φυβλαςのβλογ
บล็อกของ phyblas



ปีนเขาอาดาตาระสูง ๑๗๐๐ เมตรในจังหวัดฟุกุชิมะ เดินชมทิวทัศน์ริมปากปล่องภูเขาไฟ
เขียนเมื่อ 2023/05/27 20:49
แก้ไขล่าสุด 2023/11/02 04:27
# ศุกร์ 26 พ.ค. 2023

กลุ่มวิจัยที่มหาวิทยาลัยโทวโฮกุได้ชวนกันไปเที่ยวภูเขาในวันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม 2023 เช่นเดียวกับที่เคยไปเที่ยวกันเมื่อปีที่แล้วดังที่เขียนถึงไปใน https://phyblas.hinaboshi.com/20221103

เป้าหมายครั้งนี้คือไปปีนเขาอาดาตาระ (安達太良山あだたらやま) ซึ่งเป็นภูเขาไฟ ตั้งอยู่ในเมืองนิฮมมัตสึ (二本松市にほんまつし) จังหวัดฟุกุชิมะ

แผนที่แสดงตำแหน่งเมืองนิฮมมัตสึในจังหวัดฟุกุชิมะ แสดงเป็นสีชมพูเข้ม




เขาอาดาตาระนั้นยอดสูงสุดมีความสูงจากระดับน้ำทะเล ๑๗๐๐ เมตร ที่จริงแล้วยอดยอดที่สูงที่สุดจริงๆของหมู่เขาแถบนี้คือเขามิโนวะ (箕輪山みのわやま) สูง ๑๗๒๘ เมตร สูงกว่าหน่อยนึง แต่ว่าไกลออกไปอีก ไม่ได้อยู่ในแผนเที่ยวคราวนี้

สุดเด่นสำคัญของการปีนเขาอาดาตาระก็คือการที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่เป็นแอ่งยุปปากปล่อง รอบปากปล่องภูเขาไฟนุมะโนะไทระ (ぬま平火口たいらかこう) แม้ว่าจะไม่สามารถเข้าไปถึงตัวปากปล่องได้เนื่องจากแถวนั้นมีก๊าซพิษก็ตาม แต่มองจากบริเวณรอบๆก็เป็นอะไรที่สวยงามตระการตามากแล้ว

ในการเที่ยวครั้งนี้เรานั่งรถกันไปเอง โดยพวกอาจารย์เป็นคนขับรถ โดยแยกเป็นหลายคน ที่ไปด้วยกันมีทั้งหมดรวมแล้วเป็น ๑๙ คน แบ่งเป็นรถทั้งหมด ๔ คัน

การเดินทางเริ่มจากนัดเจอกันในเมืองเซนไดแล้วออกเดินทางจากเซนไดเวลา 7:00 ไปถึงที่จุดที่เรียกว่าเป็นลานสกีที่ราบสูงอาดาตาระ (あだたら高原こうげんスキーじょう) ซึ่งในฤดูหนาวจะถูกใช้เป็นลานสกี แต่ตอนนี้ไม่ใช่ฤดูที่มีหิมะจึงไม่มีได้ใช้เล่นสกี แต่ก็เป็นจุดที่มีบริการร้านค้า ร้านอาหาร และอนเซง และที่สำคัญคือมีรถกระเช้าจากตรงนี้ที่ช่วยพาขึ้นไปยังจุดที่สูงกว่าอีกหน่อยบนเขา

ในการปีนครั้งนี้พวกเราเริ่มจากขึ้นรถกระเช้าไปก่อน แต่รถกระเช้าก็ไม่ได้ไปถึงส่วนยอดเขา จากนั้นจึงปีนต่อไปจนถึงยอดเขา แล้วขากลับก็ค่อยเดินกลับลงมาโดยใช้เส้นทางที่ต่างไปจากตอนขาขึ้น



เราเดินทางมาถึงที่จอดรถของลานสกีเวลา 8:40 ถือเป็นคันแรกที่มาถึง หลังจากนั้นก็ต้องรอคนที่มาจากคันอื่น




ระหว่างนั้นก็ไปนั่งรอในนี้ก่อน เป็นร้านอาหารของลานสกี ตัวร้านอาหารเปิดตอนเก้าโมง ทำให้ยังไม่เปิด แต่ว่าอาคารสามารถเข้าไปได้แล้ว



