแบบประหยัด
ห้องพักที่เราได้พักอยู่ชั้น ๒๗ ขึ้นลิฟต์มา
ทิวทัศน์จากห้องพัก ทิวทัศน์ดีทีเดียว
แล้วก็นอน ตื่นมาตอนเช้า พบกว่าฝนกำลังตก มองออกไปเต็มไปด้วยเมฆหมอกหม่นหมอง
ถ่ายภาพห้องก่อนที่จะออกไป
เดินออกจากโรงแรมไปท่ามกลางสายฝนเพื่อเดินทางกลับ
ครั้งนี้เป้าหมายคือสถานีชินโยโกฮามะ ซึ่งต้องไปขึ้นรถไฟใต้ดินคนละสายกับที่มาจากสถานีโยโกฮามะตอนแรก สถานที่ขึ้นก็ต่างไป อยู่ไกลออกไปหน่อย คือขึ้นที่สถานีคันไน (関内駅)
ระหว่างทางผ่านสถานีบาชามิจิที่มาลงเมื่อคืน
เดินต่อไป
ระหว่างทางผ่านพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์จังหวัดคานางาวะ (神奈川県立歴史博物館)
แล้วก็มาถึงทางลงไปยังสถานีคันไน
มาขึ้นรถไฟสายบลูไลน์ไป (ブルーライン)
ในนี้กำลังเป็นช่วงเช้าที่คนแน่นจนไม่มีที่ให้ได้นั่งเลย
มาลงที่สถานีชินโยโกฮามะ
ตัวสถานีรถไฟใต้ดินนั้นอยู่ห่างจากสถานีชินกันเซงไปอีกหน่อย พอลงแล้วก็ต้องออกมาก่อนแล้วจึงเดินไป
ระหว่างทางเดินไป
แล้วก็มาถึง อาคารตรงนั้นคือสถานีชินโยโกฮามะ
รีบเข้ามาขึ้นรถไฟชิงกันเซง ระหว่างทางรีบจนเผลอทำตั๋วตกโดยไม่รู้ตัวด้วย มารู้ตัวอีกทีก็ตอนกำลังจะเดินผ่านที่ตรวจตั๋วแล้วพบว่าตั๋วไม่อยู่กับตัว ใจหายเลย เลยเดินย้อนกลับไปยังทางที่ตัวเองเดินผ่านมาแล้วก็พบตั๋วตกอยู่ ดีที่ยังไม่มีใครเก็บไป นี่ถ้าหายขึ้นมาจริงๆคงต้องไปซื้อใหม่ ซึ่งก็แพงมากด้วย
ตารางชิงกันเซงมีหลายรอบมาถี่มาก บางส่วนไปลงแค่ชินโอซากะหรือแค่นาโงยะ ส่วนที่เราจะขึ้นนั้นคือที่ไปถึงฮากาตะ
ขบวนชิงกันเซงที่ขึ้น
สภาพบัตรที่หักงอเล็กน้อยจากการทำหล่นระหว่างทาง ยังดีที่ไม่ได้ขาดไป สภาพยังใช้ได้อยู่ เลยสามารถมาขึ้นชิงกันเซงกลับได้
รอบขากลับนี้ได้นั่งริมหน้าต่าง ระหว่างทางก็เลยได้ถ่ายทิวทัศน์มาบ้าง นี่เป็นตอนผ่านสถานีเกียวโต
แถวสถานีโทกุยามะ จังหวัดยามางุจิ ทิวทัศน์โรงงานริมทะเลดูสวยงามอย่างน่าประหลาดจนต้องมองดูทุกครั้งที่ผ่าน
สถานีโคกุระทางเหนือสุดของเกาะคิวชู เมื่อผ่านสถานีนี้แล้วก็กลับมาถึงสถานีฮากาตะอันเป็นเป้าหมายปลายทาง
การเดินทางครั้งนี้ก็จบลงเท่านี้ ตอนบ่ายก็กลับเข้าไปทำงานต่อ
