φυβλαςのβλογ
บล็อกของ phyblas

#31 ส.ค. 2012

จากที่เล่ามาว่าได้ไปเที่ยวตามเส้นทางรถไฟจากกว่างโจวกลับปักกิ่งมา https://phyblas.hinaboshi.com/20120904

เราได้เดินทางผ่านเมืองอานหยาง (安阳) มณฑลเหอหนาน (河南) และได้เที่ยวที่ต่างๆมากมาย เฉพาะเมืองอานหยางก็มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้กล่าวถึงแล้ว สำหรับตอนนี้จะหยิบสถานที่ที่ไปเป็นที่สุดท้ายมากล่าวถึงก่อน ที่นั่นคือสุสานหยวนซื่อไข่ (袁世凯墓) หรือเรียกกันว่าหยวนหลิน (袁林) ซึ่งแปลง่ายๆว่าป่าหยวน ซึ่งหยวนก็หมายถึงหยวนซื่อไข่



ที่นี่เป็นที่ฝังศพของหยวนซื่อไข่ ผู้นำคนสำคัญคนหนึ่งในประวัติศาสตร์จีน เขาอาจจะไม่ได้มีชื่อเสียงมากเท่าซุนยัดเซน (孙中山) หรือเจียงไคเชก (蒋介石) ซึ่งมีความสำคัญกว่าอยู่ในประวัติศาสตร์ช่วงเดียวกัน แต่ก็น่าจะเรียกได้ว่าเป็นบุคคลหนึ่งที่กล่าวชื่อถึงก็มีคนไม่น้อยรู้จัก

ก่อนหน้านี้เราได้ไปเยี่ยมเยือนสถานที่สำคัญของซุนยัดเซนและเจียงไคเชกมาแล้ว เช่นบ้านเกิดของเจียงไคเชกที่ตำบลซีโข่ว (溪口) อำเภอเฟิ่งฮว่า (奉化) จังหวัดหนิงปัว (宁波) มณฑลเจ้อเจียง (浙江) https://phyblas.hinaboshi.com/20120323

บ้านเกิดของซุนยัดเซนที่หมู่บ้านชุยเฮิง (翠亨) ตำบลหนานหล่าง (南朗) เมืองจงซาน (中山) https://phyblas.hinaboshi.com/20120829

แต่ครั้งนี้สถานที่สำคัญของหยวนซื่อไข่ที่เราได้ไปนั้นเป็นแค่สุสาน ไม่ใช่บ้านเกิดเขา ซึ่งสุสานนั้นตั้งอยู่ที่เมืองอานหยาง บริเวณฝั่งเหนือของแม่น้ำหวน (洹河)

ซึ่งบ้านเกิดของหยวนซื่อไข่ก็อยู่ในมณฑลเหอหนานเช่นกัน อยู่ในเมืองเซี่ยงเฉิง (项城) ไม่ไกลจากอานหยางมากนัก

ตำแหน่งเมืองอานหยาง (安阳) อยู่ตอนเหนือสุดของมณฑลเหอหนาน



การไปเที่ยว ที่ต่างๆนั้นหากเราได้ศึกษาประวัติศาสตร์ไปด้วยก็จะยิ่งดูมีความหมายขึ้นมาก เพราะสถานที่ส่วนใหญ่มีความเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์ไม่มากก็น้อย



ประวัติหยวนซื่อไข่

หยวนซื่อไข่เกิดที่เมืองเซี่ยงเฉิงมณฑลเหอหนานในปี 1859 สมัยนั้นจีนถูกปกครองโดยราชวงศ์ชิง (清朝) ซึ่งเป็นชนเผ่าแมนจูปกครอง หยวนซื่อไข่เองในสมัยนั้นก็ได้เข้าเป็นทหารรับใช้ของราชวงศ์ชิงและได้ไต่เต้าขึ้นมาจนมีอำนาจมาก

ต่อมาซุนยัดเซนและพวกได้ทำการปฏิวัติซินไฮ่ (辛亥革命) ขึ้นในปี 1911 หยวนซื่อไข่ในตอนนั้นเป็นผู้นำกองทัพเป่ย์หยาง (北洋) ทหารรับใช้ราชวงศ์ชิง เขาได้ตัดสินใจทรยศต่อราชวงศ์ชิงและให้ความร่วมมือกับซุนยัดเซนในการโค่นล้มราชวงศ์ชิง

ด้วยเหตุนี้การปฏิวัติจึงประสบความสำเร็จไปด้วยดี ราชวงศ์ชิงล่มสลาย ประเทศจีนได้เปลี่ยนการปกครองเป็นสาธารณรัฐ

