φυβλαςのβλογ
บล็อกของ phyblas



[ef] ตอนที่ ๑๐. สถานที่ที่ควรกลับไป (帰るべきところ)
เขียนเมื่อ 2009/07/27 10:15
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42

ตอนที่ ๑๐. สถานที่ที่ควรกลับไป (帰るべきところ) 

>> กลับไปตอนที่ ๙
>> อ่านต่อตอนที่ ๑๑
>> กลับไปหน้าสารบัญ
ᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳ

หริ่งระงมเสียงจักจั่นดังออกจากหน้าต่างที่เปิดทิ้งเอาไว้ เพราะไม่มีลม เลยทำให้อากาศร้อนขังอับอยู่อย่างนั้น สอบปลายภาคก็จบไปแล้ว เหลือแค่รอผลสอบเท่านั้น ตอนนี้ถือว่าเข้าสู้วันหยุดหน้าร้อนแล้วสินะ ทั้งที่ตอนนี้เป็นเวลาที่ควรรีบทำงานหาเงินแท้ๆ แต่กลับรู้สึกไม่มีใจทำงานเลย ไม่ไหวเลยจริงๆ

ตอนนี้ใกล้เที่ยงแล้ว ผมคิดเรื่องโน้นเรื่องนี้วนไปวนมา

ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูเข้ามา ใครกันนะ ถ้าให้ทายตอนนี้ก็น่าจะเป็นคุณปู่ชินโดเจ้าของบ้าน หรือไม่ก็...

“ยู อยู่หรือเปล่า ขอเข้าไปนะ”
ยัยนั่นจริงๆด้วย ไม่น่าบอกที่อยู่ให้รู้เลยสิ


“อะไรกัน ทำหน้าแบบนั้น”
“ฉันก็เป็นแบบนี้อยู่แล้วนี่นา”
“เราไม่ได้หมายถึงอย่างนั้น”
นางิถือถุงอะไรบางอย่างมาด้วย

“อ้อ ไอ้นี่เหรอ ความจริงแล้วก็คือ...”
“นางิ ทำไมรู้ว่าฉันอยู่บ้านล่ะ?”
“เราถามที่ทำงานเธอมาน่ะ”
“มีธุระอะไรเหรอ”
“ถ้าไม่มีธุระจะมาไม่ได้เหรอ?”
นางิยื่นถุงบางอย่างให้

“นี่เป็นข้าวห่อสาหร่ายแล้วก็กับข้าว ยังไงก็รับไปหน่อยละกัน”
“อ้า ขอบใจนะ”
“หา!”
“อะไรของเธอน่ะ”
“เปล่า แค่คิดว่าเธอจะปฏิเสธเหมือนกับทุกทีน่ะสิ”
“ถ้าคิดแบบนั้นจะอุตส่าห์ถือมาทำไมล่ะ”
“เปล่า แค่คิดว่าถ้าไม่เอายังไงก็จะยัดเข้าปากให้เลยน่ะ”
“ช่างเหอะ งั้นทานละนะ”
“เธอเนี่ย ดูแปลกไปนะ”
“แค่หิวก็เท่านั้นล่ะน่ะ”
“เอาเถอะ ทานให้เป็นเวลาแบบนี้ล่ะดีแล้ว คุเซะเองก็เป็นห่วงเหมือนกันนี่นะ”
“นางิ คุเซะน่ะ...”
“รู้แล้วล่ะ เมื่อเช้ามีโทรศัพท์มาน่ะ”
คุเซะเนี่ยนะ โทรหานางิ

“แล้วมันว่าไงบ้างล่ะ?”
“ดูเหมือนคุเซะจะชอบเราอยู่”
“อุ๊บ...”
“เหวอ สกปรก ทำอะไรของเธอน่ะ”
“ก็อยู่ดีๆ เล่นพูดเรื่องแปลกๆแบบนี้...”
“ล้อเล่นน่ะ จะเป็นไปได้ไงกันล่ะ เธอนี่ก็”
“ก่อนจะมาว่าคนอื่นน่ะ ขอโทษซะก่อนนะ”
“คุเซะน่ะไม่มาชอบเราหรอก หมอนั่นน่ะสนใจคนที่รู้ว่าไม่มีทางเอื้อมถึงได้หรอก เพราะเข้าใจความรู้สึกของเราดี”
“ความรู้สึกของเธอ?”
“เรื่องที่เราชอบยูอยู่ไง”
“..........อะไรนะ?”
นางิพูดอะไรน่ะ?

