กุ่ยเจีย ถนนของกินที่ใหญ่และสวยที่สุดในปักกิ่ง
เขียนเมื่อ 2012/05/10 15:54
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42
#จันทร์ 30 เม.ษ. 2012
คราวนี้จะแนะนำถึงถนนของกินที่สำคัญแห่งหนึ่งในปักกิ่ง เป็นถนนของกินที่ใหญ่และสวยที่สุด นั่นคือกุ่ยเจีย (簋街) ซึ่งอยู่ในย่านตงจื๋อเหมิน (东直门)
ตงจื๋อเหมินเป็นย่านที่ตั้งอยู่ใกล้ใจกลางเมืองทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของปักกิ่ง เป็นย่านที่สำคัญแห่งหนึ่ง เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของถนนที่ลากยาวไปสู่ตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้ยังเป็นปลายสุดของถนนที่ลากมาจากสนามบินด้วย เท่ากับเป็นหน้าด่านของปักกิ่งถัดจากซานหยวนเฉียว (三元桥) ซึ่งเคยเขียนถึงไปเมื่อ https://phyblas.hinaboshi.com/20111105
ชื่อตงจื๋อเหมินนั้นเป็นชื่อของป้อมประตูเมืองเก่าแห่งหนึ่งของปักกิ่ง แต่ปัจจุบันป้อมประตูถูกทุบทิ้งไปแล้ว เหลือไว้เพียงชื่อซึ่งยังเรียกกันมาถึงปัจจุบัน
กุ่ยเจียเป็นชื่อเล่นของถนนสายหนึ่งชื่อว่าถนนใหญ่ตงจื๋อเหมินเน่ย์ (东直门内大街) ถนนสายนี้อยู่ระหว่างสถานีรถไฟฟ้าสองแห่งคือสถานีตงจื๋อเหมิน (东直门站) และสถานีเป่ย์ซินเฉียว (北新桥站) ยาวหนึ่งกิโลเมตรกว่าๆ
คำว่ากุ่ยในคำว่ากุ่ยเจียนี้บางครั้งก็ถูกเขียนด้วยอักษร 簋 ซึ่งหมายถึงภาชนะโบราณชนิดหนึ่งของจีน ปากกลม ทำจากสำริด มีหูจับด้านข้างสองหรือสี่หู
แต่บางครั้งก็ถูกเขียนด้วยอักษร 鬼 ซึ่งแปลว่าผี สังเกตได้จากชื่อป้ายร้านบางร้านในบริเวณนี้ ดังนั้นบางทีก็เห็นคนไทยที่นี่เรียกกันเล่นๆว่า ถนนผี
เราเคยได้ยินชื่อเสียงของถนนสายนี้มานานแล้ว แต่เพิ่งมีโอกาสได้ไปที่นี่หลังจากที่เราเดินทางกลับมาจากเที่ยวกำแพงเมืองจีนริมน้ำ https://phyblas.hinaboshi.com/20120505
หลังเที่ยวเสร็จเราก็นั่งรถกลับมาถึงท่ารถตงจื๋อเหมิน ซึ่งตอนนั้นพอกลับมาถึงก็เป็นเวลาหนึ่งทุ่มแล้ว เลยตั้งใจจะเดินหาอะไรกินก่อนค่อนกลับ เป็นจังหวะที่เหมาะพอดี
ว่าไปแล้วก็เป็นอะไรที่เหมาะเจาะ ย่านตงจื๋อเหมินนี้นอกจากจะเป็นท่าขึ้นรถที่สำคัญ ยังมีถนนของกินที่สำคัญอยู่ด้วย แบบนี้คนที่เดินทางมาจากที่ไกลแล้วมาลงที่นี่ก็สามารถแวะทานอาหารได้
ร้านอาหารแถวนี้มีหลายระดับตั้งแต่แพงมากไปจนถึงร้านธรรมดา ดังนั้นไม่ว่าใครก็สามารถแวะมาทานได้
