# เสาร์ 8 เม.ย. 2023วันนี้สุดสัปดาห์ก็ออกไปหาที่เทียวชมดอกซากุระที่กำลังบานอยู่อีก โดยช่วงนี้ภายในจังหวัดมิยางิกำลังบานสวย จึงเที่ยวภายในจังหวัดนี้ ไม่ได้ไปไหนไกล
ที่วางแผนไปคราวนี้มีหลายที่ เริ่มจากเที่ยว
เมืองริฟุ (利府町) ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆที่อยู่ติดกับเมืองเซนไดทางเหนือ สามารถเดินทางไปด้วยรถไฟได้ง่าย
แผนที่แสดงตำแหน่งเมืองริฟุภายในจังหวัดมิยางิ แสดงเป็นสีเหลืองเข้มอยู่ตรงกลางในแผนที่ ทางเหนือของสีม่วง (เมืองเซนได)


เมืองริฟุมีสายรถไฟเป็นของตัวเอง คือ
สายริฟุ (利府線) ซึ่งเป็นสายที่แตกจาก
สายหลักโทวโฮกุ (東北本線) โดยแยกที่
สถานีอิวากิริ (岩切駅) และมีอยู่แค่ ๒ สถานีคือ
สถานีชินริฟุ (新利府駅) และ
สถานีริฟุ (利府駅)สายริฟุนั้นเชื่อมต่อโดยตรงจากเซนได โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ ๑๕ นาที เที่ยวรถมีประมาณครึ่งชั่วโมงต่อขบวน
เป้าหมายหลักในการไปเที่ยวริฟุคราวนี้คือ
สวนสาธารณะทาเตยามะ (館山公園) ซึ่งอยู่บนเขากลางเมืองริฟุ เป็นบริเวณที่เคยเป็นที่ตั้งของ
ปราสาทริฟุ (利府城) ซึ่งเป็นปราสาทโบราณของญี่ปุ่นอีกแห่งที่มีประวัติศาสตร์
ปราสาทริฟุนั้นเชื่อว่าถูกสร้างมาตั้งแต่สมัยคามากุระ โดยเป็นของตระกูลมุราโอกะ (
村岡) แต่ว่าตระกูลมุราโอกะมีปัญหากับตระกูลรุสึ (
留守) แล้วก็พ่ายแพ้แล้วปราสาทก็ตกเป็นของตระกูลรุสึตั้งแต่ปี 1570 แต่ว่าในช่วงปลายยุคเซงโงกุ รุสึ มาซากาเงะ (
留守 政景) ผู้นำของตระกูลขณะนั้นไม่ให้ความร่วมมือกับโทโยโตมิ ฮิเดโยชิในศึกที่ปราสาทโอดาวาระ ก็เลยถูกยึดเขตแดน แล้วปราสาทริฟุก็ถูกทิ้งร้างตั้งแต่ปี 1590
แม้ว่าปัจจุบันไม่เหลือตัวปราสาทอยู่แล้ว แต่ก็กลายมาเป็นสวนสาธารณะบนเขา โดยมีซากุระอยู่มาก พอถึงฤดูใบไม้ผลิก็บานเป็นสีชมพูสวยงาม
ตอนเช้าเรามาขึ้นรถไฟที่สถานีเซนได รถไฟออก 8:05 และถึงริฟุเวลา 8:21 ค่าโดยสาร ๒๔๐ เยน

ขบวนรถไฟที่ไปริฟุนั้นขึ้นที่ชานชลาหมายเลข ๑

ระหว่างทางผ่านสถานีอิวากิริซึ่งเป็นทางแยก เดี๋ยวเราก็จะย้อนกลับมาลงที่สถานีนี้อีกทีในตอนหลัง แต่ว่าตอนนี้ผ่านไปก่อน จากตรงนี้ไปจะเข้าสู้สายริฟุแล้ว

ถัดมาเป็นสถานีชินริฟุ

จากนั้นจึงมาจอดที่สถานีริฟุ

เดินแตะบัตรออกจากสถานี

ภาพถ่ายด้านหน้าสถานี

อนุสาวรีย์หน้าสถานี

จากหน้าสถานีมองไปไกลๆก็เห็นผู้เขาที่เป็นที่ตั้งของสวนสาธารณะทาเตยามะ เห็นที่ยอดเป็นสีชมพูของซากุระ

ระหว่างทางผ่านวัดโจวริว (
長龍寺) เป็นวัดเล็กๆในนิกายสุขาวดี

จากนั้นต้องข้ามถนนใหญ่สายเซนไดมัตสึชิมะ (
仙台松島線)

