φυβλαςのβλογ
บล็อกของ phyblas



เมืองโอโนมิจิ ย่านเมืองเก่าบนทางลาดเขาริมฝั่งทะเลเซโตะ
เขียนเมื่อ 2013/04/05 02:11
แก้ไขล่าสุด 2024/02/04 06:12
#พุธ 23 ม.ค. 2013

หลังจากที่เที่ยวเมืองฟุกุยามะเสร็จ https://phyblas.hinaboshi.com/20130324

ก็นั่งรถไฟต่อไปยังเมืองต่อไป นั่นคือเมืองโอโนมิจิ (尾道市) ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน

โอโนมิจิเป็นเมืองที่สวยงามมาก เพราะว่าตั้งอยู่บนทางลาดเขาซึ่งอยู่ริมฝั่งทะเลเซโตะ (瀬戸内海) ที่นี่เราสามารถเห็นทิวทัศน์ภูเขาและทะเลกลมกลืนกันอย่างสวยงาม และทะเลเซโตะก็เป็นทะเลที่มีจุดเด่นตรงที่มีเกาะเล็กเกาะน้อยอยู่มากมายจึงไม่มีบริเวณไหนที่มีแต่ทะเลโล่งๆ

เมืองนี้ประกอบไปด้วยย่านโบราณเป็นบริเวณกว้าง และมีวัดโบราณสวยๆอยู่มากมาย ซึ่งเมื่อผสมผสานกับทะเลและภูเขาก็ทำให้สวยงามยากจะหาที่ไหนเปรียบได้ ถ้าเทียบกับเมืองที่ได้ไปมาทังหมดตลอดเที่ยว ๑๒ วันในญี่ปุ่นครั้งนี้ เมืองนี้นี้ถือว่าสวยงามมากที่สุด

แผนที่จังหวัดฮิโรชิมะ แสดงตำแหน่งเมืองโอโนมิจิ สีชมพูเข้ม






ด้วยความที่เป็นเมืองที่สวยงามโดดเด่นจึงถูกใช้เป็นฉากในอนิเมะ มังงะ หรือหนังหลายเรื่อง ที่โดดเด่นเรื่องหนึ่งก็คือเรื่องคามิจุ (かみちゅ!) ซึ่งมีเขียนถึงไปแล้วในหน้าที่แล้ว



คามิจุเป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กสาว ม.ต้น ที่อยู่มาวันหนึ่งก็พบว่าตัวเองกลายเป็นพระเจ้าไปซะแล้ว โดยมีประโยคเปิดเรื่องคือ 「私、神様になっちゃった」 "ฉันกลายเป็นพระเจ้าไปซะแล้วล่ะ"

และตัวละครทุกคนในเรื่องนี้ก็ดูเหมือนจะยอมรับได้ง่ายๆว่าในโลกนี้ถึงมีพระเจ้าเป็นเด็ก ม.ต้น ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ก็เป็นแนวเรื่องที่แปลกดี

เรื่องย่อมีคนเขียนแนะนำไว้ใน http://iamzeon.exteen.com/20111120/kamichu

แต่โดยส่วนตัวแล้วไม่ได้ติดใจเนื้อเรื่องของเรื่องนี้มากนัก แค่ติดใจฉากของเรื่องซึ่งใช้เมืองโอโนมิจิเป็นฉากจึงสวยงามมาก

ทิวทัศน์อันสวยงามของโอโนมิจิที่ปรากฏในอนิเมะ



โดยเฉพาะฉากโรงเรียนที่พวกตัวเอกเรียนอยู่นั้นก็ใช้โรงเรียนซึ่งมีอยู่จริง เพียงแต่ว่าของจริงเป็นโรงเรียนประถม เป็นโรงเรียนที่ตั้งโดดเด่นอยู่บนทางลาดเขา จากที่นั่นจะเห็นทิวทัศน์ของเมืองชัดเจน



ระเบียงของอาคารเรียน ช่างเป็นทำเลที่ดีมาก เป็นโรงเรียนที่น่าอยู่จริงๆ



ในเรื่องจะเห็นว่าเต็มไปด้วยทางลาดเขา จนชวนให้รู้สึกเหนื่อยแทนตัวละครที่ต้องเดินอย่างนี้ทุกวัน




