φυβλαςのβλογ
บล็อกของ phyblas



ภาษามองโกลเบื้องต้น บทที่ ๑: เริ่มต้นกันที่เรื่องการอ่านออกเสียง
เขียนเมื่อ 2022/03/08 12:13
แก้ไขล่าสุด 2022/09/07 15:33
นี่เป็นบทเรียนสอนภาษามองโกลพื้นฐาน สำหรับผู้ที่สนใจ

ก่อนที่จะเริ่มบทเรียนนี้ ขอแนะนำให้อ่านบทความเรื่องทำความรู้จักกับภาพรวมของภาษามองโกลก่อน เพื่อให้เข้าใจว่าเป็นภาษาอย่างไร

ในบทแรกนี้จะเริ่มจากอธิบายเรื่องวิธีการออกเสียงก่อน โดยจะแนะนำอักษรต่างๆไปทีละส่วน แยกเป็นสระ พยัญชนะ และเครื่องหมายพิเศษ เน้นให้เข้าใจหลักการอ่านออกเสียง

ในที่นี้จะใช้อักษรซีริลลิกซึ่งใช้เป็นหลัก เนื่องจากอ่านง่ายและสอดคล้องกับเสียงอ่านในปัจจุบันมากกว่า แต่อาจมีการพูดถึงอักษรมองโกลแบบดั้งเดิมไปด้วยบ้าง แต่ไม่เน้น เนื่องจากเป็นอักษรแนวตั้ง มีความลำบากในการแสดงผลในคอม ในเบื้องต้นใช้อักษรซีริลลิกเป็นหลักสะดวกกว่า

อย่างไรก็ตาม ลำดับอักษรที่จะแนะนำในหน้านี้จะเรียงตามลำดับกลุ่มเสียง ไม่ใช่ลำดับอักษรตามพจนานุกรม ส่วนการเรื่องตัวอักษรโดยภาพรวมและการจัดเรียงในพจนานุกรมจะเขียนสรุปไว้ในบทถัดไป



เสียงสระพื้นฐาน ๗ เสียง

ภาษามองโกลนั้นโดยพื้นฐานแล้วมีสระอยู่ ๗ สระด้วยกัน ซึ่งระบบการเขียนด้วยอักษรซีริลลิกก็ได้ใช้อักษรสระ ๗ ตัวแทน ๗ เสียงนี้ต่างกันไปแบ่งกันอย่างชัดเจน นั่นคือ а э и о у ү ө

อักษร เสียงอ่าน IPA ตัวอย่าง
а อะ / อา [a] амอัม = ปาก нарนาร์ = ดวงอาทิตย์
э เอะ / เอ [e] эмเอ็ม = ยา нэрเนร์ = ชื่อ
и อิ / อี [i] ихอิฮ์ = ใหญ่ бидบิด = พวกเรา
о เอาะ / ออ [ɔ] одอ็อด = ดาว голก็อล = แม่น้ำ
у โอะ / โอ [o] усอส = น้ำ зунซง = ฤดูร้อน
ү อุ / อู [u] үдอุด = ตอนเที่ยง хүнฮุง = คน
ө โอะ* / โอ* [ɵ] өдอด = ปีก хөхโฮฮ์ = สีฟ้า

สำหรับ а กับ о นั้นเข้าใจได้ง่ายๆว่าเป็นสระ "อา" กับ "ออ" เพราะตรงกับในอักษรโรมันที่เราคุ้นเคยกันดีนั่นเอง ส่วน э คือสระ "เอ" ส่วน и นั้นแม้จะดูเหมือนอักษร N ใหญ่กลับหัวก็จริง แต่ที่จริง и คือสระ เทียบเท่ากับ i ของอักษรโรมันนั่นเอง และเสียงอ่านก็คือสระ "อี"

ที่อาจจะสับสนได้ง่ายก็คือตัว у กับ ү เพราะหน้าตาคล้ายกันมาก ตัวนึงคล้ายอักษร y เล็กของอักษรโรมัน แต่อีกตัวกลับคล้าย Y ใหญ่ แต่ ๒ ตัวนี้ถือเป็นอักษรคนละตัวกันต้องแยกให้ดี

สำหรับ у นั้นแทนเสียงสระ "โอ" ในขณะที่ ү จะแทนสระ "อู"

๖ สระข้างต้นนั้นโดยพื้นฐานแล้วก็ใกล้เคียงกับภาษาไทย สามารถเทียบเสียงไปตามนั้นได้เลย แต่สระที่จะมีปัญหาที่สุดก็คือ ө เพราะไม่มีในภาษาไทย

