φυβλαςのβλογ
บล็อกของ phyblas



เดินทางขนข้าวของเข้าบ้านใหม่ที่อุตสึโนมิยะ ไปที่ว่าการเมืองทำเรื่องย้ายเข้า และเดินหาซื้อเครื่องเรือนมือสอง
เขียนเมื่อ 2025/12/24 23:21
แก้ไขล่าสุด 2025/12/31 14:58
# พุธ 24 ธ.ค. 2025

หลังจากที่อาศัยอยู่เมืองยามาโตะจังหวัดคานางาวะมาเป็นเวลานาน ๔ เดือน ในที่สุดก็ได้เวลาย้ายมายังที่อยู่ใหม่ที่เมืองอุตสึโนมิยะจังหวัดโทจิงิ

โดยก่อนหน้านี้ได้เล่าถึงไปแล้วว่าได้เดินทางไปถึงอุตสึโนมิยะเพื่อดูบ้านใหม่แล้วก็แนะนำเกี่ยวกับเมืองนี้คร่าวไว้แล้ว อ่านได้ใน https://phyblas.hinaboshi.com/20251129

หลังจากนั้นก็ทำสัญญาเช่าบ้านใหม่ โดยกำหนดเข้าอยู่วันพุธที่ 24 ธันวาคม 2025 โดยตอนแรกก็ตั้งใจว่าจะเข้ามาอยู่ตั้งแต่วันนี้เลย

เพียงแต่ว่าหลังจากลองวางแผนดูให้ดีแล้วก็ตัดสินใจว่าวันที่ 24 นี้แค่ขนข้าวของแล้วก็สั่งพวกเครื่องใช้ที่จำเป็นไว้ก่อน แล้วก็กลับมาอยู่ที่เดิมต่ออีก ๒​ วัน จากนั้นวันที่ 26 ค่อยกลับมาอาศัยอยู่จริง

ที่ตัดสินใจแบบนี้ก็เพราะว่าข้าวของมีน้อยพอที่จะขนเองได้โดยไม่ต้องใช้บริษัทขนย้าย เพียงแต่ว่าขนรอบเดียวไม่ไหว ต้องขน ๒​ รอบ ก็เลยตัดสินใจไปกลับเพื่อขนของด้วยตัวเอง

นอกจากนี้แล้วก็เป็นเพราะทางบริษัทช่วยสนับสนุนค่าเดินทางไปกลับระหว่างที่อยู่เดิมกับที่อยู่ใหม่ ๒​ รอบด้วย โดยรอบแรกใช้ไปตอนวันที่ไปดูบ้านใหม่ และอีกรอบก็เลยตัดสินใจใช้วันนี้เพื่อขนของและหาซื้อของสำหรับบ้านใหม่

ก่อนหน้านี้ได้ไปเดินดูพวกเครื่องเรืองเครื่องใช้ไฟฟ้ามาแล้วหลายที่ ทั้งของใหม่และของมือสอง แต่ก็ได้แค่ดูไว้ก่อนเพราะถ้าจะซื้อจริงๆยังไงก็ต้องมาดูที่ร้านในเมืองอุตสึโนมิยะ ไม่งั้นต้องขนส่งไกลลำบาก ร้านส่วนใหญ่มีบริการขนส่งถึงบ้าน แต่มักจำกัดระยะทางถ้าไกลมากก็ไม่ส่ง หรือถึงส่งก็จะแพงมาก

ครั้งนี้ตัดสินใจหาซื้อเครื่องเรือนมือสองเป็นหลัก เพราะราคาถูกกว่ามาก และรู้สึกว่าไม่ได้มีความจำเป็นต้องใช้ของใหม่เลย ของมือสองอาจราคาต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของของใหม่ แต่ก็ใช้งานได้เหมือนกัน จึงดูจะคุ้มกว่ามาก สำหรับคนที่ไม่คิดอะไรมากและต้องการประหยัด

นอกจากนี้แล้ววันนี้ยังไปทำเรื่องย้ายเข้าเมืองที่ที่ว่าการเมืองอุตสึโนมิยะด้วย โดยก่อนหน้านี้ได้ไปทำเรื่องย้ายออกจากเมืองยามาโตะที่ที่ว่าการเมืองยามาโตะแล้ว เล่าไว้ใน https://phyblas.hinaboshi.com/20251219

เวลาย้ายที่อยู่ต้องทำเรื่องย้ายออกจากเมืองเดิมที่ที่ว่าการเมืองเดิม เสร็จแล้วก็ต้องมาทำเรื่องย้ายเข้าที่ที่ว่าการเมืองของเมืองใหม่อีก ยุ่งยากอยู่เหมือนกันกว่าจะได้ย้ายสำเร็จ

ดังนั้นโดยรวมแล้วทั้งเดินทางไป ทำเรื่องย้ายเข้าเมือง แล้วก็เดินหาซื้อเครื่องเรือนมือสอง แค่นี้ก็เป็นวันที่เหนื่อยมากแล้ว ซ้ำรายวันนี้ที่จริงยังมีปัญหาอีกอย่างก็คือฝนตกทั้งวัน ตกไม่หยุดเลยตั้งแต่เช้าไปจนถึงหัวค่ำ ทำให้ต้องเดินกางร่มไปไหนมาไหน เปียกโชก ลำบากทีเดียว



สำหรับการเดินทางไปกลับครั้งนี้เราตัดสินใจนั่งรถไฟชิงกันเซง ต่างจากที่ไปรอบแรกซึ่งนั่งรถไฟแบบธรรมดายาวจากโยโกฮามะไปถึงอุตสึโนมิยะไปกลับ

