นั่งเรือข้ามมายังท่าเรือฮากาตะ ขึ้นไปชมทิวทัศน์จากบนฮากาตะพอร์ตทาวเวอร์
เขียนเมื่อ 2025/05/13 08:29
แก้ไขล่าสุด 2025/05/25 08:42
# อาทิตย์ 11 พ.ค. 2025
บันทึกต่อจากตอนที่แล้วที่เที่ยวอุมิโนะนากามิจิเสร็จแล้วเดินมาถึงท่าเรือไซโตซากิ https://phyblas.hinaboshi.com/20250512
จากตรงนี้ไปเราก็เดินทางกลับด้วยเรือ โดยจุดที่เรือไปจอดนั้นคือท่าเรือฮากาตะ (博多港) ซึ่งอยู่ริมชายฝั่งทางตอนเหนือของเขตฮากาตะ
ในบริเวณท่าเรือฮากาตะมีหอคอยฮากาตะพอร์ตทาวเวอร์ (博多ポートタワー) สูง ๑๐๐ เมตรตั้งเด่นอยู่ ครั้งนี้เราจึงถือโอกาสแวะไปเที่ยวที่นี่ด้วย เป็นส่วนแถมปิดท้าย
หอคอยนี้สร้างขึ้นในปี 1964 เป็นหนึ่งในหกหอคอยพี่น้องที่ถูกสร้างในช่วงไล่เลี่ยกับหอคอยโตเกียวโดยผู้ออกแบบคนเดียวกัน ความสูงถึงยอดคือ ๑๐๐ เมตร แต่จุดชมทิวทัศน์อยู่ที่ความสูง ๗๐ สามารถขึ้นไปชมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ต่างจากหอคอยคล้ายกันที่เมืองอื่นซึ่งต้องจ่ายค่าเข้าแพง
นอกจากนี้แล้วที่ฐานของหอคอยนี้ก็ยังมีพิพิธภัณฑ์เล็กๆที่จัดแสดงเรื่องราวของท่าเรือ ทั้งหมดนี้เข้าชมได้ฟรีเช่นกัน
ดังนั้นเนื้อหาที่จะเล่าในตอนนี้ก็คือเรื่องราวตั้งแต่ขึ้นเรือไปจนถึงเที่ยวที่หอคอยแล้วก็จบด้วยมื้อเย็นก่อนเดินทางกลับ
เรามาถึงก่อนเวลาเรือออกเล็กน้อย ก่อนอื่นก็มานั่งรออยู่ภายในอาคารรอขึ้นเรือของท่าเรือไซโตซากิ
ระหว่างนั้นก็ซื้อตั๋วสำหรับขึ้นเรือที่เครื่องขายตั๋ว ราคา ๔๕๐ เยน
พอใกล้ถึงเวลาเรือก็มาจอดที่ท่า ก็เดินไปขึ้นเรือ
เรือนี้มี ๒ ชั้น
ชั้นแรกเป็นที่นั่งภายในห้อง
ส่วนชั้นบนเป็นที่นั่งด้านนอก แต่มีที่นั่งไม่กี่ที่
เรามาอยู่ชั้นบน จะได้มองทิวทัศน์ได้ชัด แต่ลมก็แรงอยู่
มองย้อนกลับไปยังฝั่งเกาะชิกะและอุมิโนะนากามิจิ
ลองมองดูด้านหน้าเห็นชายฝั่งแถวใจกลางเมือง
ระหว่างทางมีประภาคารสีแดงสวย ลองถ่ายโดยมีฉากหลังเป็นอาคารฟุกุโอกะทาวเวอร์อยู่ทางขวาและมิซึโฮะเพย์เพย์โดมอยู่ทางซ้ายด้วย
แล้วพอใกล้ถึงฝั่งฮากาตะก็มองเห็นหอคอยฮากาตะพอร์ตทาวเวอร์
แล้วก็เข้ามาเทียบท่า
ใช้เวลาประมาณ ๑๕ นาทีก็มาถึง เดินลงจากเรือมา
เดินออกมาจากท่าเรือ
ตรงนี้มีป้ายบอกว่าขอต้อนรับสู่นางาซากิ ทั้งที่อยู่ฟุกุโอกะแท้ๆ คงเพราะคนที่มาฟุกุโอกะแวะไปเที่ยวนางาซากิกันเยอะ มีที่เที่ยวเยอะกว่า