บรรยากาศบ้านเมืองแถวสี่แยกตงจื๋อเหมิน ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟฟ้าตงจื๋อเหมิน และเป็นจุดเริ่มต้นของกุ่ยเจีย ขณะนั้นเป็นเวลาทุ่มกว่า พระอาทิตย์ตกพอดี ฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อยๆ
โชคดีที่ว่าช่วงนี้กลางวันยาวกว่ากลางคืนพอสมควรทำให้ทุ่มกว่าแล้วฟ้ายังไม่มืด
ภาชนะโบราณที่เรียกว่ากุ่ย ตั้งอยู่ที่ปากทางกลางถนน
สวนเล็กๆที่ปากถนนมีดอกยวนเหว่ย์ (鸢尾) บานอยู่
7-Eleven ในจีนแผ่นดินใหญ่นี่ถือว่าหาได้ยากมากเลย ไม่ใช่ว่าไปที่ไหนๆก็เจอแบบในไทยหรือในไต้หวัน แต่ก็พอมีอยู่บ้าง ไม่คิดว่าจะได้มาเจอตรงนี้
ร้านอาหารแถวๆปลายฝั่งตะวันออก
จุดเด่นของแถวนี้คือมีการประดับโคมแดงสวยงาม
ไม่รู้ทำไมบางร้านมีอภาษารัสเซียอยู่ด้วย
ที่เราเดินอยู่คอนนี้เป็นริมถนนฝั่งเหนือ ส่วนฝั่งใต้ดูแล้วมีร้านอะไรน้อยอยู่ แต่ก็เยอะเหมือนกัน ส่วนนี้เราค่อยย้อนไปเดินอีกฝั่งตอนขากลับ
เดินๆไปฟ้าก็มืดลงเรื่อยๆ
ก็ยิ่งเห็นโคมแดงประดับสวยขึ้น
ผู้คนพลุกพล่านมากมาย
แล้วก็เดินมาถึงสุดถนน จะเจอกับรถไฟฟ้าสถานีเป่ย์ซินเฉียว
แล้วเราก็เดินข้ามถนนไปฝั่งใต้แล้วเดินกลับย้อนทางเดิม ฝั่งนี้ร้านค้าน้อยกว่าฝั่งที่เดินมาเล็กน้อย แต่ก็ถือว่าไม่น้อย
ร้านนี้เขาแขวนปลาไว้หน้าร้านเต็มเลย สวยดี
แล้วก็เดินกลับมายังปากถนนฝั่งตงจื๋อเหมินอันเป็นจุดเริ่มต้นที่เดินมา เจอพวกลุงๆป้าๆเขามาทำกิจกรรมเต้นกันอยู่ตรงนี้ด้วย คนเต็มไปหมดเลย
เสร็จแล้วเราก็ขึ้นรถไฟฟ้าจากสถานีนี้เพื่อกลับ
เดินมาขนาดนี้ถามว่าได้แวะเข้าไปร้านไหน...
ร้านอาหารที่นี่มีอยู่หลากหลายระดับ ร้านหรูๆก็เต็มไปหมด แต่แน่นอนเราไม่สนร้านเหล่านั้นจึงมากินร้านที่ธรรมดามากๆแห่งหนึ่ง
ร้านนี้เน้นขายเมนูที่เกี่ยวกับเนื้อลาทั้งหมด เลือกทานกันได้ตามสบาย เขาเอาเนื้อลามาทำอะไรหลายอย่างมาก บะหมี่เนื้อลา ซุปเนื้อลา ขนมปังปิ้งไส้เนื้อลา ฯลฯ
เราสั่งบะหมี่เนื้อลา (驴肉面, หลวีโร่วเมี่ยน) อร่อยมาก ราคา ๘ หยวน ราคาเท่ากับร้านที่ข้างมหาวิทยาลัยเลย แต่ร้านนั้นเขาปิดไปแล้วน่าเสียดาย แต่ก็ได้มาทานที่นี่แทน
เป็นวันที่คุ้มค่าจริงๆ และดูจะเป็นวันสุดท้ายที่จะได้เที่ยวสบายๆแบบนี้แล้วด้วย หลังจากวันนั้นไปอากาศก็ร้อนขึ้นมาก เป็นอันจบสิ้นฤดูกาลท่องเที่ยวลงเพียงเท่านี้