φυβλαςのβλογ
บล็อกของ phyblas



ถ้ำสือฮวา หินงอกหินย้อยและแสงสี
เขียนเมื่อ 2015/06/26 00:47
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42
#พฤหัส 11 มิ.ย. 2015

พูดถึงที่เที่ยวในปักกิ่งส่วนใหญ่คนจะนึกถึงสถานที่เที่ยวเชิงวัฒนธรรม มีพวกซากโบราณมากมาย แต่ปักกิ่งเองก็มีสถานที่เที่ยวทางธรรมชาติอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ธรรมชาติสร้างสรรค์สิ่งสวยงามได้มากไม่แพ้มนุษย์

ครั้งนี้เรามีโอกาสได้ไปชมสถานที่เที่ยวธรรมชาติแห่งหนึ่งในปักกิ่งซึ่งมีความงดงามไม่น้อยนั่นคือถ้ำสือฮวา (石花洞) เป็นถ้ำหินปูนซึ่งเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยดูสวยงาม

ที่นี่ถูกค้นพบตั้งแต่ปี 1446 และในปี 1987 ก็ได้เปิดเป็นสถานที่เที่ยว มีทั้งหมด ๗ ชั้นแต่ว่าที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมคือถึงชั้น ๔

ว่ากันตามตรงแล้วที่นี่ไม่ใช่ถ้ำที่มีอะไรโดดเด่นและมีชื่อเสียงเป็นพิเศษ ถ้ำแบบนี้มีอยู่มากมายหลายแห่งภายในอาณาเขตอันกว้างใหญ่ของจีน เมื่อก่อนเราก็เคยมีโอกาสได้ไปเที่ยวชมมาแล้วแห่งหนึ่งที่เมืองจินหัว ถ้ำซวางหลง (双龙洞) https://phyblas.hinaboshi.com/20120123

ถ้ำสือฮวาของที่ปักกิ่งนี้สวยกว่าและใหญ่กว่าถ้ำซวางหลงมากนัก ถึงอย่างนั้นก็ดูเหมือนจะไม่ได้เป็นที่รู้จักมากเท่าไหร่ อีกทั้งการเดินทางมาเที่ยวนั้นค่อนข้างลำบากอยู่ ดังนั้นคนที่มาปักกิ่งก็น้อยคนที่จะมาเที่ยวที่นี่

การเดินทางมาถึงนี่อาจนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีเหลียงเซียงหนานกวาน (良乡南关站) แล้วต่อรถเมล์สาย 房43 อย่างไรก็ตามรถสายนี้มีน้อย ชั่วโมงละคันเท่านั้นเอง ดังนั้นก็มีอีกวิธีคือนั่งรถไฟฟ้าลงสถานีซูจวาง (苏庄站) แล้วก็ต่อรถเมล์สาย 833 ไปลงที่ป้ายสือฮวาต้งลู่โข่ว (石花洞路口) จากนั้นยังเหลือระยะอีก ๔ กม. หารถรับจ้างต่อจากตรงนั้นไปได้ วิธีนี้ไว้ใช้ในกรณีที่ตกรถสาย 房43 แล้วไม่อยากรอนานอีกชั่วโมง สาย 833 มีจำนวนเที่ยวเยอะไม่ต้องรอนานมาก

ค่าตั๋วราคา ๗๐ หยวน หากเป็นนักเรียนนักศึกษาก็ลดเหลือ ๓๕ หยวน แต่ไม่รวมนักศึกษาปริญญาโท ดังนั้นเราก็เลยไม่ได้ลด ต้องจ่าย ๗๐ หยวนไป ค่าตั๋วค่อนข้างแพงแต่ก็รวมประกันอุบัติเหตุอยู่ในนี้แล้วด้วย



หินงอกและหินย้อยนั้นเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่พบได้ในถ้ำหินปูนที่มีทางน้ำไหลผ่าน หินปูนประกอบขึ้นจากแคลเซียมคาร์บอเนตเป็นหลัก เมื่อโดนน้ำที่มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ละลายอยู่ก็จะเกิดการกัดกร่อน แล้วน้ำก็ไหลไปตามถ้ำ เมื่อน้ำหยดตกลงจากเพดานตรงส่วนไหนในถ้ำก็จะทำให้พื้นบริเวณนั้นมีการสะสมของแคลเซียมคาร์บอเนตซึ่งแข็งตัวเป็นหินปูนใหม่อีกครั้งทำให้นูนขึ้นสูงกว่าบริเวณอื่น และยิ่งเวลาผ่านไปก็ยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นแท่ง เกิดเป็นหินงอก การที่เรียกว่าหินงอกนั้นอาจชวนให้คิดว่าหินมันงอกแทงขึ้นมาจากพื้น แต่จริงๆแล้วเกิดจากการสะสมตัวจากตะกอนด้านบน