ชั้นล่างมีแค่โต๊ะตัวเดียวกับตู้ขายน้ำ



แล้วก็ห้องน้ำ



ส่วนร้านอาหารนั้นอยู่ข้างบน ยังไม่เปิดแต่เดินขั้นไปดูได้





จากชั้น ๒ ก็มีทางออก เดินออกจากประตูชั้น ๒ มาได้ มาโผล่ตรงนี้



มีหมีใส่ชุดฟ้าแบกกระเป๋ายืนต้อนรับอยู่



ส่วนตรงโน้นเป็นที่ขึ้นรถกระเช้า



เรารอจนถึงเวลาที่คนอื่นมากันพร้อมหน้า กว่าจะได้มาขึ้นกระเช้าก็เป็นเวลา 9:20



ตั๋วสำหรับขึ้นกระเช้าก็ซื้อตรงจุดขึ้น ซื้อเสร็จก็ขึ้นได้เลย



ตั๋วราคา ๑๑๐๐ เยน ถ้าไปกลับก็เป็น ๒๒๐๐ เยน แต่เรานั่งแค่ขาขึ้น



ภายในรถกระเช้ามีป้ายที่เตือนว่าห้ามพิงซึ่งเขียนเป็นภาษาฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมัน แต่ไม่มีภาษาทางฝั่งเอเชียเลย



เส้นทางเบื้องหน้า



มองหันกลับไปข้างหลัง





มองดูทิวทัศน์ด้านข้าง



ภาพถ่ายตอนที่รถกระเช้าใกล้ถึงสถานีด้านบน




แล้วก็มาถึง ใช้เวลาประมาณ ๑๐ นาทีในระหว่างทาง



ที่สถานีรถกระเช้านั้นมีร้านอาหารอยู่ด้วย



ตรงนี้มีแผนที่คร่าวๆบอกเส้นทางที่จะมุ่งหน้าไปจากตรงนี้ไปจนถึงยอดเขา



จากนั้นรอจนทุกคนนั่งรถกระเช้ามาลงบนนี้เสร็จหมดก็เริ่มออกเดินเวลา 9:39 เส้นทางช่วงต้นๆดูสบายๆ ถูกทำทางไว้อย่างดี




แต่จากนั้นก็ค่อยๆเริ่มเดินยากขึ้น




หลังจากออกเดินมา ผ่านไป ๒๐ นาที เราเดินมาถึงตรงจุดที่เป็นที่โล่ง และมีหินเรียงราย ทุกคนมานั่งพักกันตรงนี้สักพัก ระหว่างนั้นมองไปทางโน้นเห็นหิมะที่ยังหลงเหลืออยู่บนเขาด้วย แม้ฤดูหนายจะสิ้นสุดลงมาเป็นเดือนแล้วแต่ก็ยังมีหิมะที่ไม่ละลายอยู่ตรงนี้ให้เห็น ดูสวยดี



หลังจากพักสักครู่ก็เดินต่อ เส้นทางยิ่งเดินไปก็ดูจะยิ่งลำบากขึ้น




ระหว่างทางมีบริเวณเปิดโล่งให้มองทิวทัศน์ข้างล่างได้บ้าง แต่จากตรงนี้ก็ยังไม่เห็นอะไรมาก



ปินขึ้นไปเรื่อยๆ




จนในที่สุดก็มาจนถึงจุดที่อยู่ข้างๆกองหิมะตกค้าง



เพียงแต่ว่าไม่สามารถเดินไปถึงตรงหิมะนั้นได้ ได้แต่มองอยู่จากตรงนี้ ก็ดูสวยดี



เส้นทางยังคงขึ้นไปเรื่อยๆ ต้องปีนไปตามเส้นทางที่เต็มไปด้วยก้อนหิน





ทิวทัศน์ที่เห็นระหว่างทางเมื่อมองลงไปดูสวยงาม







แล้วเราก็ขึ้นมาจนในที่สุดเห็นตรงส่วนยอดแล้ว เป็นโขดหินสีดำที่ยื่นเด่นออกมา




ส่วนยอดนั้นเป็นโขดหินที่สูงชันและปีนลำบาก ข้างบนนั้นก็แคบด้วย ดังนั้นก่อนที่จะปีนขึ้นส่วนยอด พวกเราก็มาถ่ายภาพหมู่กันตรงนี โดยมีฉากหลังเป็นส่วนยอดนี้



จากนั้นก็ได้เวลาปีนขึ้นไป




การปีนนั้นถือว่าลำบากทีเดียว ถือว่าอันตราย ถ้ายึดเกาะพลาดแล้วลื่นตกลงไปคงเจ็บหนัก แต่ทุกคนก็พยายามกันจนขึ้นไปได้






และเมื่อขึ้นมาถึง ก็ได้พบกับป้ายที่เขียนชื่อภูเขาพร้อมกับแสดงความสูง ๑๗๐๐ เมตร ขณะนั้นเวลา 11:00 พอดี ถ้านับจากเวลาที่เราออกจากสถานีกระเช้าก็ถือว่าใช้เวลาไป ๑๐๐ นาที ในการเดินจากสถานีกระเช้ามาถึงนี่



