#พุธ 30 ม.ค. 2019นี่เป็นตอนสุดท้ายของบันทึกการเที่ยวเกาสยง~ผิงตง เขียนต่อจาก
https://phyblas.hinaboshi.com/20190206เป้าหมายวันนี้มีอยู่ที่เดียวคือเที่ยวที่
หออนุสรณ์พุทธฝัวกวางซาน (佛光山佛陀紀念館) เป็นพิพิธภัณฑ์ทางพุทธศาสนา ตั้งอยู่ในเขตต้าซู่ (
大樹) เมืองเกาสยง สร้างขึ้นเมื่อปี 2003 และสร้างเสร็จในปี 2011 มีขนาด ๐.๕ ตร.กม.
การเดินทางไปที่นั่นสามารถนั่งรถเมล์ไปได้ โดยอาจออกเดินทางจากสถานีซินจั่วอิ๋ง (
新左營站), สถานีเกาสยง (
高雄車站) หรือสถานีเฟิ่งซาน (
鳳山站)
เนื่องจากครั้งนี้โรงแรมที่พักอยู่ใกล้สถานีซินจั่วอิ๋งจึงเลือกที่จะไปขึ้นที่สถานีซินจั่วอิ๋ง
ใครมาจากไทเปหรือเมืองอื่นทางเหนือก็สามารถนั่งรถไฟความเร็วสูงมาลงสถานีนี้แล้วต่อรถเมล์เพื่อมาเที่ยวที่นี่แบบวันเดียวกลับได้เลยสะดวกมาก
ครั้งนี้ตั้งใจว่าไปเที่ยวที่นี่เสร็จก็จะเดินทางไปขึ้นรถไฟกลับซินจู๋เลย ดังนั้นตอนเช้ามาเก็บข้าวของออกจากห้องจึงเก็บข้าวของให้เรียบร้อยไม่กลับมาแล้ว วันนี้ต้องแบกสัมภาระเดิน
วันนี้แผนเที่ยวสบายๆ ออกค่อนข้างสาย คือเกือบสิบโมง
รถที่เดินทางจากสถานีซินจั่วอิ๋งไปยังฝัวกวางซานมีประมาณชั่วโมงละคัน ตอนที่ไปถึงสถานีเป็นเวลาสิบโมงกว่า จึงได้ขึ้นรอบ 10:30
ป้ายรถเมล์อยู่ตรงนี้ เมื่อถึงเวลารถก็มา


ใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง เพราะรถมุ่งตรงไปที่นั่นโดยไม่ได้แวะจอดที่ไหนเลย

ที่นี่ประกอบไปด้วย ๓ ส่วนใหญ่ ไล่จากเหนือไปใต้ ได้แก่
- ฝัวเป่าซาน (
佛寶山) อยู่เหนือสุด มี ๘ หอคอยและหลวงพ่อโต
- ฝาเป่าซาน (
法寶山) อยู่ตรงกลาง มีอาคารใหญ่สุดที่เก็บพระสูตร
- เซิงเป่าซาน (
僧寶山) กลุ่มอาคารต่างๆทางฝั่งใต้
รถเมล์มาจอดแถวๆหน้าทางเข้าฝัวเป่าซานและก็ใกล้ฝาเป่าซาน

เนื่องจากตอนแรกยังงงกับเส้นทาง ทำให้เราเดินไปทางฝาเป่าซานก่อน ทั้งที่เป็นส่วนที่อยู่ตรงกลาง ที่จริงตามหลักแล้วควรเริ่มจากเหนือหรือใต้สุดจะเดินง่ายกว่า

เข้าชมอาคารฝาเป่าถาง (
法寶堂)

ด้านใน

เข้ามาแล้วขึ้นลิฟต์ไปชั้นบน จากตรงนั้นมีทางเชื่อมเข้าไปชมด้านในได้

ขึ้นมาด้านบน เห็นส่วนหอหลักอยู่ทางนั้น

ถ้ามองไปทางเหนือจะเห็นส่วนของหมู่หอคอยและหลวงพ่อโต ซึ่งเดี๋ยวจะแวะไปดูทีหลัง


มองไปทางเหนือ


ไปทางอาคารหลักด้านใน


ด้านในเป็นโถงขนาดใหญ่

ด้านข้างมีส่วนจัดแสดงเกี่ยวกับพระซิงหยวิน (
星雲) แต่ตอนที่ไปนั้นไม่ได้เปิดเลยไม่ได้เข้า