สถานีอุตสึโนมิยะนั้นมีชิงกันเซง โดยสามารถนั่งไปกลับจากสถานีโอมิยะ (大宮駅おおみやえき) ในเมืองไซตามะจังหวัดไซตามะได้

โดยรถไฟชิงกันเซงระหว่างสถานีโอมิยะกับสถานีอุตสึโนมิยะใช้เวลาเร็วสุด ๒๓ นาที ในขณะที่รถไฟธรรมดาต่อให้เป็นรถแบบด่วนที่จอดเฉพาะสถานีสำคัญก็ใช้เวลาชั่วโมงกว่า ดังนั้นความต่างเกิน ๒ เท่า

ส่วนราคานั้นชิงกันเซงแบบที่นั่งอิสระ ๓๒๑๐ เยน ในขณะที่รถไฟธรรมดาราคา ๑๓๔๐ เยน ก็ต่างกันกว่า ๒ เท่าเหมือนกัน

เนื่องจากบริษัทช่วยออกเงินค่าเดินทางให้ เลยไม่ต้องคิดมากเรื่องค่าใช้จ่าย ดังนั้นจึงตัดสินใจนั่งชิงกันเซง ช่วยประหยัดเวลาไปได้ แม้ว่าจะต้องเสียเวลาตรงที่ต้องมาลงที่สถานีโอมิยะเพื่อเปลี่ยนรถไฟก็ตาม



สำหรับการเดินทางไปยังสถานีโอมิยะนั้นตอนขาไปและกลับเราเลือกใช้คนละเส้นทางกัน โดยตอนขาไปตอนเช้านั้นมีรถไฟโดยตรงจากสถานียามาโตะถึงสถานีโอมิยะ โดยผ่านเส้นทางที่เรียกว่าสายเชื่อมตรงโซวเทตสึ JR (相鉄そうてつ・JR直通線ちょくつうせん) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง ๒​ บริษัทรถไฟ คือโซวเทตสึ และ JR สามารถนั่งรถไฟยาวจากสถานีบนสายหลักโซวเทตสึไปยังสถานีของ JR ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนรถ

โดยสายนี้โดยหลักแล้วใช้เชื่อมระหว่างสถานีเอบินะ (海老名駅えびなえき) กับสถานีชินจุกุ แต่ว่าช่วงเช้าจะมี ๓ เที่ยวที่ลากต่อจากสถานีชินจุกุยาวไปจนถึงสถานีโอมิยะด้วย เห็นมีสายแบบนี้ก็เลยอยากนั่งสักหน่อย เพียงแต่ว่าก็จำกัดเฉพาะเวลาเช้า ดังนั้นขากลับก็กลับด้วยสายอุเอโนะโตเกียวเหมือนอย่างรอบที่แล้ว

ตอนเช้าออกมาตั้งแต่ฟ้าเพิ่งยังเพิ่งเริ่มสว่าง เดินลากกระเป๋าสัมภาระมายังสถานีซากุรางาโอกะ วันนั้นพอดีมีนักการเมืองฟุโตริ ฮิเดชิ (ふとり栄志ひでし) กำลังมาหาเสียงเลือกตั้งอยู่หน้าสถานี (ในรูปนี้มีคนเดินถือร่มบังหน้าเขาตอนถ่ายพอดี) ที่จริงแล้วก่อนหน้านี้ก็เคยเจอเขาตอนกำลังหาเสียงอยู่ที่สถานียามาโตะด้วย เล่าไว้ใน https://phyblas.hinaboshi.com/20251122



ก่อนอื่นนั่งรถไฟจากสถานีซากุรางาโอกะมาที่สถานียามาโตะ มาขึ้นรถไฟรอบ 6:54 ที่มีปลายทางอยู่ที่สถานีโอมิยะตามแผนที่วางไว้



แต่ว่าก็เจอปัญหาตรงที่ระหว่างทางเกิดปวดอยากเข้าห้องน้ำ แล้วเมื่อลองสำรวจก็พบว่ารถไฟขบวนนี้ไม่มีห้องน้ำอยู่เลย แม้ว่าจะเป็นขบวนที่วิ่งเป็นระยะทางไกลข้ามจังหวัดก็ตาม ก็เลยตัดสินใจลงที่สถานีฮาซาวะโยโกฮามะโคกุได (羽沢横浜国大駅はざわよこはまこくだいえき) ซึ่งอยู่ในเมืองโยโกฮามะ แล้วค่อยรอขึ้นรถไฟเที่ยวถัดไป



รถไฟที่เรามาลงนั้นถึงสถานีนี้เวลา 7:11 ส่วนรอบต่อไปที่ไปยังสถานีโอมิยะนั้นคือเวลา 7:30 ทำให้ต้องเสียเวลาไปสักพัก ผิดแผนไปนิดหน่อย แต่ก็ยังดีที่มีรอบรถไฟเหลือให้ขึ้นได้ ไม่งั้นคงต้องวางแผนใหม่



สถานีฮาซาวะโยโกฮามะโคกุไดนี้เป็นจุดเปลี่ยนระหว่างสายของโซวเทตสึและ JR ด้วย รถไฟสายเชื่อมตรงโซวเทตสึ JR นั้นเมื่อผ่านสถานีนี้จะคิดราคาแยกเป็น ๒ ช่วงให้ต่อให้จะไม่ได้ผ่านที่ตรวจตั๋วออกมาก็ตาม เพราะว่าเป็นคนละบริษัทกัน ดังนั้นไหนๆก็ลงที่สถานีนี้แล้ว ก็เลยเดินออกจากที่ตรวจตั๋วมาดูภายนอกสถานีสักหน่อย

