# อาทิตย์ 22 ต.ค. 2023ต่อจากตอนที่แล้วที่ไปเที่ยวในย่านใจกลางเมืองโอวชูมาแล้วมาถึงสถานีมิซึซาวะเพื่อขึ้นรถเมล์
https://phyblas.hinaboshi.com/20231027เป้าหมายต่อไปคือเที่ยวที่
สวนประวัติศาสตร์ถิ่นฐานฟุจิวาระเอซาชิ (歴史公園えさし藤原の郷) ซึ่งเป็นธีมพาร์กที่ถูกสร้างขึ้นให้เป็นแบบ
ยุคเฮย์อัง (
平安時代, ปี 794-1185) และยังถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำหนังย้อนยุคในสมัยนั้นด้วย มีหนังหรือละครหลายเรื่องใช้ที่นี่เป็นที่ถ่ายทำ
โดยหัวข้อหลักของที่นี่คือสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับตระกูล
โอวชูฟุจิวาระ (奥州藤原) ซึ่งปกครองพื้นที่แถบนี้ในช่วงยุคเฮย์อัง โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่บริเวณที่ปัจจุบันเป็นเมือง
ฮิราอิซึมิ (平泉) ซึ่งได้กลายมาเป็นมรดกโลก แต่ว่าตระกูลนี้ก็ได้ล่มสลายลงไปพร้อมกับ
มินาโมโตะ โนะ โยชิตสึเนะ (
源 義経, ปี 1159-1189)
เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ตรงนี้ได้เขียนเอาไว้ในบันทึกตอนที่เที่ยวฮิราอิซึมิแล้ว ดังนั้นในที่นี้จะขอละไว้
>>
https://phyblas.hinaboshi.com/20221115ที่นี่เองก็อยู่ใกล้กับฮิราอิซึมิมาก ห่างไปทางเหนือนิดเดียว และยังโบราณสถานบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับฮิราอิซึมิอยู่ด้วย
นอกจากนี้สถานที่บางส่วนซึ่งเคยมีอยู่ในฮิราอิซึมิแต่ไม่ได้เหลืออยู่ถึงปัจจุบันก็ถูกนำมาสร้างใหม่จำลองไว้ที่นี่ด้วย ดังนั้นถ้าหากใครไปเที่ยวเมืองมรดกโลกแล้วก็อาจถือโอกาสแวะมาที่นี่
ค่าเข้าชม ๑๐๐๐ เยน ซึ่งก็แพงอยู่ แต่ภายในนั้นก็กว้างพอสมควร มีอะไรอยู่ไม่น้อย ถ้าตั้งใจเดินเที่ยวให้ทั่วจริงๆคงต้องใช้เวลากว่า ๒ ชั่วโมง
แต่ครั้งนี้เรามีเวลาเที่ยวที่นี่ค่อนข้างจำกัด เนื่องจากเดินทางด้วยรถเมล์ และต้องรีบเที่ยวอย่างรีบๆเพื่อให้ทันเที่ยวรถเมล์ ทำให้เที่ยวภายในนี้เพียงแค่ ๔๐ นาทีเท่านั้น ไม่ค่อยจะได้เก็บรายละเอียดอะไรเลย
โดยเราเดินทางด้วยรถเมล์มาลงที่ย่านเมืองเอซาชิเวลา 14:41 หลังจากนั้นรถเมล์ขากลับนั้นคือเวลา 16:11 นั่นหมายความว่ามีเวลาในเอซาชิชั่วโมงครึ่ง แต่ว่านอกจากนั้นยังต้องเสียเวลาเดินจากป้ายรถเมล์ซึ่งอยู่ในเมืองไปให้ถึงสวนซึ่งอยู่ในหุบเขาทางตะวันออกของเมือง แล้วก็ยังต้องเผื่อเวลาเดินกลับด้วย โดยรวมแล้วเวลาที่ได้เที่ยวจริงๆแค่ไม่ถึงครึ่งของเวลาที่อยู่ในเอซาชิทั้งหมด
เรานั่งรถเมล์จากสถานีมิซึซาวะมาลงที่ป้ายรถเมล์
นากามาจิ (中町) ภายในตัวเมืองเอซาชิ

จากนั้นก็รีบเดินมุ่งหน้าไปยังเป้าหมาย

เริ่มออกจากตัวเมือง เข้าสู่บริเวณหุบเขา

เส้นทางเดินตรงนี้เลียบแม่น้ำฮิโตกาเบะ (
人首川)

ระหว่างทางผ่าน
เขื่อนโจวเซนจิ (重染寺頭首工) ซึ่งกั้นแม่น้ำนี้อยู่

เนื่องจากทิวทัศน์ตรงนี้สวยงามดีมาก เลยแวะตรงสะพานหน้าเขื่อนเพื่อถ่ายรูปทิวทัศน์สวยๆตรงนี้สักหน่อย