อักษรตัวนี้ดูเผินๆก็คล้ายกับตัวอักษรกรีก θ (เธตา) ที่ถูกย่อให้เตี้ยจนกลม แต่จริงๆแล้วเป็นสระในอักษรซีริลลิก เสียง ө นั้นแสดงเป็นภาษาไทยได้ยาก โดยเสียงนี้จะอยู่ระหว่างสระ "โอ" กับสระ "เออ" หรืออาจฟังดูคล้ายกับสระ "อู" ด้วย แต่โดยรวมแล้วก็ยังถือว่าใกล้เคียง "โอ" มากที่สุด ดังนั้นเวลาเขียนแสดงเสียงอ่านก็จะเขียนเป็น "โอ" ไปด้วย ซึ่งจะไปซ้ำกับ у แต่ก็ขอให้เข้าใจว่าจริงๆแล้วเสียงตัว ө เป็นเสียง "โอ" ที่ค่อนไปทาง "เออ"

เสียงนี้หาเทียบเคียงในภาษาอื่นได้ยาก แต่ถ้าใครรู้ภาษากวางตุ้งละจะมีตัวเทียบได้ เสียงนี้ที่จริงก็คือเสียงสระของตัว 出 (/t͡ʃʰɵt̚/, ชด) หรือ 信 (/sɵn/, ซน) นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ๗ สระที่กล่าวมาข้างต้นนี้เป็นแค่พื้นฐาน เพราะในภาษามองโกลยังมีการแบ่งสระเป็นเสียงสั้นเสียงยาว และมีสระประสมด้วย ซึ่งจะอธิบายในรายละเอียดต่อไป



การแยกสระเสียงสั้นและยาว

สระเสียงยาวนั้นแสดงด้วยการเขียนสระสองตัวติดกัน นั่นคือเขียนเป็น аа ээ оо уу үү өө ยกเว้นเสียง и จะเขียนเป็น ий ไม่ใช่ ии

อักษร เสียงอ่าน IPA ตัวอย่าง
аа อา [aː] аавอาว = พ่อ лааลา = เทียน
ээ เอ [eː] ээжเอจ = แม่ нээхเนฮ์ = เปิด
ий อี [iː] тиймทีม =ใช่ хийхฮีฮ์ = ทำ
оо ออ [ɔː] хоолฮอล = อาหาร ноосนอส = ขนสัตว์
уу โอ [oː] уулโอล = ภูเขา лууโล = มังกร
үү อู [uː] үүлอูล = เมฆ нүүрนูร์ = ใบหน้า
өө โอ* [ɵː] өөрโอร์ = นอกจาก өглөөอกโล = ตอนเช้า

เพียงแต่ในบางกรณี ต่อให้เขียนแค่ตัวเดียวก็ออกเป็นเสียงยาวด้วยเหมือนกัน เช่นในกรณีคำพยางค์เดียวที่ไม่มีตัวสะกด เช่น

биบี = ฉัน
таทา = คุณ

ดังนั้นอักษรตัวเดียวอาจแทนเสียงสั้นหรือเสียงยาวก็ได้ แต่ถ้าเขียนสองตัวจะแทนเสียงยาวเสมอ

สำหรับการเขียนแสดงเสียงในที่นี้จะยึดตามความเคยชินในการเขียนทับศัพท์ภาษาไทย โดยจะแยกเสียงสั้นกับยาวเฉพาะกรณีที่มีตัวสะกด ถ้าไม่มีตัวสะกดหรือตัวสะกดเป็น хฮ์ หรือ р ร์ จะใช้รูปเสียงยาวเสมอแม้จริงๆจะเป็นเสียงสั้น ยกเว้นสระ "อิ/อี" กับ "อุ/อู" จะเขียนแยกเสียงสั้นและยาวให้เห็นชัดในทุกกรณี



สระเพิ่มเติม

นอกจากสระพื้นฐาน ๗ ตัวแล้ว ยังมีอักษรแทนสระอีก ๕ ตัว ซึ่งมักจะมีเสียง "ย" ติดมาด้วย หรือบางตัวอาจอ่านเป็นสระ "อี" ไปในบางกรณี ถือว่ามีเสียงอ่านหลายแบบโดยอาจแล้วแต่คำ ซึ่งอาจต้องจำแยกไป แต่ตัวเหล่านี้ถือว่าเจอค่อนข้างน้อย ถูกใช้อยู่จำกัดในบางกรณีเท่านั้น

