>> ตอนที่แล้วลุยกร็องกีญอลพวกชมรมกลับบ้านเดินทางมายัง
กร็อง กีญอล (グラン・ギニョール) เพื่อหยุดยั้งแผนการทำลายโลกของธอร์นและมิว
เมื่อมาถึงก็ได้ยินเสียงเพลง
distorted happiness ของธอร์นดังขึ้น เป็นเพลงที่ดูโศกเศร้า มีเนื้อหาเหมือนจะคร่ำครวญถึงคนรักที่สูญเสียไป ไม่ยอมที่จะอยู่ในโลกที่ไม่มีเธอ ขอแค่มีเธออยู่จะต้องทำยังไงก็ยอม
♫ ฟังเพลงนี้ใน youtubeโชวโงะเมื่อได้ยินเสียงเพลงนี้ก็มีอาการไม่ดีอีกแล้ว แต่ก็อดทนไว้ ครั้งนี้ตั้งใจจะไปหาธอร์นเพื่อจะได้รู้ว่าเธอคือวิญญาณของอิจิกะจริงๆหรือเปล่า
แล้วก็เดินสำรวจภายในกร็องกีญอล
จนเข้ามาถึงห้องหนึ่ง ก็เจอสวีตพีอยู่ข้างใน
แต่ครั้งนี้สวีตพีมีท่าทีแปลกๆเหมือนกับว่าจะถูกล้างสมองมาใหม่ พูดยังไงก็ไม่ยอมเข้าใจกัน
แล้วก็เลยต้องสู้กัน
พอชนะแล้วสวีตพีจึงเริ่มได้สติขึ้นมา มิฟุเอะจึงเข้าไปคุยด้วยปรับความเข้าใจ ขอโทษเรื่องที่ผ่านมาคราวก่อน คราวนี้สวีตพีก็บอกว่าตัดสินใจยอมรับที่จะกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงเพื่อไปเผชิญหน้ากับตัวตนจริงๆของตัวเอง ไว้ถ้ากลับไปได้แล้วจะชวนมิฟุเอะจัดงานเลี้ยงน้ำชากันอีก
สวีตพียังบอกด้วยว่าระหว่างทางน่าจะมีประตูที่เปิดไม่ได้อยู่ เพราะธอร์นสั่งให้เธอเป็นคนเฝ้าประตู ตอนนี้ล้มเธอได้แล้วประตูนั้นน่าจะเปิดออกได้ และถ้าเข้าไปแล้วก็คงต้องสู้กับนักดนตรีคนอื่นอีก ระวังตัวไว้ด้วย
หลังจากนั้นก็ลุยหาทางเข้าด้านในต่อไป
จนมาถึงห้องที่ปิดอยู่อีกห้อง พอเข้าไปก็เจอโชวเนนดอล
ซึ่งก็ดูเหมือนจะถูกล้างสมองใหม่เช่นเดียวกับสวีตพี
ก็เลยต้องสู้กัน
เมื่อรู้ชนะเสร็จเขาจึงได้สติ สึซึนะจึงชวนคุยและทวงสัญญาที่เคยคุยกันไว้ว่ากลับโลกแห่งความเป็นจริงได้แล้วจะไปกินข้าวด้วยกัน
แล้วโชวเนนดอลก็ยังบอกถึงเรื่องที่ว่าธอร์นสั่งให้เขาเฝ้าประตู ตอนนี้ล้มเขาได้แล้วน่าจะมีประตูที่เปิดได้เพิ่มขึ้นมาอีก
แล้วก็บุกมาจนเจอห้องถัดไป
คราวนี้เจออิเกะพี ซึ่งก็ถูกล้างสมองอีกเช่นกัน
แล้วก็ต้องสู้กับเขาอีก
พอล้มได้แล้วเขาก็ได้สติแล้วเล่าอะไรเกี่ยวกับธอร์นให้ฟังมากขึ้น และเล่าว่าเขาสงสัยอยู่ว่าธอร์นจริงๆอาจจะเป็นผู้ชาย แม้ว่าปกติจะพูดจาแบบผู้หญิงตลอด แต่เคยเห็นครั้งหนึ่งตอนที่คุยกับมิวดูเหมือนจะคุยด้วยท่าทีแปลกไปจากปกติ
พอได้ยินดังนั้นโชวโงะก็เหมือนจะนึกขึ้นได้แล้วว่าตัวตนจริงๆของธอร์นน่าจะเป็นใคร แต่ก็ยังไม่พูดอะไรจนกว่าจะเจอเจ้าตัวแล้วยืนยันให้แน่
และอิเกะพีก็บอกว่าทั้ง ๓ คนถูกสั่งให้เฝ้าประตูคนละแห่ง ตอนนี้เมื่อล้มทั้ง ๓ คนได้แล้วก็น่าจะเข้าไปหาธอร์นได้