ฮากาตะพอร์ตทาวเวอร์ตั้งเด่นอยู่ในบริเวณท่าเรือนี้เอง
เดินมาเข้าทางนี้
เมื่อเข้ามา ที่ส่วนฐานเป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ภายในนี้จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ท่าเรือแห่งนี้และเรื่องที่เกี่ยวข้อง
ตรงนี้จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของการขนส่งท่าเรือตั้งแต่สมัยโบราณมา มีแบบจำลองเรือสมัยก่อนให้ดูด้วย
ท่าเรือต่างๆที่เป็นพี่น้องกันกับท่าเรือฮากาตะ
มีจัดแสดงอุปกรณ์เก่าที่เคยใช้ในการเดินเรือ เช่นเข็มทิศ
เครื่องวัดแดด
แบบจำลองย่านฟุกุโอกะไอแลนด์ซิตี (福岡アイランドシティ) ซึ่งเป็นเกาะที่ถูกสร้างขึ้นจากการถมดินภายในอ่าวฮากาตะ ถูกสร้างเป็นย่านเมืองใหม่ที่มีตึกสูงมากมาย เป็นย่านที่อยู่อาศัย
ตรงนี้มีเกมให้เล่นเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับงานในท่าเรือด้วย
ส่วนจัดแสดงก็แค่เล็กๆ มีอยู่เพียงเท่านี้ จากนั้นเดินต่อเข้ามายังส่วนที่มีลิฟต์ให้ขึ้นไปชมด้านบน
ขึ้นลิฟต์ไป
มาถึงส่วนจุดชมทิวทัศน์สูง ๗๐ เมตรด้านบน
มองไปทางตะวันตก เป็นย่านที่มีมิซึโฮะเพย์เพย์โดมและตึกสูงอย่างฟุกุโอกะทาวเวอร์ตั้งอยู่
ส่วนทางเหนือเป็นทะเลอ่าวฮากาตะ และมองไปไกลเห็นอุมิโนะนากามิจิและเกาะชิกะที่เราไปมา
ทางตะวันออกเป็นย่านเมืองริมชายฝั่งในเขตฮิงาชิ
ทางใต้เป็นย่านใจกลางเมือง
นอกจากเป็นจุดชมทิวทัศน์แล้ว บนนี้ก็มีจัดแสดงนิดหน่อยด้วย
ตรงนี้แสดงให้เห็นว่าหอคอยพี่น้องทั้งหกมีอะไรอยู่ที่ไหนบ้าง ที่เด่นสุดใหญ่สุดอยู่หอเดียวก็คือหอคอยโตเกียวทาวเวอร์ สูง ๓๓๓ เมตร ในขณะที่หออื่นสูงแค่ร้อยกว่าเมตร
ภาพวาดท่าเรือฮากาตะในอดีต
ชมเสร็จแล้วก็กลับลงมา
จากนั้นก่อนกลับก็ไปแวะหาข้าวเย็นกิน ก็มาเจอที่นี่ มินาโตะอนเซงนามิฮะโนะยุ (みなと温泉波葉の湯) เป็นอนเซงแต่ว่าในนี้มีร้านอาหารอยู่ด้วย ก็เลยตัดสินใจแวะ
เข้ามาในอาคารแล้วก็เดินไปยังส่วนร้านอาหาร เพียงแต่ว่าที่นี่ให้บริการอนเซงเป็นหลัก ร้านอาหารเป็นเหมือนแค่ของแถมเท่านั้น ที่จริงจะมากินอย่างเดียวโดยไม่แช่อนเซงก็ได้ แต่ก็ดูจะไม่คุ้มเพราะอาหารค่อนข้างแพงเหมือนอยู่แหล่งท่องเที่ยว และยังต้องมีขั้นตอนที่ยุ่งยากพอสมควรในการสั่งอาหาร ฉะนั้นจึงไม่แนะนำที่นี่เท่าไหร่ ถ้าเรารู้ก่อนว่าเป็นแบบนี้คงจะไม่เข้ามาที่นี่ตั้งแต่แรก แต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ให้รู้ว่ามีที่แบบนี้อยู่