ส่วนหินย้อยนั้นมักจะเกิดขึ้นในเวลาเดียวกับหินงอก คือบริเวณเพดานที่น้ำหยดลงมานั้นมักเกิดการสะสมตัวของแคลเซียมคาร์บอเนตซึ่งทำให้เกิดเป็นแท่งยาวงอกจากด้านบน  บางครั้งหินงอกก็งอกสูงและหินย้อยก็ย้อยลงมายาวจนในที่สุดก็บรรจบกันเกิดเป็นเสาขึ้นมา

ทั้งหินงอกและหินย้อยต้องใช้เวลานานมากในการเกิดขึ้นเพราะการสะสมของตะกอนเป็นไปอย่างช้าๆ ดังนั้นจึงเป็นทรัพยากรที่มีค่าเพราะหากถูกทำลายไปแล้วก็ไม่มีวันกลับคืนมาได้ในเร็ววัน ดังนั้นต้องอนุรักษ์ให้ดี เวลาไปเที่ยวถ้ำต้องพยายามอย่าไปแตะต้องมัน อย่าไปหักมันออกมา

หินงอก เรียกในภาษาจีนว่าสือสุ่น (石笋) โดยที่คำว่าสือ (石) แปลว่าหิน ส่วนคำว่าสุ่น (笋) หมายถึงหน่อไม้ นั่นเพราะหินงอกนั้นงอกมาจากพื้นดูแล้วคล้ายหน่อไม้ ส่วนหินย้อยเรียกว่าจงหรู่สือ (钟乳石) โดยคำว่าจง (钟) หมายถึงระฆัง ส่วนหรู่ (乳) หมายถึงนม



เราเดินทางมาเที่ยวที่นี่หลังจากที่ไปเที่ยวโบราณสถานหลิวหลีเหอ (琉璃河遗址) และต่อด้วยมัสยิดโต้วเตี้ยน (窦店清真寺) เสร็จไป https://phyblas.hinaboshi.com/20150624

นั่งรถเมล์สาย 993 กลับมายังบริเวณตัวเมือง อย่างไรก็ตามรถเมล์สายนี้ไม่ได้ผ่านสถานีเหลียวเซียงหนานกวาน แต่ก็มีจุดอื่นที่สามารถเปลี่ยนเพื่อไปขึ้น 房43 ได้คือที่ป้ายซูจวางตงเจียเป๋ย์โข่ว (苏庄东街北口) ซึ่งอยู่เลยจากสถานีรถไฟฟ้าไปหน่อย



ลงแล้วก็ข้ามฝั่งแล้วเดินไปทางตะวันตกข้ามแม่น้ำไป



รอสาย 房43 ตรงนี้



ตอนที่มาถึงเราไม่รู้เลยว่ารถสายนี้มีจำนวนน้อยแค่ไหน จึงไม่รู้ว่าต้องรอนานแค่ไหน อย่างไรก็ตามรอแค่ประมาณสิบนาทีสาย 房43 ก็มา



พอขึ้นรถมาก็ถามคนบนรถเมล์จึงรู้ว่ารถสายนี้มีแค่ประมาณชั่วโมงละคันเท่านั้น การที่เรามารอแค่ไม่นานก็ถือว่าโชคดีมาถูกจังหวะ



ระหว่างทางผ่านทางรถไฟ มีขบวนรถขนของผ่านมาพอดีเลยเจอกั้น



ลงรถเมล์มา ท้องฟ้ายังคงสวยแต่เมฆเยอะกว่าเมื่อตอนเช้า



จากจุดที่ลงรถเมล์มายังต้องเดินต่อไปอีกสักพักจึงจะถึงทางเข้าถ้ำ ตรงนี้มีรถรับจ้างมารอหาลูกค้าอยู่แล้ว เขาคิด ๑๐ หยวนในการพาไปถึงปากถ้ำ ระยะทางนั้นแม้จะไม่ไกลแต่ว่าเป็นทางลาดขึ้นเขา หากต้องปีนก็คงเหนื่อยแทบแย่ดังนั้นใช้บริการรถนี้เพื่อประหยัดแรงไว้น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี ขากลับค่อยเดินลงเอง



