# อาทิตย์ 13 ก.ค. 2025ช่วงนี้เพื่อนมาทำงานอยู่ที่ฟุกุโอกะ วันก่อนก็ได้ไปเดินเล่นด้วยกันมาดังที่เล่าไว้ใน
https://phyblas.hinaboshi.com/20250705หลังจากนั้นก็เลยชวนกันไปเที่ยวไกลสักหน่อย เลยลองหาที่เที่ยวเมืองใกล้ๆภายในจังหวัดดู ก็ตัดสินใจเลือกเที่ยว
เมืองโอโงริ (
小郡市) ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆทางตอนกลางค่อนไปทางใต้ของจังหวัด
แผนที่แสดงตำแหน่งเมืองโอโงริในจังหวัดฟุกุโอกะเป็นสีชมพูเข้ม อยู่ค่อนไปทางใต้ ติดจังหวัดซางะที่อยู่ทางตะวันตก


เมืองนี้เป็นจุดเปลี่ยนรถไฟที่สำคัญด้วย ที่จริงก่อนหน้านี้ตอนที่ไปเมืองอาซากุระมาก็เคยแวะมาเปลี่ยนรถที่นี่ แต่ไม่ได้เที่ยวอะไร เล่าไว้ใน https://phyblas.hinaboshi.com/20240930เมืองนี้มีสถานที่เที่ยวขั้นชื่ออยู่ นั่นคือ
วัดเนียวอิริง (
如意輪寺) ซึ่งยังเป็นที่รู้จักในชื่อว่า
วัดกบ (かえる寺) นี่เป็นเป้าหมายหลักในการเที่ยวครั้งนี้
นอกจากนี้แล้วไม่ไกลจากนั้นก็ยังมี
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์คิวชู (
九州歴史資料館) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆที่จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของคิวชู โดยเฉพาะของฟุกุโอกะ ค่าเข้าชม ๒๑๐ เยน
พิพิธภัณฑ์นี้ที่จริงแล้วย้ายมาจากที่เดิมซึ่งเคยตั้งอยู่ใน
เมืองดาไซฟุ (
太宰府市) ซึ่งเป็นสถานที่เที่ยวชื่อดังของจังหวัดฟุกุโอกะ ดังนั้นเนื้อหาในนี้เลยเกี่ยวข้องกับดาไซฟุเป็นหลัก
ที่จริงที่นี่ใช้ชื่อคิวชูแล้วก็ฟังดูชวนเข้าใจผิด เพราะเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นเรื่องของจังหวัดฟุกุโอกะ มีจังหวัดอื่นแค่นิดเดียว แถมยังมีที่ไม่เกี่ยวข้องกับคิวชูอีกด้วย
แล้วพิพิธภัณฑ์นี้ก็ขนาดเล็กมาก มีของจัดแสดงอยู่นิดเดียว ถ้าใครจะอุตส่าห์มาถึงนี่เพื่อชมที่นี่อย่างเดียวก็อาจรู้สึกว่าไม่ค่อยคุ้ม คนที่มาที่นี่น่าจะแวะมาเพราะตั้งใจมาเที่ยววัดกบเป็นหลักแล้วถือโอกาสแวะมาด้วยมากกว่า
ครั้งนี้เราเริ่มจากเที่ยวพิพิธภัณฑ์ก่อนแล้วค่อยไปเที่ยววัดกบ จึงขอแบ่งบันทึกเป็น ๒ ตอน โดยตอนแรกจะเล่าเรื่องพิพิธภัณฑ์ก่อน ส่วนเรื่องวัดกบจะเล่าในตอนต่อไป
การเดินทางไปพิพิธภัณฑ์นี้สามารถไปได้ง่ายโดยนั่งรถไฟของนิชิเทตสึ
สายเทนจิงโอมุตะ (
天神大牟田線) มาลงที่
สถานีมิกุนิงาโอกะ (
三国が
丘駅) ซึ่งเป็นสถานีที่รถไฟแบบด่วนก็จอดด้วย จึงสามารถเดินทางมาได้เร็ว ถ้ามาจากสถานีเทนจิงก็ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น
เรานัดเพื่อนที่สถานีเทนจิงตอน 9 โมงกว่า แล้วนั่งรถไฟไปด้วยกัน รถไฟที่ได้นั่งเป็นรอบ 9:38

