ปีนเขาเฟิ่งหวงซาน จุดชมทิวทัศน์สวยงามใกล้ชายแดนเกาหลีเหนือ
เขียนเมื่อ 2014/10/05 07:34
แก้ไขล่าสุด 2022/10/17 05:58
#จันทร์ 15 ก.ย. 2014
หลังจากที่เที่ยวในเมืองตานตงจนหมดแล้ว https://phyblas.hinaboshi.com/20141003
วันต่อมาก็จะไปเที่ยวเมืองข้างๆ ซึ่งอาจถือว่าเป็นสถานที่เที่ยวของแถมที่ถือโอกาสไปเที่ยวด้วยเพราะวัตถุประสงค์ของการมาที่นี่คือการชมเกาหลีเหนือ ตอนนี้ก็ได้บรรลุไปแล้ว สำหรับที่เที่ยวต่อไปนี้จะอยู่ห่างจากชายแดนเกาหลีเหนือออกมาอีกพอสมควร ไม่ได้เกี่ยวกันโดยตรงนัก อย่างไรก็ตามทิวทัศน์ที่นี่สวยมากจนรู้สึกว่าไม่ผิดหวังเลยที่มา เยี่ยมเกินคาดทีเดียว
สถานที่ที่จะไปคือเฟิ่งหวงซาน (凤凰山) เป็นเขาซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองเฟิ่งเฉิง (凤城市) ซึ่งเป็นเมืองระดับอำเภอที่อยู่ในเขตของจังหวัดตานตง การเดินทางจากตานตงไปสามารถนั่งรถไฟไปได้สะดวก
ความจริงเป็นสถานที่ที่ไม่ได้กะจะไป ตอนแรกดูข้อมูลที่เที่ยวแล้วกลับสนใจจะไปอู่หลงซาน (五龙山) ซึ่งเป็นสถานที่เที่ยวบนเขาอีกแห่งมากกว่า แต่ได้รับคำแนะนำจากคนขับรถและนักท่องเที่ยวชาวจีนคนที่ไปนั่งเรือชมเกาหลีเหนือด้วยกันเมื่อวานเขาแนะนำว่าเฟิ่งหวงซานน่าเที่ยวกว่าอู่หลงซาน ก็เลยตัดสินใจเชื่อเขาเปลี่ยนเป็นไปเฟิ่งหวงซานแทน สุดท้ายดูเหมือนจะไม่ผิดหวังจริงๆ
เมืองเฟิ่งเฉิงที่เขาเฟิ่งหวงซานตั้งอยู่นั้นไม่ได้ติดชายแดนเหมือนอย่างเมืองตานตง แต่ก็ถือว่ายังใกล้อยู่ ในสถานที่เที่ยวก็ยังเห็นติดภาษาเกาหลีอยู่ด้วยประปราย
เราตื่นเช้ามาแล้วก็เดินออกจากโรงแรมเพื่อไปสถานีรถไฟเพื่อขึ้นรถไฟรอบเวลา 8:02
รถไฟที่เราจะขึ้นนี้เป็นรถไฟที่มีปลายทางอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ ซึ่งจะไปถึงตอนเวลา 15:44 ของวันต่อมา ใช้เวลาเดินทางถึง ๓๑ ชั่วโมงทีเดียว นานกว่าที่เราเดินทางกลับปักกิ่งอีก
แต่เราลงแค่ระหว่างทางที่สถานีเฟิ่งหวงเฉิง (凤凰城站) ในเมืองเฟิ่งเฉิง ใช้เวลาแค่ ๕๑ นาทีเท่านั้นก็ถึง
ภาพสถานี เราเดินออกมาหน้าสถานีแล้วรีบเรียกแท็กซีเพื่อไปยังเฟิ่งหวงซานซึ่งห่างจากสถานีไปประมาณ ๓ ก.ม. ค่าแท็กซีไม่แพง แค่ ๑๐ หยวนเท่านั้น
บรรยากาศในเมือง ตอนแรกคิดว่าเป็นแค่เมืองเล็กๆไม่ค่อยมีอะไรมากแต่ที่จริงใหญ่พอสมควรเหมือนกัน