รถมาส่งถึงตรงนี้



แล้วก็ยังต้องเดินต่อไปอีกหน่อย





จึงจะถึงที่ขายตั๋ว



ที่ตรวจตั๋วตรงทางเข้า



ผ่านเข้ามาก็เจอปากทางเข้าถ้ำ



ลุย



ภายในมีทางเดินที่เขาทำไว้ให้ตายตัวอยู่แล้ว ไม่ต้องกลัวหลง



บางจุดมีประดับไฟแสงสีสวยงาม ทำให้ดูสวยงามว่าสภาพที่เป็นจริงตามธรรมชาติ ในแง่ศิลปะแล้วก็อาจจะไม่เลว แต่ถ้าใครชอบแบบธรรมชาติมากกว่าอาจไม่ค่อยชอบก็เป็นได้




ลึกเข้าไปเรื่อยๆ




มีแอ่งน้ำอยู่ประปราย



ตรงนี้ค่อนข้างสวยเขาจึงทำเป็นจุดถ่ายรูป สามารถเข้าไปยืนที่เกาะกลางน้ำเพื่อถ่ายภาพได้ มีคนรับจ้างถ่ายรูปอยู่ แต่เขาจะคิดเงิน



เดินต่อเข้าไปอีก







ทางเดินมุดลงไปยังชั้นล่าง





ตรงนี้มีทางแยก ถ้าเลี้ยวขวาก็จะเดินลึกเข้าไปยังชั้น ๓ และ ๔ ถ้าเลี้ยวซ้ายก็จะเป็นทางกลับขึ้นไปด้านบนเป็นทางออก



หากเดินลึกเข้าไปต่อก็เป็นถ้ำคล้ายๆชั้น ๑ และ ๒ ที่เดินผ่านมา พอเดินถึงสุดก็ต้องย้อนกลับมาที่นี่ใหม่เพื่อไปยังทางออก คนที่ไม่ไหวแล้วอยากออกก็ให้เลี้ยวซ้ายตรงนี้ได้เลย อย่างไรก็ตามในเมื่ออุตส่าห์มาแล้วก็ควรเดินให้ทั่วเราจึงเดินต่อไป



ในนี้มีไหดองเหล้า



เดินลึกลงไปเรื่อยๆ







บางส่วนในนี้เป็นทางเดินที่ล้อมไปด้วยผนัง ไม่สามารถแตะต้องอะไรในถ้ำได้เลย



พอเดินเข้าไปจนสุดก็กลับออกมาตรงทางออก ระห่างทางก็เจอห้องโถงที่มีร้านขายของที่ระลึก



มีขายเหล้าที่ดองในถ้ำ



ทางเดินขึ้นไปสู่ทางออก



ออกมาด้านนอกแล้วก็เดินเพื่อย้อนกลับไปยังจุดที่ขึ้นรถเมล์




ระหว่างทางเป็นทางลาดลงจึงวิ่งไถลลงไปเรื่อยๆ



แล้วก็มาถึงจุดที่ลงรถเมล์มาตอนแรก



เห็นรถเมล์สาย 房43 จอดอยู่ แต่ไม่รู้ว่าจะออกเมื่อไหร่ก็เลยลองถามคนแถวนั้นดูก็พบว่ารถเมล์เพิ่งออกไปตอน 15:10 และจะออกอีกทีตอน 16:30 เวลานั้นรถรอบ 15:10 เพิ่งออกไป เท่ากับว่าจะต้องรออีกมากกว่าหนึ่งชั่วโมงถ้าอยากจะนั่งรถเมล์นี้กลับ ซึ่งเราก็คงรอนานขนาดนั้นไม่ไหว



ตรงจุดนี้มีทางเลือกอยู่ก็คือออกไปยังจุดที่มีรถเมล์สาย 833 ซึ่งต้องเดินไปอีกไกลมากกว่า ๒ กม. ซึ่งมันไกลมากจนไม่น่าจะเดินไป พอถามรถรับจ้างเขาก็บอกว่าสามารถไปส่งถึงตรงนั้นได้คิด ๒๐ หยวน เราก็เลยคิดว่าเดินไปก็ได้ ไม่เป็นไรเวลายังพอมี ถือว่าออกกำลังกาย



เดินๆวิ่งๆแล้วชมท้องฟ้าไปพลางๆ




หนทางยาวไกล



ถึงป้ายรถเมล์ที่มีสาย 833 แล้ว นอกจากนี้ยังมีสายอื่นอีกหลายสายแต่เป็นสายที่ไม่ได้พากลับตัวเมืองและยังมีจำนวนเที่ยวน้อยด้วย มีแต่สาย 833 ที่มีจำนวนเที่ยวค่อนข้างเยอะและพากลับตัวเมือง