มองออกไปทางโน้นผ่านลานกว้าง ผ่านประตู


ดูเสร็จก็ผ่านไปทางใต้ เชื่อมไปถึงส่วนบริเวณเซิงเป่าซาน ที่ประกอบไปด้วยหมู่อาคารมากมาย




เริ่มจากอาคารนี้ มีชื่อว่า ยวี่ฝัวโหลว (
玉佛樓) แปลว่าหอพระพุทธหยก

แล้วก็มี จินฝัวโหลว (
金佛樓) แปลว่าหอพระพุทธทอง

ระหว่างหอพระพุทธรูปสองแห่งคืออาคารหรูไหลเตี้ยน (
如來殿) ด้านในเข้าไปชมได้

ส่วนจัดแสดงชั้นสอง



มองถัดไปใกล้ๆกันทางนั้นเป็นอาคารต้าสยงเป่าเตี้ยน

เดินลงไปจากตรงนี้

บริเวณด้านหน้าอาคารเป็นทางเดินกว้าง เรียกว่า เฉิงฝัวต้าเต้า (
成佛大道)


เดินผ่านทางตรงนี้ลงไป

เจอทางไปอาคารต้าเปย์เตี้ยน (
大悲殿) ซึ่งอยู่ค่อนไปทางตะวันตก แต่ว่าปิดอยู่

เดินลงมาเรื่อยๆก็ถึงอาคารเฉาซานฮุ่ยกว่าน (
朝山會館)

ที่นี่มีโรงอาหารที่สามารถเข้าไปกินได้ อาหารเป็นแบบตักเองตามสบาย ไม่มีค่าอาหารแต่จะต้องบริจาคเงินเพื่อจะกิน ปกติเขาบอกว่าควรให้ ๑๐๐ ขึ้นไป แต่ถึงจะให้น้อยกว่านั้นก็ไม่มีใครว่าอะไร

แต่ว่าอาหารดูไม่น่ากินก็เลยไม่ได้กินที่นี่
ก็เลยเดินย้อนกลับไปเพื่อไปที่อีกร้านซึ่งดูจากแผนที่แล้วอยู่ตรงฉวานเติงโหลว (
傳燈樓) โดยต้องปีนย้อนขึ้นไปยังต้าสยงเป่าเตี้ยน แล้วไปทางขวาต่อ

ถึงอาคารฉวานเติงโหลวแล้ว

ทางค่อนข้างซับซ้อน ต้องถามคนจึงรู้ว่าต้องเดินลงมาจึงถึงร้าน


แต่พอมาถึงก็พบว่าโรงอาหารตรงนี้ปิดไปแล้วเพราะเขามีเวลาเปิดปิดอยู่

พอถามคนที่ผ่านมาแถวนั้นเขาจึงแนะนำอีกร้าน คือต้องเดินต่อไปลงไป
ก็ต้องเดินเลียบผาไปทางนี้ ทางค่อนข้างจะซับซ้อนงงๆทีเดียว ยากจะอธิบาย





เดินผ่านหมู่เจดีย์มา



ตี้จ้างเตี้ยน (
地藏殿) หรืออาคารพระกษิติครรภโพธิสัตว์

พระพุทธรูปมากมาย

เดินลงไป




ก็กลับมาถึงเฉาซานฮุ่ยกว่าน

จากนั้นเดินไปทางใต้ต่ออีก ผ่านทางเดินหลิงซานเซิ่งจิ้ง (
靈山勝境)

ผ่านประตูปู๋เอ้อร์เหมิน (
不二門)

แล้วก็เจอร้านอาหาร ตีสุ่ยฝาง (
滴水坊)

สั่งบะหมี่เกี๊ยวหุนตุน (
餛飩麵) ราคา ๑๐๐ ค่อนข้างแพงเพราะอยู่ในที่เที่ยว แล้วเขามีแถมเนื้อและถั่วแระให้ด้วย