อักษร เสียงอ่าน IPA ตัวอย่าง
я ยา [ja] ямарยามาร์ = อย่างไร хямдฮยัมด์ = ราคาถูก
อี [iː] наяนาอี = แปดสิบ саяханซาอีฮัง = หมู่นี้
е เย [je] үерอุเยร์ = น้ำท่วม үеэлอุเยล = ญาติพี่น้อง
โย [jɵ] ерโยร์ = เก้าสิบ ерөнхийлөгчโยรงฮีลกช์ = ประธานาธิบดี
ยู [ju] есยุส = เก้า
ертөнцยุร์ทนช์ = อวกาศ
อี [iː] үеอุอี = สมัย биеบี = ร่างกาย
เอ [e] ресторанเร็สทอรัง = ภัตตาคาร кофеคอเฟ = กาแฟ
ё ยอ [jɔ] ёсย็อส = ธรรมเนียม ёроолยอรอพ = ก้นบึ้ง
อี [iː] гоёกออี = สวย ноёнนออิง = ชนชั้นสูง
ю โย [jo] юуโย = อะไร юмยม = สิ่งของ
ยู [ju] юүยู? = หรือ?
ы อี [ʲi] таныทานี = ของคุณ улсынอลซีง = ของชาติ

ตัว е มักใช้ออกเสียงสระเอในคำทับศัพท์จากภาษาต่างประเทศ เช่นคำว่า ресторанเร็สทอรัง และ кофеคอเฟ นี้รับมาจากภาษารัสเซีย (ซึ่งเดิมก็มาจากภาษาอื่นอีกที)

ตัว ы นั้นดูเผินๆคล้ายจะเป็นอักษร ๒ ตัวต่อกัน แต่จริงๆแล้วคืออักษรตัวเดียว ออกเสียงสระ "อี" เหมือนกับ ий แต่จะใช้แค่ในบางกรณีจำกัด เช่นในรูปแสดงความเป็นเจ้าของซึ่งจะค่อยเขียนถึงต่อไป

นอกจากนี้ยังมีเครื่องหมาย ь และ ъ ซึ่งไม่ใช่สระ ไม่ได้มีเสียงในตัวเอง แต่ทำหน้าที่บางอย่างเมื่ออยู่ในคำ

ь จะทำให้เกิดเสียงควบ "ย" เล็กๆสั้นๆหลังตัวอักษรที่ไปตาม ทำให้ฟังดูคล้ายมีเสียง "อิ" หรือ "ย" ต่อคล้ายกับ и แต่จะสั้นกว่า มักจะถูกละ

морь มอร์ = ม้า хонь ฮ็อน = แกะ
хуульโฮล = กฎหมาย сургуульโซร์โกล = โรงเรียน

ส่วน ъ (ต่างจาก ь เล็กน้อยตรงที่ปลายบนมีขีดไปทางซ้าย) นั้นใช้ในคำที่ต้องการแยกเสียง ถูกใช้ค่อนข้างน้อยและจำกัด เช่นใช้ในกริยาที่ผันเป็นรูปชักชวน เช่น

явъяเยาอี = ไปกันเถอะ
гаръяการ์อี = ออกไปเถอะ



เสียงสระประสม

เมื่อนำสระสองตัวมาวางต่อกันก็จะได้เสียงสระประสมขึ้นมา โดยเสียงประสมที่เจอได้ในภาษามองโกลนั้นทั้งหมดจะมี й เป็นส่วนประกอบ มีดังนี้

อักษร เสียงอ่าน IPA ตัวอย่าง
ай ไอ~แอ [ai]~[ae]~[æː] цайไช = ชา сайнไซง์ = ดี
эй เอย์ [ei]~[eː] хэрэгтэйเฮเร็กเทย์ = มีประโยชน์ эмэгтэйเอเม็กเทย์ = ผู้หญิง
ой ออย~เออ [ɔi]~[ɔe]~[œː] ойрออยร์ = ใกล้ толгойท็อลกอย = หัว
уй โอย [oi]~[ʊe] гаруйกาโรย = ประมาณกว่าๆ уйлахโอยลาฮ์ = ร้องไห้
үй อุย [ui]~[ue] үйлอุยล์ = โชค, การกระทำ,งาน зүйซุย = กฎ