ระหว่างทางผ่านทางรถไฟติดรอรถไฟใช้เวลารอพอสมควร
ถึงทางเข้าเฟิ่งหวงซาน
ค่าเข้าทั้งหมด ๘๐ หยวน แต่เรามีบัตรนักเรียนก็ลดเหลือ ๔๐ หยวน ประหยัดไปได้มาก เห็นแพงอย่างนี้แต่พอได้เห็นข้างในว่ามีอะไรบ้างแล้วก็รู้สึกว่าสมควรกับราคาแล้วล่ะ
จากทางเข้าด้านหน้าสุดไปยังจุดตรวจตั๋วต้องเดินไปสักระยะหนึ่ง ช่วงนี้จะนั่งรถไปก็ได้ ราคา ๑๐ หยวน แต่ไม่จำเป็นนักเพราะไม่ได้เดินลำบากอะไร
ค่อยๆเดินไปเรื่อยๆ
ระหว่างทางมีวัด
ถึงป้อมประตูหน้าด่านตรวจตั๋ว
ด่านตรวจตั๋ว
ผ่านด่านตรวจตั๋วเข้ามาก็เป็นทางเดินต่อ มีสระน้ำอยู่ข้างทางฃ
แล้วก็มีวัด
ที่สำหรับให้โยนเหรียญเล่นเพื่อเสี่ยงโชค เป็นอะไรที่ไปที่ไหนก็เจออยู่เรื่อยๆ
น้ำตก
หินรูปหัวใจ
ทางเดินหลักเป็นทางเดินถนนที่มีรถเดิน แต่บางส่วนก็สามารถลัดแยกไปตามทางคนเดินได้
ถึงลานกว้างส่วนกลางที่มีร้านอะไรต่างๆ
ตรงนี้มีจุดขึ้นรถกระเช้าซึ่งสามารถลัดขึ้นเขาได้ แต่ว่าไม่จำเป็นนักเพราะความสนุกของการมาปีนเขาก็คือการได้เดินไปตามเส้นทางหลักมากกว่า ถ้าขึ้นด้วยกระเช้าก็จะพลาดอะไรไปเยอะ และกระเช้าก็ไปได้ไม่ถึงยอด ยังต้องเดินต่ออีกอยู่ดี
ตรงนี้ก็มีวัดเล็กๆ
แต่พอเข้าไปก็พบว่ามันกำลังก่อสร้างอยู่เลยร้างเลย
เดินขึ้นเขาต่อไปเรื่อยๆ
มีร้านค้าอยู่ประปรายตามทาง
วัดอีกแล้ว
จากตรงนี้ไปเป็นทางเดินระเบียงริมเขาที่ทำรั้วไว้สวย
เส้นทางเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆสวยดี
ผ่านศาลเจ้าแม่กวนอิม
ตรงนี้มีทางแยกให้เดินขึ้นไปได้ เป็นทางลัดแต่เห็นแล้วค่อนข้างชันอยู่ และดูตามแผนที่แล้วถ้าเดินอ้อมไปจะเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยจึงตัดสินใจไม่ขึ้นไปตรงนี้
ทางเดินต่อจากตรงนี้เป็นทางเลียบเขาไปเรื่อยๆ สามารถชมทิวทัศน์ไปได้เรื่อยๆ
มองไปเห็นรถกระเช้าที่กำลังขึ้นไปด้วย เราขึ้นมาจากจุดเริ่มต้นได้พอสมควรแล้ว
มองเห็นเขาตรงโน้นมีศาลาอยู่ด้วย ไม่รู้ขึ้นไปตรงนั้นยังไง
ตรงนี้มองลงไปเห็นป้อมประตูหน้าด่านตรวจตั๋วที่เราเดินผ่านมาด้วย ตอนนี้เราอยู่สูงจากตรงนั้นมากแล้ว
และมองลงไปไกลเห็นตัวเมืองเฟิ่งเฉิง
เป็นแค่เมืองระดับอำเภอแต่ว่าเห็นอย่างนี้แล้วรู้สึกว่าใหญ่จริงๆ มีตึกสูงเต็มไปหมด