ตัวอาคารสถานีก็ดูสวยดี



มองจากหน้าสถานีไปรอบๆก็มีพวกตึกสูงอยู่ ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมืองโยโกฮามะ จึงคับคั่งอยู่



แต่เนื่องจากฝนตกอยู่ และเวลาก็ไม่ได้เหลือเฟือขนาดนั้น จึงรีบกลับเข้าสถานีมา ไปรอรถไฟเพื่อขึ้น แล้วรถไฟก็มาตามเวลา เราขึ้นรถไฟมุ่งหน้าสู่โอมิยะ



แต่ระหว่างทางก็เจอปัญหาอยากเข้าห้องน้ำอีก ก็เลยตัดสินใจลงที่สถานีโทดะโควเอง (戸田公園駅とだこうえんえき) ซึ่งอยู่ในเมืองโทดะ (戸田市とだし) จังหวัดไซตามะ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างเมืองไซตามะกับโตเกียว



พอดีได้ตรวจดูแล้วว่ารถไฟจากสถานีนี้ไปยังสถานีโอมิยะนั้นมีถี่มาก เพราะว่ายังไงก็มาถึงจังหวัดไซตามะแล้ว ระยะทางเหลืออยู่ใกล้แค่นิดเดียว เดินทางอีกแค่ไม่ถึง ๒๐ นาที ต่อให้ตกรถไฟรอบต่อไปก็ไม่เป็นอะไรมาก



รถไฟรอบต่อไปที่ได้นั่งเป็นเวลา 8:38 เป็นแบบเร็ว มีปลายทางอยู่ที่สถานีคาวาโงเอะ (川越駅かわごええき)



หลังจากขึ้นรถไฟไปแล้วนึกได้ว่ายังไม่ได้มีโอกาสถ่ายภาพป้ายสถานีนี้ก็เลยขอถ่ายเก็บไว้หน่อยก่อนรถไฟออก



สถานีต่อไปที่รถไฟขบวนนี้จอดคือสถานีมุซาชิอุราวะ (武蔵浦和駅むさしうらわえき) ซึ่งอยู่ในเมืองไซตามะแล้ว ตั้งแต่ตรงนี้ไปสถานีทั้งหมดอยู่ในเมืองไซตามะเหมือนกัน



ถัดมาเป็นสถานีนากะอุราวะ (中浦和駅なかうらわえき)



สถานีมินามิโยโนะ (南与野駅みなみよのえき)



สถานีโยโนะฮมมาจิ (与野本町駅よのほんまちえき)



สถานีคิตะโยโนะ (北与野駅きたよのえき)



แล้วจึงมาถึงสถานีโอมิยะเวลา 8:57 ใช้เวลา ๑๙ นาที



จากนั้นก็ไปซื้อตั๋วชิงกันเซงที่ช่องขายตั๋ว ที่จริงแล้วตั๋วชิงกันเซงสามารถซื้อที่ตู้ขายอัตโนมัติได้ ง่ายกว่าเยอะ แต่เนื่องจากว่าต้องการใบเสร็จที่ลงชื่อบริษัทไปใช้เป็นหลักฐานให้บริษัทช่วยจ่ายคืนให้ เลยต้องมาทำที่ช่องขายตั๋ว ซึ่งก็ต้องรอคิวนิดหน่อย แต่ก็ไม่นาน ซื้อตั๋วได้สำเร็จ



ใบเสร็จพร้อมตั๋วที่ได้ โดยราคาทั้งหมดคือ ๔๑๘๐ นี้แบ่งเป็น ๒ ส่วน คือค่าระยะทางจากสถานีฮาซาวะโยโกฮามะโคกุไดไปยังสถานีอุตสึโนมิยะ ๒๓๑๐ เยน และค่าบวกเพิ่มสำหรับชิงกันเซง ๑๘๗๐ เยน ที่จริงตอนแรกเข้ามาโดยใช้บัตร Suica แต่พอมาตรงช่องขายตั๋วนี้เขาจัดการล้างบัตรให้แล้วเปลี่ยนมาจ่ายเป็นเงินสดทั้งหมดแทน



เดินมาขึ้นรถไฟชิงกันเซงทสึบาสะ (つばさ) เวลา 9:21 ที่มีปลายทางที่จังหวัดยามางาตะ



แต่พอมารอที่ชานชลาจนรถไฟมาก็พบว่ารถไฟสั้นกว่าที่คิด และตำแหน่งที่เรายืนรออยู่นั้นเลยความยาวของขบวน เลยได้เห็นรถไฟวิ่งผ่านไปจอดไกลกว่าตรงหน้า แล้วเราก็ต้องรีบวิ่งตามไปเพื่อขึ้นรถไฟให้ทัน



ยังดีว่าตามไปขึ้นรถไฟได้ทัน แต่ว่าขบวนสุดท้ายของรถไฟนั้นเป็นตู้ที่นั่งพิเศษที่ต้องจองตั๋วแพงพิเศษจึงจะนั่งได้ ต่อให้มีที่ว่างก็ไม่ให้นั่ง ตอนแรกก็ไม่รู้เลยเข้าไปนั่งตามปกติ แต่พนักงานมาตรวจตั๋วจึงรู้ว่านั่งไม่ได้เลยต้องออกมายืนนอกห้อง แถมตู้นี้ยังไม่เชื่อมต่อกับตู้อื่นด้วยเลยได้แต่ยืนอยู่ตรงนั้นตลอดจริงๆ จะไปหาที่นั่งตู้อื่นก็ไม่ได้



