# เสาร์ 29 มี.ค. 2025ต่อจากตอนที่แล้วที่เดินทางมาถึงเมืองคารัตสึ
https://phyblas.hinaboshi.com/20250329ตอนนี้ได้เวลาเริ่มเที่ยว โดยเริ่มจาก
ปราสาทคารัตสึ (
唐津城) ซึ่งเป็นสถานที่เที่ยวหลักของเมือง
ปราสาทคารัตสึถูกสร้างขึ้นในปี 1608 ต้นยุคเอโดะ เพื่อเป็นศูนย์กลางของ
คารัตสึฮัง (
唐津藩) ซึ่งเป็นแคว้นศักดินาที่ปกครองพื้นที่แถบตอนเหนือของจังหวัดซางะ
ตัวปราสาทตั้งอยู่บนเนินบนแหลมริม
อ่าวคารัตสึ (
唐津湾) ตรงปาก
แม่น้ำมัตสึอุระ (
松浦川) ทำให้รายล้อมไปด้วยทะเล มีทิวทัศน์ที่สวยงาม เป็นเอกลักษณ์ของปราสาทนี้ที่หายากเมื่อเทียบกับปราสาทญี่ปุ่นแห่งอื่นๆ
ตัวปราสาทได้ถูกรื้อทิ้งไปในปี 1871 ตอนสิ้นยุคเอโดะ พร้อมกับปราสาทอื่นอีกหลายแห่งทั่วญี่ปุ่น หลังจากนั้นจึงได้มีการสร้างขึ้นใหม่ในปี 1966 ด้วยโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก
อย่างไรก็ตามโครงสร้างดั้งเดิมของปราสาทสมัยเอโดะไม่ได้เป็นที่ทราบแน่ชัด การสร้างขึ้นใหม่นี้จึงเป็นการสร้างแบบไม่สนของดั้งเดิม โดยทำเป็นอาคารสูง ๕ ชั้นดูใหญ่โตสวยงามน่าชม
นอกจากนี้แล้วเมืองคารัตสึยังเป็นฉากของอนิเมะเรื่อง
ซอมบีแลนด์ซางะ (ゾンビランドサガ) ซึ่งเป็นอนิเมะซอมบีที่สร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวของจังหวัดซางะ

เรื่องนี้ใช้ฉากเป็นสถานที่ต่างๆทั่วจังหวัดซางะ แต่ว่าที่ปรากฏบ่อยที่สุดก็คือเมืองคารัตสึ เพราะเป็นฐานที่มั่นหลักของพวกตัวเอก โดยเฉพาะ มินาโมโตะ ซากุระ นางเอกของเรื่องก็พูดสำเนียงคารัตสึเป็นหลัก
เพียงแต่ว่าการตามรอยอนิเมะไม่ใช่เป้าหมายหลักจริงๆของการเที่ยวครั้งนี้ เพราะเป้าหมายหลักก็คือการชมดอกซากุระ โดยเฉพาะที่ปราสาทคารัตสึ ดังนั้นจึงไปตามรอยแค่บางที่ที่สามารถเดินไปได้เท่านั้น ส่วนสถานที่ที่อยู่ห่างไกลไปลำบากนั้นไม่ได้ไป แต่แค่นี้ก็ถือว่าเยอะมากแล้ว
เดินเลียบริมทะเลไปในระหว่างที่มองซากุระทางซ้ายและปราสาทคารัตสึทางขวา


เดินมาเร่อยๆก็ถึง
สะพานโจวไน (
城内橋) ซึ่งสามารถข้ามไปยังหน้าปราสาทได้


ที่หน้าทางเข้าสะพานก็มีแถวต้นซากุระบานสวย

เดินขึ้นมา


จากหน้าทางเข้าสะพานมองลงไปเห็นรถเมล์จอดอยู่มากมาย ที่จริงแล้วที่นี่เป็นจุดปลายทางของรถเมล์ที่เรานั่งมา แต่เราตัดสินใจลงก่อนแล้วค่อยเดินเลียบริมทะเลมาถึงตรงนี้ เพราะว่ารถเมล์สายนี้วิ่งอ้อมไปยังสถานีรถไฟก่อนที่จะมาจอดปลายทางตรงนี้ ซึ่งจะทำให้เสียเวลาเพิ่มอีก ๑๐ นาที ดังนั้นลงก่อนแล้วเดินมาจะเร็วกว่า