ก็ถือเป็นบันทึกการเดินทางสั้นๆแค่ ๒ วัน ครั้งนี้ได้แวะทั้งโตเกียวและโยโกฮามะถือว่าเป็นโอกาสดีที่ได้เปลี่ยนบรรยากาศไปจากชีวิตประจำวันที่อยู่แต่ในฟุกุโอกะมาตลอด แม้ว่าเวลาส่วนใหญ่หมดไปแค่บนรถไฟก็ตาม
ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ย้ายมาอาศัยอยู่ที่ฟุกุโอกะก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานอยู่แต่ในเมืองฟุกุโอกะตลอดไม่ได้ออกไปไหนเลย จนถึงวันที่ 26 กันยายน เวลาผ่านไปเกือบครึ่งปีพอดี ก็มีธุระต้องไปทำงานที่โตเกียว
การเดินทางระหว่างฟุกุโอกะกับโตเกียวนั้นอาจนั่งเครื่องบินหรือชิงกันเซงก็ได้ แต่เราเลือกไปโดยชิงกันเซง แม้ว่าจะต้องใช้เวลาถึง ๕ ชั่วโมงแต่ก็สะดวกกว่า แล้วสถานที่เป้าหมายก็อยู่ในเขตจูโอวใกล้กับสถานีโตเกียว ดังนั้นลงชิงกันเซงแล้วก็นั่งรถไฟใต้ดินไปถึงได้เลย
เนื่องจากการเดินทางใช้เวลานาน การเดินทางไปกลับภายในวันเดียวจึงยาก ครั้งนึงจึงค้างคืนนึงแล้วค่อยกลับ โดยเลือกค้างคืนที่โยโกฮามะแทนที่จะเป็นในโตเกียวเพราะว่าราคาถูกกว่า แล้วจากโยโกฮามะก็มีชิงกันเซง กลับได้เช่นกัน
ก่อนอื่นซื้อตั๋วไว้ล่วงหน้าทั้งขาไปและขากลับ ขาไปจากสถานีฮากาตะไปลงสถานีโตเกียว 26 ก.ย. 6:36~11:33 ขากลับขึ้นจากสถานีชินโยโกฮามะกลับมาฮากาตะ 27 ก.ย. 8:31~13:09
ตอนเช้าวันที่ 26 ตื่นแต่เช้าตรู่มา เดินไปยังสถานี ทิวทัศน์บนสะพานเฮียกุเนง (百年橋) ระหว่างทางเดินไป
มาถึงสถานีฮากาตะ
เข้าไปขึ้นชิงกันเซง
แล้วก็มาถึงสถานีโตเกียว
จากนั้นเราถือโอกาสแวะมาทำบัตร Suica ด้วย เพราะก่อนหน้านี้ทำหายไป และที่ฟุกุโอกะก็ไม่สามารถทำบัตรนี้ได้ แต่ก็พบว่าตอนนี้บัตร Suica ไม่สามารถทำได้ง่ายแบบเมื่อก่อนเนื่องจากความขาดแคลนชิปตั้งแต่ปีที่แล้ว ต้องใส่ข้อมูลทั้งชื่อ วันเกิด หมายเลขโทรศัพท์ จึงจะทำได้ สุดท้ายก็ทำได้ แต่ก็ใช้เวลามากกว่าที่คิด
จากนั้นเราก็ไปขึ้นรถไฟใต้ดินเพื่อมุ่งไปยังเป้าหมายที่ทำงานครั้งนี้ซึ่งอยู่ที่ตึกอินุอิคาจิโดกิ (イヌイビル・カチドキ) ซึ่งอยู่ใกล้สถานีคาจิโดกิ (勝どき駅)
การไปนั้นเริ่มจากไปขึ้นรถไฟใต้ดินที่สถานีโอเตะมาจิ (大手町駅) ซึ่งอยู่ข้างๆสถานีโตเกียว
โดยต้องมาต่อรถไฟที่สถานีมนเซงนากะโจว (門前仲町駅)
แล้วจึงมาถึงสถานีคาจิโดกิ
