ต่อจาก
บทที่ ๒ในบทนี้จะมาเริ่มไวยากรณ์ภาษามองโกลกันเลย โดยเริ่มจากที่พื้นฐานที่สุดกันก่อน นั่นคือประโยคที่สร้างขึ้นจากคำนามล้วนๆ
การบอกว่า {ก} คือ {ข}
ภาษามองโกลนั้นมีไวยากรณ์ค่อนข้างต่างจากภาษาไทยมาก โดยเฉพาะเมื่อมีกริยามาเกี่ยวข้อง เพราะลำดับการวางจะต่างกัน และยังต้องมีการผันกริยาด้วย
แต่ประโยคพื้นฐานที่สุดในภาษามองโกลนั้นอาจถือได้ว่าสร้างขึ้นได้ง่ายยิ่งกว่าภาษาไทยเสียอีก เช่นเมื่อต้องการบอกว่า "{ก} คือ {ข}" โดยที่ {ก} กับ {ข} ในที่นี้เป็นคำนามอะไรก็ได้ แบบนี้ก็เขียนคำนาม ๒ ตัวต่อกันแบบนี้ได้เลย
ตัวอย่างเช่น
би хүүхэд. = ฉันเป็นเด็ก |
ꡐ би = ฉัน |
ꡐ хүүхэд = เด็ก |
бид оюутан. = พวกเราเป็นนักเรียน |
ꡐ бид = พวกเรา |
ꡐ оюутан = นักเรียน |
จะเห็นว่าแค่เอาคำนาม "ฉัน" กับ "เด็ก" มาวางต่อกันก็เป็นการบอกว่า "ฉันเป็นเด็ก" ได้แล้ว หรือประโยคว่า "พวกเราเป็นนักเรียน" ก็เช่นกัน ทั้งหมดแค่เอาคำนามมาวาง และคำนามพวกนี้ก็อยู่ในรูปธรรมดาไม่ได้ถูกผันอะไรเลยด้วย ใช้ทั้งๆอย่างนั้นเลย
ถ้างั้นแล้วคำว่า "เป็น" หรือ "คือ" หายไปไหน? ทำไมเขียนแค่นี้ก็รู้ได้ว่าหมายถึง "เป็น"
ที่จริงแล้วรูปประโยคนี้แค่คำกริยาที่แปลว่า "เป็น" หรือ "คือ" นั้นถูกละไว้เท่านั้นเอง ถ้าหากต้องการพูดให้ชัดเจนยิ่งขึ้นละก็สามารถเติมคำอื่นเพิ่มเติมได้ แต่ในที่นี้แค่จะแสดงตัวอย่างให้เห็นว่ารูปประโยคง่ายที่สุดของภาษามองโกลนั้น สามารถสร้างได้โดยแค่เอาคำนาม ๒ ตัวมาวางต่อกัน แค่นี้ก็เป็นประโยคง่ายๆที่ใช้พูดสั้นๆในชีวิตประจำวันได้แล้ว
เพียงแต่ว่าแค่เอาคำนามมาวางต่อกัน ๒ ตัวแบบนี้ก็อาจไม่ได้หมายถึง "{ก} คือ {ข}" เสมอไป แต่อาจเป็นแค่การขยายเท่านั้นก็ได้ ดังที่จะกล่าวถึงต่อไป
คำนามขยายคำนามในภาษามองโกลคำที่ทำหน้าที่ขยายจะถูกวางไว้หน้า ซึ่งตรงกันข้ามกับภาษาไทย
ดังนั้นถ้าหากเอาคำนาม ๒ ตัวมาวางต่อกัน เท่านี้ก็กลายเป็นว่าคำนามตัวหน้าขยายตัวหลังแล้ว เช่น
украин хүн = คนยูเครน |
ꡐ украин = ยูเครน |
ꡐ хүн = คน |
орос хэл. = ภาษารัสเซีย |
ꡐ орос = รัสเซีย |
ꡐ хэл = ภาษา |
จะเห็นว่าเหมือนกับประโยค {ก} เป็น {ข} เลย แต่คราวนี้เป็นแค่การขยายคำนาม
ที่จริงแล้วการนำคำนามมาวางต่อกันแบบนี้ก็สามารถตีความได้ ๒ แบบอย่างที่เห็นนี้จริงๆ แต่โดยทั่วไปถ้าดูบริบทถ้าไม่คลุมเครือก็ใช้แบบนี้ได้
อย่างพวกคำนามที่เป็นชื่อประเทศสามารถใช้ขยายคำนามเพื่อหมายถึงคนหรือภาษาได้ทันที ฉะนั้นการวางชื่อประเทศตามด้วยคำนามต่อแบบนี้จึงมักเข้าใจได้ทันทีว่าเป็นการขยายอยู่แล้ว
ดังนั้นสามารถสร้างคำได้ดังนี้
|
ꡐ монгол = มองโกล |
ꡐ хятад = จีน |
ꡐ япон = ญี่ปุ่น |
ꡐ хэл = ภาษา |
монгол хэл = ภาษามองโกล |
хятад хэл = ภาษาจีน |
япон хэл = ภาษาญี่ปุ่น |