โดยพื้นฐานแล้วเสียงจะเป็นไปตามตัวสระที่เป็นส่วนประกอบ แต่ก็มักจะเสียงเพี้ยนไปได้

เช่นเสียง ай นั้นจริงๆตามรูปแล้วควรเป็นสระประสมออกเสียง "ไอ" แต่มักจะออกเป็น "แอ" มากกว่า ในที่จะเขียนทับศัพท์แทนเสียงเป็น "ไอ" เป็นหลัก แต่เวลาอ่านจะอ่านว่า "แอ" ก็ได้

ส่วน ой นั้นตามรูปแล้วควรอ่าน "ออย" แต่มักจะถูกอ่านเป็นเสียง [œː] ซึ่งเป็นเสียงที่ไม่มีในภาษาไทยแต่จะคล้ายเสียง 藥 ([jœːk̚], เหยิก) หรือ 強 ([kʰœːŋ], เขิ่ง) ในภาษากวางตุ้ง คือฟังดูคล้ายจะอยู่ระหว่าง "เออ" กับ "แอ" แต่อย่างไรก็ตามในที่นี้ก็จะเขียนแทน ой ด้วย "ออย" ทั้งหมด

เสียง эй นั้นปกติแล้วจะกลายเป็นแค่ "เอ" เสียงยาว โดยเสียงสระ "อิ" ข้างหลังหายไป เช่นเดียวกับในภาษาญี่ปุ่น แต่ในที่นี้ก็จะเขียนเป็น "เอย์" ไว้



เสียงสระคลุมเครือที่เกิดขึ้นในพยางค์ท้ายและสระที่อ่านไม่ตรงรูป

เรื่องสระในภาษามองโกลนั้นมีความยุ่งยากอีกอย่างที่ต้องระวังให้ดี นั่นก็คือเสียงสระในพยางค์ท้ายถ้าหากเป็นเสียงสั้นมักจะออกเสียงไม่ชัดเจน ไม่ว่าจริงๆคำนั้นจะเขียนด้วยอักษรไหนก็ตาม จะฟังดูเป็นเสียงประมาณสระอือหรือสระเออ (IPA: [ə] หรือ [ɘ])

เช่น

оюутанออโยทัง = นักเรียน

คำนี้ถ้าดูตามตัวสะกดแล้วควรจะเป็น "ออโยทัง" แต่เสียงอ่านจริงๆจะได้ยินเป็น "ออโยทึง"

хүрэхฮุเรฮ์ = ไปถึง

ตามรูปแล้วควรจะเป็น "ฮุเรฮ์" แต่จริงๆมักจะได้ยินเป็น "ฮุรึฮ์"

เรื่องนี้มีข้อยกเว้นในรายะเอียดปลีกย่อยที่อาจต้องจำแยกไป อย่างไรก็ตาม เวลาเขียนแสดงเสียงอ่านในบทเรียนนี้จะแสดงเสียงตามตัวสะกดเป็นหลัก แทนที่จะแสดงเสียงคลุมเครืออย่างที่ออกเสียงจริง ดังนั้น оюутан และ хүрэх จะเขียนเป็น "ออโยทัง" และ "ฮุเรฮ์" แบบนี้ แต่ให้เข้าใจว่าเวลาอ่านออกเสียงจริงๆพยางค์หลังมักจะกลายเป็นสระคลุมเครือดังที่กล่าวมา

อนึ่ง เรื่องของสระนั้นจริงๆควรจะต้องกล่าวถึงเรื่องหลักการกลมกลืนกันของเสียงสระด้วย แต่นั่นเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับไวยากรณ์ ดังนั้นจะขอยกไปอธิบายพร้อมกับไวยากรณ์ที่เกี่ยวข้อง