ในนี้มีหมีอยู่ด้วย



ทิวทัศน์จากส่วนยอดเมื่อมองไปรอบๆ ไม่ว่ามองไปทิศไหนก็ดูสวยงาม






บนส่วนยอดนั้นหนาวและลมพัดแรง อีกทั้งยังแคบด้วย ระหว่างที่เราอยู่นี่ก็มีคนอื่นๆขึ้นมาเรื่อยๆ จึงไม่อาจอยู่บนนี้นานได้ พวกเราจึงเดินลงหลังจากที่ขึ้นมาบนนี้ได้ประมาณ ๕ นาทีเท่านั้น



ส่วนขาลงนั้นใช้เส้นทางที่ต่างไปจากตอนขึ้นเล็กน้อย



เส้นทางขาลงนี้ต้องใช้บันไดด้วย มีความรู้สึกว่าลำบากกว่าตอนขาขึ้นอีก



เมื่อทุกคนลงมากันหมดแล้วก็เดินมุ่งไปข้างหน้าต่อ แม้ว่าจะถึงยอดสูงสุดเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ไม่ได้จบแค่นี้ ทางข้างหน้ายังมีอะไรให้ชมอีก ต้องเดินต่อไปอีกหน่อยจึงจะถึงส่วนที่เห็นปากปล่องภูเขาไฟที่สวยงามได้





ระหว่างทาง หินแถวนี้มีสีแดงและเหลืองดูสวยงามแปลกตาดี




เริ่มเห็นส่วนปากปล่องภูเขาไปแล้ว



เพื่อที่จะให้เห็นชัดกว่านี้ ต้องเดินต่อไปอีกหน่อย




แล้วก็มาถึงจุดที่เห็นปากปล่องภูเขาไฟได้ชัดที่สุด ทุกคนหยุดเดินเล่นถ่ายรูปตรงนี้สักพัก





มองไปฝั่งที่ตรงกันข้ามกับปากปล่องภูเขาไฟก็ดูสวยเหมือนกัน



หินบนนี้ดูมีลวดลายและสีสันสวยงาม



หลังจากที่ชมทิวทัศน์ปากปล่องภูเขาไฟสวยงามเสร็จจนพอใจแล้วก็เดินมุ่งหน้าต่อไป เวลาขณะนั้นคือ 11:30





เส้นทางจากนี้ไปก็ค่อยๆเดินลงไปเรื่อยๆ




ตรงนี้ก็เห็นหิมะตกค้าง



เดินลงต่อไป



จากป้ายบอกให้รู้ว่าเราเดินมาประมาณ ๓๕ นาทีแล้ว จากตรงส่วนยอดเขา



ระหว่างทางเจอนักปีนเขาที่สองมือถือไม้เท้าค้ำยันด้วย แต่ในกลุ่มเราไม่มีใครเป็นนักปืนเขามืออาชีพ ไม่ได้เตรียมไม้แบบนั้นมากันเลย ที่จริงเขาที่นี่ไม่ต้องใช้ไม้ก็ไม่เป็นไร เท่าที่เดินผ่านมาถึงนี่ก็ไม่ได้มีปัญหาลำบากมาก



เส้นทางจากตรงนี้คือยิ่งเดินลงไปเรื่อยๆ บางส่วนก็เดินลำบาก แต่โดยรวมแล้วยังง่ายกว่าตอนขาขึ้นมา





แล้วเราก็เดินมาจนถึง คุโรงาเนะอนเซง (くろがね温泉おんせん) ซึ่งเป็นอาคารสำหรับพัก มีทั้งร้านอาหารและห้องน้ำด้วย แต่ว่าพอดีช่วงนี้มันปิดอยู่ เลยทำอะไรไม่ได้ ได้แต่นั่งดูอยู่ด้านนอก



ส่วนข้างๆนั้นมีทางที่ดูเหมือนจะเชื่อมไปยังส่วนที่เป็นพื้นที่ต้องห้ามเพราะมีการรั่วไหลของก๊าซที่เป็นพิษ



และตรงนี้มีที่นั่งพัก เราก็มานั่งพักแล้วหยิบเสบียงที่ซื้อเตรียมไว้เองขึ้นมากินเป็นมื้อเที่ยง เวลาขณะนั้นคือ 12:30 กำลังพอเหมาะเลย



นั่งพักกินอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง พอถึง 13:00 ก็ออกเดินทางไปต่อ