บ้านเล็กๆแถวชานเมือง
หมดช่วงทางเดินริมเขาก็มาเจอจุดพักที่มีร้านขายของ
ที่ตรงนี้มีขายกุญแจสำหรับเขียนคำอธิษฐานแล้วเอามาใส่ไว้
ทางเดินต่อจากนี้ไปจะเริ่มโหดแล้ว
เข้าสู่บริเวณที่เรียกว่าสันเขามังกรน้ำเงิน (苍龙岭, ชางหลงหลิ่ง) ทางเดินตรงนี้แคบและชัน แต่มีรั้วกั้นไปตลอดทางเลยไม่อันตรายนัก
จากตรงนี้ก็มีบริเวณที่มองลงไปเห็นตัวเมืองได้สวย
ขึ้นมาสูงมองลงไปเห็นทางที่เดินผ่านมา
ถึงจุดพักระหว่างทางอีกแล้ว ตรงนี้เห็นคนเล่นหมากรุกจีนค้างอยู่ด้วย
เดินต่อ ทางยังคงสูงชันและโหดต่อไปเรื่อยๆ
ถึงยอดของส่วนนี้แล้ว ที่นี่มีชื่อว่ายอดพระอรหันต์ (罗汉峰, หลัวฮั่นเฟิง, 라한봉, ราฮันบง) ในรูปนี้สลักเป็นหินด้วยอักษรจีนตัวเต็มเป็น 羅漢峰
ตรงนี้ล่ะที่มองลงไปแล้วเห็นทิวทัศน์สวยงามที่สุด
จากนั้นเดินต่อลงมาเจอจุดพักอีกแห่ง
ทางต่อไปต้องเดินขึ้นเขาอีก ยอดต่อไปชื่อว่ายอดเขานายพล (将军峰, เจียงจวินเฟิง, 장군봉, ชังกุนบง) แต่อ่านชื่อภาษาอังกฤษแล้วอย่างกับจะแปลว่า "ยอดเขาทั่วไป" เลย
ทางตรงนี้ก็โหด ที่เดินค่อนข้างแคบ
ถึงยอดแล้ว
มองลงไปจากตรงนี้เห็นสถานีรถกระเช้าด้วย เท่ากับว่าถ้าเราขึ้นมาด้วยรถกระเช้าก็ไปได้สุดแค่นั้น จะขึ้นมาถึงตรงนี้ได้ยังไงก็ต้องเดินมา
จากนั้นเราเดินลงมาหน่อยจึงมาถึงจุดขึ้นรถกระเช้า จากตรงนี้สามารถใช้รถกระเช้าเพื่อกลับลงไปด้านล่างได้ แต่การเดินทางยังไม่จบแค่นี้เพราะเรายังไม่ได้ไปยังยอดสูงสุด
ต่อไปเดินผ่านยอดเขารูปหูกระต่าย (兔耳峰, ทู่เอ่อร์เฟิง, 토이봉, โทอีบง)
เส้นทางยังคงโหดต่อไป
จุดพักจุดต่อไป
ต่อจากตรงนี้เป็นบริเวณที่เรียกว่าหลังวัวแก่ (老牛背, เหล่าหนิวเป้ย์, 노우등, โนอูดึง)
ทางค่อนข้างแคบและชัน แต่หินทำเป็นรอยไว้ให้เหยียบเลยพอเดินต่อไปได้ไม่ลำบากเกินไป
มองหันกลับไปมองทางที่ผ่านมา
ผู้ชายคนข้างหน้ากระเป๋าสีชมพูสดใสดีนะ
ต่อไปต้องเดินผ่านทางเดินที่พื้นเป็นกระจกใส ตรงนี้เก็บค่าผ่าน ๓ หยวน
เดินไปก็เสียวไป แต่ทิวทัศน์สวยดีจริงๆ
มีส่วนที่ทำยื่นออกไปกว้าง เห็นแล้วเสียวจริงๆ
เสร็จแล้วเดินไปตามทางที่ทั้งชันและแคบต่อ
ผ่านบริเวณที่เรียกว่าปากเสือ (老虎口, เหลาหูโข่ว, 노호구, โนโฮกู)
มีคนเขียนเสือเอาไว้ ไม่รู้จะเอาไว้ให้ใครกลัว