“อย่าให้ต้องพูดซ้ำสิ ไอ้คำพูดแบบนี้น่ะมันไม่ใช่นิสัยของเรานะ”
“นางิ คือว่า...”
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้วล่ะ เราก็มองออกอยู่แล้วล่ะ ถึงจะรู้ผลลัพธ์อยู่แล้ว รู้ว่ายูจะพูดอะไร แต่เราก็กลับกลัวการไม่ได้รับคำตอบยิ่งกว่าการได้รับคำตอบที่ผิดหวังซะอีก ขี้ขลาดจริงๆเลยเรา”
“ที่ขี้ขลาดน่ะไม่ใช่เธอหรอก”
“ลืมมันไปซะเถอะ”
“เข้าใจล่ะ”
“ว่าแต่สีหน้าเธอดูไม่ค่อยดีเลยนะ นอนไม่พองั้นเหรอ?”
“อื้อ”
ความจริงคือไม่ได้นอนเลยต่างหาก ตั้งแต่ออกจากโบสถ์มาก็ไม่ได้กินอะไร ไม่ได้ทำอะไรเลย แม้แต่นอนก็ไม่ได้นอน

“ยู ขอดูนั่นหน่อยสิ”
“เดี๋ยวสิ”
อยู่ดีๆนางิก็หยิบสมุดสเก็ตช์ภาพไป


“ทำท่าแบบนี้หมายความว่าไง?”
“ดูเหมือนว่าถ้าแค่ภาพวิวละก็ ดูจะวาดได้ดีกว่าเราซะอีกนะนี่ นี่เธอตัดสินใจจะเรียนวาดภาพแล้วงั้นเหรอ”
“เปล่าหรอก ว่าแต่ เรื่องการออกแบบนี่ มันเป็นยังไงกันนะ”
“งานออกแบบงั้นเหรอ มันก็มีอยู่หลากหลายแบบนะ อย่างออกแบบกราฟฟิก ออกแบบวิศวะกรรม ออกแบบสิ่งแวดล้อม เราเองก็ถนัดแค่ภาพสีน้ำมันด้วยสิ ถ้าเรื่องออกแบบละก็ ถามครูอามะมิยะ...”
“ต่อหน้าฉันห้ามพูดชื่อนี้เด็ดขาดนะ”
พอได้ยินชื่อนั้นแล้ว ผมก็เลือดขึ้นหน้าขึ้นมาทันที

“เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ”
“เปล่า ไม่มีอะไร”
“แล้วทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ”
“บอกว่าเป็นโดยธรรมชาติอยู่แล้วไง”
“เราไม่อยากเห็นเธอทำหน้าแบบนี้เลยนะ”
“ฉันจะทำหน้ายังไงมันก็เรื่องของฉันน่ะ”
“ยู...”
“ขอร้องล่ะ อย่าถามอะไรมากไปกว่านี้เลยนะ”
ผมหยิบเครื่องบินกระดาษที่ตกอยู่ที่พื้นขึ้นมา


“นั่นมัน...”
“ไม่รู้จักเหรอ เครื่องบินกระดาษไง”
“เรื่องนั้นรู้อยู่แล้วน่ะ เราหมายถึง ที่เขียนอยู่ตรงนั้นน่ะ”
“อะไรนะ?”