เดินข้ามสะพานไปยังปราสาท





แม้จะข้ามมาจนเห็นปราสาทอยู่ตรงหน้าแล้ว แต่เราไม่ได้ตั้งใจจะเดินเข้าปราสาททันที เพราะว่ายังมีที่ที่อยากแวะก่อน คือ
สะพานจิโยดะ (
千代田橋) ซึ่งอยู่ทางตะวันตกตรงโน้น เพราะว่าสะพานตรงนั้นเป็นฉากสำคัญที่ปรากฏในอนิเมะซอมบีแลนด์ซางะ

ดังนั้นจึงเดินย้อนกลับมา แล้วก็เดินต่อ ระหว่างทางเจอบริเวณที่กำลังก่อสร้างอยู่แต่ก็เดินผ่านได้

แล้วก็มาถึงหน้าสะพานจิโยดะ จากตรงนี้ก็มองเห็นปราสาทได้สวยอยู่

ได้เวลาเริ่มเก็บฉากตามรอยอนิเมะ โดยฉากนี้ปรากฏในตอน ๑ ของอนิเมะเลย ในฉากตอนที่ซากุระกลายเป็นซอมบีแล้วตื่นขึ้นมาแล้วหนีมาถึงแถวนี้ท่ามกลางสายฝน แล้วเจอกับตำรวจเข้า
เริ่มจากมุมนี้ ป้ายชื่อ
แม่น้ำโจวดะ (
町田川) ก็คือแม่น้ำสายนี้




ฉากตรงหัว อันนี้ถ่ายมาได้มุมไม่ค่อยตรงเท่าไหร่ แต่ก็คงพอมองออกได้ว่าเป็นมุมเดียวกัน


อีกมุมหน้าสะพาน


ตรงนี้เห็นปราสาท แต่ฉากในอนิเมะมืดก็เลยมองยากหน่อย


มุมนี้ฉากที่ตำรวจเดินมาเจอเข้า


ภาพให้เทียบก็มีอยู่เท่านี้ จากนั้นลองชมแถวนี้อีกหน่อย มีแถวต้นซากุระเรียงรายริมธารสวยมาก


เสร็จแล้วก็ได้เวลาเดินข้ามสะพานไปยังฝั่งปราสาท


เดินไปเข้าใกล้ตัวปราสาท

ระหว่าทางผ่าน
โรงเรียนมัธยมวาเซดะซางะ (
早稲田佐賀中学校・
高等学校) เป็นโรงเรียนเอกชนในสังกัดของมหาวิทยาลัยวาเซดะ มีฉากหลังเป็นปราสาทแบบนี้เยี่ยมไปเลย


แล้วก็เดินมาถึงหน้าสะพานโจวไนที่เราข้ามมาตอนแรก

จากตรงนี้ลอดอุโมงค์ข้ามถนนไปยังฝั่งปราสาท

ภายในอุโมงค์ก็มีพวกภาพวาดตามทางสวยดี


เมื่อข้ามมาก็เจอทางเดินขึ้นปราสาทอยู่ตรงหน้า

แผนที่บริเวณปราสาท

จากตรงนี้เดินขึ้นบันไดไป



ตะแกรงดอกฟุจิตรงนี้ปรากฏในเพลงปิดของอนิเมะด้วย ก็ถ่ายมาเทียบได้อีก


แล้วก็ขึ้นมาจนเห็นปราสาทอยู่ตรงหน้าแล้ว

มุมนี้ปรากฏในอนิเมะตอนที่ ๑๒ เทียบภาพได้


แล้วก็เดินขึ้นบันไดไปตรงนี้

ขึ้นมาแล้วมองลงไปเห็นทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยตะแกรงดอกฟุจิที่มองจากด้านล่างเมื่อครู่