ริมถนนมีสุสานอยู่

การข้ามถนนใหญ่ต้องข้ามด้วยสะพานลอย

ทิวทัศน์จากบนสะพานลอย

เมื่อข้ามมาก็เจอโรงเรียนประถมริฟุ (
利府小学校) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ทางเข้าสวนสาธารณะทาเตยามะ

ที่หน้าโรงเรียนมีป้ายที่เขียนอธิบายเกี่ยวปราสาทริฟุด้วย

ที่จริงแล้วทางขึ้นไปยังปราสาทก็อยู่ตรงซอยหลังโรงเรียนนี้เอง ถ้าเดินต่อไปก็ถึงได้ง่าย แต่เราดูแผนที่ใน google แล้วเส้นทางแนะนำให้ไปเข้าทางอื่นที่อ้อมไปหน่อย ก็เลยไม่ได้ขึ้นจากตรงนี้ แต่เดินไปทางตะวันตกต่อนิดหน่อย

ระหว่างทางเห็นมีทางปีนขึ้นเขา ดูแล้วเป็นศาลเจ้าเล็กๆ เราเลยลองขึ้นไปดู เผื่อว่าอาจมีทางเชื่อมต่อขึ้นไปยังตัวปราสาทได้

แต่ขึ้นมาแล้วก็เห็นมีแค่ศาลเจ้าเล็กๆ แล้วก็ไม่มีทางเชื่อมไปไหนต่อ เลยปีนบันไดขึ้นมาเหนื่อยเปล่า

จากนั้นก็ต้องเดินกลับลงไป

แล้วก็เดินต่อมาตามทางถนน

ระหว่างทางตรงนี้เห็นมีป้ายที่เขียนบอกว่าแถวนี้เป็นบริเวณที่ขุดพบซากเครื่องมือสมัยโบราณ แต่ก็ไม่ได้หลงเหลืออะไรให้ดู

ส่วนตรงนี้เป็นสุสาน ริฟุทาเตยามะเรย์เอง (
利府たてやま
霊園)

ตรงข้ามสุสานนี้เองมีทางให้เดินขึ้นไปยังสวนสาธารณะได้

เดินเข้ามาผ่านเส้นทางนี้ ปีนขึ้นไปเรื่อยๆ

แล้วก็ขึ้นมาถึงบริเวณที่เต็มไปด้วยซากุระ

จากตรงนี้ยังต้องเดินขึ้นไปอีกหน่อยจึงจะถึงส่วนยอดที่เป็นที่ตั้งปราสาท

แล้วก็ขึ้นมาถึงส่วนด้านบน บริเวณนี้มีซากุระอยู่เยอะที่สุด

นอกจากซากุระแล้ว ก็ยังมีป้ายที่เขียนอธิบายว่าบริเวณนี้เคยเป็นปราสาทริฟุ แต่ก็ไม่ได้เหลือซากอะไรที่ให้สังเกตเห็นได้

ที่นี่อยู่บนเขา จึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ด้านล่างได้ แต่ว่าช่วงนี้ซากุระบานเต็มบดบังทำให้มองไม่ค่อยเห็นอะไร

ชมด้านบนนี้เสร็จก็เดินกลับลงมาอีกทาง

ทางที่ลงมานี้ก็คือด้านหลังโรงเรียนประถม ซึ่งตอนแรกผ่านมาแล้วนั่นเอง ขาขึ้นไม่ได้มาทางนี้ แต่ใช้ตอนขาลงแทน

การเที่ยวชมซากุระที่ปราสาทจบลงแค่นี้ แต่ว่าเป้าหมายการเที่ยวในเมืองนี้ยังไม่ได้หมดแค่นี้ เราเดินไปยังเป้าหมายต่อไป นั่นคือหาฝาท่อโปเกมอนประจำเมืองนี้ ซึ่งตั้งอยู่ตรงหน้า
ที่ว่าการเมืองริฟุ (利府町役場)ระหว่างทางเดินไป

แล้วก็มาถึงหน้าอาคารที่ว่าการ

ก่อนที่จะเจอฝาท่อโปเกมอนอันเป็นเป้าหมาย เราได้เจอฝาท่อรูปชิงกันเซง

ที่จริงแล้วเมืองริฟุนี้แม้ว่าจะไม่มีสถานีที่ชิงกันเซงจอด แต่ก็มีทางชิงกันเซงผ่าน และยังมีศูนย์ซ่อมบำรุงขบวนรถชิงกันเซงอยู่ในเมืองนี้ด้วย จึงถือว่าเป็นสถานที่มีความเกี่ยวพันกับชิงกันเซงอยู่

