วัดเป๋ย์ก่างเฉาเทียนกง
เขียนเมื่อ 2017/08/13 15:19
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42
# จันทร์ 10 ก.ค. 2017หลังจากที่ได้เหนื่อยจากการเที่ยวพิพิธภัณฑ์กันมาทั้งวันแล้ว https://phyblas.hinaboshi.com/20170811วันต่อมาคือวันสุดท้่ายของการเที่ยวแล้ว แผนเที่ยววันนี้สบายๆ เราตื่นมาสายๆ ๘ โมง เนื่องจากเป้าหมายมีแค่ที่เดียวคือวัดเป๋ย์ก่างเฉาเทียนกง (北港朝天宮, 北港朝天宫) วัดโบราณเก่าแก่แห่งหนึ่งเป๋ย์ก่างเฉาเทียนคงเป็นวัดที่ตั้งอยู่ในตำบลเป๋ย์ก่าง (北港鎮, 北港镇) ซึ่งอยู่ในพื้นที่จังหวัดหยวินหลิน (雲林, 云林) ซึ่งอยู่ทางเหนือของเจียอี้วัดนี้เป็นวัดแบบไต้หวัน บูชาเจ้าแม่มาจู่ (媽祖, 妈祖)เป๋ย์ก่างมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน โดยย้อนไปถึงปี 1621 ซึ่งเป็นสมัยปลายยุคราชวงศ์หมิง ชาวจีนจากมณฑลฮกเกี้ยน (ฝูเจี้ยน) ได้ย้ายมาตั้งรกรากยังบริเวณแถวนี้โดยการนำของหยานซือฉี (顏思齊, 颜思齐, 1589-1625)ยุคแรกๆที่นี่ถูกเรียกว่าเปิ้นก่าง (笨港) โดยมีในบันทึกของชาวฮอลันดาที่เขียนชื่อของที่นี่ไว้ว่า Ponkanบริเวณที่เรียกว่าเปิ้นก่างนั้นยังรวมถึงพื้นที่ของตำบลข้างเคียงคือตำบลซินก่าง (新港) ด้วย ตำบลนี้อยู่ในพื้นที่จังหวัดเจียอี้เป๋ย์ก่างกับซินก่างถูกคั่นกันด้วยแม่น้ำเป๋ย์ก่างซี (北港溪) แม่น้ำนี้ยังเป็นพรมแดนธรรมชาติที่กั้นจังหวัดหยวินหลินกับจังหวัดเจียอี้ด้วยวัดเป๋ย์ก่างเฉาเทียนกงถูกสร้างขึ้นในปี 1694 ซึ่งเป็นสมัยของจักรพรรดิคางซี ต้นยุคราชวงศ์ชิง ในตอนแรกชื่อว่าเปิ้นก่างเทียนเฟย์กง (笨港天妃廟, 笨港天妃庙) แล้วเปลี่ยนชื่อตอนหลังวัดนี้มีเพลงแล้วทำเป็น MV ด้วย เป็นภาษาจีนฮกเกี้ยนไต้หวัน ชื่อ 北港媽祖最疼我เพลงเพราะดี ดูได้ในยูทูบ https://www.youtube.com/watch?v=F7Mo-DcDqkk
มีแปลเอาไว้ในหน้านี้ https://phyblas.hinaboshi.com/20170827แม้ว่าจะตั้งอยู่ในจังหวัดหยวินหลิน แต่เป๋ย์ก่างก็สะดวกที่จะไปจากทางเมืองเจียอี้ โดยมีรถเมล์ไป ใช้เวลาประมาณ ๑ ชั่วโมงในการเดินทาง ความถี่ในการออกคือประมาณชั่วโมงละ ๒ คันเช้าวันนี้เริ่มต้นด้วยการมาทานอาหารเช้าอย่างสบายๆ โรงอาหารของโรงแรมที่เราอยู่นี้อยู่ที่ชั้น ๖ ที่จริง ๒ วันที่ผ่านมาก็มีขึ้นมาทาน แต่มาแบบรีบๆไม่ได้ถ่ายรูปอะไรไว้ แต่เช้าวันนี้มีเวลาสบายๆจึงถ่ายสักหน่อย