ฉากที่ยุริเอะกระโดดในตอนที่ ๑ จะเห็นได้ชัดถึงตำแหน่งโรงเรียน และตำแหน่งของเมืองนี้



แต่ว่าการเที่ยวเมืองโอโนมิจิของเราครั้งนี้ไม่ได้เจาะจงหาสถานที่ในอนิเมะ เนื่องจากที่นี่เองเป็นสถานที่เที่ยวอยู่แล้ว ต่อให้ไม่ได้ตามรอยอนิเมะก็น่าเที่ยว และจากสภาพเมืองที่อยู่บนทางลาดเขาทำให้ไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้สะดวกนัก เดินไม่นานก็เจ็บเท้าและเหนื่อยแล้ว

 

นอกจากนี้เมืองนี้ยังเป็นบ้านเกิดของนักพากย์คนหนึ่งที่เราได้ติดตามผลงานอยู่ นั่นคือโฮโซยะ โยชิมาสะ (細谷佳正)

ผลงานพากย์ของเขามีอยู่มากพอสมควร แม้อาจจะไม่ได้โดดเด่นเป็นพิเศษก็ตาม ขอยกมาส่วนหนึ่งเท่าที่เคยเจอ




แต่ผลงานที่สำคัญของเขาที่น่าพูดถึงก็คือเรื่อง 君のいる町 (kimi no iru machi) หรือที่ชื่อไทยใช้ชื่อว่า บ้านของเสียงหัวใจ ซึ่งเขาพากย์เป็นพระเอกของเรื่อง คิริชิมะ ฮารุโตะ (桐島 青大)

ฉากของเรื่องนี้อยู่ที่เมืองโชวบาระ (庄原市) ซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองโอโนมิจิ ตัวละครในเรื่องนี้ต่างพูดสำเนียงท้องถิ่นกันหมด ดังนั้นจึงไม่แปลกที่บทพระเอกจะเลือกคนท้องถิ่นอย่างเขามาพากย์


สำเนียงท้องถิ่นที่ใช้ในแถบตะวันออกของจังหวัดฮิโรชิมะ เช่นเมืองฟุกุยามะ โอโนมิจิ โชวบาระ แถวๆนี้เรียกว่าสำเนียงบิงโงะ (備後弁) ซึ่งจะต่างออกไปนิดหน่อยเมื่อเทียบกับสำเนียงฮิโรชิมะ (広島弁) ซึ่งเป็นสำเนียงที่ใช้ในตัวเมืองฮิโรชิมะและจังหวัดฮิโรชิมะแถบตัววันตก

อนิเมะเรื่องนี้กลายเป็น OVA แค่สองตอนเมื่อปี 2012 และตอนนี้เพิ่งมีประกาศทำอนิเมะเป็นตอนยาวขึ้นมา พอรู้ข่าวนี้ก็ดีใจมากเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก เพราะจะได้เห็นฉากการใช้ชีวิตอย่างสงบของผู้คนในเมืองชนบทอย่างเมืองโชวบาระ ในขณะที่ OVA สองตอนนั้นเป็นเรื่องราวช่วงที่นางเอกย้ายมาอยู่โตเกียวแล้ว เลยไม่ค่อยน่าสนนัก



ก็รอติดตามกันต่อไป

น่าเสียดายที่อนิเมะยังไม่ฉาย ไม่เช่นนั้นการไปเที่ยวนี้เราต้องแวะไปเที่ยวโชวบาระด้วยให้ได้แน่นอน ไว้อนิเมะฉายแล้วถ้ามีโอกาสไปญี่ปุ่นอีกครั้งก็หวังว่าจะได้แวะไป

ในบทสัมภาษณ์นักพากย์ของอนิเมะเรื่องนี้คุณโฮโซยะ โยชิมาสะได้กล่าวไว้ว่า "บ้านเกิดผมก็อยู่ที่จังหวัดฮิโรชิมะ แม้จะไม่ใช่เมืองโชวบาระแต่เป็นเมืองโอโนมิจิก็ตาม การที่มีโอกาสได้มีส่วนร่วมในผลงานที่ใช้บ้านเกิดของตัวเองเป็นฉากแบบนี้รู้สึกดีใจมากครับ อยากที่จะถ่ายทอดถึงบรรยากาศอันหวนระลึกของโชวบาระให้ได้มากที่สุด ทั้งภูเขา ทั้งลำธาร ทั้งท้องนาท้องไร่"