จากนั้นเดินต่อไป มองไปด้านบนเห็นสะพานที่อยู่สูงทอดข้ามหุบเขา ชื่อว่า
สะพานยุเมโนะ (夢乃橋) เป็นสะพานสำหรับทางด่วน

จากนั้นยังเดินเลียบริมธารน้ำต่อมา

เลี้ยวขวาเข้าซอยตรงนี้ไป

แล้วก็ข้ามสะพานนี้ไปก็ถึง

มองดูทางด้านขวานี้เห็นบริเวณภายในสวน แต่ถูกกั้นอยู่ เข้าจากตรงนี้ไม่ได้ ต้องเดินอ้อมไปเข้าตรงด้านหน้าทางเข้า

เดินเลี้ยวซ้ายเพื่ออ้อมไปทางเข้า

แล้วก็มาจนถึงหน้าทางเข้า

จากนั้นก็ซื้อตั๋วแล้วก็เดินเข้ามา

เมื่อเข้ามา ส่วนแรกที่เจอคือส่วนที่สร้างจำลองศูนย์กลางการปกครองยุคเฮย์อัง เรียกว่า
เซย์โจว (政庁) 
เดินเข้ามาภายในประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างต่างๆที่ถูกสร้างจำลองขึ้นมา

ส่วนภายในสิ่งก่อสร้างต่างๆนั้นก็เป็นส่วนจัดแสดงของที่เกี่ยวข้อง

เรารีบเดินในนี้อย่างรีบๆแล้วก็ออกมา ไปยังส่วนถัดไป

จากนั้นเดินไปทางซ้าย โดยต้องปีนเขาไป

ขึ้นมาก็เจออาคารกิเกย์จิบุตสึโดว (
義経持仏堂) ซึ่งสร้างเลียนแบบอาคารที่ฮิราอิซึมิซึ่งเป็นที่ตายของโยชิตสึเนะ ซึ่งเราก็เคยไปมา เล่าไว้ใน
https://phyblas.hinaboshi.com/20221116 
ทิวทัศน์ที่เห็นจากตรงนี้ มองลงไปเห็นส่วนของเซย์โจวที่เพิ่งไปชมมา

จากนั้นเดินขึ้นไปต่อ

ส่วนต่อไปตรงนี้เรียกว่า
ทสึเนกิโยะโนะยากาตะ (経清館)

ถัดมาเดินต่อเข้าไปอีกเป็นส่วนที่เรียกว่า
คิโยฮิระโนะยากาตะ (清衡館) หรือเรียกว่า
โทโยดะโนะทาจิ (豊田館) เป็นบ้านเกิดของฟุจิวาระ โนะ คิโยฮิระ (
藤原 清衡, ปี 1056-1128) ผู้นำคนแรกของตระกูลโอวชูฟุจิวาระ อาคารตรงนี้ถูกสร้างขึ้นโดยสันนิษฐานจากซากของจริงของที่นี่ซึ่งตั้งอยู่ภายในเมืองเอซาชิ

จากนั้นเดินลึกเข้าไปอีกเป็นทางเดินยาวลึกเข้าไปเรียกว่าโฮมุระซากะ (
炎坂)

และเมื่อเดินมาตามทางเรื่อยๆก็เจอ
ป้อมคาวาซากิ (河崎柵) ป้อมสมัยโบราณ ซากของจริงตั้งอยู่ในบริเวณที่ปัจจุบันเป็นเมืองอิจิโนเซกิ (
一関市) ทางตอนใต้ของจังหวัดอิวาเตะ

ภายใน

ต่อไปเดินเลียบบึง

ตรงนี้คือ
ปราสาทอิจิ (伊治城) ของจริงตั้งอยู่ที่เมืองคุริฮาระ (
栗原市) จังหวัดมิยางิ

ตรงนี้มีทางเข้าไปหาอาราฮาบากิ (アラハバキ) เป็นเทพองค์หนึ่งในภูมิภาคโทวโฮกุ

เมื่อเข้ามา ข้างในก็มีแค่หินตั้งอยู่

ในส่วนของบึงตรงนี้ มีปลาโค่ยอยู่ สามารถให้อาหารได้

เดินถัดมาเป็นส่วนของ
เคียราโนโงโชะ (伽羅御所) เป็นคฤหาสน์ที่อาศัยของตระกูลโอวชูฟุจิวาระในฮิราอิซึมิ ถูกสร้างจำลองขึ้นมา

แต่ว่าก่อนที่จะเข้าไปชมในนั้น มีทางให้ปีนบันไดขึ้นไปยังอาคารที่สร้างจำลอง
คนจิกิโดว (金色堂) ในฮิราอิซึมิ