จากตรงนี้เดินเข้าไปยังบริเวณลานหน้าอาคารปราสาท

ลานตรงนี้เต็มไปด้วยต้นซากุระ แต่ว่าเดี๋ยวค่อยแวะมาชมทีหลัง ตอนนี้ชมตัวปราสาทก่อน

ตรงนี้เป็นทางออก จะเดินเข้าจากตรงนี้ไม่ได้

ทางเข้าอยู่ด้านข้างนี้


เมื่อเข้ามาก็มีที่ให้ซื้อตั๋ว สามารถซื้อด้วยเครื่องขายอัตโนมัติ

ราคาตั๋ว ๕๐๐ เยน

ภายในบริเวณตรงนี้เป็นส่วนที่ยังไม่ต้องใช้ตั๋วเข้าชม ก็มีอะไรให้ดูนิดหน่อย มีโปสเตอร์ซอมบีแลนด์ซางะด้วย

มีที่นั่งพัก

ร้านขายของที่ระลึก


จากนั้นเอาตั๋วมาแตะตรงนี้ให้ประตูเปิด แล้วก็เข้าไปชมด้านในได้

ภายในส่วนจัดแสดงในตัวปราสาทเขาห้ามถ่ายรูปเลยไม่ได้เก็บภาพมา พอชมด้านในแล้วเดินขึ้นมาเรื่อยๆก็ถึงชั้นบนสุด ชั้น ๕ ซึ่งเป็นจุดชมทิวทัศน์

มองไปทางทิศตะวันออกเห็น
สะพานไมซึรุ (
舞鶴橋) และย่านเมืองเล็กๆบนคาบสมุทรทางตะวันออก ตรงนั้นเรียกว่าเป็นย่าน
ฮิงาชิคารัตสึ (
東唐津)

มองไปทางเหนือเป็นทะเล และข้างล่างเห็นสวนซากุระที่กำลังบานเต็มที่สวยงาม


ค่อยๆมองกวาดจากทางเหนือไปทางตะวันตก


มองไปยังทะเลเห็นคนเล่นเรือใบกันอยู่ด้วย

มองขยายไปยังเกาะเล็กๆที่อยู่ทางโน้น

มองไปทางใต้ เห็นตัวเมือง รวมถึงสะพานโจวไนและสะพานที่เราข้ามมา

มองขยายไปยังสะพานจิโยดะ

สะพานโจวไน

ชมทิวทัศน์จนพอใจแล้วก็กลับลงมา เดินออกจากทางออกตรงนี้

ต่อไปก็มาชมสวนซากุระในลานหน้าปราสาท ได้ภาพสวยงามมากมาย







เสร็จแล้วก็เดินลงมา เดินดูส่วนรอบฐานปราสาทอีกหน่อย


มุมนี้ก็สวยดีมาก

การชมปราสาทก็จบลงเท่านี้ เสร็จแล้วก็เดินลง ออกจากนี้ที่

จากปราสาทเดินไปทางตะวันตก



มาถึงส่วนที่เรียกว่าเป็น
คลองด้านนอกนิโนะมง (
二ノ
門外堀) เป็นส่วนคลองที่กั้นระหว่างบริเวณปราสาทกับส่วนแผ่นดินทางตะวันตก




เดินผ่านคลองมาก็เจอทางเข้า
บ้านเก่าทากาโตริ (
旧高取邸) ซึ่งเป็นอาคารเก่าที่เคยเป็นที่พักอาศัยของทากาโตริ โคเรโยชิ (
高取 伊好, ปี 1850-1927) ซึ่งร่ำรวยจากการทำเหมืองถ่ายหิน เป็นสถานที่เที่ยวแห่งหนึ่งที่เปิดให้เข้าชมได้