เสียงพยัญชนะ

ต่อมาเป็นเรื่องของเสียงพยัญชนะต้น

ภาษามองโกลมีเสียงพยัญชนะต้นทั้งหมด ๒๐ หน่วยเสียง ดังนี้

อักษร เสียงอ่าน IPA หมายเหตุ
б บ~ป [b]~[p] เสียงอยู่ระหว่าง "บ" หรือ "ป"
п [pʰ]  
м [m]  
ф [f]  
д ด~ต [d]~[t] เสียงอยู่ระหว่าง "ด" หรือ "ต"
т [tʰ]  
н [n]  
р [r]  
л ล* [ɮ] เป็นเสียง "ล" แบบเสียดแทรก ฟังดูคล้าย "ซ"
ใกล้เคียงกับเสียง ལྷ (lh) ในภาษาทิเบต
г [g]~[k] เสียงอยู่ระหว่าง g ในภาษาอังกฤษกับ "ก" ในภาษาไทย
к [kʰ]  
х ฮ* [x]~[χ] ใกล้เคียงกับเสียง h ในภาษาจีนกลาง
หรือ х ในภาษารัสเซีย
หรือ j ในภาษาสเปน
ж [ʤ]~[ʧ]  
ч [ʧʰ]  
ш ช* [ʃ] ใกล้เคียงกับเสียง sh ในภาษาอังกฤษ
з จ*~ซ* [ʣ]~[ʦ] ใกล้เคียงกับเสียง z ในภาษาจีนกลาง, เยอรมัน, อิตาลี
หรือ ts ในภาษาญี่ปุ่น
ц ช*~ซ* [ʦʰ] ใกล้เคียงกับเสียง c ในภาษาจีนกลาง
с [s]  
в [w̜]  
й [j] เสียงนี้ยังอาจเกิดจาก я е ё ю ด้วย

ตรงที่แสดงเสียงเป็นภาษาไทยนั้น ที่ใส่ * อยู่คือที่เสียงไม่ได้ตรงกับในภาษามองโกลจริงๆ แค่พอใกล้เคียงเลยจะใช้ตัวนี้เขียนแทนเวลาเขียนทับศัพท์แสดงเสียงอ่าน

ในที่นี้จะอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเสียงที่ไม่มีในภาษาไทย

เสียง ш นั้นตรงกับ sh ในภาษาอังกฤษ ฟังดูแล้วก็คล้าย "ช" แต่ว่าต่างกัน เวลาออกเสียงต้องแยกจาก ч ให้ชัดเจน

♫ เสียงตัวอย่าง >> เสียงเสียดแทรกหลังปุ่มเหงือกไม่ก้อง [ʃ]

ส่วนเสียง х นั้นก็คือเสียงหมือน h ในภาษาจีนกลาง คือเป็น "ฮ" ที่มีการเสียดแทรกในลำคอ ถ้าออกเสียงนี้ไม่ได้ก็ออกเป็น "ฮ" ไปได้ เพราะภาษามองโกลไม่มีเสียง "ฮ" จริงๆ เช่นเดียวกับในจีนกลาง เพียงแต่ว่าเสียงนี้อาจถูกใช้เป็นตัวสะกดได้ด้วย ในกรณีนั้นจะเขียนแทนด้วย "ฮ์" ให้ออกเสียงคล้ายๆตัวสะกด "ค" แต่มีการเสียดแทรกในลำคอ

♫ เสียงตัวอย่าง >> เสียงเสียดแทรกเพดานอ่อนไม่ก้อง [x]

เสียง л นั้นหาภาษาอื่นที่มีเสียงนี้มาเทียบได้ยาก อธิบายโดยคร่าวๆแล้วก็คือใกล้เคียงกับ "ล" ในภาษาไทย แต่ต้องออกเป็นเสียงเสียดแทรกระหว่างแตะข้างลิ้น ฟังดูออกจะคล้าย "ซ" มากกว่า

♫ เสียงตัวอย่าง >> เสียงเสียดแทรกข้างลิ้นปุ่มเหงือกก้อง [ɮ]

เสียง з ไม่มีในภาษาไทย แต่มีเสียงที่เทียบเคียงได้ในหลายภาษา อาจได้ยินเป็นใกล้เคียงกับ "จ" หรือ "ซ" แต่ในที่นี้จะแทนด้วย "ซ"

♫ เสียงตัวอย่าง >> เสียงกักเสียดแทรกอุสุมปุ่มเหงือกไม่ก้อง [ʦ]

ส่วนเสียง ц ก็คือ c ในจีนกลาง คืออยู่ระหว่าง "ช" กับ "ซ" ในที่นี้เวลาเขียนแทนเสียงอ่านก็จะขอแทนด้วย "ช" เช่นเดียวกับในภาษาจีน



นอกจากนี้แล้วที่น่าจะต้องอธิบายเพิ่มเติมอีกคือเสียง б กับ д

เสียง б นั้นอาจแทนเสียงที่ตรงกับ "บ" หรือ "ป" ในภาษาไทย ถือเป็นหน่วยเสียงเดียวกัน โดยทั่วไปจะออกเป็น "ป" มากกว่า แต่ก็ฟังดูใกล้เคียง "บ"

ในที่นี้จะเขียนทับศัพท์เป็น "บ" อย่างเดียว ไม่ใช้ "ป" เพราะอาจทำให้สับสนกับเสียง п "พ" ได้ง่าย แต่ขอให้เข้าใจว่า б เสียงจริงๆจะออกไปทาง "ป" มากกว่า