ว่าแล้วก็นอกเรื่องไปไกล พอเท่านี้ดีกว่า เพราะเราไม่ได้ตั้งใจจะพูดถึงโชวบาระ แต่จะเล่าถึงโอโนมิจิ กลับเข้าเรื่องดีกว่า



ภาพระหว่างทางบนรถไฟก่อนถึงสถานี นี่คือสะพานใหญ่โอโนมิจิ (尾道大橋, โอโนมิจิไดเกียว) ทีเชื่อมข้ามเกาะระหว่างตัวเมืองโอโนมิจิกับเกาะมุไก (向島, มุไกชิมะ)



นี่เป็นทางสำคัญที่เชื่อมระหว่างเกาะหลักฮนชูกับเกาะชิโกกุ โดยตัดผ่านเกาะเล็กเกาะน้อยอีกหลายแห่งแล้วไปถึงเมืองอิมาบาริ (今治市) ในจังหวัดเอฮิเมะ (愛媛県) บนเกาะชิโกกุ



ในภาพชายฝั่งด้านเหนือคือจังหวัดฮิโรชิมะ ส่วนด้านใต้คือจังหวัดเอฮิเมะบนเกาะชิโกกุ เส้นสีเขียวที่ลากข้ามผ่านทะเลจากเกาะสู่เกาะนี้เรียกว่าชิมานามิไคโดว (しまなみ海道) ต้องผ่านเกาะทั้งหมด ๖ เกาะ ซึ่งเป็นเกาะในจังหวัดฮิโรชิมะ ๓ เกาะ อีก ๓ เกาะเป็นของจังหวัดเอฮิเมะ รวมเป็นระยะทาง ๕๙.๔ ก.ม. สามารถเช่าจักรยานปั่นผ่านเส้นทางนี้ได้ ซึ่งถ้ามีกำลังพอก็เป็นอะไรที่น่าลอง

ในอนิเมะยังเห็นว่ามีการนั่งเรือข้ามฟากด้วย เพราะแม้ว่าแต่ละเกาะนั้นมีสะพานเชื่อมถึงกัน แต่ว่าสะพานระหว่างตัวเกาะหลักกับเกาะมุไกนั้นสำหรับรถยนต์ข้ามเท่านั้น สำหรับคนเดินหรือจักรยานจะต้องขึ้นเรือข้ามฟากเท่านั้น แต่ว่าสะพานที่ข้ามเกาะอื่นๆสามารถปั่นจักรยานข้ามได้หมด เพียงแต่ต้องเสียค่าผ่านทาง



ทิวทัศน์ริมทะเลสวยงาม




ส่วนนี่เป็นฉากในตอนที่ ๑๑ ที่มิโกะกับชูกิจินั่งรถไฟจากโอโนมิจิไปฟุกุยามะ



ผ่านบริเวณใจกลางเมือง




หลังจากที่รถไฟออกจากฟุกุยามะเวลา 9:38 ก็ใช้เวลาเพียง ๑๘ นาที ถึงโอโนมิจิเวลา 09:56



บรรยากาศภายในตัวสถานี



ภาพสถานีซึ่งปรากฏในอนิเมะดูยังไงก็หาจุดที่เหมือนกับของจริงไม่ได้ ดูเหมือนตัวสถานีจะไม่ได้ใช้แบบจากสถานีนี้



มองขึ้นไปทางเหนือด้านบนจะเห็นอาคารคล้ายๆปราสาทอยู่



ขยายให้เห็นชัด อาคารนี้เรียกว่าปราสาทโอโนมิจิ (尾道城) ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่ปราสาทโบราณจริงๆแค่เป้นอาคารที่ถูกสร้างให้เหมือนปราสาทเท่านั้น ไม่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ใดๆ ไม่เหมือนกับปราสาทฟุกุยามะหรือปราสาทฮิโรชิมะที่แม้จะเป็นปราสาทที่สร้างขึ้นใหม่แต่ก็สร้างขึ้นเพื่อแทนที่ปราสาทเก่าที่ถูกทำลายไป จึงมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ แต่ที่โอโนมิจินี้ไม่เคยมีการสร้างปราสาทมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว จึงเป็นได้แค่ปราสาทปลอม มีคนวิพากย์วิจารย์อยู่มากเหมือนกัน