จากนั้นก็เดินทางมาถึงสถานีมิกุนิงาโอกะตอนเวลา 10:06


เดินออกจากสถานี

จากสถานีมีทางเชื่อมเข้าไปในตึกข้างๆ เราเลยเข้าตึกข้างๆแล้วค่อยออกจากตึกนั้นอีกที เพื่อจะได้เดินในร่มให้มาก ก่อนที่จะต้องไปเดินตากแดดร้อนข้างนอกต่อไป


ออกมาข้างนอกแล้ว หันกลับไปถ่ายภาพสถานี อากาศกำลังร้อนได้ที่

จากตรงนี้ก็เดินตากแดดไปเรื่อยๆไปทางตะวันตก ระยะทางประมาณ ๗๐๐ เมตร

ตรงนี้มีทางให้เข้าไปตัดผ่านส่วนที่เรียกว่าเป็น
ซากโบราณมิตสึซาวะ (
三沢遺跡) เป็นบริเวณที่มีการขุดพบร่องรอยหมู่บ้านยุคยาโยอิ แต่ว่าตอนนี้ก็ไม่ได้เหลือร่องรอยอะไรให้ชม ก็เป็นแค่เหมือนสวนสาธารณะธรรมดาให้เดินผ่านไป




ตรงก่อนถึงทางออกมีแผ่นป้ายแสดงภาพถ่ายมุมสูง แล้วก็ของที่ขุดพบที่นี่ พร้อมคำอธิบายนิดหน่อย

แล้วก็เดินผ่านมาจนถึงอาคารพิพิธภัณฑ์

แล้วก็รีบเข้าไปข้างใน มาตากแอร์

ก่อนอื่นต้องซื้อตั๋วเข้าชมคนละ ๒๑๐ เยน

แล้วก็เริ่มเข้ามาชมส่วนตรงทางเดินที่มองเห็นส่วนของสวนตรงกลาง

ตรงนี้สามารถมองซากโบราณได้ข้างล่างผ่านพื้นกระจก

ส่วนตรงนี้มีให้ลองเล่นอุปกรณ์ความเป็นจริงเสมือน (VR) ได้ฟรี

สวมอุปกรณ์นี้เข้าไปแล้วก็จะรู้สึกเหมือนเดินอยู่ภายในห้องสุสานโบราณจริงๆเลย น่าสนใจทีเดียว สุสานโบราณที่เขาให้จำลองเข้าไปดูนี้คือ
ฟุนาบารุโคฟุง (
船原古墳) ที่พบที่
เมืองโคงะ (
古賀市) จังหวัดฟุกุโอกะ

ข้างๆมีภาพห้องสุสานโบราณที่อื่นอีกหลายแห่งภายในจังหวัดฟุกุโอกะ

ส่วนข้างๆนั้นมีให้ลองสร้างเหรียญโบราณดูได้ แต่ว่าอันนี้มีค่าใช้จ่ายเล็กน้อย โดยทำเหรียญละ ๑๕๐ เยน และใช้เวลาประมาณ ๒๐ นาที เพื่อนเราตัดสินใจลองทำดูอันนึง


การจ่ายเงินต้องมาทำที่เคาน์เตอร์ขายหน้าทางเข้าพิพิธภัณฑ์

เริ่มทำ โดยก่อนอื่นก็เตรียมตัวพิมพ์

แล้วก็หลอมวัสดุโดยทำให้ร้อนภายในกระทะ

แล้วก็เอาวัสดุที่ถูกหลอมจนเหลวเทลงในพิมพ์ แล้วก็รอประมาณ ๗ นาทีให้มันแข็งตัวในพิมพ์

เสร็จแล้วก็จะได้เหรียญมา ๖ อัน จากนั้นก็ต้องแกะออก แล้วเขาก็ให้เอาเก็บกลับไปอันนึงเป็นที่ระลึกได้

