เดินเล่นริมทะเลสาบเฉียนไห่ยามเย็นปลายฤดูหนาว
เขียนเมื่อ 2012/03/04 10:57
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42
#3 มี.ค. 2012
หลังจากที่ได้ไปกินติ่มซำและเดินเที่ยวแถวๆตี้ถานและวัดลามะแล้ว https://phyblas.hinaboshi.com/20120303
เราก็นั่งรถไฟฟ้าไปลงสถานีกู่โหลวต้าเจีย (地铁鼓楼大街站) แล้วนั่งรถเมล์ต่อมาแถวๆสือช่าไห่ (什刹海) บริเวณส่วนที่ใกล้ๆกับหอกลอง (鼓楼)
สือช่าไห่นั้นเป็นชื่อเรียกรวมๆของทะเลสาบสามแห่งคือ ซีไห่ (西海) โฮ่วไห่ (后海) และเฉียนไห่ (前海) เรียงตามลำดับไล่จากเหนือไปใต้
สำหรับทะเลสาบซีไห่นั้นเคยเขียนถึงไปตอน https://phyblas.hinaboshi.com/20111126
ส่วนโฮ่วไห่นั้นยังไม่เคยได้ไป ทั้งที่เป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงมากที่สุด แค่ยังไม่มีโอกาส
สำหรับวันนี้เราได้ไปเดินเที่ยวแค่บริเวณทะเลสาบเฉียนไห่ เป็นส่วนที่เล็กที่สุดอยู่ทางใต้สุด ที่ตัดสินใจไปเดินแค่ส่วนนั้นก็เพราะว่าตอนไปถึงก็เย็นมากแล้ว มีเวลาเดินไม่มากจึงตั้งใจเก็บโฮ่วไห่ไว้เที่ยววันหลังเพราะมันใหญ่เกินไป
ย่านสือช่าไห่เป็นย่านเมืองโบราณชื่อดังของปักกิ่ง บ้านทั้งหมดแถวนี้ทำเป็นแบบโบราณ แต่ว่าแต่งให้สวยงามน่าดู และแม้ข้างนอกจะโบราณแต่ข้างในเป็นสมัยใหม่หมด (แหงล่ะ) รอบทะเลสาบเต็มไปด้วยร้านค้าและโรงแรมมากมาย
เฉียนไห่เป็นทะเลสาบส่วนที่อยู่ใต้สุดของสือช่าไห่ ต่อจากเฉียนไห่ลงไปทางใต้ก็จะเป็นทะเลสาบเป๋ย์ไห่ ซึ่งเราเคยไปเที่ยวมาแล้วเมื่อวันที่หิมะตก https://phyblas.hinaboshi.com/20111203
แผนที่คร่าวๆแสดงการเดินทางในวันนี้
หลังจากที่เราทานติ่มซำที่จินติ่งเซวียนเสร็จก็ไปเดินในแท่นบูชาปฐพี ตี้ถาน (地坛) และวัดลามะยงเหอกง (雍和宫) แล้วก็มาขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานียงเหอกงตามเส้นสีส้ม ไปลงที่สถานีกู่โหลวต้าเจีย
จากนั้นก็นั่งรถเมล์สาย 82 ตามเส้นสีน้ำเงินไปลงที่ป้ายกู่โหลว (鼓楼) หรือแปลว่าหอกลอง เราได้เห็นหอกลองด้วย แต่ไม่ได้แวะเข้าไปเที่ยวในนั้น จากหอกลองเราเดินเข้าไปเที่ยวบริเวณเฉียนไห่ทันที เส้นทางเดินตามเส้นสีม่วง
สุดท้ายก็หาอะไรทานตรงร้านที่อยู่ทางใต้สุดของเฉียนไห่ แล้วก็นั่งรถเมล์สาย 609 กลับหอ