“ช่วยด้วย...?”
“......!”
ข้อความนี้ ยูโกะไม่เคยพูดออกมาจากปากตัวเองเลย... หรือว่าบางที เบื้องหลังรอยยิ้มของยัยนั่น... ยูโกะได้แต่เก็บความทุกข์ทรมาณแสนสาหัสเอาไว้ ไม่สามารถบอกใครออกมาเป็นคำพูดงั้นเหรอ

“ฉันคิดว่าตัวฉันเข้มแข็งอยู่แล้วมาโดยตลอด แต่ว่านั่นมันไม่ใช่เลย ไม่ว่าจะพยายามหนียังไง ฉันก็ไม่อาจจะหลุดพ้นจากอดีตของตัวเองไปได้”
“สำหรับเธอทุกอย่างมันแค่เพิ่งเริ่มต้น อย่างพวกเราน่ะจะมีอ่อนแอบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่เหรอ”
“ไม่ใช่อย่างนั้น”
ผมกลัวมาโดยตลอด ไม่ใช่เรื่องอามะมิยะหรอก แต่กลัวว่าความมืดมนที่ปกคลุมตัวยูโกะอยู่ตอนนี้จะกลืนกินแม้แต่ตัวเองไปด้วย ผมรู้สึกกลัวคนอย่างเธอที่สามารถพูดถึงรอยแผลคณานับที่ตัวเองเจอมาได้อย่างชื่นมื่น ถึงแม้ตอนนี้จะได้รับข้อเตือนใจมาว่าไม่ควรจะเอาหลักการเหตุผลมาใช้กับยูโกะก็เถอะ

“ถ้าหากเรามีใครที่จะต้องปกป้องละก็ ก็มีแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น ตั้งแต่แผ่นดินไหวในครั้งนั้นฉันก็ตระหนักเรื่องนี้ดีมาโดยตลอด”
“ยู เธอกำลังแบกรับอะไรอยู่กันแน่”
“เข้าใจล่ะต้องการบอกว่า -“จงปกป้อง”- งั้นสินะ”
“เธอพูดกับใครอยู่น่ะ?”
นางิถามขึ้นด้วยสีหน้างงๆ คนที่ตะโกนปลุกผมขึ้นมานั้นไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก

“คือตัวฉันเมื่อครั้งที่ไม่สามารถปกป้องใครได้ ตะโกนบอกมา”

........................


-“ไม่มีใครที่เข้มแข็งอยู่ตลอดเวลาหรอก ไม่ว่าจะเป็นคนที่เข้มแข็งแค่ไหน ก็ต้องมีความอ่อนแอซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่ง”-
ผมคิดเรื่องต่างๆวนไปมาระหว่างที่เดินออกจากบ้าน

-“นี่ พี่ชายรักเธอคนนั้นจริงๆสินะ จะไม่ใช่พี่ชายของอากาเนะเพียงคนเดียวอีกต่อไปแล้วสินะ”
เสียงของอากาเนะดังก้องขึ้น อากาเนะน่ะยังไงก็เป็นน้องสาว แต่ว่าคนที่สำคัญน่ะ ไม่ได้มีเพียงหนึ่งเดียวสักหน่อย


“ยู เหม่ออะไรตั้งแต่ตะกี้แล้วน่ะ”
“อ่อ โทษที เราคุยอะไรกันอยู่หรือเปล่านะ”
“เพราะเธอไม่ได้พูดอะไรเลย เราเลยต้องพูดต่างหากล่ะ พอดีเรามีนัดกับน้องชายไว้ว่าจะไปสอนวาดรูปให้ คงต้องกลับก่อน แต่ว่าเธอไม่เป็นอะไรแน่นะ ยู”
“ว่าแต่ตกลงเธอมาทำอะไรที่บ้านฉันกันแน่นี่”
“ก็บอกไปแล้วไง ถึงไม่มีธุระอะไรก็จะมา ก็เราเป็นเพื่อนกันนี่นะ”
“นั่นสินะ”
ใช่ เพื่อน ทั้งคุเซะ และนางิ ต่างก็เป็นเพื่อนคนสำคัญ

“พวกเราเป็นเพื่อนกัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราก็จะอยู่ข้างเธอเสมอ ขอให้จำไว้ด้วยนะ”
“ขอบใจนะ นางิ”
หลังจากนั้นผมก็แยกกับนางิ