ข้างๆร้านเป็นสระบัว กวานอินฟ่างเซิงฉือ (
觀音放生池)

จากตรงนี้เดินออกประตูไปเพื่อย้อนไปยังส่วนสุดท้ายคือส่วน ๘ หอคอยและหลวงพ่อโต

เดินย้อนมาทางเหนือเรื่อยๆ



แล้วก็กลับมาถึงประตูใหญ่ทางเข้าที่ตอนแรกรถเมล์ผ่านมา

ด้านหน้าเป็นโถงอาคารหลี่จิ้งต้าทิง (
禮敬大廳)

เดินทะลุผ่านอาคารเข้ามาด้านในบริเวณ


หอคอยนี้คือหอคอยที่แปด ปาเต้าถ่า (
八道塔)

แล้วก็หอคอยอื่นๆที่เหลือ

ด้านในหอคอยเข้าไปดูได้ แต่ละหอคอยก็มีแสดงอะไรต่างๆกันไป

เดินเข้ามาเรื่อยๆ ผ่านเจดีย์ทีละหลัง แต่ไม่ได้เข้าไป



สุดท้ายก็มาถึงอาคารด้านใน



เมื่อเดินเข้าไปแล้วขึ้นไปชั้นบนก็ไปถึงต้าฝัวผิงไถ (
大佛平台) หรือระเบียงหลวงพ่อโต เป็นจุดที่ชมหลวงพ่อโตได้อย่างชัดเจน

อาคารด้านหน้าหลวงพ่อโตนั่นเปิดแค่เสาร์อาทิตย์จึงไม่ได้เข้าไป

บริเวณลานกว้างเต็มไปด้วยเจดีย์



มองลงไปจากตรงนี้ ไปยังทางที่เดินมา

จากตรงนี้เดินลงกลับไป

ได้เวลาบอกลาที่นี่แต่เพียงเท่านี้แล้ว

จากนั้นเดินย้อนกลับมาตรงป้ายรถเมล์ที่ลงมาตอนแรก มีรถเมล์ให้ขึ้นหลายสาย ที่หมายต่างกัน แต่ตอนจังหวะที่เราไปถึงนั้นรถที่กำลังจะออกคือรถที่จะไปยังสถานีเฟิ่งซาน ส่วนรถที่จะไปสถานีจั่วอิ๋งต้องรอนานกว่าจะมา ดังนั้นจึงตัดสินใจนั่งรถที่ไปสถานีเฟิ่งซาน ออกเวลาสามโมง

ใช้เวลาประมาณชั่วโมงเพราะว่าจอดหลายสถานีตามทาง ต่างจากตอนขามาที่ตรงมาถึงรวดเดียวเลย
สุดท้ายก็เดินทางไปถึงสถานีเฟิ่งซานตอนเกือบสี่โมง รถไฟรอบต่อไปที่จะออกคือเวลา 16:02 ทำให้ต้องรีบเข้าสถานีไปเพื่อให้ทันขึ้นรถ

ด้านในสถานี


รอสักพักรถไฟก็มา ได้เวลาเดินทางกลับแล้ว ใช้เวลาเดินทางเกือบ ๔ ชั่วโมง ถึงสถานีซินจู๋เวลา 19:58

ตอนออกแตะบัตรค่ารถ ๓๙๓ หยวน เป็นการแตะบัตรจ่ายค่ารถที่แพงที่สุดเท่าที่เคยทำมาเลย แพงกว่าตอนขามาเพราะตอนนั้นลงที่สถานีซินจั่วอิ๋งซึ่งใกล้กว่าหน่อย

ตอนแตะบัตรจริงๆมีเงินไม่พอ ทำให้ติดลบ ๓๗ แต่ก็ไม่เป็นปัญหา สามารถติดลบได้ถ้าไม่เกิน ๑๐๐ แต่ถ้าเกินก็ต้องไปคุยกับคนที่สถานีเพื่อขอจ่ายเพิ่ม
จากนั้นก็นั่งรถเมล์กลับชิงต้าไปพักผ่อน การเที่ยวสั้นๆ ๓ วันจบลงเท่านี้