หลังจากที่เรามาลงรถเมล์ที่บริเวณหอกลองเราก็เลี้ยวเข้าซอยเล็กที่เรียกว่าถนนยานไต้เสีย (烟袋斜街) ซึ่งเชื่อมไปยังเฉียนไห่
ร้านค้าเต็มทาง
แพนด้า~~
ร้านนี้ ตอนแรกคิดว่าหุ่นมันดูคล้ายจะเป็นไทย แต่ดูๆไปแล้วไม่ใช่ ร้านไม่มีอะไรเกี่ยวกับไทยเลย
แล้วก็เดินมาถึงทะเลสาบเฉียนไห่ ภาพแว้บแรกที่เห็นนั้นช่างสวยงามน่าประทับใจจริงๆ
ภาพถ่ายจากบนสะพานที่เชื่อมระหว่างโฮ่วไห่กับเฉียนไห่ ทะเลสาบบริเวณนี้เป็นคอคอดจนดูลักษณะคล้ายเป็นแม่น้ำ เลยสามารถสร้างสะพานเชื่อมได้
แล้วเราก็เดินเลียบริมทะเลสาบ ถ่ายภาพทิวทัศน์ยามเย็นไปเรื่อยๆ
เนื่องจากยังอยู่ในช่วงปลายฤดูหนาว ทะเลสาบบางส่วนยังเป็นน้ำแข็งอยู่
ได้เห็นเต่าถูกแช่แข็งอยู่ในทะเลสาบน้ำแข็ง ข้างๆเต่ามีบัตรอะไรไม่รู้ตกอยู่ด้วย
สามล้อสำหรับนั่งเล่นเที่ยวรอบทะเลสาบได้ แต่ค่านั่งก็แพงขูดเลือดขูดเนื้อ ต้องต่อราคา แต่ยังไงเราก็ไม่สนใจนั่งเพราะเดินเอาดีกว่าเยอะ
มองเห็นเกาะอยู่กลางน้ำด้วย คงต้องนั่งเรือถึงจะไปได้
แต่น้ำรอบๆเป็นน้ำแข็งหมดยังไงก็คงไปไม่ได้ นอกจากเดินบนน้ำแข็ง ว่าแล้วก็นึกถึงเกม harvest moon ขึ้นมาเลย เคยเล่นเมื่อนานมาแล้ว ในเกมมีเกาะอยู่กลางทะเลสาบแห่งหนึ่ง เข้าไปได้เฉพาะฤดูหนาวตอนที่น้ำกลายเป็นน้ำแข็งหมด
คิดไปโน่นเลย แต่ยังไงเขาก็ห้ามลงไปเดินเล่นบนน้ำแข็งอยู่แล้ว ทะเลสาบที่นี่
จุดขายตั๋วขึ้นเรือ แต่เวลานี้ไม่เปิดเพราะเรือแล่นไม่ได้อยู่แล้ว
เราเห็นฝรั่งเดินแถวเรียงหน้ากระดานก็ไปถ่ายเขาอีก
ร้านอะไรต่างๆตามทางมากมาย
ตรงนี้ขายขนม
ขนมสายไหม เห็นเป็นก้อนใหญ่สวยมาก
ตุ๊กตาหมีหน้าร้าน น่ารักจนอดใจถ่ายไม่ได้
ทิวทัศน์ริมฝั่งทะเลสาบที่รอบๆประดับประดาด้วยแสงไฟ สวยงามเกินคำบรรยาย
แล้วเราก็เดินมาจนถึงสุดทางใต้สุดของเฉียนไห่
หลังจากนั้นเราก็กินข้าวและนั่งรถเมล์กลับบ้าน เป็นอันจบวันที่สนุกอีกวันหนึ่งลง ตั้งแต่กลับมาจากหางโจว นี่เป็นวันที่รู้สึกว่าเที่ยวสนุกที่สุด หลังจากนี้ก็หวังว่าจะยังคงมีโอกาสได้ไปเที่ยวที่ต่างๆในปักกิ่งและนำมาเขียนเล่าในนี้อีกเรื่อยๆ
ปล. ส่วนบันทึกเที่ยวหางโจวที่ดองไว้ก็ยังคงทยอยลงอยู่เรื่อยๆเช่นกัน