ผ่านมาแล้วต่อจากนี้ไปจุดยอดสูงสุดก็อยู่ไม่ไกลแล้ว ยอดสูงสุดมีชื่อว่ายอดม้าเทพ (神马峰, เสินหม่าเฟิง, 신마봉, ซินมาบง)
ทางเดินช่วงสุดท้าย อีกแค่นิดเดียว
ระหว่างทางเห็นวัตถุกำลังถูกส่งตามทางด้วยรอกไปยังยอด
ในที่สุดก็มาถึงยอดม้าเทพสูง ๘๓๖ เมตร ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของเขานี้แล้ว แต่สภาพบนยอดดูเลอะเทอะไปหน่อย ไม่ค่อยสวยงามนัก
หลังจากตรงนี้ทางยังมีต่อไปอีกหน่อย เราต้องเดินไปตามทางอีกสักพักเพื่อจะไปยังจุดที่ขึ้นรถสำหรับลงจากเขา เส้นทางเป็นคนละทางกับตอนขาขึ้น
กว่าจะถึงจุดนั้นก็ต้องเดินไปอีกไกลเหมือนกัน
ระหว่างทางบางส่วนเขากำลังก่อสร้างอยู่ทำให้เดินลำบากเล็กน้อย
เส้นทางเป็นทางเดินริมเขาคดเคี้ยวไปเรื่อยแบบนี้
แล้วก็มาถึงจุดที่ขึ้นรถ ค่ารถเพื่อกลับไปยังหน้าทางเข้าคือ ๔๐ หยวน การเที่ยวบนเขาก็จบลงเท่านี้ ทั้งหมดใช้เวลาไป ๕ ชั่วโมงกว่า เหนื่อยพอสมควร แต่ก็คุ้มค่าเพราะได้เห็นทิวทัศน์ที่สวย และที่จริงต้องเรียกว่าที่นี่ทำเส้นทางไว้ดีทำให้ไม่เหนื่อยลำบากเกินไป ที่สำคัญปลอดภัยในการปีน ต้องชมว่าเขาทำทางไว้ดีจริง สมแล้วที่ค่าเข้าแพงถึง ๘๐ หยวน
กลับลงมาถึงหน้าทางเข้าแล้วจากตรงนั้นสามารถขึ้นรถเมล์เพื่อกลับไปยังเมืองตานตงได้ ค่ารถ ๑๖ หยวน แพงกว่ารถไฟ แถมใช้เวลาเดินทางนานกว่าด้วย แต่ดีกว่าตรงที่ไม่ต้องกลับไปที่สถานีรถไฟแล้ว และมีจำนวนรอบเยอะกว่า
ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าก็มาถึงสถานีรถไฟตานตง จากนั้นเราอยากจะเดินห้างแต่ไม่เห็นว่าเมืองนี้จะมีห้างตรงไหนก็เลยลองเรียกแท็กซีบอกให้เขาพาไปห้างใหญ่ๆ แต่เขาก็กลับพามาที่ห้างเล็กๆที่ไม่ค่อยมีอะไร ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีห้างใหญ่จริงๆ
เราเดินจากตรงนั้นเพื่อหาร้านอาหารสำหรับมื้อเย็น แถวนั้นเห็นร้านอาหารไม่มาก มีร้านเกาหลีด้วย ตอนแรกก็คิดว่าจะเข้าร้านนี้แต่เดินไปต่ออีกหน่อยก็เจอร้านที่น่าสนใจกว่า
ร้านแซลาวี (C'est la vie) ชื่อเป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่า "นี่คือชีวิต" แต่ดูเหมือนจะเป็นร้านอาหารอิตาลีแบบเกาหลี
เมนูในร้านมีเป็นภาษาเกาหลีกำกับด้วย
เราสั่งอันที่ชื่อว่าสปาเก็ตตีปลาไหลทอด xo (xo烧鳗鱼面) อร่อยมาก