สำหรับเหรียญโบราณนี้เป็นเงินโบราณที่ถูกทำขึ้นมาใช้ในช่วงตั้งแต่ปี ค.ศ. 708 ซึ่งเป็นช่วงต้นยุคนาระ ถือเป็นเงินตราเก่าแก่ที่สุดที่แพร่หลายในญี่ปุ่น บนเหรียญมีเขียนอักษร ๔ ตัว
和 wa "วะ" แปลว่า "สงบ"
同 dou "โดว" แปลว่า "เหมือน"
開 kai "ไค" แปลว่า "เปิด"
珎 chin "จิง"
ดังนั้นจึงเรียกเหรียญนี้ว่า "วาโดวไกจิง" (
和同開珎)
เพียงแต่ว่าอักษรตัวสุดท้ายคือ
珎 นั้นเป็นอักษรที่ไม่ได้ใช้ทั่วไปในภาษาญี่ปุ่น และยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่ามันอ่านว่าอะไร และหมายความว่ายังไง บ้างก็บอกว่าควรอ่านว่า "โฮว" (ほう) แทนที่จะเป็น "จิง" (ちん)
ทฤษฎีที่อ้างว่าอักษรนี้อ่านว่า "โฮว" นั้นมองว่าอักษร
珎 ย่อมาจาก
寳 ซึ่งเป็นอักษรเขียนอีกแบบของ
寶 ที่หมายถึง "สมบัติล้ำค่า" ซึ่งปัจจุบันนิยมเขียนแบบย่อเป็น
宝 ดังนั้นจึงควรอ่านเหมือนกัน
แต่ที่อ่านเป็น "จิง" นั้น
珎 เป็นอักษรเขียนอีกแบบของ
珍 ที่หมายถึง "หายาก" จึงควรอ่านตามนั้น
อันนี้เป็นภาพเหรียญนี้ของจริงซึ่งมีการพบอยู่ตามที่ต่างๆ

นอกจากนี้ระหว่างที่รอเหรียญแข็งตัวอยู่เขาก็ให้มาลองทำกระดาษลายแผ่นประดับหลังคา

นี่ก็ทำเสร็จแล้วเก็บกลับไปเป็นที่ระลึกได้


พอเสร็จจากตรงนี้แล้วก็ไปเดินดูต่อ ตรงนี้มีทางออกไปสู่ส่วนของสวนตรงกลาง

เข้ามาแล้วก็เห็นพวกเด็กๆกำลังเล่นกันอยู่

จากภายในสวนนี้มองเข้าไปเห็นส่วนที่เหมือนจะเป็นที่เก็บของที่ไม่ได้เปิดให้เข้าชมข้างในด้วย

จากนั้นก็กลับเข้ามาในอาคาร แล้วขึ้นไปดูตรงชั้น ๒

ตรงนี้มีที่ให้นั่งชมวิดีโอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว

ตรงนี้มีแนะนำพิพิธภัณฑ์แห่งต่างๆภายในจังหวัดฟุกุโอกะ

จากตรงนี้มองลงไปข้างล่างตรงส่วนที่เดินมาแล้วได้

แล้วก็ถัดมาดูอีกห้องข้างๆซึ่งเป็นส่วนที่มองลงไปเห็นห้องด้านล่างที่ยังไม่ได้เข้าชม

เห็นยามเฝ้าห้องกำลังนั่งหลับอยู่ด้วย คงจะเบื่อ

ภายในห้องก็มีของจัดแสดงอยู่เล็กน้อย


จากนั้นก็เดินกลับลงมาชั้นล่าง

แล้วก็เข้าชมในห้องที่ตอนแรกมองจากข้างบนมา

ห้องนี้แสดงพวกของโบราณที่ขุดพบโดยแสดงไล่ตั้งแต่ยุคโบราณสุดไล่ไปเรื่อยๆ

เพียงแต่ว่าในห้องมีหลายส่วนที่ติดป้ายไว้ว่าไม่ให้ถ่ายรูป ดังนั้นจึงขอลงแค่ภาพถ่ายกว้างๆโดยรวมแค่นี้


จากนั้นภายในพิพิธภัณฑ์นี้ก็ดูจะไม่มีอะไรแล้ว มีอยู่แค่นี้จริงๆ ถ้าหากไม่ใช่ว่ามีตรงส่วน VR และที่ให้ทำเหรียญละก็เดินแป๊บเดียวก็เสร็จแล้วจริงๆ
เดินออกมาจากพิพิธภัณฑ์ ขณะนั้นกำลังครึ้มฟ้าครึ้มฝนได้ที่เลย ดูก็รู้ว่าฝนกำลังเตรียมจะตกในอีกไม่ช้า


หลังจากออกมาแล้วเป้าหมายต่อไปก็คือวัดกบซึ่งเป็นเป้าหมายหลักที่แท้จริงของการมาเที่ยวนี้ จะเล่าถึงในตอนต่อไป
https://phyblas.hinaboshi.com/20250714