ด้วยผลงานของเขาในครั้งนี้ทำให้ต่อมาก็ได้ทำให้หยวนซื่อไข่กลายเป็นประธานาธิบดีคนแรกของจีนในวันที่ 10 มีนาคม 1912 ทั้งที่ในขณะนั้นมีผู้คนวิจารณ์ว่าคนที่เหมาะกับการเป็นผู้นำจริงๆควรจะเป็นซุนยัดเซนมากกว่า แต่เนื่องจากหยวนซื่อไข่เป็นผู้นำทางทหาร ใครมีปืนย่อมมีอำนาจต่อรองสูง ดังนั้นจึงขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำได้อย่างง่ายดาย

ต่อมาหยวนซื่อไข่ซึ่งได้รับอำนาจมาอยู่ในมือแล้วกลับพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้อำนาจของตนเองแข็งแกร่งขึ้น เขาพยายามกำจัดซุนยัดเซนและพรรคพวกออกไป บางคนถูกลอบสังหาร เช่นซ่งเจี้ยวเหริน (宋教仁) ผู้ก่อตั้งพรรคก๊กมินตั๋ง (国民党) ยุคแรกเริ่มซึ่งเป็นรากฐานของพรรคก๊กมินตั๋งของซุนยัดเซนที่ถูกก่อตั้งขึ้นใหม่ในภายหลัง

ส่วนซุนยัดเซนต้องลี้ภัยไปอยู่ญี่ปุ่นในปี 1913 ระหวางที่อยู่ที่นั่นเขาก็พยายามหาทางปฏิวัติหยวนซื่อไข่มาโดยตลอด แต่อำนาจของหยวนซื่อไข่นั้นแข็งแกร่งมาก

แต่แล้วในปี 1915 หยวนซื่อไข่ก็กลับพยายามรื้อฟื้นระบบกษัตริย์ขึ้นมาโดยตั้งตนเองเป็นจักรพรรดิเสียเอง การทำของเขาในครั้งนี้ได้ก่อให้เกิดกระแสต่อต้านไปทั่วประเทศ โดยมีผู้นำคนสำคัญในการต่อต้านคือไช่เอ้อ (蔡锷) ผู้นำรัฐบาลมณฑลยูนนานขณะนั้น

ผลจากการต่อต้าน ในที่สุดหยวนซื่อไข่ก็ต้องยอมละทิ้งความทะเยอทะยานที่จะเป็นกษัตริย์ลง เขายอมก้าวลงจากบรรลังในวันที่ 20 มีนาคม 1916 แต่แล้วหลังจากนั้นกลับล้มป่วยและตายลงเนื่องจากไตวาย

เขาจบชีวิตลงได้อย่างถูกจังหวะคล้ายกับหนีจากกรรมที่ตัวเองก่อไว้ได้ทันท่วงที แต่กลับทิ้งปัญหาไว้มากมายให้กับประเทศ เพราะหลังจากนั้นประเทศจีนได้เข้าสู่ยุคขุนศึกภาคเหนือ มีผู้นำหลายฝ่ายประกาศอ้างตัวเป็นผู้นำประเทศ ทำให้จีนตอนนั้นเหมือนแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ความวุ่นวายนี้ดำเนินต่อไปจนกว่าจะรวบรวมประเทศได้ก็คือในปี 1927



จากประวัติของเขา ทำให้มีนักประวัติศาสตร์ไม่น้อยถือว่าเขาเป็นทรราชย์คนหนึ่ง เคยอ่านบทความหนึ่งที่เขียนเกี่ยวกับหยวนซื่อไข่ เป็นบทความที่เขียนในลักษณะที่เขาเป็นตัวร้ายเต็มที่ มีการใส่อารมณ์เขียนด้วยความเกลียดชัง

ผลงานของเขาสมัยปฏิวัติซินไฮ่นั้นก็มาจากการทรยศ เขาไม่ได้ทำอะไรมากมายเลยแต่สุดท้ายกลับได้รับความดีความชอบไปเต็มๆ

ในความจริงแล้วก่อนหน้านั้นเขาเคยมีชื่อเสียงจากการทรยศมาครั้งหนึ่งคือในสมัยที่เป็นข้ารับใช้ของราชวงศ์ชิงอยู่ ตอนสมัยจักรพรรดิกวางซวี่ (光绪) นั้นซูสีไทเฮา (慈禧太后) มีอำนาจการปกครองสูงสุด จักรพรรดิกวางซวี่วางแผนจะปฏิวัติเพื่อล้มอำนาจของซูสีไทเฮาและคืนอำนาจให้ตัวเอง แต่หยวนซื่อไข่นำแผนนั้นไปบอกซูสีไทเฮา แผนของจักรพรรดิกวางซวี่ก็เลยล่มลงและถูกนำตัวไปขัง เหตุการณ์นั้นก็ทำให้หยวนซื่อไข่ได้รับความดีความชอบจากซูสีไทเฮาไปไม่น้อย

