# อังคาร 12 พ.ย. 2024บันทึกการเที่ยวคิวชูต่อจากตอนที่แล้วที่มาค้างคืนในคุมาโมโตะแล้วก็หมดวันที่ ๔ ลง
https://phyblas.hinaboshi.com/20241129เข้าสู่วันที่ ๕ ของการเที่ยว ครั้งนี้ได้เวลาเดินทางออกจากจังหวัดคุมาโมโตะแล้ว และเดินทางไปยังเมืองต่อไป นั่นคือ
เมืองชิมาบาระ (
島原市)
จังหวัดนางาซากิ (
長崎県)
ตำแหน่งเมืองชิมาบาระในจังหวัดนางาซากิ แสดงเป็นสีชมพูเข้มทางขวาล่าง ทะเลทางขวาเป็นอ่าว เรียกว่า
ทะเลอาริอาเกะ (
有明海) และฝั่งตรงข้ามทะเลก็คือเมืองคุมาโมโตะ
เมืองชิมาบาระตั้งอยู่ในตอนใต้สุดของจังหวัดนางาซากิ ซึ่งมีลักษณะเป็นติ่ง เรียกว่าคาบสมุทรชิมาบาระ (島原半島) ซึ่งนอกจากเมืองชิมาบาระแล้วยังประกอบด้วยเมืองอุนเซง (雲仙市) และเมืองมินามิชิมาบาระ (南島原市) ด้วย
พูดถึงจังหวัดนางาซากิแล้วทุกคนคงเคยได้ยินชื่อ เป็นที่รู้จักคุ้นเคยกันดีในฐานะจังหวัดท่องเที่ยวชื่อดังของคิวชู แต่ว่าเมืองชิมาบาระนั้นดูจะไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนัก นักท่องเที่ยวที่ไปก็ไม่ได้มาก อาจเพราะว่าอยู่ไกล เดินทางไปลำบาก ถ้าหากเดินทางจากทางบกละก็ต้องนั่งรถไฟเป็นระยะไกล ไม่มีรถไฟแบบด่วนไปถึงด้วย
แต่ที่จริงแล้วชิมาบาระเป็นเมืองที่สวยงามน่าสนใจน่าเที่ยวมาก พอได้ไปแล้วจึงอยากมาเขียนแนะนำให้ไปเที่ยวกันดู
การเดินทางจากคุมาโมโตะไปยังเมืองชิมาบาระทำได้ง่ายโดยการนั่งเรือข้ามฟาก โดยขึ้นจากท่าเรือคุมาโมโตะ (
熊本港) ไปยัง
ท่าเรือชิมาบาระ (
島原港)
โดยเรือที่ใช้ข้ามฟากมีอยู่ ๒ บริษัท ความเร็วต่างกัน คือ คิวชูโชวเซง (九州商船) เป็นเรือช้า ใช้เวลาเดินทาง ๖๐ นาที และ คุมาโมโตะเฟอร์รี (熊本フェリー) เป็นเรือเร็ว ใช้เวลา ๓๐ นาทีเท่านั้น แต่ว่าจะแพงกว่า
ทั้ง ๒ แบบนี้ค่าโดยสารต่างกัน แน่นอนว่าเรือช้าถูกกว่า คือ ๑๑๘๐ เยน ในขณะที่เรือเร็วค่าโดยสาร ๑๕๐๐ เยน นอกจากนี้เที่ยวเรือแบบช้าก็มีจำนวนมากกว่าด้วย
จะเลือกขึ้นเรือแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับจังหวะเวลาด้วยเพราะรอบเที่ยวเรือไม่ได้มาก สำหรับครั้งนี้ดูตามความสะดวกของเวลาแล้วก็ตัดสินใจนั่งเรือแบบช้าของคิวชูโชวเซง รอบเวลา 8:20 ซึ่งถึงท่าเรือชิมาบาระเวลา 9:20
รถเมล์ที่ไปยังท่าเรือคุมาโมโตะนั้นมีเที่ยวรถไม่มาก มารถเมล์ไปได้อยู่สายเดียว ออกแค่ประมาณชั่วโมงละเที่ยวเท่านั้น โดยออกจากต้นทางที่ท่ารถ