และในทำนองเดียวกัน เสียง д อาจเป็นเสียง "ด" หรือ "ต" แต่ในที่นี้จะเขียนแทนด้วย "ด" ตลอด เพื่อไม่ให้ไปสับสนกับเสียง т "ท" แม้ว่าจริงๆเสียงตัว д นี้จะออกไปทาง "ต" มากกว่าก็ตาม

อนึ่ง เสียง п ф к นั้นจะไม่พบในคำมองโกลแท้ แต่จะเจอได้ในคำทับศัพท์จากภาษาอื่น ดังนั้นจึงเจอค่อนข้างน้อย



เสียงตัวสะกด н

เสียง н นั้นจะค่อนข้างพิเศษหน่อยตรงที่จะอ่านออกเสียงต่างกันไปเมื่อเป็นตัวสะกด อาจเป็น "ง" "น" "ม" ได้

  เสียงอ่าน IPA เมื่อ ตัวอย่าง
н [m] เมื่อตามด้วย б п м ф улаанбаатарโอลาบาทาร์ (ชื่อเมืองหลวง)
таван мянгаทาวั มยังก์ = ห้าร้อย
[ŋ] เมื่ออยู่ท้ายคำหรือตามด้วย г к х япон ยาพ็อ = ญี่ปุ่น
солонгосซอล็อก็อส = เกาหลี
[n] อื่นๆ сонсохซ็อซอฮ์ = ฟัง
үнэндээอุเน็เด = ที่จริงแล้ว

ลักษณะเช่นนี้คล้ายกับในภาษาญี่ปุ่น



สระเสียงสั้นท้ายพยางค์ไม่ออกเสียง

ในภาษามองโกลนั้นปกติแล้วถ้าท้ายคำเป็นรูปสระเสียงสั้น ปกติจะไม่ออกเสียง กลายเป็นออกเสียงพยัญชนะที่อยู่หน้าสระนั้นเป็นตัวสะกดแทน

เช่น

бага บั = เล็ก, น้อย
пиво พิ = เบียร์
хими ฮิ = เคมี
барилга บาริลก์ = ตึก
мөнгө มงก์ = เงิน

เพียงถ้าเป็น н ในกรณีนี้จะออกเสียงเป็นตัวสะกด "น" ชัดเจนต่างจากเมื่อ н อยู่ท้ายคำ

ханаฮั = กำแพง
шөнө = กลางคืน
чоноช็อ = หมาป่า
үнэอุ = ราคา

อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อยกเว้นอยู่ด้วย เช่นในคำทับศัพท์จากภาษาอื่น สระพยางค์ตรงท้ายมักออกเสียงชัดเจน

киноคินอ = ภาพยนตร์
таксиทัคซี = แท็กซี



หลักการออกเสียงโดยเบื้องต้นเป็นดังที่อธิบายมาข้างต้น อย่างไรก็ตามมีรายละเอียดและข้อยกเว้นอยู่อีกไม่น้อยซึ่งอาจต้องจำเพิ่มเติมไป

ในบทต่อๆไปก็จะยกตัวอย่างพร้อมแสดงเสียงอ่านเป็นภาษาไทยกำกับ สามารถดูกำกับเพื่อใช้อ้างอิงเสียงอ่านได้ แต่เวลาออกเสียงจริงๆขอให้รู้ว่าเสียงนั้นต่างจากที่เขียนในภาษาไทยอย่างไร



อ่านต่อ บทที่ ๒





-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

หมวดหมู่

-- ภาษาศาสตร์ >> เรียนภาษา
-- ภาษาศาสตร์ >> ภาษามองโกล

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

สารบัญ

รวมคำแปลวลีเด็ดจากญี่ปุ่น
มอดูลต่างๆ
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
การเรียนรู้ของเครื่อง
-- โครงข่าย
     ประสาทเทียม
ภาษา javascript
ภาษา mongol
ภาษาศาสตร์
maya
ความน่าจะเป็น
บันทึกในญี่ปุ่น
บันทึกในจีน
-- บันทึกในปักกิ่ง
-- บันทึกในฮ่องกง
-- บันทึกในมาเก๊า
บันทึกในไต้หวัน
บันทึกในยุโรปเหนือ
บันทึกในประเทศอื่นๆ
qiita
บทความอื่นๆ

บทความแบ่งตามหมวด



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  ค้นหาบทความ

  บทความแนะนำ

ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ

ไทย

日本語

中文