-“หลังจากนี้ จะไปไหนต่อล่ะ”-
“แน่นอน ยังไงก็คงจะต้องไปช่วยยูโกะล่ะนะ จะปล่อยให้เป็นเหมือนกับเธอตอนนั้นอีกไม่ได้”
-“แต่ว่าอาจจะทำอะไรผิดพลาดซ้ำซ้อนอีกก็ได้นะ”-
"ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันจะไม่หนีเด็ดขาด ต่อให้อยู่ท่ามกลางกองเพลิง ฉันก็จะต้องยื่นมือเข้าไป”
-“สิ่งที่อยู่ท่ามกลางกองเพลิงที่ยื่นมือเข้าไปนั้น คือสิ่งที่สำคัญเป็นที่สุดสำหรับพี่ชายตอนนี้สินะ”-
“ใช่แล้วล่ะ คราวนี้ล่ะ ฉันจะต้องช่วยออกมาให้ได้”
ถ้าจะบอกว่าไม่กลัวเลยละก็ คงจะดูเหมือนโกหก แต่ว่าตัวผมในตอนนี้ กลับกลัวการที่จะต้องหนีไปเลยโดยไม่ทำอะไรมากกว่า

....................


“ว้าย... !!”
“จะตกใจไปทำไมกันล่ะ”
“รุ่นพี่ฮิมุระ? มาทำอะไรกันคะ?
“ฉันจะมาที่นี่ต้องมีเหตุผลอะไรด้วยเหรอ?”
“ทำไมถึงรู้ที่อยู่ของฉันได้ล่ะคะ อีกอย่าง ประตูก็ล็อกอยู่...”
“ฉันถามที่อยู่จากนางิน่ะ แล้วก็ไม่ได้เข้าทางประตูบ้านด้วย ฉันทุบหน้าต่างเข้ามา ยังจะสงสัยอะไรอีกมั้ย?”
“แบบนี้มันเป็นการบุกรุกนะคะ รุ่นพี่”
“ช่างมันสิ ยังไงก็ตาม ไปกันเถอะ”
“ไม่ได้หรอกค่ะ เดี๋ยวฉันจะต้องไปที่โรงเรียนน่ะค่ะ”
“โรงเรียน?”
จะว่าไปแล้ว ยูโกะก็ใส่ชุดนักเรียนอยู่ ทั้งที่ไม่มีกิจกรรมชมรมอะไรแท้ๆ ไม่น่าจะมีเหตุผลให้ต้องไปโรงเรียนนี่นา

“พี่เขาลืมเอกสารก็เลยต้องเอาไปให้น่ะค่ะ จะปฏิเสธก็ไม่ได้ด้วยสิ”
“ยูโกะ ทำไมเธอถึงต้องไปทำตามที่หมอนั่นต้องการด้วย”
“แค่ถูกใช้งานนิดหน่อยน่ะค่ะ ไปแป๊บเดียวแล้วจะรีบกลับมาคุยกับรุ่นพี่ต่อนะคะ”
“ไม่ได้ ห้ามไปเด็ดขาด”
“ฮะๆ ดึงดันจังเลยนะคะ”
“หยุดหัวเราะได้แล้วน่ะ!”
ทำไมผมถึงไม่รู้ตัวให้เร็วกว่านี้นะ ว่าเธอต้องแบกรับความรู้สึกที่มืดมนเอาไว้ในใจตลอดมา


“ฉันไม่ให้เธอไปหาหมอนั่น ฉันจะพาเธอไปยังที่ที่ไม่มีหมอนั่น เพื่อที่เธอจะได้ไม่ต้องเจ็บปวดอีกต่อไป”
“รุ่นพี่... แบบนั้นก็แย่น่ะสิคะ ห้องนี้น่ะเป็นห้องที่ทำใหม่ให้เหมือนกับห้องของน้องสาวที่ตายไปของพี่”
“ทำใหม่...?”
“บ้านอามะมิยะได้พังไปกับแผ่นดินไหวในครั้งนั้น แต่พี่ก็ได้สร้างห้องนี้ขึ้นมาใหม่ให้เหมือนกับห้องของน้องสาวทุกอย่าง ทั้งความกว้าง และเครื่องเรือน”
ผมมองไปรอบๆห้อง
ห้องนี้คือความทรงจำถึงน้องสาวของหมอนั่นงั้นเหรอ หมอนั่นสร้างขึ้นมาเพื่อทดแทนงั้นเหรอ...
ไม่ใช่หรอก