ทานเสร็จก็ยังนั่งปั่นงานต่อไปสักพักจนถึงราวๆ 11 โมง จากนั้นก็ออกจากโรงแรมมาถึงที่หน้าสถานีรถไฟมาถึงก็พบว่ารถที่จะไปสามารถนั่งสาย 7201 หรือ 7202 ก็ได้ก็จริง แต่สาย 7201 จะไม่ผ่านสถานีรถไฟและรอบสาย 7201 รอบต่อไปจะออกตอน 11:50 แต่ที่เร็วหน่อยคือ 7202 ที่ออกตอน 11:20 แต่ก็พลาดเพราะที่สถานีรถไฟไม่ผ่านหลังจากถามคนแถวนั้นจนได้ความแล้วเราจึงตัดสินใจเดินไปที่ท่ารถเพื่อขึ้นสาย 7202 แต่เนื่องจากหลงเดินไปผิดทาง กว่าจะเดินไปถึงก็เลยเวลาไปแล้ว สุดท้ายจึงต้องรอนั่ง 7201 รอบ 11:50 อยู่ดีแต่เราก็เดินมาจนถึงท่ารถและนี่คือตารางเวลาของรถที่จะไปเป๋ย์ก่างแล้วพอถึงเวลารถก็ออกระหว่างทางผ่านบริเวณที่ดูแล้วค่อนข้างเป็นธรรมชาติร่มรื่น แต่ก็มีหมู่บ้านชนบทอยู่ตามทางประปรายรถเมล์วิ่งผ่านตำบลซินก่าง ซึ่งที่นั่นก็มีวัดเก่าแก่ที่มีชื่ออยู่เหมือนกัน ชื่อวัดซินก่างเฟิ่งเทียนกง (新港奉天宮, 新港奉天宫) แต่เราไม่ได้แวะเที่ยวที่นี่ด้วย จึงได้แต่ถ่ายรูปขณะที่รถวิ่งผ่านแล้วก็มาถึงเป๋ย์ก่างลงรถเมล์มาแล้วก็เดินอีกนิดก็เห็นตัววัดแล้ว ไกลๆข้างบนยังเห็นรูปสลักหินของมาจู่ด้วย รูปสลักนั้นไม่ได้อยู่ในตัววัดแต่อยู่บนตึกด้านหลังตัววัด ซึ่งจะแวะไปตอนหลัง
แผนที่ท่องเที่ยวเมืองนี้ก่อนอื่นเราเดินมาจนถึงหน้าตัววัดแล้ว แต่ตัดสินใจว่าจะยังไม่เข้าไป แต่เดินในบริเวณก่อนสถานที่เที่ยวที่นี่นอกจากตัววัดแล้วถนนหน้าวัดก็เป็นย่านเก่าแก่ที่คับคั่ง ปัจจุบันทำเป็นลักษณะแหล่งท่องเที่ยวเต็มที่ระหว่างทางถนนสายนี้เต็มไปด้วยร้านค้า มีของขายมากมายรวมทั้ง 7-11 ก็มีแล้วก็ร้านที่มีเกมคีบตุ๊กตาเดินไปเรื่อยๆจนสุดท้ายจะเจอสะพานสะพานนี้ชื่อว่าเป่ย์ก่างกวานกวางต้าเฉียว (北港觀光大橋, 北港观光大桥) สร้างไว้เป็นจุดชมทิวทัศน์ริมแม่น้ำ แต่รูปร่างของสะพานกลับดูไม่ค่อยเข้ากับบรรยากาศย่านโบราณแบบนี้เท่าที่ควรทิวทัศน์จากบนสะพาน
ฝั่งตรงข้ามสะพานก็คือฝั่งจังหวัดเจียอี้ซึ่งเราข้ามมา ตรงนั้นก็มีบ้านเมือง แล้วก็มีวัดเล็กๆให้เข้าชมได้ แต่ก็ไม่ได้สำคัญ เราจึงไม่ได้เดินข้ามไปต่อ แต่เดินไปได้ครึ่งสะพานแล้วก็เดินกลับแผนที่ท่องเที่ยวที่ติดอยู่บนสะพานมองกลับมาที่ฝั่งเป่ย์ก่างโดยย้อนผ่านสะพานค่อยๆเดินย้อนกลับมาเดินตามถนนสายเดิมเพื่อกลับไปยังวัด ระหว่างทางเดินย้อนกลับลองสังเกตดูแต่ละร้านละเอียดมากขึ้น ก็พบว่าบางแห่งเปิดให้เข้าชมได้รูปปั้นคุณลุงแว่นที่เห็นอยู่นี้คือเป้าหมาไจ่ (報馬仔, 報马仔) เป็นคนที่คอยทำหน้าที่เบิกทางเวลาเดินขบวนในพิธีทางศาสนาพุทธแบบไต้หวัน มักจะแต่งตัวประมาณนี้ ปกติขบวนเดินพิธีจะประกอบไปด้วยคนที่ทำหน้าที่ต่างๆมากมาย แต่คนที่อยู่หน้าสุดก็คือเป้าหมาไจ่ จึงมีบทบาทเด่นอาคารนี้เป็นโรงละครเจิ้นซิง (振興戲院, 振兴戏院) เป็นโรงละครเก่าแก่ แต่ปิดตัวไปตั้งแต่ปี 1970 ปัจจุบันเปิดไว้เป็นพิพิธภัณฑ์ให้คนเข้าชมได้ที่นี่มีชั้น ๒ ด้วย แต่ไม่ได้ขึ้นไป แค่ดูในนี้แบบผ่านๆชั้นหนังสือตรงนี้เป็นของมูลนิธิฉือจี้ (慈濟基金會, 慈济基金会) เป็นองค์กรทางพุทธศาสนาของไต้หวันที่นี่ยังเป็นร้านขนมไปด้วยในขณะเดียวกันไท่หยางปิ่ง