# เสาร์ 17 ก.พ. 2023ต่อจากตอนที่แล้วที่เที่ยวเมืองโอนางาวะจนเสร็จแล้วนั่งรถไฟย้อนกลับมา
https://phyblas.hinaboshi.com/20240218เป้าหมายต่อไปที่เราจะไปเที่ยวคือที่
สวนอธิษฐานฟื้นฟูภัยพิบัติแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในญี่ปุ่นตะวันออกเมืองฮิงาชิมัตสึชิมะ (
東松島市東日本大震災復興祈念公園) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับ
สถานีโนบิรุ (
野蒜駅) ใน
เมืองฮิงาชิมัตสึชิมะ (
東松島市)
ตำแหน่งเมืองฮิงาชิมัตสึชิมะในจังหวัดมิยางิ แสดงเป็นสีชมพูเข้ม อยู่ริมชายฝั่ง
เมืองฮิงาชิมัตสึชิมะนั้นตั้งอยู่ริมชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก เมื่อครั้งภัยพิบัติทสึนามิปี 2011 จึงเป็นเมืองหนึ่งที่ได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง โดยในเมืองนี้มีสถานีรถไฟอยู่ทั้งหมด ๘ สถานี ทุกสถานีอยู่ไม่ห่างจากทะเลจึงได้รับความเสียหายทั้งหมด หนึ่งนั้นก็คือสถานีโนบิรุ ซึ่งเป็นเป้าหมายของเราครั้งนี้
ตัวสถานีโนบิรุเก่านั้นเสียหายจากคลื่นทสึนามิถล่มและปิดตัวลง แล้วมีการสร้างสถานีใหม่ขึ้นมาแทนโดยลึกเข้าไปในแผ่นดิน ๕๐๐ เมตรและอยู่บนพื้นที่สูง ซึ่งก็คือตัวอาคารปัจจุบันที่เรานั่งรถไฟไปลงคราวนี้
ส่วนตัวอาคารเก่าและชานชลาซึ่งได้รับความเสียหายแต่ยังพอซ่อมแซมได้จึงได้ถูกปรับปรุงใหม่ให้กลายมาเป็น
หอที่ระลึกฟื้นฟูภัยพิบัติแผ่นดินไหวเมืองฮิงาชิมัตสึชิมะ (
東松島市震災復興伝承館) ซึ่งจัดแสดงระลึกเกี่ยวกับเหตุการณ์คราวนั้น และบริเวณรอบๆอาคารสถานีเก่านี้ก็ได้ถูกเปิดเป็นสวนอธิษฐานฟื้นฟูดังกล่าว
อนึ่ง เมืองฮิงาชิมัตสึชิมะนี้เป็นเมืองเกิดใหม่ในปี 2005 จากการควบรวมกันระหว่าง ๒ เมืองเล็กคือ
เมืองยาโมโตะ (
矢本町) กับ
เมืองนารุเสะ (
鳴瀬町) โดยที่เมืองนารุเสะนี้เองก็เกิดขึ้นมาในปี 1955 จากการควบรวมระหว่าง
หมู่บ้านโนบิรุ (
野蒜村) ซึ่งเป็นบริเวณที่สถานีโนบิรุนี้ตั้งอยู่ กับอีก ๒ หมู่บ้านคือ
หมู่บ้านโอโนะ (
小野村) และ
หมู่บ้านมิยาโตะ (
宮戸村)
จากสถานีโอนางาวะ เรานั่งรถไฟย้อนกลับมาตามสายอิชิโนมากิถึงสถานีอิชิโนมากิเวลา 11:34 จากตรงนี้ต้องรอขึ้นรถไฟไปตามสายเซนเซกิเวลา 11:55 ต้องรออยู่ในสถานี ๒๑ นาที
ระหว่างนั้นพอดีมีคนสวมชุดเป็นตัวละครสนับสนุนการท่องเที่ยวของเมืองนี้
อิชิเปียวง์ (いしぴょん) ก็เลยเดินดูและถ่ายภาพเล่นฆ่าเวลาระหว่างรอ