แล้วก็ลุยต่อเข้ามาด้านในห้องที่จะไปถึงธอร์นได้ ก็เจอ stork มาดักรอ ซึ่งก็ถูกล้างสมองอีกเช่นกัน
จึงต้องสู้ด้วย
เมื่อล้มเขาได้แล้วเขาก็ได้สติ แต่ก็บอกว่าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน
เมื่อเดินต่อเข้ามาก็เจอมิเรย์และมาริเอะ
แล้วก็ต้องสู้กับทั้ง ๒ คนพร้อมกัน
เมื่อชนะได้แล้วทั้ง ๒ คนก็ยังไม่ได้มีทีท่าจะสงบลง จึงแน่ใจว่าทั้ง ๒ คนนี้ไม่ได้ถูกล้างสมอง แต่สู้ด้วยความตั้งใจของตัวเองที่จะปกป้องเมอบิอุส เพราะไม่มีเหตุผลที่จะยอมกลับไปเผชิญหน้ากับโลกแห่งความเป็นจริงอยู่แล้ว
แม้จะรู้สึกเห็นใจคนที่ไม่มีที่ไปจริงๆแต่ก็ไม่อาจจะหยุดชะงักลงแค่นี้ได้ ตัดสินใจแล้วว่าต่อให้ต้องทำลายความฝันของผู้คนที่ต้องการปกป้องเมอบิอุสก็ตาม ก็ต้องเข้าไปหยุดธอร์นและกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงให้ได้
เมื่อลุยเข้ามาต่อก็เจอคุจินาชิ เธอก็ไม่ได้ถูกล้างสมองเช่นกัน แต่เพราะเป็นคนที่ไม่อยากกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงมากที่สุด เพราะสูญเสียทุกอย่างจนไม่เหลืออะไรรออยู่อีกแล้วนอกจากความสิ้นหวัง
ก็เลยต้องมาสู้กับคุจินาชิอีกครั้ง
เมื่อเอาชนะได้เธอยังทำท่าจะไม่ยอมแพ้ เอย์จิยังพยายามเข้าไปซ้ำเติมคุจินาชิอีก แต่คนอื่นกลับโกรธแล้วก็พยายามห้ามไว้ แม้จะเป็นศัตรูกันแต่ก็เข้าใจความรู้สึกของเธอที่อยากอยู่เมอบิอุสต่อไป
แต่ถึงอย่างไรก็ต้องมุ่งหน้าต่อไป แล้วในที่สุดก็มาถึงห้องที่ธอร์นอยู่
หยุดยั้งมิวให้ได้เมื่อเข้ามาถึงก็เจอธอร์นรออยู่
โชวโงะรีบเข้าไปคุยแล้วบอกว่ารู้แล้วว่าตัวจริงของธอร์นก็คือ
นัตสึเมะ อาสึกะ (棗 飛鳥) ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทสมัยเรียนอีกคนที่สนิทกับอิจิกะ
นัตสึเมะเสียใจกับการตายของอิจิกะ พอได้มาที่เมอบิอุสจึงเปลี่ยนตัวเองให้เป็นอิจิกะ พยายามทำตัวเป็นอิจิกะ ให้เหมือนกับว่าอิจิกะมีตัวตนจริงๆอยู่ในโลกนี้ ดังนั้นจึงต้องการจะอยู่ที่นี่ตลอดไป ดังนั้นเพลงของธอร์นจึงถ่ายทอดความรู้สึกของธอร์นออกมาอย่างเห็นได้ชัด
แต่โชวโงะกลับทำใจเรื่องอิจิกะได้แล้วจากการที่ที่ผ่านมาได้เจออะไรมามากมาย และพยายามเตือนธอร์นให้ยอมรับความเป็นจริงและหยุดทำอะไรแบบนี้
แต่ก็ดูเหมือนจะใกล้สายไปแล้ว มิวเริ่มสะสมความรู้สึกด้านลบจนเปลี่ยนรูปกลายเป็นเหมือนปีศาจ
แล้วก็เกิดช่องที่ดูเหมือนทางเชื่อมมิติแล้วมิวก็หายเข้าไปในนั้นเพื่อจะเริ่มดำเนินแผนการทำลายโลกแห่งความเป็นจริง
เพื่อที่จะหยุดยั้งแผนการนี้ต้องล้มธอร์นให้ได้ซะก่อน