ก็ยืนอยู่ตรงนี้ตลอด ๒๐​ กว่านาทีจนถึงอุตสึโนมิยะ ยังดีที่ไม่ได้ไกลมาก



ในที่สุดก็มาถึงสถานีอุตสึโนมิยะเวลา 9:45 ใช้เวลา ๒๓ นาทีเท่านั้น



เรารีบไปออกทางประตูตะวันออก ก่อนอื่นต้องไปที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์เฮาส์คอมที่อยู่ฝั่งตะวันตกของสถานีเพื่อจะรับกุญแจสำหรับเข้าห้องพัก



แต่พอไปถึงเราคุยกับเขาว่าต้องไปทำเรื่องย้ายเข้าที่ที่ว่าการเมืองก่อน ซึ่งมันอยู่ทางฝั่งตะวันตก ตรงกันข้ามกับห้องพัก เขาก็เลยให้เราวางสัมภาระไว้ที่ร้านแล้วก็เดินไปทำเรื่องให้เสร็จก่อนค่อยกลับมาอีกทีเพื่อรับกุญแจ



เดินทางมุ่งหน้าไปทางตะวันตก เริ่มจากต้องผ่านสะพานมิยาโนะ (みやはし) ข้ามแม่น้ำทะ (田川たがわ) ที่ลากผ่านกลางเมือง



ทิวทัศน์แม่น้ำทะจากบนสะพาน



จากนั้นก็เดินเลียบตามแม่น้ำทะไป





ผ่านแถวสะพานโอชิกิริ (押切橋おしきりばし)



เดินต่อมาถึงสะพานอาราอิ (洗橋あらいばし)



พอถึงสะพานอาราอิก็เลี้ยวขวาไปฝั่งตรงข้ามกับสะพาน ไปตามถนนอิโจว (いちょうどおり) แล้วก็เดินต่อมาเรื่อยๆ







ระหว่างทางผ่านปราสาทอุตสึโนมิยะ (宇都宮城うつのみやじょう) ซึ่งก็เป็นปราสาทเก่าที่เป็นสถานที่เที่ยวสำคัญของเมือง ครั้งนี้เราไม่ได้มีเป้าหมายจะมาเที่ยวตรงนี้แต่ไหนๆก็ผ่านแล้วก็ขอถ่ายภาพปราสาทท่ามกลางสายฝนไว้สักหน่อย




ทางเข้าไปด้านใน แต่ว่าไม่ได้เข้าไป ไว้ถ้ามีโอกาสไว้คงค่อยมาเที่ยวอีกที ยังไงอยู่เมืองนี้จะมาเมื่อไหร่ก็มาได้ง่ายอยู่แล้ว



ที่ว่าการเมืองอุตสึโนมิยะที่เป็นเป้าหมายคราวนี้ก็อยู่ทางตะวันตกของปราสาทนี้เอง ข้ามถนนไปก็ถึง



เดินข้ามมาแล้วเข้าไปยังอาคารที่ว่าการเมืองโดยประตูด้านข้าง



หลังจากยื่นเรื่องเสร็จก็ต้องรอให้เขาทำเรื่องเสร็จ ก็นั่งรอไป ระหว่างนั้นก็นั่งอ่านเอกสารแนะนำการใช้ชีวิตในเมืองอุตสึโนมิยะ ซึ่งเขาให้มาหลังยื่นเรื่องเสร็จ โดยเขาให้มาเป็นภาษาไทยด้วย



ลองเปิดมาอ่านก็รู้สึกว่าแปลได้พอใช้ คืออ่านรู้เรื่อง แม้จะรู้สึกไม่เป็นธรรมชาติบ้าง แต่ก็พอที่จะมองออกว่าใช้คนจริงๆแปล ไม่ได้ใช้โปรแกรมแปล แต่ก็มีพิมพ์ผิดตรงโน้นนี้เยอะทำให้รู้ว่าคงไม่ได้ตรวจทานให้ดี การเว้นวรรคแบ่งคำก็แปลกๆ ศัพท์บางจุดใช้ได้ไม่ค่อยเหมาะสมทำให้รู้สึกว่าเขาแปลแบบขอไปทีแบบว่าให้พอสื่อความหมายได้ก็พอ และพวกคำทับศัพท์ก็ดูไม่มีหลักเลย แถมเขียนแต่ละที่ไม่เหมือนกัน อย่างชื่อเมืองมีเขียนทั้ง "อุซึโนมิยะ" "อุซึโนะมิยะ" "อูซึโนมิยะ" หลายแบบ ถึงจะบอกว่าการทับศัพท์ไม่ต้องเขียนเป็น "อุตสึโนมิยะ" ตามหลักราชบัณฑิตก็ได้ก็เถอะ แต่จะเขียนแบบไหนก็ควรเอาสักอย่าง

แต่โดยรวมแล้วคืออ่านรู้เรื่อง สำหรับคนไทยที่ยังไม่คล่องภาษาญี่ปุ่นแล้วยังไงอ่านที่เขาแปลไทยมาก็เข้าใจมากกว่าอยู่แล้ว แม้จะพิมพ์ผิดเยอะและใช้ศัพท์แปลกๆแต่ก็เดาความหมายได้ไม่ยากอยู่ดี ยังไงก็เป็นภาษาของเราเอง



แต่สุดท้ายเราก็อ่านฉบับภาษาญี่ปุ่นเป็นหลักนั่นแหละ ยังไงก็ถูกต้องมั่นใจได้กว่าเยอะ ถ้าใครคล่องภาษาญี่ปุ่นอยู่แล้วยังไงก็อ่านภาษาญี่ปุ่นสบายใจกว่า ยังไงฉบับแปลนี้ก็ไว้สำหรับคนที่ยังไม่แม่นภาษาญี่ปุ่นไว้ให้พอใช้อ้างอิงได้