ตัวอาคารคนจิกิโดว

และจากบนนี้ทิวทัศน์สวยงาม มองลงไปยังส่วนของเคียราโนโงโชะและเซย์โจวที่อยู่ไกลออกไปได้

จากนั้นเดินลงมาชมในเคียราโนโงโชะ

ภายในตัวอาคาร

ตรงนี้มีภาษาไทยด้วย

ภายในมีพวกของต่างๆจัดแสดง

ตรงนี้เป็นแบบจำลองย่อส่วนขนาด ๑ ใน ๔ ของ
มุเรียวโกวอิง (無量光院) ซึ่งเป็นวัดในฮิราอิซึมิ ปัจจุบันเหลือแต่ซากให้เข้าชมได้ถ้าไปที่ฮิราอิซึมิ ส่วนที่อยู่ที่นี่ได้ถูกสร้างจำลองขึ้นโดยสันนิษฐานรูปร่างเดิม แต่ว่ากลับทำเป็นแบบย่อส่วน ไม่ใช่ขนาดเท่าจริง และไม่ได้เปิดให้คนเข้าไปชมได้ ได้แค่มองจากตรงนี้ สะพานก็ข้ามไม่ได้ เพราะทั้งหมดเป็นแค่แบบจำลองย่อส่วน ถ้าเข้าไปเดินก็กลายเป็นยักษ์ไป

จากตรงนี้สามารถเข้าไปด้านในเพื่อชมมุเรียวโกวอิงจากด้านหน้าได้

ภาพมุเรียวโกวอิงที่ถ่ายจากด้านหน้า

การเที่ยวในนี้ของเราก็จบลงเท่านี้ จริงๆแล้วยังมีบางส่วนที่ไม่ได้ชมอยู่อีก แต่ว่าส่วนหลักๆก็เก็บได้ครบแล้ว ไม่มีเวลาเดินดูให้ทั่ว จากนั้นก็เดินย้อนกลับไปยังหน้าทางเข้า

ก่อนถึงทางออก ตรงนี้มีอาคารพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเกี่ยวกับหนังที่ใช้ที่นี่เป็นที่ถ่ายทำ

พอออกมาด้านหน้า ตรงนี้มีลานจอดรถและอาคารที่มีพิพิธภัณฑ์และร้านขายของฝากของที่ระลึก แต่ว่าไม่ได้แวะเข้าไป

นอกจากนี้มองไปไกลๆตรงนั้นยังมี
หอวัฒนธรรมพื้นบ้านเอซาชิ (えさし郷土文化館) แต่ก็ไม่มีเวลาแวะเข้าชมเช่นกัน

จากนั้นก็รีบเดินย้อนกลับ ระหว่างทางก็เจอมุมถ่ายสะพานยุเมโนะได้สวย

ย้อนมาถึงเขื่อนโจวเซนจิ ก็เก็บภาพตรงนี้อีก ซึ่งต่างจากตอนขามาเพราะตอนนี้เริ่มตกเย็น ฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงแล้ว

แผนที่บริเวณทางเลียบริมน้ำฮิโตกาเบะตรงนี้

มองกลับไปดูตรงเขื่อนอีกทีก่อนเดินกลับ

จากตรงนี้เดินเลียบริมน้ำ

ระหว่างทางเจออาคารสวยๆอยู่ฝั่งตรงข้าม นั่นคือโรงพยาบาลอิวายะโดวเก่า (
旧岩谷堂共立病院) เป็นอาคารเก่าทรงยุโรปที่ถูกสร้างในปี 1874 เดิมเป็นที่รักษาพยาบาล ปัจจุบันเปิดให้เข้าชมภายในได้

ตอนนี้แม้จะต้องรีบ แต่ก็ยังพอเหลือเวลา ก็เลยลองเดินข้ามไปดูสักหน่อย แต่ว่าไม่ได้เข้าชมด้านใน

ทิวทัศน์จากบนสะพานข้าม

เดินข้ามมาถึงตัวอาคาร

ข้างๆนั้นเป็นซากวัดทามง (
多聞寺)

จากนั้นก็รีบเดินย้อนต่อมาเรื่อยๆ

ในที่สุดก็มาถึงป้ายรถเมล์ ขากลับนี้ขึ้นรถเมล์จากป้าย
คาวาระมาจิ (河原町) ซึ่งเป็นคนละป้ายกับตอนขามา เพราะว่ารถเมล์ขาไปและกลับนั้นเส้นทางต่างกันเล็กน้อย

ตารางเวลาเดินรถเมล์

รอจนถึงเวลารถเมล์ก็ยังไม่มา แต่แล้วผ่านไปสักพักจึงปรากฏตัว มาช้าไป ๓ นาที

หลังจากนั้นก็นั่งรถเมล์กลับไปถึงสถานีมิซึซาวะเพื่อเดินทางนั่งรถไฟกลับ