ออกมาด้านนอกสถานี



บริเวณรอบๆสถานี



จุดขึ้นรถเมล์ สามารถใช้นั่งเที่ยวได้ หรืออาจนั่งรถข้ามเกาะได้ด้วย แต่เราไม่จำเป็นต้องขึ้นเพราะจุดที่จะเที่ยวเป็นหลักนั้นไม่ได้ไกลมาก



เดินห่างออกมาจากสถานีแล้วมองกลับไปจะเห็นทางลาดเขาซึ่งเต็มไปด้วยบ้าน ในภาพนี้เรายังมองเห็นอาคารของโรงเรียนประถมซึ่งถูกใช้เป็นฉากของเรื่องคามิจุด้วย เป็นอาคารสีขาวที่อยู่ทางขวาของภาพ ดูโดดเด่น



ลองเทียบกับภาพในอนิเมะดู เหมือนกันเป๊ะ เสียดายที่ไม่ได้เข้าไปถ่ายใกล้ๆ



ใกล้ๆนั้นเจอร้านราเมงอยู่ เป็นราเมงสูตรของที่นี่เรียกว่าโอโนมิจิราเมง (尾道ラーメン) เช่นเดียวกับที่เมืองฟุกุยามะมีฟุกุยามะราเมง (福山ラーメン) แต่ละเมืองก็มีสูตรของตัวเองอยู่ ไปเที่ยวเมืองไหนก็ทานอาหารต้นตำรับของที่นั่นก็ถือเป็นความสนุกอย่างหนึ่งของการเที่ยว



แต่พอดีร้านมันเปิด 11 โมง เราไปเช้าเกินไป ดังนั้นก็อดกิน แต่ก็ทำให้ตัดสินใจได้ว่าจะต้องหาโอโนมิจิราเมงทานให้ได้ที่ร้านอื่น

แล้วเราก็เดินออกจากสถานีรถไฟไปทางตะวันออก



ระหว่างทางนั้นฝั่งซ้ายเป็นทางรถไฟ ซึ่งถ้ามองขึ้นไปจะเป็นทางลาดเขาที่เต็มไปด้วยบ้านเรือน เป็นภาพที่สวยมาก



จุดตัดทางรถไฟ มีรถไฟวิ่งผ่านพอดี



ฉากทางรถไฟกลางเมืองที่ปรากฏในเรื่อง เราไม่ได้ไปถ่ายจุดเดียวกันกับที่ปรากฎในภาพนี้ แต่ว่าก็จะเห็นได้ว่าบรรยากาศประมาณนี้เหมือนกัน ที่นี่ยังมีจุดข้ามทางรถไฟแบบนี้อยู่อีกหลายแห่ง



เดินไปสักพักเจอโถงทางเดินซึ่งเป็นแหล่งร้านค้าและร้านอาหาร ที่นี่เรียกว่าโอโนมิจิฮนโดริ (尾道本通り)



เข้าไปเดินข้างในหวังว่าจะเจอโอโนมิจิราเมง แต่ก็ไม่เจอ ร้านอาหารบางร้านก็ยังไม่เปิดเช่นกัน บรรยากาศเวลานี้ค่อนข้างเงียบๆอยู่



แล้วก็ออกมาจากบริเวณโถงทางเดิน ทางซ้ายมีอุโมงค์ซึ่งพาลอดใต้ทางรถไฟเพื่อไปยังย่านเมืองบนทางลาดได้



ได้เวลาเดินขึ้นไปตามทางลาดเขาที่รายล้อมไปด้วยบ้านเรือนย่านชุมชน






ยิ่งเดินก็ยิ่งสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ทางไม่ได้ชันมากเลยยังพอไหว แต่พอคิดดูว่าผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่เขาต้องเดินขึ้นลงแบบนี้ทุกวัน แค่คิดก็เหนื่อยแทนแล้ว



แต่เมื่ออยู่ด้านบนแล้วมองลงไปเห็นทิวทัศน์สวยงามข้างล่าง ก็ทำให้หายเหนื่อยได้ทีเดียว


 