ของฝากขึ้นชื่อของเมืองไถจงก็ยังมีขายที่นี่ด้วยจากนั้นเห็นว่าเหลือเวลาแล้วอาหารที่นี่ก็ถูกๆทั้งนั้นก็เลยเดินหาร้านอาหารเพื่อจะนั่งกินแล้วก็เลือกร้านนี้ ดูดีหน่อย แต่หายังไงก็ไม่เจอชื่อร้าน เหมือนจะไม่มีชื่อเข้ามานั่งข้างในเปิดแอร์อยู่ด้วยอาหารที่นี่ แต่ละอย่างราคาถูกกว่าในเมืองที่สั่งทานไปก็คือ เซียเหรินเกิงเมี่ยน (蝦仁庚麵, 虾仁庚面) ๖๐ หยวนเสร็จแล้วก็กลับมาที่วัดเพื่อเข้าไปชมด้านในชมภายในวัดหลังคาและเพดานสวยงามโดดเด่นชมในวัดเสร็จแล้ว แต่ยังเหลืออีกที่ให้เข้าไปชม ก็คือสวนที่มีรูปสลักมาจู่ขนาดใหญ่ทางด้านหลังวัดเรามาถึงหน้าตึกแต่ไม่แน่ใจว่าไปยังไงเลยถามคนแถวนั้น ตอนนั้นเห็นคนแก่คนหนึ่งยืนอยู่หน้าตึกเลยถามเขา แต่เขาตอบกลับมาเป็นภาษาไต้หวัน (ฮกเกี้ยน) ไม่ใช่จีนกลาง ยังดีที่เป็นคำที่พอฟังออกคำที่เขาพูดคือ "คี่เหล่าติ้ง" 去樓頂 ซึ่งใช้คำเดียวกับสำเนียงแต้จิ๋วเลย ดังนั้นเราจึงฟังออก ถ้าเป็นแต้จิ๋วจะเป็น "คื้อเหล่าเต้ง" จะเห็นว่าคล้ายความหมายก็คือ "ไปชั้นบน" แล้วก็ชี้ไปที่ทางเข้าตึก ดังนั้นจึงรู้ได้ว่าจะขึ้นไปยังไงคนแก่ในไต้หวันบางคนจะพูดจีนกลางไม่ค่อยได้ ยิ่งชนบทยิ่งมีแนวโน้ม ดังนั้นรู้ภาษาไต้หวันไว้บ้างก็อาจพอใช้ประโยชน์ได้เวลาที่ไปตามบ้านนอกตึกนี้เป็นตึกที่ดาดฟ้าถูกทำเป็นสวน ส่วนรูปสลักมาจู่ก็อยู่ตรงกลางสวนนี้เองที่ฐานมีการแกะสลักสวยงามจริงๆแล้วข้างใต้เป็นห้อง เข้าไปได้ แต่ก็ไม่มีอะไรเดินดูในบริเวณสวนมีพระแบบไทยอยู่ด้วยจากข้างบนมองลงไปเห็นวัดจากมุมสูงมองดูบริเวณรอบๆเสร็จแล้วก็กลับลงมาจากนั้นก็เดินกลับไปที่ป้ายรถเมล์เพื่อกลับตอนที่กลับไปถึงยังเหลือเวลาอีกหน่อยรถเมล์จึงมา ดังนั้นเลยไปเดินดูรอบๆ ก็เจออนุสาวรีย์ที่ระลึกหยานซือจี้ คนจีนฮกเกี้ยนจากจางโจวซึ่งนำชาวจีนเดินทางข้ามมาสร้างชุมชนที่นี่ ถือเป็นผู้บุกเบิกที่สำคัญจากนั้นเดินกลับมาที่ป้ายรถเมล์ ก็เห็นร้านหนังสือเลยแวะเข้าไปดูสักหน่อยจากนั้นก็กลับมารอรถเมล์จนมาก็นั่งกลับเจียอี้พอกลับถึงเจียอี้ก็ไปนั่งพักที่โรงแรมจนถึงตอนเย็น กินข้าวเสร็จก็ไปสถานีรถไฟเพื่อเดินทางไปเถาหยวนเพื่อไปขึ้นสนามบินกลับขากลับเราไม่มีความจำเป็นต้องรีบอะไรแล้ว จึงนั่งรถไฟธรรมดา ซึ่งจะต้องใช้เวลา ๓ ชั่วโมงรถไฟออกจากเจียอี้ 18:51 ไปถึงสถานีเถาหยวนตอน 22:04พอถึงแล้วก็ไปขึ้นรถเมล์จากหน้าสถานีไปยังสนามบิน ค้างคืนที่สนามบิน แล้วก็บินกลับไทยอ้างอิงhttp://www.matsu.org.tw/index2.aspxhttp://blog.xuite.net/mr.coffee/diary/49876595-囧https://5imazu.com/team.html
-----------------------------------------
囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧
ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