ซากุระมาจิคุมาโมโตะ (サクラマチクマモト)
โดยรถเมล์ออกเวลา 7:29 แล้วไปถึงเวลา 8:07 ซึ่งจังหวะเวลาก็ถือว่าเฉียดฉิวพอดี เหมือนเขาจะวางตารางเวลารถเมล์ไว้ให้พอดีอยู่แล้ว แต่ว่าถ้ารถเมล์เกิดมีปัญหาไปถึงช้าสักหน่อยก็ตกเรือกันหมดได้เหมือนกัน ทำให้ตอนไปก็เสียวอยู่เหมือนกัน
เนื่องจากต้องรีบให้ทันรอบเรือที่เหมาะที่สุด เช้านี้ถือว่าออกเดินทางเร็วมากเมื่อเทียบกับวันอื่น
อาหารเช้าของเช้านี้กินมันฝรั่งทอดรสคุมาโมโตะอากาอุชิซึ่งซื้อมาจากซากุระมาจิคุมาโมโตะเมื่อคืน
จากนั้นก็เช็กเอาต์ออกจากโรงแรมคุมาโมโตะกรีนโฮเทลที่พักอยู่ แล้วเดินไปยังท่ารถซากุระมาจิคุมาโมโตะ ซึ่งก็ที่เดียวกับห้างที่เมื่อคืนไปเดินแล้วก็ซื้อมันฝรั่งทอดมา มองดูตอนกลางวันก็สวยไปอีกแบบ บนตึกมีต้นไม้ที่เปลี่ยนสีแล้วด้วย ตัวห้างยังไม่เปิด แต่ว่าส่วนของท่ารถเปิดอยู่แล้ว
ภายในส่วนของท่ารถ
ที่จะขึ้นคือหมายเลข 3 ตรงนี้ เรามาก่อนเวลาสักพักเลยต้องรอ ก่อนหน้านี้มีรถเที่ยวอื่นอีกหลายเที่ยวออกก่อน มีไปยังที่ต่างๆมากมายเพราะที่นี่เป็นศูนย์กลางการคมนาคมด้วยรถเมล์ของเมืองนี้
แล้วรถเมล์ก็มาตามเวลา ออกเดินทางไป ระหว่างทางยังผ่าน
สถานีคุมาโมโตะ (
熊本駅) ซึ่งเป็นสถานีหลักของเมืองคุมาโมโตะ แต่ว่าครั้งนี้เราไม่ได้แวะสถานีนี้เลย ศูนย์กลางเมืองจริงๆดูจะไม่ใช่สถานีคุมาโมโตะ แต่เป็นแถวปราสาทคุมาโมโตะและท่ารถซากุระมาจิคุมาโมโตะซึ่งมีโรงแรมที่เราไปพักอยู่มากกว่า ตอนที่ผ่านไปหน้าสถานีคุมาโมโตะถือโอกาสถ่ายรูปอาคารสถานีมา แต่ก็ได้ไม่ชัดเท่าไหร่ แต่เชื่อว่าคงยังมีโอกาสแวะมาคุมาโมโตะอีก ถ้านั่งชิงกันเซงมาก็ต้องมาลงที่สถานีนี้อยู่แล้ว ถึงตอนนั้นค่อยแวะมาเดินดูอีกทีก็ได้
ภายในรถเมล์ ตอนที่เดินทางใกล้ถึงแล้ว กำลังข้ามสะพานไปยังส่วนของท่าเรือซึ่งสร้างขึ้นบนเกาะเล็กๆริมชายฝั่ง
แล้วก็มาถึงเวลา 8:10 โดยช้ากว่าเวลาตามกำหนดคือ 8:07 ไป ๓ นาที ทำให้ยิ่งต้องรีบเพื่อจะไปขึ้นเรือให้ทัน 8:20
เมื่อลงจากรถเราก็รีบมุ่งหน้าไปยังอาคารท่าเรือเลย โดยก่อนเข้าไปก็ถ่ายรูปนึงก่อน อาคารท่าเรือก็ดูสวยดี
แล้วก็รีบมาที่ช่องซื้อตั๋ว ราคา ๑๑๘๐ เยน
ตั๋วเป็นแบบนี้ ส่วนนี้เก็บกลับไปเป็นที่ระลึกได้
จุดขึ้นเรือต้องขึ้นไปด้านบน