นั่นทำให้บางคนบอกว่าหยวนซื่อไข่ยอมทรยศได้ทุกคนเพื่อประโยชน์ของตัวเอง

ถึงอย่างนั้นก็มีผู้คนบางส่วนชื่นชมเขาว่าเป็นนักการเมืองการทหารที่ดีเหมือนกัน



หลังจากหยวนซื่อไข่ตาย ได้มีการสร้างสวนสุสานขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่ริมฝั่งแม่น้ำหวนในเมืองอานหยาง เนื่องจากเป็นความประสงค์ที่เขาได้ประกาศไว้ก่อนตาย สวนสุสานนั้นได้กลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองอานหยาง ภายในประกอบด้วยเนินฝังศพขนาดใหญ่อยู่ด้านใน และด้านหน้าก็เต็มไปด้วยอาคารที่จัดแสดงชีวประวัติและผลงานของเขา



ทิวทัศน์ริมแม่น้ำหวน



หน้าทางเข้าสุสาน มีซุ้มประตู ๕ ซุ้มตั้งอยู่เด่นสวย



ก่อนอื่นต้องซื้อบัตรเข้าชมก่อน ราคา ๓๕ หยวน แต่เรามีบัตรนักเรียนก็จ่ายครึ่งราคา เป็น ๑๘ หยวน



ซุ้มประตู เข้ามามองใกล้ๆอีกที



ด้านหน้าทางเข้าเขามีวางขายหนังสือเกี่ยวกับหยวนซื่อไข่อยู่มากมาย



ถัดมาก็เจอร้านขายของที่ระลึกด้วย



บรรยากาศในบริเวณ ดูร่มรื่นดี



ระหว่างทางเดินประกอบไปด้วยรูปปั้นรุปสัตว์ต่างๆ






มีรูปปั้นทหารด้วย



เต่าปี้ซี่ (赑屃) สัตว์ในตำนานผู้แบกแผ่นป้ายหิน



ทางเข้าต่อไปยังส่วนต่อไป



ส่วนนี้มีอาคารจัดแสดงตั้งอยู่สามหลัง



ดอกไม้สวยในบริเวณนั้น



ส่วนตรงนี้จัดแสดงข้อมุลเกี่ยวสถานที่ที่นี่




อาคารตรงกลางนี้จัดแสดงชีวประวัติของหยวนซื่อไข่ไว้



ผลงานต่างๆของเขาช่วงที่รับใช้ราชวงศ์ชิง




นี่คือไช่เอ้อ ผู้นำมณฑลยูนนานผู้ต่อต้านหยวนซื่อไข่



ลูกหลานซึ่งเป็นเชื้อสายของหยวนซื่อไข่มีมากมาย




ภาพลูกหลานของหยวนซื่อไข่ซึ่งมาเยี่ยมหลุมศพของเขาตอนปี 1997



แบบจำลองชุดที่หยวนซื่อไข่สวมในสมัยต่างๆ




จากนั้นเดินต่อไปด้านหลังจะมีประตูเปิดเล็กๆซึ่งเป็นทางเข้าสู่บริเวณส่วนเนินฝังศพ



ประตูรั้วทางเข้าด้านในอีกที



แล้วเราก็ได้เห็นเนินดินที่ฝังศพ



มันมีขนาดใหญ่โต ถูกสร้างขึ้นอย่างหรูหราจริงๆ





หมดแล้ว ที่นี่ก็มีอยู่เท่านี้ ที่จริงก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย ถ้าไม่ใช่คนที่สนใจประวัติศาสตร์สมัยใหม่ละก็ สถานที่แห่งนี้อาจจะตัดออกไปได้เลยไม่จำเป็นต้องมา สถานที่ท่องเที่ยวอื่นของเมืองอานหยางล้วนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เก่าแก่หมดเพราะอานหยางเป็นเมืองหลวงโบราณ มีแค่สุสานหยวนซื่อไข่นี้เท่านั้นที่ค่อนข้างเป็นประวัติศาสตร์สมัยใหม่ สำหรับเราแล้วสนใจประวัติศาสตร์ทั้งหมดไม่ว่ายุคไหนดังนั้นก็ยังรู้สึกคุ้มค่ากับการแวะมา

คนเราถ้าได้ทำอะไรที่มีผลต่อโลกก็จะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ให้ผู้คนได้กล่าวขานระลึกถึงกันตลอดเวลา ไม่ว่าจะทางดีจะชั่ว แต่เราอยากให้คนรุ่นหลังจดจำเราในทางที่ดีหรือไม่ดีล่ะ ก็เป็นเรื่องที่น่าคิด

-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