“ไอ้แบบนี้น่ะมัน... บ้าไปแล้ว”
“ฮะๆ จะว่าไป ถ้าสาวน้อยอย่างฉันหายไปด้วยก็จะยิ่งเหมือนไปใหญ่เลยสินะคะ”
ยูโกะยังคงยิ้มต่อไป

“เอาเถอะ ไม่ไปแล้วก็ได้ พี่นั่นแหละผิดที่ดันลืมเอกสารเอง ขอเปลี่ยนแผนการ ไหนๆวันนี้ก็อากาศดี ไปเที่ยวทะเลกันเถอะค่ะ”

.............................................


“อย่างที่คิดเลย ถ้าพูดถึงฤดูร้อนก็ต้องทะเลสินะคะ”
“อื้อ นั่นสินะ”
“ถ้าฉันเอาชุดว่ายน้ำมาด้วยก็คงจะดีสินะคะ”
“แต่ว่า... แผลนั่น...... เอ่อ เปล่า... ไม่มีอะไร”
“ฮะๆๆ ฉันเข้าใจดีค่ะ แต่ถ้ามีเงินกับเวลาละก็ มันก็คงจะหายลงไปได้สักหน่อยล่ะค่ะ แต่ก็คงไม่มีทางหายอย่างเด็ดขาด ร่างกายของมนุษย์นี่ก็มีขีดจำกัดเหมือนกัน”
“นั่นสินะ”
นี่ผมยังจะพูดอย่างใจเย็นตามปกติอยู่ได้อีกเหรอนี่ ทำไมถึงไม่พูดเรื่องที่อยากพูดออกไปเลยนะ

“บางทีฉันก็คิดนะคะ ว่ารุ่นพี่ฮิมุระจะโตมาเป็นคนแบบไหนกันนะ”
“เรื่องนั้นเธอมีพูดไปแล้วนี่”
“ฉันจะพูดต่อจากนั้นค่ะ รุ่นพี่ฮิมุระน่ะ เป็นคนแบบที่ฉันคิดเอาไว้เลย เป็นคนอัธยาศัยไม่ดี ตรงไปตรงมา แต่ก็อ่อนโยน เข้มแข็ง เมื่อตั้งเป้าเอาไว้แล้ว ก็จะพยายามมากยิ่งกว่าใครๆ เป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากจริงๆเลยล่ะค่ะ”
“เปล่าหรอก ฉันมันก็แค่ผู้ชายที่ไม่ได้เรื่อง เป็นแค่...”
“ไม่หรอกค่ะ รุ่นพี่ฮิมุระน่ะ ขึ้นไปสูงยิ่งกว่าที่ฉันคิดไว้มากเลยล่ะค่ะ ที่ที่ฉันไม่อาจเอื้อมไปถึงได้”
ผมหวังแต่จะไต่เต้าขึ้นไปยังที่สูง โดยไม่ได้คิดเรื่องอื่นเลย

“ดังนั้นฉันจึงได้คิด ว่าก่อนที่รุ่นพี่จะจากไป ช่วงที่ยังอยู่ด้วยกันนี้ อยากจะสร้างความเจ็บปวดให้คุณสักหน่อย”
“ให้ฉัน?”
“เพราะว่าคุณเป็นคนเก่ง มีความพยายาม มีเพื่อนที่ใจดี พรั่งพร้อมไปด้วยทุกสิ่งทุกอย่าง”
ผมนี่นะเพียบพร้อม? ถ้าตามที่ยูโกะว่ามา จะว่าไปมันก็ไม่ผิดหรอก แต่ว่า ความคิดของเธอกับผมนั้นมันต่างกัน