จากนั้นใช้เวลารอประมาณ ๔๐ นาทีกว่าจะเสร็จ เดินออกมาจากที่ว่าการทางประตูฝั่งเหนือซึ่งเป็นคนละประตูกับที่เข้ามาตอนแรก



ก่อนเดินจากไปก็หันกลับมาผ่านภาพอาคารที่ว่าการเมืองอีกที คราวนี้เป็นฝั่งเหนือ



จากนั้นก็เดินย้อนกลับไปยังสถานีอุตสึโนมิยะ




ครั้งนี้ใช้เส้นทางต่างจากตอนขามาเล็กน้อย โดยเลือกเดินผ่านสะพานอาราอิ



แล้วก็กลับมาถึงบริษัทอสังหาริมทรัพย์เฮาส์คอม หยิบสัมภาระที่ฝากไว้ แล้วก็รับกุญแจห้องได้สำเร็จ แต่ว่าเนื่องจากบังเอิญว่านายหน้าคนที่เราติดต่ออยู่นั้นเขาต้องไปทำธุระแถวทางฝั่งตะวันออกของเมือง แล้วต้องผ่านตึกที่ห้องพักเราอยู่ ก็เลยอาสาไปส่งให้ด้วย ซึ่งถือว่าโชคดีมาก เพราะปกติแล้วเขามีหน้าที่แค่ช่วยหาบ้านให้จนทำสัญญาเสร็จและสุดท้ายแค่ยื่นกุญแจให้ก็จบหน้าที่ แต่ครั้งนี้เหมือนเป็นบริการพิเศษเพิ่ม ก็เรียกว่าได้จังหวะพอดี เพราะฝนกำลังตกอยู่ ถ้าให้ลากกระเป๋าสัมภาระหนักเดินไปจนถึงห้องก็ลำบากแย่ คงยิ่งเสียเวลาและหมดแรงไปอีก



หลังจากนั้นเขาก็มาส่งถึงห้องพัก เราเอากระเป๋ามาวางในห้อง ตรวจดูสภาพห้องก็พบว่านำ้ประปายังไม่เปิดใช้จึงติดต่อไปยังบริษัทผู้ดูแลห้องเช่า จึงรู้ว่าต้องไปเปิดวาล์วเอง โดยเขาบอกตำแหน่งและวิธีเปิดให้ผ่านทางโทรศัพท์ ใช้เวลาไปสักพักแต่ก็เปิดแล้วใช้น้ำได้สำเร็จ

แต่นอกจากนั้นแล้วยังเหลือสิ่งที่จำเป็นอีกอย่างคือเปิดใช้ก๊าซ เพื่อที่จะใช้น้ำร้อนได้ เพราะว่าน้ำร้อนที่นี่ใช้ก๊าซในการทำให้ร้อน ถ้าไม่เปิดก๊าซก็ใช้ได้แต่น้ำเย็น ถ้าต้องอาบน้ำเย็นในฤดูที่อากาศหนาวแบบนี้ยังไงก็ไม่ไหวแน่นอน

สำหรับการเปิดใช้ก๊าซนั้นต้องให้เจ้าหน้าที่มาเปิดให้ ไม่ใช่อะไรที่ทำเองได้ โดยเขาได้บอกให้เราติดต่อนัดเจ้าหน้าที่ไว้ล่วงหน้าแล้ว เราได้นัดเอาไว้เวลา 15:00 วันนี้ ถึงตอนนั้นจะมีเจ้าหน้าที่มาหาที่ห้องเพื่อจัดการเรื่องเปิดก๊าซ

ตอนที่เราไปถึงห้องจัดการอะไรเสร็จเป็นเวลา 13:00 ยังเหลือเวลากว่าเจ้าหน้าที่ก๊าซจะมา จึงตัดสินใจเดินกลับมาที่สถานีอุตสึโนมิยะเพื่อเริ่มเดินหาซื้อเครื่องเรือน



เดินผ่านสถานีจากทางฝั่งตะวันออกไปยังทางฝั่งตะวันตก



ทางฝั่งตะวันตกของสถานีมีห้างโทนาริเอะอุตสึโนมิยะ (トナリエ宇都宮うつのみや) อยู่



เป้าหมายแรกที่ต้องการมาเดินดูก็คือร้านขายของมือสอง เทรเชอร์แฟกทอรี (トレジャーファクトリー) อยู่ที่ชั้น ๒ ของห้างนี้



ภายในร้านมีเครื่องซักผ้าราคาถูกอยู่มากมายให้เลือกได้ตามสบายเลย



แต่ว่าพอมาดูตรงที่ขายพวกโต๊ะเก้าอี้และชั้นวางของกลับมีแค่นิดเดียว ดูแล้วหาที่น่าจะใช้ได้ดีไม่เจอ เลยลองถามพนักงานร้านว่ามีที่อื่นอีกมั้ย เขาก็แนะนำให้ไปดูที่สาขาที่อินเทอร์พาร์กอุตสึโนมิยะมินามิ (インターパーク宇都宮南うつのみやみなみ) ซึ่งเป็นย่านร้านค้าขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดโทจิงิ สถานที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองอุตสึโนมิยะ ร้านเทรเชอร์แฟกทอรีที่นั่นใหญ่กว่าที่นี่ มีอะไรให้เลือกเยอะกว่า และนอกจากนี้ยังมีพวกร้านอื่นๆมารวมกันอยู่มากมาย ด้วย เราเลยตัดสินใจว่าเดี๋ยวจะแวะไปที่นั่น