เดินขึ้นมา แถวนี้เป็นย่านใจกลางเมืองเต็มไปด้วยตึกสูง
ระหว่างทางเดินไป
ทางโน้นเป็นสะพานคาจิโดกิ (勝鬨橋)
แล้วตึกอินุอิคาจิโดกิซึ่งเป็นเป้าหมายก็อยู่ตรงริมแม่น้ำข้างๆสะพานนี้ จากบนตึกเห็นทิวทัศน์ริมแม่น้ำสวยทีเดียว
จากนั้นก็เข้าไปทำธุระจนเสร็จ ออกมาก็ตอนกลางคืนฟ้ามืดแล้ว
กลับมาขึ้นรถไฟใต้ดินที่สถานีคาจิโดกิ
คืนนี้ค้างคืนที่โรงแรมในโยโกฮามะ เป้าหมายอยู่ที่สถานีบาชามิจิ (馬車道駅) การเดินทางไปเริ่มจากไปเปลี่ยนรถที่สถานีไดมง (大門駅) เพื่อนั่งรถไฟไปยังโยโกฮามะ ลงที่สถานีโยโกฮามะ (横浜駅) แล้วจึงนั่งรถไฟใต้ดินไปถึง
ระหว่างรอรถไฟในสถานีคาจิโดกิ
ลงที่สถานีไดมง
เดินไปเปลี่ยนรถไฟ
ตรงนี้เป็นชานชลาขึ้นรถไฟที่จะไปยังโยโกฮามะได้ แต่ว่าตอนไปถึงนั้นรถไฟที่กำลังจะออกนั้นเป็นขบวนที่ไปยังสนามบินฮาเนดะ เป็นคนละเส้นกัน ต้องรอก่อน
แล้วรถไฟสำหรับไปโยโกฮามะก็มาถึง
รถไฟที่ขึ้นนั้นเป็นแบบด่วน จอดเฉพาะสถานีที่สำคัญเท่านั้น จึงไปถึงโยโกฮามะได้เร็ว
แล้วก็มาถึงสถานีโยโกฮามะ
เราออกมาจากสถานีเดินเล่นแถวนี้นิดหน่อยก่อนที่จะไปต่อ
กลับลงไปนั่งรถไฟใต้ดิน
ชั้นใต้ดินตรงนี้เป็นห้าง ก็น่ามาเดินอยู่
จากห้างใต้ดินเชื่อมเข้าสู่สถานีรถไฟใต้ดิน
บนชานชลารถไฟใต้ดิน
แล้วก็มาถึงสถานีบาชามิจิ
ภายในสถานีนี้ดูกว้างขวาง เพดานสวยงามมาก
เดินขึ้นมา ออกจากสถานี
ตึกอากโรงแรมที่พักคืนนี้อยู่ตรงหน้านี้แล้ว คือโรงแรม APA ตึกโยโกฮามะเบย์ทาวเวอร์ (横浜ベイタワー)
ที่เห็นเป็นตึกสูงนี้คือเป็นโรงแรมทั้งตึก เต็มไปด้วยห้องพักมากมาย
ก่อนอื่นเข้ามาเช็กอิน ภายในห้องเช็กอินเองก็ดูหรูหรามาก เห็นเป็นตึกใหญ่หรูหราแบบนี้แต่ว่าราคาค่าห้องถูกมาก ห้องที่เราพักนี่ราคาแค่คืนละ ๖,๔๖๐ เยนเท่านั้น เป็นโรงแรมที่เหมาะกับคนที่ต้องการเที่ยวแบบประหยัด
ห้องพักที่เราได้พักอยู่ชั้น ๒๗ ขึ้นลิฟต์มา
ทิวทัศน์จากห้องพัก ทิวทัศน์ดีทีเดียว
แล้วก็นอน ตื่นมาตอนเช้า พบกว่าฝนกำลังตก มองออกไปเต็มไปด้วยเมฆหมอกหม่นหมอง
ถ่ายภาพห้องก่อนที่จะออกไป
เดินออกจากโรงแรมไปท่ามกลางสายฝนเพื่อเดินทางกลับ
ครั้งนี้เป้าหมายคือสถานีชินโยโกฮามะ ซึ่งต้องไปขึ้นรถไฟใต้ดินคนละสายกับที่มาจากสถานีโยโกฮามะตอนแรก สถานที่ขึ้นก็ต่างไป อยู่ไกลออกไปหน่อย คือขึ้นที่สถานีคันไน (関内駅)