“ทั้งที่เพียบพร้อมออกขนาดนั้น แต่คุณกลับทำหน้าเหมือนไม่พอใจกับโลกของตัวเอง มัวแต่ยึดติดกับอดีตอยู่ตลอดเวลา”
“.........!”
“ยังไม่พอใจอะไรอีกหรือคะ คุณมีพร้อมทุกอย่าง ทั้งความหวัง และอนาคต ฉันน่ะออกจะอิจฉาคุณมาก และก็ยิ่งโกรธแค้นมากเท่านั้น โกรธแค้นจนทนไม่ไหวเลยล่ะค่ะ”
เสียงของเธอฟังดูหนักอึ้งราวกับสะท้อนออกมาจากก้นบึ้งของขุมนรก

“อยากทำให้คุณชอบฉัน ไม่สิ ไม่ต้องชอบก็ได้ แค่สนใจสักหน่อยก็พอ การกลั่นแกล้งตอนนั้นก็มาได้จังหวะเหมาะพอดีเลยนะคะ แค่ฉันเดินไปให้คุณเห็นตัว แล้วให้ดูรองเท้าที่ตัดเองจนขาดรุ่งริ่ง ก็จะยิ่งเป็นการเพิ่มสีสันมากยิ่งขึ้นไปอีก ถ้าเกิดแบบนั้นขึ้นแล้ว ก็จะยิ่งทำให้คุณเข้าใกล้ฉันมากขึ้น เพราะรุ่นพี่ฮิมุระเป็นคนอ่อนโยน จะต้องมาสนใจฉันที่กำลังน่าสงสารอยู่แน่ อย่างน้อยก็คงจะเปิดใจให้กับฉัน เพียงเท่านี้ก็เพียงพอ ในตอนนั้นพอฉันให้คุณเห็นความจริง คุณก็จะยิ่งเจ็บปวดมากยิ่งขึ้น ยิ่งขึ้นไปอีก เป็นไงล่ะคะ เป็นไปตามแผนเลย”
ยูโกะหัวเราะขึ้น

“พอได้เห็นหน้าคุณเป็นแบบนี้แล้วรู้สึกดีใจจริงๆ”
“นั่นคือเป้าหมายของเธองั้นเหรอ”
“ฉันน่ะไม่มีทั้งอดีตและอนาคต ถึงจะตามหาไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ได้แค่ปล่อยให้เวลาที่เหมือนตกนรกทั้งเป็นนี้ดำเนินต่อไป”
ที่เธออยู่ตอนนี้ ดูยังไงก็เหมือนตกนรกทั้งเป็นจริงๆ และเธอก็ได้ให้ผมเห็นนรกนั้นมาแล้วจริงๆ

“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก ฉันไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นแน่”
“เอ๋?”
“ฉันก็ไม่ค่อยรู้อะไรหรอก ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เธอเองก็มีร้องขอความช่วยเหลือไม่ใช่เหรอ”
“ฉันไม่เคยพูดอะไรแบบนั้นสักหน่อย”
“ไม่ต้องเก็บซ่อนความรู้สึกของตัวเองอีกต่อไปแล้วน่ะ เพราะฉันได้เห็นมันแล้ว”
ผมหยิบกระดาษที่พับนั้นขึ้นมา

“อ๊ะ... ยังเก็บไว้อยู่อีกหรือคะ”
“เธอเป็นคนบอกเองไม่ใช่เหรอว่าอย่าทิ้ง”
ผมพับมันขึ้นมาใหม่โดยใส่คำอธิษฐานลงไป และปล่อยมันไปตามกระแสลม

“ยูโกะ เธอไม่จำเป็นต้องฝืนยิ้มหรอก”
เครื่องบินกระดาษเล็กๆนี้ ได้ถูกพัดปลิวไปตามลม จากนั้นก็ร่วงตกลงบนพื้นทราย