เส้นทางหลังจากตรงนี้ไปก็ไม่ค่อยมีอะไรท้าทายมากแล้ว เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาเล่ามาก แต่ก็มีเจออะไรแปลกๆบ้าง อย่างเช่นระหว่างทางเจอรถจอดอยู่ ทั้งที่เส้นทางรอบๆแถวนี้ไม่น่าจะให้รถวิ่งเข้ามาได้ ก็ไม่รู้ว่ารถคันนี้มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ทุกคนเห็นก็แปลกใจ



ระหว่างทางยังผ่านน้ำตก



ตรงนี้ดูเหมือนจะมีทางให้เดินเข้าไปเล่นน้ำตกได้ แต่ว่าปิดอยู่ เข้าไปไม่ได้



หลังจากนั้นก็เดินต่อมาเรื่อยๆ จนถึงเวลา 14:25 เราก็กลับมาถึงตรงลานสกีซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นในตอนแรก เท่ากับว่าเราปีนเขาของเราก็จบลงเท่านี้ ถ้านับจากที่เริ่มออกจากที่นี่เวลา  9:20 เท่ากับว่าใช้เวลาไปทั้งหมด ๕ ชั่วโมงในครั้งนี้



จากนั้นทุกคนก็ไปแช่อนเซงที่โอกุดาเกะโนะยุ (奥岳おくだけ) ซึ่งอยู่ในบริเวณลานสกี คนญี่ปุ่นชอบแช่อนเซงกันจริงๆเลย



แต่ว่าเรารู้สึกไม่อยากเข้า ก็เลยตัดสินใจออกมานั่งรออยู่คนเดียวตรงอาคารที่เมื่อเช้ามานั่งรอ



ระหว่างนั้นก็ซื้อน้ำจากตู้ขายน้ำอัตโนมัติแล้วก็นั่งเล่นสมาร์ตโฟนไป




จากนั้นพอถึงเวลา 15:30 ทุกคนก็ออกมาจากอนเซงแล้วก็ได้เวลาขึ้นรถเดินทางกลับเซนได ซึ่งก็ใช้เวลาเกือบ ๒ ชั่วโมงเหมือนตอนขาไป ถึงเซนไดตอนห้าโมงกว่า เป็นอันสิ้นสุดการเที่ยวปีนเขาทั้งหมดในวันนี้ลง

หลังกลับถึงเซนไดแล้วบางส่วนยังมีไปกินข้าวเย็นด้วยกันที่แถวสถานีเซนไดด้วย แต่เรารู้สึกปวดหัวอยากรีบกลับไปพักที่หอ จึงแยกไปหาอะไรกินคนเดียวแล้วรีบกลับเลย

โดยรวมแล้วก็เป็นอีกเที่ยวที่น่าประทับใจ ได้ออกกำลังกายปีนเขาด้วยกันกับทุกคน โดยที่ไม่เหนื่อย เส้นทางไม่โหดเกินไปจนมีใครเป็นอะไรระหว่างทาง ทุกคนเดินไปด้วยกันตั้งแต่ต้นจนจบ ทุกอย่างราบรื่นดี

อีกทั้งทิวทัศน์ภูเขาไฟแบบนี้สวยงามมาก นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสเห็นปากปล่องภูเขาไป ในไทยไม่มีภูเขาไฟดังนั้นจึงไม่มีโอกาสเห็น แต่ที่ญี่ปุ่นเต็มไปด้วยภูเขาไฟ นอกจากที่นี่แล้วก็ยังมีอีกหลายที่ ปากปล่องภูเขาไปแต่ละที่ก็มีความสวยงามแตกต่างกันไป

ก็หวังว่าหลังจากนี้ไปยังจะมีโอกาสได้เที่ยวแบบนี้อีก



-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

หมวดหมู่

-- ท่องเที่ยว >> ภูเขา
-- ประเทศญี่ปุ่น >> ฟุกุชิมะ

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

สารบัญ

รวมคำแปลวลีเด็ดจากญี่ปุ่น
มอดูลต่างๆ
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
การเรียนรู้ของเครื่อง
-- โครงข่าย
     ประสาทเทียม
ภาษา javascript
ภาษา mongol
ภาษาศาสตร์
maya
ความน่าจะเป็น
บันทึกในญี่ปุ่น
บันทึกในจีน
-- บันทึกในปักกิ่ง
-- บันทึกในฮ่องกง
-- บันทึกในมาเก๊า
บันทึกในไต้หวัน
บันทึกในยุโรปเหนือ
บันทึกในประเทศอื่นๆ
qiita
บทความอื่นๆ

บทความแบ่งตามหมวด



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  ค้นหาบทความ

  บทความแนะนำ

ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ

บทความแต่ละเดือน

2024年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

2023年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

2022年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

2021年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

2020年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

ค้นบทความเก่ากว่านั้น

ไทย

日本語

中文