ระหว่างทางผ่านสถานีบาชามิจิที่มาลงเมื่อคืน
เดินต่อไป
ระหว่างทางผ่านพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์จังหวัดคานางาวะ (神奈川県立歴史博物館)
แล้วก็มาถึงทางลงไปยังสถานีคันไน
มาขึ้นรถไฟสายบลูไลน์ไป (ブルーライン)
ในนี้กำลังเป็นช่วงเช้าที่คนแน่นจนไม่มีที่ให้ได้นั่งเลย
มาลงที่สถานีชินโยโกฮามะ
ตัวสถานีรถไฟใต้ดินนั้นอยู่ห่างจากสถานีชินกันเซงไปอีกหน่อย พอลงแล้วก็ต้องออกมาก่อนแล้วจึงเดินไป
ระหว่างทางเดินไป
แล้วก็มาถึง อาคารตรงนั้นคือสถานีชินโยโกฮามะ
รีบเข้ามาขึ้นรถไฟชิงกันเซง ระหว่างทางรีบจนเผลอทำตั๋วตกโดยไม่รู้ตัวด้วย มารู้ตัวอีกทีก็ตอนกำลังจะเดินผ่านที่ตรวจตั๋วแล้วพบว่าตั๋วไม่อยู่กับตัว ใจหายเลย เลยเดินย้อนกลับไปยังทางที่ตัวเองเดินผ่านมาแล้วก็พบตั๋วตกอยู่ ดีที่ยังไม่มีใครเก็บไป นี่ถ้าหายขึ้นมาจริงๆคงต้องไปซื้อใหม่ ซึ่งก็แพงมากด้วย
ตารางชิงกันเซงมีหลายรอบมาถี่มาก บางส่วนไปลงแค่ชินโอซากะหรือแค่นาโงยะ ส่วนที่เราจะขึ้นนั้นคือที่ไปถึงฮากาตะ
ขบวนชิงกันเซงที่ขึ้น
สภาพบัตรที่หักงอเล็กน้อยจากการทำหล่นระหว่างทาง ยังดีที่ไม่ได้ขาดไป สภาพยังใช้ได้อยู่ เลยสามารถมาขึ้นชิงกันเซงกลับได้
รอบขากลับนี้ได้นั่งริมหน้าต่าง ระหว่างทางก็เลยได้ถ่ายทิวทัศน์มาบ้าง นี่เป็นตอนผ่านสถานีเกียวโต
แถวสถานีโทกุยามะ จังหวัดยามางุจิ ทิวทัศน์โรงงานริมทะเลดูสวยงามอย่างน่าประหลาดจนต้องมองดูทุกครั้งที่ผ่าน
สถานีโคกุระทางเหนือสุดของเกาะคิวชู เมื่อผ่านสถานีนี้แล้วก็กลับมาถึงสถานีฮากาตะอันเป็นเป้าหมายปลายทาง
การเดินทางครั้งนี้ก็จบลงเท่านี้ ตอนบ่ายก็กลับเข้าไปทำงานต่อ
ก็ถือเป็นบันทึกการเดินทางสั้นๆแค่ ๒ วัน ครั้งนี้ได้แวะทั้งโตเกียวและโยโกฮามะถือว่าเป็นโอกาสดีที่ได้เปลี่ยนบรรยากาศไปจากชีวิตประจำวันที่อยู่แต่ในฟุกุโอกะมาตลอด แม้ว่าเวลาส่วนใหญ่หมดไปแค่บนรถไฟก็ตาม
-----------------------------------------
囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧
หมวดหมู่
-- ท่องเที่ยว >> รถไฟ-- ประเทศญี่ปุ่น >> ฟุกุโอกะ
-- ประเทศญี่ปุ่น >> โตเกียว
-- ประเทศญี่ปุ่น >> คานางาวะ