“จะไม่มีใครมาทำร้ายเธออีกแล้ว และเธอก็ไม่จำเป็นจะต้องทำร้ายใครอีกแล้วด้วย เธอบอกว่าฉันเข้มแข็งสินะ”
“ค่ะ”
“ถ้างั้นฉันก็จะใช้ความเข้มแข็งนั้นปกป้องเธอเอง ใช้พลังที่มีอยู่ทั้งหมดเพื่อปกป้องเธอ”
“แต่ว่า... ฉัน... ไม่เข้าใจหรือคะ ฉันเข้าหาคุณก็เพื่อจะหักหลังคุณ เพื่อสร้างความเจ็บปวดให้คุณนะคะ”
“ฉันรู้”
“ถ้ารู้แล้วทำไมถึงยังจะพูดแบบนั้นอีกล่ะคะ”
“ก็จริงอยู่่ว่าเธออาจจะเกลียดฉัน แต่ว่านะ มันก็มีบางสิ่งที่ไม่ว่าจะทำร้ายแค่ไหนก็ไม่มีวันแตกสลาย ความทรงจำที่ไม่อาจลบเลือนได้ก็มีเหมือนกัน”
“ความทรงจำที่ไม่อาจลบเลือน......”
“ยูโกะ ไปกับฉันเถอะ ที่นั่นจะไม่ใช่ขุมนรก แต่จะเป็นที่พักพิงของเธอ”
“สุดท้ายก็... เลือกฉันงั้นหรือคะ”
“ไม่ใช่จะให้เธอมาแทนใคร สำหรับฉันแล้ว ยูโกะเป็นสิ่งจำเป็น”
“ทำไมกัน...”
“เธอพอใจอย่างงั้นเหรอ...? ที่สร้างความเจ็บปวดให้กับฉันแบบนี้ เธอพอใจแล้วอย่างงั้นเหรอ”
“ถึงจะไขว่หาอะไรมากไปกว่านี้ ก็ไม่อาจสมหวังได้หรอกค่ะ”
“อย่าคิดไปเองแบบนี้สิ”
“รุ่นพี่...”
“จะเกลียดฉันยังไงก็ได้ หรือถ้าอยากจะสร้างความเจ็บปวดอะไรให้ละก็ เชิญตามสบายเลย ยังไงฉันจะให้อภัยทุกอย่าง... เพราะฉะนั้น กลับกันเถอะ ยูโกะ”
“กลับ...?”
“โลกที่ไม่มีความโศกเศร้าอะไรนั่นน่ะมันไม่มีอยู่่จริงหรอก ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นโลกแห่งความเป็นจริงที่เธอจะต้องกลับไป”
“โลกแห่งความเป็นจริง ฉันไม่รู้จักหรอกค่ะของแบบนั้น”
“จากนี้ไปเธอจะได้รู้จักมัน เพราะที่นั่นจะเป็นที่พักพิงที่แท้จริงของเธอ ยูโกะ ตอนนี้เธอรู้สึกยังไงบ้างล่ะ”
“ฉัน...”
“ถ้าเธอต้องการจะอยู่ที่นี่ละก็ ฉันก็จะอยู่ตรงนี้เคียงข้าง มาเริ่มต้นค้นหาความหวังกันเถอะ ฉันเองก็จะช่วยเธอตามหามันอีกแรง”
“ฉัน... ฉัน... คิดว่าจะไม่มีใครต้องการฉันแล้วซะอีก คิดอย่างนั้นมาโดยตลอด ฉันมีแต่ความเจ็บปวดมาโดยตลอด... แต่ว่า... พอได้อยู่กับรุ่นพี่แล้วรู้สึกสนุกมาก อยากให้เวลาที่มีความสุขนี้คงอยู่ตลอดไป ฉันไม่อาจลืมได้ แม้ว่าคุณจะปฏิเสธฉันอยู่เรื่อยมา ในใจฉันก็ยังมีคุณอยู่ตลอดเวลา มีเพียงคุณเท่านั้น”
นี่ไม่ใช่การเสแสร้ง เป็นความรู้สึกที่แท้จริงของยูโกะ ผมรู้สึกได้จากเสียงหัวใจเธอ