ก่อนอื่นต้องไปทำเรื่องที่เคาน์เตอร์บริการ แล้วก็จะได้สายรัดข้อมือ จึงค่อยนำมาใช้แตะที่แท็บเล็ตเพื่อเริ่มใช้สั่งอาหาร
ลองดูเมนู ไม่ว่าอะไรก็แพงกว่าร้านทั่วไป แต่เข้ามาแล้วก็ช่วยไม่ได้ ก็เลือกสั่งเทนซารุโซบะ ราคาแพงถึง ๑๕๔๐ เยน! ถือเป็นมื้อที่แพงที่สุดที่เราเคยกินคนเดียวในร้านที่ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยว แต่ก็ต้องจำใจยอมสั่ง เพราะอย่างอื่นก็แพงเหมือนกัน
และนี่คือโซบะที่สั่ง รสชาติก็อร่อยธรรมดา ไม่ได้ต่างจากโซบะที่กินในร้านถูกๆแถวที่ทำงานหรอก แถมยังต้องบริการตัวเอง เก็บกวาดแล้วเอาชามไปเก็บตอนกินเสร็จด้วย
เสร็จแล้วก็มาจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์
หลังจากมื้อเย็นเสร็จก็มานั่งรถเมล์เพื่อเดินทางกลับ
ก็จบการเล่าเรื่องเที่ยวในวันหนึ่งลงเท่านี้ ครั้งนี้ที่จริงตอนแรกแค่ตั้งใจไปหาเพื่อนเพื่อคุยกัน แต่ก็กลายเป็นได้ไเที่ยวไปด้วยอีกหลายที่ ก็ถือว่าเป็นอีกวันที่ใช้เวลาคุ้มทีเดียว
บันทึกต่อจากตอนที่แล้วที่เที่ยวอุมิโนะนากามิจิเสร็จแล้วเดินมาถึงท่าเรือไซโตซากิ https://phyblas.hinaboshi.com/20250512
จากตรงนี้ไปเราก็เดินทางกลับด้วยเรือ โดยจุดที่เรือไปจอดนั้นคือท่าเรือฮากาตะ (博多港) ซึ่งอยู่ริมชายฝั่งทางตอนเหนือของเขตฮากาตะ
ในบริเวณท่าเรือฮากาตะมีหอคอยฮากาตะพอร์ตทาวเวอร์ (博多ポートタワー) สูง ๑๐๐ เมตรตั้งเด่นอยู่ ครั้งนี้เราจึงถือโอกาสแวะไปเที่ยวที่นี่ด้วย เป็นส่วนแถมปิดท้าย
หอคอยนี้สร้างขึ้นในปี 1964 เป็นหนึ่งในหกหอคอยพี่น้องที่ถูกสร้างในช่วงไล่เลี่ยกับหอคอยโตเกียวโดยผู้ออกแบบคนเดียวกัน ความสูงถึงยอดคือ ๑๐๐ เมตร แต่จุดชมทิวทัศน์อยู่ที่ความสูง ๗๐ สามารถขึ้นไปชมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ต่างจากหอคอยคล้ายกันที่เมืองอื่นซึ่งต้องจ่ายค่าเข้าแพง
นอกจากนี้แล้วที่ฐานของหอคอยนี้ก็ยังมีพิพิธภัณฑ์เล็กๆที่จัดแสดงเรื่องราวของท่าเรือ ทั้งหมดนี้เข้าชมได้ฟรีเช่นกัน