ยิ่งขึ้นไปสูงก็ยิ่งมองลงมาเห็นทิวทัศน์ชัดเจน เริ่มเห็นทะเลที่อยู่ด้านล่าง



พอเดินไปถึงจุดหนึ่งเราก็เลี้ยวขวาเดินเลียบเขาไปทางตะวันออกต่อ



ตรงนี้เป็นจุดที่ชมทิวทัศน์ได้สวยมากจุดหนึ่ง




ต่อไปเป็นทางเดินลง



ระหว่างทางต้องผ่านทางแคบๆ ซึ่งเขากำลังซ่อมทางอยู่พอดีด้วย



แต่ก็เดินผ่านไปได้ พวกช่างเขาก็ดูใจดีกันมากทีเดียว




แล้วก็เดินไปทางตะวันออกต่อ




แล้วในที่สุดก็ได้มาเจอกับร้านราเมงร้านหนึ่ง เป็นร้านเล็กๆ ชื่อร้านเซงโกวเตย์ (千光亭)




เราตัดสินใจแวะทานกันร้านนี้แหละ ตอนที่เข้าไปไม่เห็นมีลูกค้าคนอื่นเลย



คุณป้าเจ้าของร้านกำลังตั้งใจทำราเมงให้ทาน



นี่เป็นเมนูราเมงต่างๆของร้าน



แล้วก็ได้ทานโอโนมิจิราเมงสมใจจนได้ ราคา ๕๐๐ เยน อร่อยมากเลย



พอกินเสร็จก็ไปขึ้นรถกระเช้าสำหรับขึ้นไปด้านบนเขา ซึ่งจุดขึ้นกระเช้าก็อยู่ข้างๆร้านราเมงนี้เอง



ราคาค่าโดยสารคือถ้าเที่ยวเดียว ๒๘๐ เยน ถ้าไปกลับ ๔๔๐ เยน เราตัดสินใจซื้อแบบเที่ยวเดียวขาขึ้นอย่างเดียวแล้วขาลงก็เดินกลับลงเอง เพราะขาลงง่ายกว่าขาขึ้นอยู่แล้ว และมีอะไรให้ดูเรื่อยๆระหว่างทาง อันที่จริงจะเดินขึ้นก็เดินไหวนะไม่ได้สูงอะไรเกินไป แต่การนั่งกระเช้าก็ให้บรรยากาศไปอีกแบบ และราคาก็ไม่แพงไปด้วย

หน้าตาของรถกระเช้า



หนทางที่อยู่เบื้องหน้า



เริ่มออกเดินทาง มองกลับลงไปข้างล่าง





ทางซ้ายเต็มไปด้วยสุสานป่าช้าเต็มไปหมด แต่ก็สวยงามไปอีกแบบ



ยิ่งขึ้นไปสูงก็ยิ่งสวย






แล้วก็ขึ้นมาถึงด้านบนสุด




บนนี้มีอาคารที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นจุดชมทิวทัศน์ให้ขึ้นไปดูได้



ทิวทัศน์ที่มองลงมาจากจุดชมทิวทัศน์



 

ขยายภาพตรงสะพานชัดๆ ภาพนี้ถ่ายจากกล้องเพื่อนซึ่งสามารถขยายได้ใกล้มาก




ได้เวลาเดินลง ต่อไปเราจะเดินลงไปเรื่อยๆจนถึงวัดเซงโกว (千光寺, เซงโกวจิ)



ป้ายบอกทางไปวัดเซงโกว





แล้วก็มาถึงทางเข้าวัด



ภายในบริเวณวัด








ตรงนี้ก็เป็นจุดที่มองลงไปเห็นทิวทัศน์ดีมากอีกที่



หอหลักของวัด



ก้อนหินซ้อนสามชั้นก็เป็นอะไรที่ดูสวยเด่นดี



ตรงนี้เป็นทางเดินเลียบผาของตัววัดที่เขากั้นไว้ไม่ให้เดิน



หอตีระฆัง



บริเวณตัววัดก็หมดเท่านี้ แล้วเราก็เดินลงต่อไป




ตรงนี้เดินผ่านวัดเทนเนย์ (天寧寺, เทนเนย์จิ) ที่มีเจดีย์สามชั้นซึ่งเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งด้วย