แล้วก็มาเจอฝาท่อรูปโปเกมอนตั้งอยู่ตรงนี้

ฝาท่อโปเกมอนของเมืองนี้เป็นรูปลาปลาส

และไมนัน

(รายละเอียดดูได้ที่
https://local.pokemon.jp/manhole/desc/51/)

หลังจากนั้นที่จริงก็หมดแผนเที่ยวในเมืองริฟุที่วางแผนไว้ในตอนแรกแล้ว ตอนแรกตั้งใจว่าจะเดินกลับสถานีริฟุเพื่อขึ้นรถไฟไป แต่จังหวะไม่เหมาะเพราะถึงกลับไปตอนนี้ก็ต้องรอรถอีกนาน ก็เลยคิดว่าไหนๆแล้วก็เดินเล่นภายในเมืองไปไกลจนถึงสถานีชินริฟุเลย ระยะทางเดินจากตรงนี้ไปประมาณ ๒ กม. กะเวลาเดินแล้วก็กำลังดี

ระหว่างทางได้ผ่านห้างอิออนสาขาชินริฟุ (イオンモール
新利府) ซึ่งตอนแรกก็คิดว่าเป็นแค่ห้างอิออนธรรมดาที่เมืองไหนก็มี แต่ดูแล้วตัวอาคารไม่ธรรมดา เพราะมีลักษณะเป็นแนวยาวเฟื้อย พอลองกลับมาแล้วหาข้อมูลทีหลังจึงได้รู้ว่าห้างอิออนนี้ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโทวโฮกุ และใหญ่เป็นอันดับ ๓ ของประเทศด้วย ก็น่าแปลกในที่เมืองเล็กๆแบบนี้สร้างห้างขนาดใหญ่มากแบบนี้

ตัวอาคารห้างนี้ยาวจนพาดผ่านถนน มีการสร้างสะพานเชื่อมอาคารข้ามผ่านถนน

ข้ามมาดูฝั่งใต้ของอาคารแล้วก็ยังเห็นตัวอาคารยืดยาวออกไปจนสุดตรงโน้น

เราไม่ได้แวะเข้าไปดูในห้าง แต่เดินผ่านใกล้ๆตามเส้นทางที่มุ่งไปยังสถานีชินริฟุ

ระหว่างทางผ่านอาคารยาวเฟื้อยอีกหลัง ที่จริงแล้วที่นี่คือศูนย์บำรุงซ่อมแซขบวนรถชิงกันเซง ตั้งอยู่ข้างๆสถานีชินริฟุ

ตรงนี้เป็นทางเข้า ที่จริงที่นี่ก็เป็นที่เที่ยวนึงที่สามารถเข้าชมได้ด้วย แต่ว่าไม่ได้อยู่ในแผนแต่แรก

จากนั้นเดินต่อมาก็ถึงหน้าทางเข้าสถานีชินริฟุ

ตรงนี้มีประตูทางเข้าศูนย์ชิงกันเซงอยู่ด้วย แต่ว่าปิดอยู่

ส่วนทางเข้าสถานีชินริฟุนั้น ดูสภาพแล้วไม่ค่อยเหมือนกับเป็นสถานีเท่าไหร่ ไม่มีตัวอาคาร

เดินเข้ามาก็เป็นชานชลา ไม่มีค้นเฝ้า มีที่ให้แตะบัตร

จากชานชลามองออกไปก็เป็นท้องทุ่ง

แล้วรถไฟก็มาตอนเวลา 10:04 เราขึ้นรถไฟขบวนนี้เพื่อไปยังสถานีอิวากิริ

ระหว่างทางบนรถไฟนั้นได้ถ่ายบริเวณรอบๆซึ่งมีตู้ขบวนรถไฟอยู่มากมายด้วย ทั้งหมดนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของศูนย์ซ่อมบำรุงชิงกันเซง ซึ่งกินพื้นที่ครอบคลุมไม่ใช่แค่เมืองริฟุ แต่ยังอยู่ในส่วนของเมืองเซนได และเมืองทางาโจวซึ่งอยู่ข้างๆด้วย

หลังจากนั้นรถไฟก็ใช้เวลาแค่ ๓ นาที มาจอดที่สถานีอิวากิริเวลา 10:07 ค่าโดยสารทั้งหมด ๑๕๐ เยน เราลงที่สถานี้นี้เพื่อไปเที่ยวเป้าหมายต่อไป
https://phyblas.hinaboshi.com/20230409