หลังจากนั้นลองเดินดูในร้านนี้ต่ออีกหน่อยแม้ว่าจะไม่ค่อยใหญ่มาก มีพวกเครื่องเรือนวางอยู่ไม่มาก แต่ก็มีพวกของเล็กๆวางอยู่เยอะ เช่นตุ๊กตาโปเกมอน



ก่อนที่จะออกจากห้างนี้ไปก็แวะหาอะไรกินสักหน่อย พวกร้านอาหารอยู่ชั้น ๑ มีพวกร้านเช่นไซเซริยะ แต่ว่าเห็นคนแน่นต่อแถวคิวยาวเลย



นอกจากนี้ก็มีร้านราเมง ไทชิโอะโซบะโทวกะ (鯛塩たいしおそば灯花とうか)



ร้านนี้สั่งอาหารโดยเครื่องขายตั๋วที่อยู่หน้าร้าน



สั่งเสร็จก็เข้ามานั่งตรงที่นั่งเคาน์เตอร์



ที่สั่งคือไทชิโอะราเมง (鯛塩たいしおらぁめん) ราคา ๙๕๐​ เยน แล้วก็เกี๊ยวซ่าน้ำ (水餃子すいぎょうざ) ราคา ๔๓๐ เยน รวมเป็น ๑๓๘๐ เยน



เกี๊ยวซ่าร้านนี้เป็นแบบต้ม ใส่น้ำจิ้มเผ็ด ต่างจากเกี๊ยวซ่าทั่วไปที่พบในอุตสึโนมิยะ



ราเมงรสชาติจืดกว่าที่คิด เนื้อก็ให้น้อยไม่ค่อยพอด้วย ดีที่สั่งพร้อมเกี๊ยวซ่า ก็เลยกินราเมงกับเกี๊ยวซ่าด้วยกัน แบบนี้จึงอร่อย

กินเสร็จก็เดินดูของอีกสักพักจนใกล้เวลาสามโมงที่นัดเจ้าหน้าที่บริษัทก๊าซไว้ก็เดินกลับ



ระหว่างทางเห็นจังหวะที่รถรางขาไปและกลับ ๒ ขบวนกำลังสวนกันพอดี



จากนั้นก็กลับที่ห้องพักก่อนสามโมงเล็กน้อยแต่ก็พบว่าเจ้าหน้าที่มาถึงก่อนแล้ว ก็เลยรีบให้เขาจัดการเรื่องเปิดใช้ก๊าซ แต่ก็พบปัญหาว่าเครื่องทำน้ำร้อนมันดูเหมือนจะเก่าเกินจนไม่ทำงาน จึงยังไม่สามารถเปิดใช้น้ำร้อนได้แม้จะเปิดก๊าซแล้วก็ตาม เขาจึงติดต่อกับฝ่ายที่รับผิดชอบเรื่องติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนให้ แล้วนัดให้เอาเครื่องใหม่มาเปลี่ยน ซึ่งก็นัดได้วันที่ 29 ธันวาคม นั่นหมายความว่ากว่าจะถึงวันนั้นเราจะไม่มีน้ำร้อนใช้ ก็ลำบากไปอีก แต่ก็ช่วยไม่ได้ ยังดีว่าเสร็จก่อนสิ้นปีได้ ที่จริงวันที่ 29 ถือเป็นช่วงวันหยุดปีใหม่ไปแล้ว แต่เขาก็ยังทำงานกันอยู่เราเลยไม่ต้องอยู่โดยขาดน้ำร้อนไปจนตลอดช่วงวันหยุดปีใหม่

หลังจากเสร็จจากเรื่องก๊าซแล้วก็ออกมาจากห้องพักตอนเกือบสี่โมง เพื่อจะไปหาเครื่องเรือนมือสองต่อ ต้องรีบแล้วเพราะว่าเริ่มเย็น เดี๋ยวเสร็จแล้วยังต้องเดินทางกลับอีก กลัวจะดึกเกินไป

เป้าหมายที่เหลืออยู่ตั้งใจจะไปก็คือเทรเชอร์แฟกทอรีสาขาอินเทอร์พาร์ก แต่ว่าที่นั่นอยู่ไกลต้องนั่งรถเมล์ไปจึงไปได้ แต่ก่อนหน้านั้นมีอีกที่ที่อยู่ไม่ไกลพอจะเดินไปได้เลยอยากลองแวะไปก่อน นั่นคือร้านเซคันด์สตรีต (セカンドストリート) ซึ่งก็เป็นร้านขายของมือสองอีกแห่งที่ได้รับความนิยมในญี่ปุ่น มีหลายสาขาทั่วประเทศ สำหรับสาขาที่อยู่ใกล้ที่สุดคือสาขาอุตสึโนมิยะยานาเซะมาจิ ซึ่งอยู่ในย่านยานาเซะมาจิ (簗瀬町やなぜまち) ซึ่งต้องเดินไปทางใต้จากสถานีอุตสึโนมิยะประมาณ ๒ กิโลเมตรกว่า