แล้วเราก็ยังได้เดินผ่านป่าช้าด้วย
 


ก็เป็นภาพที่สวยไปอีกแบบ



เดินลงไปเรื่อยๆในที่สุดก็กลับลงมาถึงด้านล่างสุดแล้ว เห็นทางรถไฟอยู่ข้างหน้า การเที่ยวที่นี่ของเราก็จบลงเพียงเท่านี้



มองกลับขึ้นไปดูเส้นทางที่เดินผ่านมาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินกลับไปยังสถานี





ว่าไปแล้วที่นี่มีแมวเยอะมากเลยล่ะ ระหว่างทางเจอแมวอยู่หลายตัว มีถ่ายรูปไว้บ้าง



ถ้าดูจากในอนิเมะก็จะเห็นว่ามีแมวเยอะเช่นกัน ความจริงแล้วเมืองนี้มีชื่อเสียงเรื่องแมวอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน





ก่อนกลับเห็นที่ร้านขายของในสถานีรถไฟมีขายโปสการ์ดซึ่งมีรูปสวยๆของเมืองโอโนมิจิเต็มไปหมด ก็เลยซื้อติดกลับมาด้วย ราคา ๔๒๐ เยน






ความจริงแล้วเมืองนี้ยังมีอะไรให้เที่ยวมากกว่านี้ นี่เราเดินแค่ส่วนที่น่าจะเรียกว่าเป็นจุดเด่นที่สุดเท่านั้น หากมีเวลาก็อยากเดินต่อ นั่งเรือข้ามไปเกาะมุไกและเกาะอื่นๆก็น่าสนใจ สามารถปั่นจักรยานข้ามสะพานจนไปถึงเกาะชิโกกุได้ด้วย ถ้ามีโอกาสคงต้องหาทางกลับมาเที่ยวเมืองนี้อีกแน่นอน

ใครมาเที่ยวฮิโรชิมะละก็ โอโนมิจิก็เป็นที่นึงที่ไม่น่าพลาดแวะมาเที่ยวด้วย

เก็บความประทับใจไว้เพียงแค่นี้ ตอนนี้เราต้องรีบออกเดินทางเพื่อไปยังที่หมายต่อไปแล้ว ที่หมายต่อไปก็คือเมืองทาเกฮาระ (竹原市) เป็นอีกเมืองที่มีย่านโบราณและได้ใช้เป็นฉากของอนิเมะ นั่นคือเรื่องทามายุระ (たまゆら) ติดตามอ่านกันต่อได้ https://phyblas.hinaboshi.com/20130413



ในบทความนี้มีการนำภาพจากอนิ เมะ "kamichu!" มาใช้อ้างอิงเพื่อการวิจัยศึกษาภาพเปรียบเทียบ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของผู้จัดทำ "kamichu!"
この記事では、比較研究を目的としてアニメ「かみちゅ!」の画像を引用しています。画像の著作権はすべて「かみちゅ!」の製作者に帰属します。



-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

หมวดหมู่

-- ประเทศญี่ปุ่น >> ฮิโรชิมะ
-- ท่องเที่ยว >> ตามรอย
-- ท่องเที่ยว >> ภูเขา
-- ท่องเที่ยว >> ทะเล
-- ท่องเที่ยว >> รถไฟ
-- ท่องเที่ยว >> แมว

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

สารบัญ

รวมคำแปลวลีเด็ดจากญี่ปุ่น
มอดูลต่างๆ
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
การเรียนรู้ของเครื่อง
-- โครงข่าย
     ประสาทเทียม
ภาษา javascript
ภาษา mongol
ภาษาศาสตร์
maya
ความน่าจะเป็น
บันทึกในญี่ปุ่น
บันทึกในจีน
-- บันทึกในปักกิ่ง
-- บันทึกในฮ่องกง
-- บันทึกในมาเก๊า
บันทึกในไต้หวัน
บันทึกในยุโรปเหนือ
บันทึกในประเทศอื่นๆ
qiita
บทความอื่นๆ

บทความแบ่งตามหมวด



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  ค้นหาบทความ

  บทความแนะนำ

ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ

บทความแต่ละเดือน

2024年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

2023年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

2022年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

2021年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

2020年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

ค้นบทความเก่ากว่านั้น

ไทย

日本語

中文