ทานเสร็จก็เดินกลับไปยังโรงแรมเพื่อเก็บสัมภาระที่ฝากเอาไว้แล้วก็ไปสถานีรถไฟเพื่อนั่งรอรถไฟกลับปักกิ่ง
เมื่อตอนเช้าไม่ได้สังเกตแต่ดูแล้วสถานีรถไฟที่นี่มีภาษาเกาหลีกำกับเยอะดี สมแล้วที่อยู่ชายแดน
คราวนี้ห้องรอรถไฟอยู่ชั้น ๒ ระหว่างรอก็ไปซื้อเสบียงสำหรับการเดินทางที่ยาวนานบนรถไฟ ต้องนั่งรถไฟยาวถึง ๑๔ ชั่วโมง ได้เวลาเหนื่อยอีกแล้ว แต่ผ่านตรงนี้ไปก็จะได้กลับปักกิ่งแล้ว
หลังจากนั่งรถไฟข้ามคืนมาพอรุ่งเช้าก็ได้เจอกับท้องฟ้าที่สวยงามตอนช่วงใกล้กลับถึงปักกิ่ง เหมือนฟ้าเป็นใจต้อนรับการกลับมาของเรา
สรุปรวมค่าใช้จ่ายเที่ยวนี้
ค่าโรงแรม ๑๗๔ / ๒ = ๘๗
ค่ารถไปกลับระหว่างเมืองกับท่าเรือ ๒๐
ค่าเรือชมเกาหลีเหนือ ๑๐๐
ค่าเงินเกาหลีเหนือ ๓๐
ค่าบะหมี่เนื้อแคลิฟอร์เนีย ๑๖
ค่าฝากกระเป๋าที่อนุสรณ์สถาน ๓
ค่ารถแท็กซีมายังสะพานขาด ๘/๒ = ๔
ค่าเข้าชมสะพานขาด ๑๐
ค่ารถแท็กซีกลับโรงแรม ๑๑/๒ = ๕.๕
ค่ารถแท็กซีไปร้านอาหาร ๕/๒ = ๒.๕
ค่าอาหารในร้านเกาหลีเหนือ ๑๓๙/๒ = ๖๙.๕
ค่ารถไฟไปเฟิ่งเฉิง ๑๑
ค่ารถแท็กซีไปเฟิ่งหวงซาน ๕/๒ = ๒.๕
ค่าผ่านประตูเฟิ่งหวงซาน ๔๐
ค่าหวางเหล่าจี๋บนเขา ๑๐
ค่าผ่านทางพื้นกระจก ๓
ค่ารถลงเขา ๔๐
ค่าชาเย็น ๔
ค่ารถกลับตานตง ๑๖
ค่าอาหารมื้อเที่ยง ๒๕
รวม ๕๐๑.๕
ไม่รวมค่าเสบียงที่ซื้อตุนไว้ทานตอนขึ้นรถไฟ และค่าใช้จ่ายจุกจิกบางอย่างที่อาจลืมไปแล้ว
จากนั้นก็รวมกับค่ารถไฟขาไปและกลับ ๑๔๑.๕ + ๑๔๑.๕ = ๒๘๓ (ไม่รวมค่าเดินทางจากที่พักไปสถานีรถไฟ)
รวมกันทั้งหมดเป็น ๗๘๔.๕ หยวน ถ้ารวมค่าอะไรที่ไม่ได้คิดอีกเล็กน้อยก็ตีเสียว่าประมาณ ๘๐๐ หยวน นี่คือค่าใช้จ่ายโดยรวมทั้งหมดของเที่ยวนี้ อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายบางส่วนเพื่อนช่วยออกให้เป็นการตอบแทนที่พาเที่ยว ดังนั้นที่เราจ่ายเองจริงๆจึงถูกกว่านั้นอีกพอสมควร
เที่ยวนี้แม้จะเหนื่อยมากแต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีอีกครั้ง เพราะมีโอกาสได้ไปเห็นเกาหลีเหนือมา รู้สึกไม่ผิดหวังเลยจริงๆ
-----------------------------------------
囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧
ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