ดูอยู่สักพักก็มีตัวละครใหม่เพิ่มเข้ามาอีก
พวกเขามารอต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มากับรถไฟทางโน้นนั่นเอง
ระหว่างที่รออยู่ก็มีรถไฟขบวนที่ตกแต่งเป็นตัวละครฮีโร่เข้ามาจอด ในนั้นมีผู้โดยสารแน่นเต็ม
ผู้คนลงจากรถไฟนั้นกันเต็ม
หลังจากที่ดูอยู่สักพักเราก็ขึ้นรถไฟที่จะนั่งเพื่อย้อนกลับแล้วก็รอจนเวลา 11:55 รถไฟออก เดินทางย้อนกลับสู่ทางเซนได
แล้วเวลา 12:15 ก็มาถึงสถานีโนบิรุที่เป็นเป้าหมาย
แต่ก็เจอปัญหาที่ไม่คาดคิด คือตอนที่เราลงจากรถไฟเราก็พบว่าทำการ์ดคีย์สำหรับหอพักหาย น่าจะหล่นหายระหว่างที่เดินเที่ยวอยู่ในเมืองโอนางาวะหรือไม่ก็บนรถไฟ ทำให้กังวลว่าถ้ากลับไปถึงหอจะทำยังไง สามารถเข้าได้หรือเปล่า ซึ่งตอนหลังลองค้นข้อมูลดูก็พบว่าไม่เป็นไร ไปคุยกับเจ้าหน้าที่หอพัก ยืนยันตัวตนได้เขาก็ช่วยเราได้ รอดไป แต่ว่าก็ทำให้ระหว่างที่เที่ยวที่นี่อยู่รู้สึกใจไม่ดี พะวงไป ไม่สามารถจดจ่อกับการเที่ยวได้เต็มที่เท่าที่ควร
ตอนแรกยังคิดว่าจะรีบนั่งรถไฟกลับเซนไดไปเลยเพื่อจัดการเรื่อง แต่คิดว่าไหนๆเดินทางมาแล้วก็ขอเที่ยวให้ถึงที่สุดตามแผนดีกว่า อุตส่าห์มาถึงนี่แล้ว
ยังไงก็ตาม การเที่ยวก็ดำเนินต่อไป เราเดินออกจากสถานีโนบิรุออกมา
หน้าสถานีมีฝาท่อรูปตัวละครสวยดี
และถัดมาอีกหน่อยก็เจอฝาท่อโปเกมอน ซึ่งที่จริงแล้วนี่เป็นเป้าหมายหลักจริงๆที่เราแวะมาสถานีนี้ทั้งทีจริงๆที่นี่ก็ไม่ได้มีอะไรมาก แค่ต้องการแวะมาเก็บฝาท่อนี้เท่านั้นเอง
โปเกมอนของเมืองนี้คือลาปลาส (ラプラス) และลาทีออส (ラティオス) ดูรายละเอียดได้ในนี้
https://local.pokemon.jp/manhole/desc/48/ ภาพฝาท่อคู่กับอาคารสถานี
ส่วนข้างๆสถานีนั้นเป็นอาคารโอกุมัตสึชิมะอีตพลาซา (
奥松島イートプラザ) เป็นศูนย์แนะนำการท่องเที่ยว
ภายในนี้มีพวกแผนที่แนะนำการท่องเที่ยว เห็นแผ่นที่เขียนถึงการเที่ยวตามล่าฝาท่อโปเกมอนในเมืองตามชายฝั่งจังหวัดมิยางิด้วย ซึ่งเราก็ได้ไปตามเก็บมาแล้วหลายที่ และล่าสุดก็คือเมืองนี้
ภายในนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว ก็เดินออกมา ระหว่างเดินอยู่ข้างๆอาคารก็เห็นแปลงตรงนี้
มีต้นสวยงามโดดเด่นอยู่ เลยถ่ายภาพเก็บไว้แล้วลองไปค้นดูแล้วพบว่าน่าจะเป็นต้นฮาโบตัง (
葉牡丹,
Brassica oleracea var.
acephala f.