แต่ระหว่างทางที่กำลังเดินไปก่อนจะถึงเราได้ตัดสินใจโทรศัพท์ไปถามยืนยันให้แน่ใจว่าร้านนี้มีบริการส่งของให้ถึงบ้านหรือเปล่า เพราะถ้าไม่มีละก็ถึงไปก็ไม่มีประโยชน์ จะให้ขนเองก็ไม่ไหวอยู่แล้ว ซึ่งพอถามเขาก็ตอบว่าไม่มีบริการส่งให้ เราจึงตัดสินใจหยุดเดินกลางคันทั้งๆที่ใกล้จะถึงร้านแล้ว และตัดสินใจไปหาป้ายรถเมล์ที่สามารถนั่งไปยังอินเทอร์พาร์กได้ ลองค้นก็พบว่าป้ายที่ใกล้ที่สุดที่สามารถไปได้คือป้ายยานาเซะคานาโฮริ (簗瀬金堀やなぜかなほり) นั่งสาย 85 ไป



แล้วก็นั่งรถเมล์ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง มาลงที่ป้ายนากาจิมะ (中島なかじま)




จากป้ายรถเมล์ยังต้องใช้เวลาเดินอีกประมาณกิโลเมตรกว่าจึงจะไปถึง ระหว่างทางเส้นทางก็ดูเป็นชนบท เพราะแถวนี้เป็นเขตนอกเมืองแล้ว มีแต่พวกบ้านเล็ก แล้วก็ท้องทุ่ง



แต่ท่ามกลางพื้นที่ชนบทที่ดูไม่น่าจะมีอะไร พอเดินมาถึงตรงนี้ก็กลับเจอหมู่อาคารส่องสว่างแผ่กว้างอยู่ตรงหน้า



เดินมาจนถึงแล้ว ที่นี่คืออินเทอร์พาร์ก ย่านร้านค้าขนาดใหญ่ชานเมืองอุตสึโนมิยะ ถูกสร้างขึ้นตรงพื้นที่ห่างจากตัวเมืองต้องนั่งรถเมล์กว่าครึ่งชั่วโมงเพื่อมาถึง แถมเที่ยวรถเมล์ก็น้อยมาก ไม่ใช่ที่ที่นึกจะมาก็มาได้ทันทีโดยสะดวกเลย ที่นี่ดูจะทำไว้สำหรับคนที่มีรถนั่งมาเองเป็นหลัก คนที่จะนั่งรถเมล์มาคงมีไม่มากนัก




ภายในเต็มไปด้วยห้างร้านมากมายซึ่งมีขนาดใหญ่ จำนวนคนเดินไม่ได้มากแต่ก็ไม่น้อย ยิ่งถ้าฝนไม่ตกอาจมีคนเยอะกว่านี้ก็เป็นได้



ที่จริงที่นี่กว้างมาก ถ้ามีเวลาก็อยากลองเดินดูอะไรมากมาย แต่ว่าไม่ได้มีเวลาจึงรีบมุ่งไปยังเป้าหมายหลักเลย นั่นคือร้านเทรเชอร์แฟกทอรี ร้านที่นี่กว้างใหญ่มากจริงๆ



ภายในมีของอยู่เต็มไปหมด รวมถึงพวกโต๊ะและเก้าอี้ ให้เลือกได้มากมายจุใจ



เครื่องซักผ้าและตู้เย็นก็มี



สุดท้ายก็สามารถหาของที่ต้องการได้สำเร็จ นัดให้เขาไปส่งถึงห้องให้วันเสาร์ที่ 27

จากนั้นก็ลองค้นแผนที่เพื่อหาวิธีที่จะเดินทางกลับก็พบว่ารถเมล์จากป้ายเดิมที่นั่งมาลงนั้นหมดรอบรถแล้ว ต้องไปกลับจากอีกป้ายซึ่งเดินไกลกว่า อยู่คนละฝั่งกันเลย



เดินออกจากที่นี่ไปทางฝั่งตะวันออกซึ่งเป็นคนละทางกับตอนขามา



ฝั่งตรงข้ามถนนก็ยังเป็นส่วนของอินเทอร์พาร์ก ที่นี่กว้างมากจริงๆ ไม่ได้มีแค่บริเวณที่เราเดินผ่านมา แต่ว่าไม่มีเวลาเดินไปดูตรงโน้นแล้ว ได้แค่มองห้างๆ ตอนนี้ต้องรีบไปขึ้นรถเมล์ให้ทันรอบต่อไปไม่งั้นจะยิ่งกลับช้าไปอีก



ระหว่างทางเส้นทางก็มีแค่ท้องทุ่งแล้วก็บ้านเรือนที่อยู่แบบหลวมๆ ดูเป็นชนบทที่สบายๆ แต่สำหรับการเดินตอนเวลากลางคืนแล้วรู้สึกว่าน่ากลัว





แล้วก็มาถึงที่หมาย ป้ายรถเมล์มิซึโฮะซันโจวเมะ (瑞穂三丁目みずほさんちょうめ) ระยะทางเดินจากอินเทอร์พาร์กมาคือประมาณ ๒ กิโลเมตร ยังดีว่าช่วงนั้นฝนหยุดตกไปแล้วก็เลยไม่ได้ลำบากมากเท่าตอนขามา แต่พื้นก็เปียกแฉะอยู่



ดูตารางรถเมล์แล้ว ถือว่ามีไม่น้อยแต่ก็ไม่ได้เยอะ รอบต่อไปที่จะไปยังสถานีอุตสึโนมิยะคือเวลา 18:42



แต่รถเมล์ก็มาช้าปนิด มาถึงจริงคือเวลา 18:45



ภายในรถเมล์ขณะนั้น นอกจากเราก็มีแค่คนเดียว



เสร็จแล้วก็กลับไปยังห้องพัก แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรในนั้นต่อมาก ต้องรีบออกมาแล้ววิ่งกลับไปยังสถานีอุตสึโนมิยะเพื่อเดินทางกลับแล้ว