“ไม่ต้องคิดอะไรมากอีกแล้วล่ะ”
“ฉัน... อยู่ที่นี่ได้สินะคะ”
“ฉันอยากจะอยู่กับยูโกะ หวังว่าจะได้คอยรักษาบาดแผลให้ยูโกะ”
“ขอโทษนะคะ... ขอโทษนะคะ รุ่นพี่...”
หลังจากนั้นยุโกะก็พูดขอโทษและร้องไห้ซ้ำไปซ้ำมา แต่ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องหยุดร้องหรอก ในที่สุดแล้ว เธอก็สามารถร้องไห้ออกมาจากใจจริงได้สักที ดังนั้นผมจึงปล่อยให้เธอร้องไห้จนกว่าจะพอ
หวังว่าต่อจากนี้ไป คงจะช่วยแบ่งเบาสิ่งที่เธอแบกรับอยู่นั้นได้ไม่มากก็น้อย

................


“ที่นี่คงไม่มีใครมาอีกแล้วจนกว่าจะถึงเช้าสินะคะ”
“อื้อ คงงั้น”
“ที่นี่มีความทรงจำที่ฉันเคยพักอยู่ตลอด ๑ ปีอยู่สินะคะ”
“เราไม่ได้อาศัยอยู่ในห้องสวดกันสักหน่อย”
“ฮะๆ นั่นสินะคะ”
สุดท้ายเราก็ได้ตัดสินใจจะมาพักอยู่ที่โบสถ์กัน

“นั่นอะไรคะ รุ่นพี่ฮิมุระ”
“ขี้เถ้า”
“แค่นี้ดูก็รู้ค่ะ มีงานอดิเรกสะสมขี้เถ้าด้วยหรือคะ”
ผมหยิบมันขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจโดยไม่รู้ตัว นาฬิกาข้อมือสีแดง ของดูต่างหน้าอากาเนะ ของขวัญเพียงสิ่งเดียวที่ได้มอบให้กับน้องสาว สัญลักษณ์ที่แสดงถึงความผิดที่ปล่อยให้อากาเนะตายไป

-“ดีจังเลยนะ พี่ชาย”-
“...........!”
มีเสียงดังขึ้นมาจากที่ไหนสักแห่ง ผมรู้สึกตกใจ

“รุ่นพี่ฮิมุระ...? เป็นอะไรไปหรือคะ?”
“เปล่า ไม่มีอะไร”
ใช่แล้ว มันเป็นแค่ภาพมายา เป็นเพียงเสียงที่ดังออกมาจากจิตใจของเราเอง

“รุ่นพี่ กำลังร้องไห้อยู่หรือคะ”
“บ้าสิ ไม่ได้ร้องไห้สักหน่อย”
ใช่ ผมจะต้องไม่ร้องไห้ ต่อหน้าผู้หญิงที่จะต้องปกป้อง จะร้องไห้ไม่ได้เด็ดขาด ที่ผมต้องปกป้องตอนนี้มีแค่ยูโกะเท่านั้น

แบบนี้ดีแล้วสินะ อากาเนะ ดังนั้นคราวนี้คงจะต้องบอกลากันจริงๆสักที ฉันจะไม่ลืมเรื่องของเธอหรอก แต่ฉันจะต้องใช้ชีวิตอยู่กับยูโกะต่อไป

...ลาก่อนอากาเนะ



-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

หมวดหมู่

-- บันเทิง >> เกม >> vn

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

สารบัญ

รวมคำแปลวลีเด็ดจากญี่ปุ่น
มอดูลต่างๆ
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
การเรียนรู้ของเครื่อง
-- โครงข่าย
     ประสาทเทียม
ภาษา javascript
ภาษา mongol
ภาษาศาสตร์
maya
ความน่าจะเป็น
บันทึกในญี่ปุ่น
บันทึกในจีน
-- บันทึกในปักกิ่ง
-- บันทึกในฮ่องกง
-- บันทึกในมาเก๊า
บันทึกในไต้หวัน
บันทึกในยุโรปเหนือ
บันทึกในประเทศอื่นๆ
qiita
บทความอื่นๆ

บทความแบ่งตามหมวด



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  ค้นหาบทความ

  บทความแนะนำ

ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ

ไทย

日本語

中文