ดังนั้นเนื้อหาที่จะเล่าในตอนนี้ก็คือเรื่องราวตั้งแต่ขึ้นเรือไปจนถึงเที่ยวที่หอคอยแล้วก็จบด้วยมื้อเย็นก่อนเดินทางกลับ
เรามาถึงก่อนเวลาเรือออกเล็กน้อย ก่อนอื่นก็มานั่งรออยู่ภายในอาคารรอขึ้นเรือของท่าเรือไซโตซากิ
ระหว่างนั้นก็ซื้อตั๋วสำหรับขึ้นเรือที่เครื่องขายตั๋ว ราคา ๔๕๐ เยน
พอใกล้ถึงเวลาเรือก็มาจอดที่ท่า ก็เดินไปขึ้นเรือ
เรือนี้มี ๒ ชั้น
ชั้นแรกเป็นที่นั่งภายในห้อง
ส่วนชั้นบนเป็นที่นั่งด้านนอก แต่มีที่นั่งไม่กี่ที่
เรามาอยู่ชั้นบน จะได้มองทิวทัศน์ได้ชัด แต่ลมก็แรงอยู่
มองย้อนกลับไปยังฝั่งเกาะชิกะและอุมิโนะนากามิจิ
ลองมองดูด้านหน้าเห็นชายฝั่งแถวใจกลางเมือง
ระหว่างทางมีประภาคารสีแดงสวย ลองถ่ายโดยมีฉากหลังเป็นอาคารฟุกุโอกะทาวเวอร์อยู่ทางขวาและมิซึโฮะเพย์เพย์โดมอยู่ทางซ้ายด้วย
แล้วพอใกล้ถึงฝั่งฮากาตะก็มองเห็นหอคอยฮากาตะพอร์ตทาวเวอร์
แล้วก็เข้ามาเทียบท่า
ใช้เวลาประมาณ ๑๕ นาทีก็มาถึง เดินลงจากเรือมา
เดินออกมาจากท่าเรือ
ตรงนี้มีป้ายบอกว่าขอต้อนรับสู่นางาซากิ ทั้งที่อยู่ฟุกุโอกะแท้ๆ คงเพราะคนที่มาฟุกุโอกะแวะไปเที่ยวนางาซากิกันเยอะ มีที่เที่ยวเยอะกว่า
ฮากาตะพอร์ตทาวเวอร์ตั้งเด่นอยู่ในบริเวณท่าเรือนี้เอง
เดินมาเข้าทางนี้
เมื่อเข้ามา ที่ส่วนฐานเป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ภายในนี้จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ท่าเรือแห่งนี้และเรื่องที่เกี่ยวข้อง
ตรงนี้จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของการขนส่งท่าเรือตั้งแต่สมัยโบราณมา มีแบบจำลองเรือสมัยก่อนให้ดูด้วย
ท่าเรือต่างๆที่เป็นพี่น้องกันกับท่าเรือฮากาตะ
มีจัดแสดงอุปกรณ์เก่าที่เคยใช้ในการเดินเรือ เช่นเข็มทิศ
เครื่องวัดแดด
แบบจำลองย่านฟุกุโอกะไอแลนด์ซิตี (福岡アイランドシティ) ซึ่งเป็นเกาะที่ถูกสร้างขึ้นจากการถมดินภายในอ่าวฮากาตะ ถูกสร้างเป็นย่านเมืองใหม่ที่มีตึกสูงมากมาย เป็นย่านที่อยู่อาศัย
ตรงนี้มีเกมให้เล่นเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับงานในท่าเรือด้วย
ส่วนจัดแสดงก็แค่เล็กๆ มีอยู่เพียงเท่านี้ จากนั้นเดินต่อเข้ามายังส่วนที่มีลิฟต์ให้ขึ้นไปชมด้านบน
ขึ้นลิฟต์ไป
มาถึงส่วนจุดชมทิวทัศน์สูง ๗๐ เมตรด้านบน
มองไปทางตะวันตก เป็นย่านที่มีมิซึโฮะเพย์เพย์โดมและตึกสูงอย่างฟุกุโอกะทาวเวอร์ตั้งอยู่