ขากลับก็ต้องไปซื้อตั๋ว โดยครั้งนี้ไปซื้อตั๋วที่ช่องให้บริการขายตั๋วมิโดริโนะมาโดงุจิ (みどりの窓口まどぐち) ที่นี่ปิดตอนเวลา 20:00 แต่ตอนที่ไปถึงเป็นเวลา 19:54 ทันเวลาก่อนปิดแบบเฉียดฉิว ไม่งั้นก็จะไม่สามารถซื้อตั๋วชิงกันเซงแบบมีใบเสร็จที่เขียนชื่อบริษัทได้



ตั๋วชิงกันเซงครั้งนี้ซื้อขากลับนี้เป็นแบบตรงถึงสถานีโอมิยะ ค่าระยะทางและค่าเสริมชิงกันเซง รวม ๓๒๑๐ เยน



แล้วก็มาขึ้นชิงกันเซงรอบเวลา 20:23



ก่อนชิงกันเซงจะออกมีเวลาก็เลยไปแวะซื้อโอนิงิริมาไว้กินเป็นมื้อเย็น มื้อนี้ไม่มีเวลาไปแวะร้านกินเลยได้แค่ซื้อกินเอา



มาลงที่สถานีโอมิยะ



แล้วก็มาเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟ JR รอบ 20:51 ที่มีปลายทางที่สถานีนุมาซึ (沼津駅ぬまづえき)



ภายในรถไฟตอนเราขึ้นมานั้นคนไม่เยอะ สามารถพอหาที่นั่งได้จึงได้นั่ง แต่ว่าพอผ่านสถานีไซตามะชินโทชิง (さいたま新都心駅しんとしんえき) ซึ่งอยู่ใจกลางเมืองไซตามะคนก็ขึ้นมาจนแน่น แล้วยิ่งพอช่วงที่ผ่านโตเกียวรถไฟก็ยิ่งแน่นเต็ม ถ้าขึ้นมาระหว่างทางคงไม่มีที่ให้ได้นั่งแน่ ยังดีที่เราขึ้นมาตั้งแต่สถานีโอมิยะที่คนยังโล่งและได้นั่งอยู่แล้ว ก็เลยนั่งสบายตลอดจนไปถึงที่หมาย



มาลงที่สถานีโยโกฮามะ เพื่อเปลี่ยนรถไฟไปยังสายหลักโซวเทตสึกลับ




ได้ขึ้นรถไฟแบบเร็วรอบ 22:09



ตอนแรกคิดว่าจะนั่งขบวนนี้กลับถึงสถานียามาโดยตรงเบย แต่ว่าพอมาถึงสถานีนิชิยะ (西谷駅にしやえき) ก็มีประกาศบนรถไฟว่าใครที่จะปยังสถานียามาโตะหรือเอบินะให้เปลี่ยนมาขึ้นรถไฟแบบด่วนพิเศษจะไปถึงเร็วกว่า เพราะออกก่อนและจอดระหว่างทางน้อยกว่า ก็เลยตัดสินใจเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟด่วนพิเศษจากตรงนี้



แล้วก็กลับมาถึงสถานียามาโตะเวลา 22:33 มาเปลี่ยนรถไฟโอดะกิวกลับสถานีซากุรางาโอกะ สุดท้ายก็กลับถึงห้องพักเก่าก็เกือบห้าทุ่ม



จบเรื่องราวในวันนึงที่ยาวนานได้ทำอะไรหลายอย่างมากตั้งแต่เช้าตรู่จนกลับมาดึก

วันนี้ได้เตรียมความพร้อมสำหรับเข้าอยู่บ้านใหม่ได้เสร็จตามแผนในระดับนึง แม้จะเจอปัญหาโน่นนี่ทำให้ล่าช้ากว่าที่คิด วันรุ่งขึ้นยังต้องไปบริษัทอีกวันก่อนที่จะกลับมาอีกทีเพื่อเข้าอาศัยอยู่จริง



-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

หมวดหมู่

-- ประเทศญี่ปุ่น >> คานางาวะ
-- ประเทศญี่ปุ่น >> ไซตามะ
-- ประเทศญี่ปุ่น >> โทจิงิ
-- ท่องเที่ยว >> รถไฟ
-- ท่องเที่ยว >> รถราง
-- ท่องเที่ยว >> อาหารญี่ปุ่น >> เกี๊ยวซ่า
-- ท่องเที่ยว >> อาหารญี่ปุ่น >> ราเมง
-- ท่องเที่ยว >> ปราสาท☑ >> ปราสาทญี่ปุ่น

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

สารบัญ

รวมคำแปลวลีเด็ดจากญี่ปุ่น
มอดูลต่างๆ
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
การเรียนรู้ของเครื่อง
-- โครงข่าย
     ประสาทเทียม
ภาษา javascript
ภาษา mongol
ภาษาศาสตร์
maya
ความน่าจะเป็น
บันทึกในญี่ปุ่น
บันทึกในจีน
-- บันทึกในปักกิ่ง
-- บันทึกในฮ่องกง
-- บันทึกในมาเก๊า
บันทึกในไต้หวัน
บันทึกในยุโรปเหนือ
บันทึกในประเทศอื่นๆ
qiita
บทความอื่นๆ

บทความแบ่งตามหมวด



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  ค้นหาบทความ

  บทความแนะนำ

ทำความเข้าใจการแปลงลาปลัสสำหรับแก้ปัญหาฟิสิกส์
รวมร้านราเมงและบะหมี่ในเมืองฟุกุโอกะ
ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น ปี 2013
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ

ไทย

日本語

中文