tricolor) เป็นกะหล่ำปลีพันธุ์หนึ่ง ที่เห็นสวยงามไม่ใช่ดอก แต่เป็นใบที่มีสีสันสวยงาม
ข้างๆนั้นเป็น
ศูนย์ชาวเมืองโนบิรุ (
野蒜市民センター)
เดินถัดมาเป็นสวน
ซาโตะโนะโควเองฮิงาชิ (
里の
公園東)
จากตรงนี้มีทางเดินลงไป ซึ่งสามารถลอดใต้ทางรถไฟเพื่อไปยังฝั่งใต้ของสถานี ซึ่งมีอาคารสถานีเก่าและสวนอธิษฐานอยู่
ลอดใต้ทางรถไฟ
แล้วเดินต่อมา
ผ่านบริเวณนี้ซึ่งเรียกว่า
โอกุมัตสึชิมะคลับเฮาส์ (
奥松島クラブハウス) เป็นสวนที่มีพวกร้านอาหารและหอศิลป์
อาคารนี้เป็นร้านชา
ส่วนตรงนี้เป็นหอศิลป์ GALLERY คุโรซาวะ เอย์สึเกะ (GALLERY
黒澤英介) นักถ่ายภาพเครื่องบิน แต่ว่าเราไม่ได้เข้าไปดูข้างใน
สวนเด็กเล่น
จากนั้นเดินผ่านต่อมาจึงมาถึงสวนอธิษฐาน
และตรงโน้นก็คือตัวสถานีเก่า ประกอบไปด้วยชานชลาและอาคารสถานี
ตรงข้างๆชานชลามีอนุสาวรีย์นี้ตั้งอยู่
สภาพชานชลาเก่า ดูเผินๆก็เหมือนอย่างกับสถานีรถไฟธรรมดาที่เปิดใช้การอยู่เลย แต่ว่าไม่มีรถไฟวิ่งผ่านที่นี่
และเดินมาถึงส่วนปลายก็จะเห็นว่ารางรถไฟขาดตอนอยู่แค่นี้ เพราะรางส่วนอื่นได้ถูกรื้อทิ้งหมดแล้ว ตัวรางก็ได้ถูกย้ายลึกเข้าไปในแผ่นดิน ผ่านสถานีปัจจุบัน
ป้ายอธิบายเกี่ยวกับสวนอธิษฐานแห่งนี้
จากตรงนี้จึงมีทางให้เข้าไปเดินดูด้านในได้
ต่อมาก็มาดูตัวอาคารสถานี
ภายในเป็นส่วนจัดแสดงเล็กๆ
ทางนี้แสดงภาพที่เล่าเรื่องภัยพิบัติทสึนามิครั้งนั้น และการฟื้นฟูหลังเหตการณ์
มีห้องมืดๆที่ตั้งแสดงนกกระเรียนกระดาษ
ส่วนตรงนี้แสดงงานประติมากรรมทรายของเมืองนี้
ส่วนหินที่ตั้งอยู่นี้เรียกว่า หินโนบิรุ (
野蒜石) เห็นเขาว่าพื้นที่นี้มีหินคุณภาพดีที่ถูกนำไปใช้สำหรับการก่อสร้างต่างๆ
ตรงมุมนี้มีของที่ระลึกขายอยู่นิดหน่อย
แล้วก็เดินออกมาจากอาคารตรงฝั่งติดถนน
ฝั่งตรงข้ามเป็นสะพาน ถ้าข้ามไปทางโน้นก็จะเป็นชายฝั่งทะเล
เดินย้อนมาดูตรงชานชลาอีกหน่อย
ป้ายสถานี
จากนั้นเดินย้อนมายังส่วนโอกุมัตสึชิมะคลับเฮาส์ก็พบว่ายังมีส่วนที่ยังไม่ได้เข้าชมตอนผ่านเมื่อกี้ คือสวนบนไซ (
盆栽庭園)
ภายในเต็มไปด้วยบนไซ ดูสวยดี
แล้วก็เดินย้อนกลับทางเดิม กลับไปยังสถานีโนบิรุแห่งปัจจุบัน
กลับมาถึงสถานี
ตอนย้อนกลับมาถึงหน้าสถานีเราจึงเพิ่งมาเจอทางเข้าอุโมงค์ลอดซึ่งสามารถลอดจากตรงนี้ไปยังฝั่งทางใต้ของทางรถไฟซึ่งสถานีเก่าและสวนอธิษฐานตั้งอยู่ได้อย่างรวดเร็ว ประหยัดเวลาได้ เท่ากับว่าจริงๆแล้วเราไม่จำเป็นต้องอุตส่าห์ไปเดินอ้อมไกล แต่ก็รู้ช้าไปแล้ว เดินอ้อมไปแล้ว
เดินกลับเข้ามาในสถานี จากสถานีนี้สามารถใช้บัตร Suica ได้ จึงสะดวก ไม่ต้องซื้อตั๋ว
แล้วก็มาขึ้นรถไฟรอบเวลา 13:12 เพื่อย้อนกลับไปทางเซนได
แต่ว่าเราก็ยังไม่ได้จะกลับเซนไดทันที แต่ยังมีเป้าหมายที่ตั้งใจจะแวะไปอีก ซึ่งจะเล่าถึงในตอนหน้า
https://phyblas.hinaboshi.com/20240220