ส่วนทางเหนือเป็นทะเลอ่าวฮากาตะ และมองไปไกลเห็นอุมิโนะนากามิจิและเกาะชิกะที่เราไปมา
ทางตะวันออกเป็นย่านเมืองริมชายฝั่งในเขตฮิงาชิ
ทางใต้เป็นย่านใจกลางเมือง
นอกจากเป็นจุดชมทิวทัศน์แล้ว บนนี้ก็มีจัดแสดงนิดหน่อยด้วย
ตรงนี้แสดงให้เห็นว่าหอคอยพี่น้องทั้งหกมีอะไรอยู่ที่ไหนบ้าง ที่เด่นสุดใหญ่สุดอยู่หอเดียวก็คือหอคอยโตเกียวทาวเวอร์ สูง ๓๓๓ เมตร ในขณะที่หออื่นสูงแค่ร้อยกว่าเมตร
ภาพวาดท่าเรือฮากาตะในอดีต
ชมเสร็จแล้วก็กลับลงมา
จากนั้นก่อนกลับก็ไปแวะหาข้าวเย็นกิน ก็มาเจอที่นี่ มินาโตะอนเซงนามิฮะโนะยุ (みなと温泉波葉の湯) เป็นอนเซงแต่ว่าในนี้มีร้านอาหารอยู่ด้วย ก็เลยตัดสินใจแวะ
เข้ามาในอาคารแล้วก็เดินไปยังส่วนร้านอาหาร เพียงแต่ว่าที่นี่ให้บริการอนเซงเป็นหลัก ร้านอาหารเป็นเหมือนแค่ของแถมเท่านั้น ที่จริงจะมากินอย่างเดียวโดยไม่แช่อนเซงก็ได้ แต่ก็ดูจะไม่คุ้มเพราะอาหารค่อนข้างแพงเหมือนอยู่แหล่งท่องเที่ยว และยังต้องมีขั้นตอนที่ยุ่งยากพอสมควรในการสั่งอาหาร ฉะนั้นจึงไม่แนะนำที่นี่เท่าไหร่ ถ้าเรารู้ก่อนว่าเป็นแบบนี้คงจะไม่เข้ามาที่นี่ตั้งแต่แรก แต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ให้รู้ว่ามีที่แบบนี้อยู่
ก่อนอื่นต้องไปทำเรื่องที่เคาน์เตอร์บริการ แล้วก็จะได้สายรัดข้อมือ จึงค่อยนำมาใช้แตะที่แท็บเล็ตเพื่อเริ่มใช้สั่งอาหาร
ลองดูเมนู ไม่ว่าอะไรก็แพงกว่าร้านทั่วไป แต่เข้ามาแล้วก็ช่วยไม่ได้ ก็เลือกสั่งเทนซารุโซบะ ราคาแพงถึง ๑๕๔๐ เยน! ถือเป็นมื้อที่แพงที่สุดที่เราเคยกินคนเดียวในร้านที่ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยว แต่ก็ต้องจำใจยอมสั่ง เพราะอย่างอื่นก็แพงเหมือนกัน
และนี่คือโซบะที่สั่ง รสชาติก็อร่อยธรรมดา ไม่ได้ต่างจากโซบะที่กินในร้านถูกๆแถวที่ทำงานหรอก แถมยังต้องบริการตัวเอง เก็บกวาดแล้วเอาชามไปเก็บตอนกินเสร็จด้วย
เสร็จแล้วก็มาจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์
หลังจากมื้อเย็นเสร็จก็มานั่งรถเมล์เพื่อเดินทางกลับ
ก็จบการเล่าเรื่องเที่ยวในวันหนึ่งลงเท่านี้ ครั้งนี้ที่จริงตอนแรกแค่ตั้งใจไปหาเพื่อนเพื่อคุยกัน แต่ก็กลายเป็นได้ไเที่ยวไปด้วยอีกหลายที่ ก็ถือว่าเป็นอีกวันที่ใช้เวลาคุ้มทีเดียว