ทางเดินไปขึ้นเรือ
นั่นคือเรือที่จะไปขึ้น
เดินข้ามไปก็อยู่บนเรือแล้ว
บนเรือมีผู้โดยสารไม่น้อยเลย โดยส่วนใหญ่อยู่ด้านนอก
ส่วนด้านในนั้นลองเข้าไปดูแล้วมีที่นั่งว่างเต็มไปหมด คนส่วนใหญ่ไปอยู่ข้างนอกกัน คงเพื่อชมทิวทัศน์และตากลม
ส่วนตรงนี้เป็นทางลงไปยังชั้นล่างซึ่งเป็นที่จอดรถ
ดูแล้วคนส่วนใหญ่มาด้วยรถกันซะมากกว่า พอขึ้นเรือมาก็ออกจากรถมานั่งบนเรือ
หลังจากที่เราลงไปดูด้านล่างแล้วขึ้นมาแป๊บเดียวด้านล่างก็ปิดไม่ให้ลงไปแล้ว
รอบๆเรือเต็มไปด้วยนกนางนวลบินไปมาเต็มไปหมด พวกเด็กๆก็มาเล่นกันสนุก
แล้วเรือก็ออก คนส่วนใหญ่ก็ยังอยู่บริเวณด้านนอก ชมทะเลและเล่นกับนกนางนวลไปเรื่อย ตรงนี้เป็นส่วนท้ายเรือ
เราก็เพลิดเพลินอยู่บนนี้ไปเรื่อยๆเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็เดินทางมาจนใกล้ถึงฝั่งที่หมายแล้ว เห็นเมืองชิมาบาระอยู่ตรงหน้า ค่อยๆใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
ด้านหน้านี้คือเมืองชิมาบาระ และมี
ภูเขาอุนเซง (
雲仙岳) เป็นฉากหลัง นี่เป็นภูเขาที่เป็นศูนย์กลางของคาบสมุทรชิมาบาระ
แล้วเรือก็มาเทียบท่า ก่อนจะถึงพวกคนที่มากับรถก็ลงไปขึ้นรถกันหมด
ตอนนี้เหลือแค่คนที่เดินขึ้นเรือมาโดยไม่ได้มากับรถ ดูแล้วโล่งขึ้นมาเยอะเลย
หลังจากเรือจอดก็เริ่มเชื่อมงวง
ได้เวลาเดินออกจากเรือ
ระหว่างทางเดินเข้าไปยังตัวอาคารท่าเรือ
ทิวทัศน์ที่มองจากตรงนี้
เมื่อเข้ามาในตัวอาคารก็เจอป้ายเขียนว่าขอต้อนรับสู่จังหวัดนางาซากิเป็น ๔ ภาษา
แผนที่ท่องเที่ยวคาบสมุทรชิมาบาระ
ตอนนี้อยู่ชั้น ๒ ของอาคาร มองลงไปชั้นล่าง
ช่องขายตั๋วของเรือขากลับ
แล้วก็ออกมาด้านนอก เดินไปยังป้ายรถเมล์เพื่อจะไปยังสถานที่เที่ยว
ป้ายรถเมล์อยู่ตรงนี้ คันที่จอดอยู่แล้วตอนไปถึงนี้ยังไม่ใช่คันที่จะขึ้น
แล้วรอสักพักรถเมล์ที่จะขึ้นก็มาถึง
จากนั้นเราก็ขึ้นรถเมล์เพื่อเดินไปยังเป้าหมายที่เที่ยวแรกของเมืองนี้ นั่นคือ
ปราสาทชิมาบาระ (
島原城) รถเมล์เมืองนี้ไม่สามารถใช้บัตร IC จ่ายได้เลย ต้องใช้เงินสดเท่านั้นจึงไม่สะดวก ต้องเตรียมเงินไว้ให้ดี ค่าโดยสารครั้งนี้เป็น ๑๗๐ เยน
ตอนต่อไปจะเป็นการเที่ยวปราสาทชิมาบาระ ซึ่งเป็นสถานที่เที่ยวที่ประทับใจที่สุดในการเที่ยวคิวชูครั้งนี้
https://phyblas.hinaboshi.com/20241201