ตรงบริเวณนี้มี ป้ายหน้าทางเข้าเขียนชื่อสถานที่ถ้ำสือฮวา เราเดินออกจากตรงนี้มา อย่างไรก็ตามระยะทางจากตรงนี้ไปถึงถ้ำสือฮวานั้นก็ยังไกลอีกตั้งประมาณ ๔ กม. ระยะทางตรงนี้ไม่น่าเชื่อว่าเราเดินมาเรื่อยๆจนมาถึงได้ด้วยเท้าโดยไม่นั่งรถ คิดแล้วก็เหนื่อย ตอนแรกไม่คาดคิดว่าจะไกลขนาดนี้เลย โดยรวมแล้วขนาดเดินแบบรีบๆก็ยังต้องใช้เวลาครึ่งชั่วโมงกว่า



ตอนที่เรามาถึงป้ายรถเมล์ก็มีคนขับรถรับจ้างดักรออยู่ตรงนี้เข้ามาถามว่าจะไปไหนให้เขาไปส่งมั้ย เขาพยายามพูดเกลี้ยกล่อมให้จ้างเขาขับพาเข้าเมือง เขาคิด ๖๐ หยวน พอปฏิเสธไปเขาก็พยายามตื๊อต่อโดยใช้วิธีพูดหว่านล้อมต่างๆ เช่นบอกว่านั่งรถเมล์ใช้เวลาเป็นชั่วโมงกว่าจะถึง แต่เขาไปส่งแค่ ๒๐ นาทีก็ถึงแล้ว ซึ่งคำพูดนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าโม้เพราะจริงๆใช้เวลาแค่ ๔๐ นาทีเท่านั้น


พอเห็นท่าทางเราไม่ยอมง่ายๆเขาก็ลองลดราคาเหลือ ๕๕ หยวน ซึ่งมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรอยู่ดี เราบอกเขาว่าอุตส่าห์เดินมาตั้งไกลหลายกิโลเพื่อมาขึ้นรถเมล์ ถ้าเราคิดจะจ้างรถจริงๆคงจ้างตั้งแต่แรกแล้ว ไม่อุตส่าห์เดินมา สุดท้ายเขาก็ดูท่าจะตัดใจ แต่ก็ยังชวนคุยอะไรไปเรื่อยต่อ

สุดท้ายรถเมล์ก็มา



ฟ้าสวยๆภาพสุดท้ายระหว่างทางก่อนกลับเมฆเยอะขึ้นจนฟ้าเริ่มครึ้ม แต่ฝนก็ยังไม่ตก



รถเมล์สาย 833 พาเรากลับไปส่งถึงรถไฟฟ้าสถานีซูจวาง ขณะนั้นเกือบห้าโมงเย็นแล้ว จากนั้นก็นั่งรถไฟฟ้าเพื่อกลับ กว่าจะกลับถึงก็ค่ำ ถือเป็นวันหนึ่งที่เที่ยวยาวที่สุดในช่วงนี้เลย ใช้เวลาหมดไปทั้งวันแต่ว่าก็คุ้มค่าเป็นวันที่สนุกมากมาย



สุดท้ายแล้วฝนก็ไม่ตกลงมาเลยตลอดวัน



-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

หมวดหมู่

-- ประเทศจีน >> จีนแผ่นดินใหญ่ >> ปักกิ่ง

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

สารบัญ

รวมคำแปลวลีเด็ดจากญี่ปุ่น
มอดูลต่างๆ
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
การเรียนรู้ของเครื่อง
-- โครงข่าย
     ประสาทเทียม
ภาษา javascript
ภาษา mongol
ภาษาศาสตร์
maya
ความน่าจะเป็น
บันทึกในญี่ปุ่น
บันทึกในจีน
-- บันทึกในปักกิ่ง
-- บันทึกในฮ่องกง
-- บันทึกในมาเก๊า
บันทึกในไต้หวัน
บันทึกในยุโรปเหนือ
บันทึกในประเทศอื่นๆ
qiita
บทความอื่นๆ

บทความแบ่งตามหมวด



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  ค้นหาบทความ

  บทความแนะนำ

ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ

บทความแต่ละเดือน

2024年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

2023年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

2022年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

2021年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

2020年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

ค้นบทความเก่ากว่านั้น

ไทย

日本語

中文