ในที่สุดจึงต้องสู้กับธอร์น ซึ่งก็เป็นศึกที่สาหัสมากทีเดียว
เมื่อชนะได้ธอร์นจึงเริ่มได้สติแล้วยอมรับในความผิดพลาดของตัวเอง บอกให้ช่วยรีบไปหยุดมิว จากนั้นก็โดดฆ่าตัวตาย แต่คราวนี้ไม่มีพลังของมิวช่วยแล้ว จึงตั้งใจจะตายจริงๆ โชวโงะได้แต่มองดูโดยที่ทำอะไรไม่ได้
แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาให้หยุดชะงักอยู่ตรงนี้แล้ว ต้องรีบไปหยุดมิว
เมื่อตามมิวมาจนเจอ ทุกคนยังพยายามจะเกลี้ยกล่อมมิว อธิบายเหตุผลที่แต่ละคนต้องการจะกลับบ้าน แต่ก็ไม่เป็นผลอะไร
จึงต้องมาสู้ตัดสินกับมิว การต่อสู้ครั้งสุดท้ายได้เริ่มขึ้นแล้ว
เมื่อล้มได้ครั้งแรก มิวก็ยังไม่ยอม และเปลี่ยนร่างแล้วมาสู้ต่อ
จึงต้องสู้กับมิวร่างสองต่อ
หลังจากล้มมิวครั้งที่สองได้แล้วทุกอย่างก็จบลง
หลังจากจบศึก มิวก็เริ่มจะสงบลงในที่สุด
แล้วก็เปลี่ยนกลับมาเป็นเหมือนเดิม หลังจากนั้นก็คุยกันจนสามารถเข้าใจกันได้
สุดท้ายมิวก็ยอมปล่อยทุกคนกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง ทุกคนต่างบอกลากันเท่านี้และสัญญาว่าเมื่อกลับไปแล้วจะมาเจอกันอีก
แล้วเพลงจบก็ดังขึ้น ชื่อเพลง cradle ร้องโดยสาวๆ ๔ คนฝั่งนักดนตรีคือ สวีตพี มิเรย์ ธอร์น คุจินาชิ
♫ ฟังเพลงนี้ใน youtubeแล้วก็ตัดกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง ทุกคนยังติดต่อกันผ่านทางกลุ่มคุยที่สร้างไว้ในเมอบิอุสได้อยู่ จึงตัดสินใจนัดเจอกัน แต่เอย์จิคนเดียวที่ปฏิเสธที่จะมาเจอด้วย อ้างว่ามีธุระต้องรีบไปทำ ซึ่งคนอื่นก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะรู้สึกว่าไม่ได้อยากจะเจอกับเขาอีกอยู่แล้ว
แล้วทุกคนก็นัดรวมตัวกันที่ซีพาราอีโซตอนสุดสัปดาห์
แล้วเรื่องราวทั้งหมดก็จบลงเท่านี้ทุกคนต่างก็กลับไปใช้ชีวิตของตัวเองและต้องเผชิญกับความเป็นจริงที่รออยู่
ว่าด้วยฉากจบแบบอื่น:
ในภาค overdose มีทางเลือกให้แยกไปจบโดยหักหลังพวกพ้องไปอยู่ฝ่ายธอร์น
ฉากจบนั้นจะเกิดขึ้นได้เมื่อดำเนินเนื้อเรื่องฝั่งนักดนตรีมาจนจบ หากตอนที่เผชิญหน้ากับธอร์นครั้งสุดท้ายเลือกที่จะอยู่ข้างธอร์นก็จะกลายเป็นต้องสู้กับพวกพ้องแทน และเข้าสู่จุดจบอีกแบบ ซึ่งค่อนข้างจะสาหัส
ดูคลิปที่คนเล่นเอาไว้ได้ในนี้ https://www.youtube.com/watch?v=sJv-8-iaa2Q
นอกจากนี้รายละเอียดยังเปลี่ยนไปเล็กน้อยโดยขึ้นอยู่กับว่าโคตาโรวรอดจากฉากที่แลนด์มาร์กทาวเวอร์หรือไม่
ครั้งนี้แม้จะถือว่าเข้าสู่ฉากจบแท้จริงได้ แต่ก็ขาดโคตาโรวไป จึงอาจไม่ใช่ฉากจบในอุดมคติอย่างสมบูรณ์แบบที่แท้จริง