ꡐ хүн = คน |
монгол хүн = คนมองโกล |
хятад хүн = คนจีน |
япон хүн = คนญี่ปุ่น |
ꡐ улс = ประเทศ |
монгол улс = ประเทศมองโกเลีย |
хятад улс = ประเทศจีน |
япон улс = ประเทศญี่ปุ่น |
ꡐ үсэг = อักษร |
монгол үсэг = อักษรมองโกล |
хятад үсэг = อักษรจีน |
|
อนึ่ง คำว่า "มองโกเลีย" ที่เรามักใช้เวลาเรียกชื่อประเทศนั้นไม่มีในภาษามองโกล เพราะในภาษามองโกลเองเรียกทุกอย่างว่า
монгол ไม่มีการผันหรือเติมอะไรทั้งนั้น ส่วนที่เรียกกันว่า "มองโกเลีย" นี้เป็นชื่อเรียกในภาษาอังกฤษ
ในที่นี้จะแปลเป็น "มองโกเลีย" เฉพาะเมื่อเรียกชื่อประเทศ ตามความนิยม นอกนั้นจะเรียกว่า "มองโกล" ตามเดิม เช่น "ภาษามองโกล" "คนมองโกล" "อักษรมองโกล"
จะเห็นว่าถ้าเป็นชื่อประเทศสามารถใช้ขยายคำนามได้ทันที แต่ก็ไม่ใช่ว่าคำนามไหนก็จะใช้แบบนั้นได้
เช่นคำว่า "
би = ฉัน" ปกติแล้วจะไม่สามารถเอาไปใช้ขยายนามได้ทันทีทั้งๆอย่างนั้น ดังนั้นถ้าเห็น
би นำหน้าคำนามก็มักจะเข้าใจได้ว่าเป็นประโยค "ฉันเป็น..." ไม่ใช่เป็นคำขยาย
และคำที่ได้จากการขยายก็นำมาใช้เป็นภาคแสดง ซึ่งก็จะสร้างประโยคที่ประกอบขึ้นจากแค่คำนาม ๓ ตัวได้ เช่น
би монгол хүн . = ฉันเป็นคนมองโกล |
бид хятад оюутан = พวกเราเป็นนักเรียนจีน |
энэ (นี่) และ тэр (นั่น)คำว่า
энэ = นี่ และ
тэр = นั่น เป็นคำสรรพนามที่พบได้บ่อยในภาษามองโกล สามารถใช้เป็นประธานได้ และใช้ได้กับทั้งคนและสิ่งของเช่น
энэ хятад үсэг. = นี่คืออักษรจีน |
тэр япон хүн. = นั่น (เขาคนนั้น) เป็นคนญี่ปุ่น |
ภาษามองโกลไม่มีคำสรรพนามบุรุษที่สาม (เขา, พวกเขา) ปกติแล้ว
энэ และ
тэр จึงถูกใช้แทน จะชี้คนหรือสัตว์หรือสิ่งของก็ใช้เหมือนกัน ดูที่บริบท
นอกจากนี้แล้ว
энэ และ
тэр ยังใช้เป็นคำขยายคำนามได้ด้วย ซึ่งจะหมายถึง "นี้" หรือ "นั้น" เช่น
тэр хүүхэд = เด็กคนนั้น |
энэ шугам = ไม้บรรทัดแท่งนี้ |
тэр харандаа = ดินสอแท่งนั้น |
ꡐ шугам = ไม้บรรทัด |
ꡐ харандаа = ดินสอ |
การที่คำว่า "นี่" "นั่น" ในภาษามองโกลสามารถใช้ได้ทั้งเป็นประธานโดยตรงหรือเป็นคำขยาย แบบนี้จึงต้องระวังให้ดี จะแปลแบบไหนขึ้นอยู่กับบริบท
เมื่อพอจะเข้าใจแล้วก็สามารถสร้างประโยคที่ยาวขึ้นได้โดยมีแต่คำนามอีก เช่น
энэ багш монгол хүн. = ครูคนนี้เป็นคนมองโกล |
тэр оюутан солонгос хүн. = นักเรียนคนนั้นเป็นคนเกาหลี |
ꡐ багш = ครู |
ꡐ солонгос = เกาหลี |
ก็ขอจบเรื่องประโยคพื้นฐานคร่าวๆแต่เพียงเท่านี้ก่อน ที่แนะนำไปนี้ทั้งหมดเป็นคำนามทั้งสิ้น ยังไม่ได้เริ่มไวยากรณ์จริงๆ แต่จะเห็นว่าคำนามอย่างเดียวสามารถสร้างประโยคได้
ส่วนการใช้คำชนิดอื่นเช่นคำกริยา คำคุณศัพท์ หรือการทำเป็นประโยคคำถามหรือปฏิเสธนั้นก็จะเขียนถึงต่อไปในบทต่อๆไป
อ่านต่อ
บทที่ ๔