ปากทางเข้าต้องเดินมาอีกหน่อย

แล้วก็มาถึงทางเข้า แต่เห็นมีส่วนหนึ่งกำลังซ่อมแซมอยู่


พอจะลองเข้าไปก็พบว่ามีค่าเข้า ๕๒๐ เยน แพงกว่าปราสาทคารัตสึเสียอีก แถมข้างในก็ห้ามถ่ายรูปด้วย ก็เลยตัดสินใจไม่เข้า รู้สึกว่าก็ไม่ได้น่าสนใจอะไรขนาดนั้น

จากนั้นก็เดินต่อมาทางตะวันตกแล้วมองไปทางขวาก็จะเห็นทางให้ไปยังทะเล

จากตรงนี้เข้าไปเดินเล่นริมทะเลได้


เมื่อมาถึงทะเล ก็เป็นธรรมเนียมของเราที่จะต้องเขียนชื่อสถานที่ด้วยอักษรไทยลงไปแล้วถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึกสักหน่อย

จากนั้นเดินเลียบริมชายหาดมาทางตะวันตกสักพักก็พบว่าสามารถมองเห็นตัวปราสาทจากตรงนี้ได้

มองขยายเข้าไป เห็นทิวทัศน์ปราสาทกับหาดทรายสวยงาม

มุมนี้ก็ขอเขียนชื่อเมืองลงบนพื้นทรายแล้วถ่ายอีก

จุดประสงค์ที่มาที่นี่นั้นที่จริงแล้วไม่ใช่แค่เพื่อมาเดินเล่นริมทะเล แต่ก็เพื่อมาตามรอยอนิเมะต่อด้วย ที่จริงแล้วหาดนี้ก็ถูกใช้เป็นฉากในอนิเมะด้วย โดยปรากฏในตอนที่ ๖ ซึ่งซากุระกับจุงโกะคุยกัน
เริ่มจากมุมนี้ซึ่งมีฉากหลังเป็นปราสาท


มุมนี้ที่หันไปยังทะเล เห็นเกาะทางโน้น


และทางตะวันตก เห็น
ท่าเรือคารัตสึฮิงาชิ (
唐津東港) แต่ว่าเสาทางขวาหายไป


มุมนี้หันไปทางใต้ เห็นต้นสนเรียงราย บริเวณนี้เรียกว่าเป็น
ทุ่งสนแห่งนิชิโนะฮามะ (
西ノ
浜の
松原)


ทั้ง ๒ คนมานั่งคุยกันตรงนี้


มุมนี้ไม่รู้ถ่ายกับต้นไหนดี มีต้นสนตั้งมากมาย ก็เลือกหาที่พอจะดูคล้าย เห็นเกาะทางโน้นด้วย


หลังจากนั้นก็เดินห่างจากทะเลออกมา ผ่านย่านชุมชนแถวนี้


ออกมาถึงถนนแล้วเลี้ยวซ้าย

ก็พบตรงนี้มีซาก
นิชิโนะมง (
西ノ
門) ซึ่งเป็นประตูเปิดบนฐานหินกำแพงชั้นนอก
ซันโนะมารุ (
三ノ
丸) ของปราสาท




ก็ขอจบการเที่ยวบริเวณปราสาทคารัตสึแต่เพียงเท่านี้ ในตอนต่อไปจะไปเที่ยวต่อแถวบริเวณสถานีคารัตสึ
https://phyblas.hinaboshi.com/20250331------------------------------------------------------------
ในบทความนี้มีการนำภาพจากอนิเมะ "ซอมบีแลนด์ซางะ" มาใช้อ้างอิงเพื่อการวิจัยศึกษาภาพเปรียบเทียบ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของผู้จัดทำ "ซอมบีแลนด์ซางะ"
この記事では、比較研究を目的としてアニメ「ゾンビランドサガ」の画像を引用しています。画像の著作権はすべて「ゾンビランドサガ」の製作者に帰属します。