# อังคาร 12 พ.ย. 2024บันทึกต่อจากตอนที่แล้วที่เที่ยวปราสาทชิมาบาระเสร็จไป
https://phyblas.hinaboshi.com/20241201 ต่อมาก็เดินเที่ยวสถานที่อื่นภายในเมืองต่อ
เดินมาไม่ไกลก็ถึงบริเวณที่เรียกว่า
ย่านบ้านซามุไร (
武家屋敷街) เป็นถนนปูพื้นหินที่มีน้ำไหลอยู่ตรงกลางแล้ว ๒ ข้างทางก็มีพวกบ้านเก่าๆอยู่ ตรงแถวนี้ในอดีตเป็นที่อาศัยของตระกูลซามุไร แล้วบ้านหลายหลังก็ยังคงหลงเหลืออยู่ถึงปัจจุบัน เป็นสถานที่ให้เข้าชมได้
เดินไปตามทางเรื่อยๆ
ตรงนี้คือ
บ้านโทริตะ (
鳥田邸) เป็นบ้านเก่าหลังหนึ่งในย่านนี้
สามารถเข้าไปดูข้างในได้
ตัวอาคารบ้าน
เข้ามาด้านในได้ แต่ส่วนที่เป็นเสื่อต้องถอดรองเท้า
แล้วก็เดินต่อมา
จนถึงตรงนี้สุดทางแล้ว
ตรงก่อนสุดทางมี
บ้านชิโนซึกะ (
篠塚邸)
ซึ่งก็เข้ามาชมด้านในได้เช่นกัน
หลังจากเดินชมย่านบ้านซามุไรเสร็จ ก็เป็นเวลา 11 โมงกว่า แม้ว่าจะยังเร็วนิดหน่อย แต่ก็ตัดสินใจไปหาอะไรกินเป็นมื้อเที่ยง โดยตั้งใจว่าอยากกินอาหารพื้นบ้านของเมืองนี้ พอลองค้นดูก็เจอร้านชื่อดัง
ฮิเมมัตสึยะ (
姫松屋) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ปราสาทชิมาบาระ เราจึงเดินย้อนกลับมายังแถวหน้าปราสาทเพื่อมากินร้านนี้ เปิดเวลา 11 โมงพอดี
แต่พอมาถึงหน้าร้านก็พบว่าวันนี้เขาไม่เปิดร้าน
แต่หน้าร้านก็มีเขียนบอกว่าร้านนี้มีอีกสาขา อยู่ไม่ไกลกันมาก สามารถเดินไปได้ อยู่ที่ย่าน
ชิมมาจิ (
新町) ซึ่งก็เป็นย่านท่องเที่ยวอีกแห่งที่ตั้งใจจะไปเดินอยู่แล้ว ดังนั้นก็เลยตัดสินใจเดินไปกินที่นั่น
ระหว่างทางเดินไป
ทางต้องผ่านบริเวณหน้าที่ว่าการเมืองชิมาบาระ และอาร์เคด
ซันไชน์จูโอวไง (サンシャイン
中央街)
เข้ามาเดินผ่านอาร์เคดย่านร้านค้า
ตรงนี้เป็นคลอง สวยดี
ภายในอาร์เคดดูแล้วเงียบเหงากว่าที่คิด ร้านเปิดไม่ค่อยมาก
เราเดินตามอาร์เคดมาถึงตรงแยกนี้ก็ไม่ได้ไปต่อ แต่เลี้ยวซ้ายไป เพราะร้านที่เป็นเป้าหมายอยู่ตรงนี้แล้ว
แล้วก็มาถึง ร้านฮิเมมัตสึยะ สาขาชิมมาจิ
ตัวร้านอยู่ชั้น ๒ เดินมาขึ้นบันได
ภายในร้าน ดูแล้วสวยงามน่านั่งดี
เมนูของร้าน นี่เป็นอาหารพื้นบ้านของเมืองชิมาบาระ เรียกว่า
กุโซวนิ (
具雑煮) ถ้าสั่งแบบเดี่ยวก็ราคา ๑๒๐๐ เยน ถ้าสั่งเป็นชุดซึ่งประกอบไปด้วยข้าวและผักเพิ่มเติมด้วยก็ราคา ๑๗๐๐ เยน เราสั่งแบบเดี่ยว ส่วนเพื่อนสั่งแบบชุด
แล้วกุโซวนิก็มา ชามหน้าตาเป็นแบบนี้ เป็นก้อนโมจิกับเครื่องพวกผักและอาหารทะเล
กินเสร็จก็เดินเที่ยวต่อ ตรงนี้เป็นย่านท่องเที่ยวอีกแห่ง เรียกว่า
เมืองที่ปลาโค่ยว่ายน้ำ (
鯉の
泳ぐまち) ที่จริงแล้วเมืองนี้นอกจากขั้นชื่อเรื่องปราสาทแล้วก็ยังขึ้นชื่อเรื่องน้ำพุด้วย เพราะเป็นเมืองที่มีน้ำพุจากใต้ดินขึ้นมามาก เป็นแหล่งน้ำขึ้นชื่อแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ถูกเรียกว่า"กลุ่มน้ำพุชิมาบาระ" (
島原湧水群)
ตรงนี้เป็นศูนย์แนะนำการท่องเที่ยวของที่นี่
ข้างๆมีบ่อที่เลี้ยงปลาโค่ย
สำหรับสถานที่เที่ยวหลักของที่นี่ก็คือ
ชิเมย์โซว (
四明荘) เป็นบ้านเล็กๆสวยๆแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ท่ามกลางน้ำพุที่ผุดขึ้นมาจากใต้พื้นดิน
ที่นี่มีค่าเข้าชม ๔๐๐ เยน ซื้อตั๋วด้วยเครื่องตรงนี้ได้
จากนั้นเข้ามาก็เห็นนักท่องเที่ยวคนอื่นกำลังนั่งเล่นอยู่ในบ้านแล้วมองดูสระน้ำจากน้ำพุที่มีปลาโค่ยแหวกว่าย
เดินเข้ามาในอาคาร
ตรงนี้เป็นห้องนั่งเล่นหลัก ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวมานั่งเล่นชมบรรยากาศสักพัก
จากด้านในมองลงไปยังสระน้ำ
ปลาโค่ยเต็มเลย
ลองเดินมาดูด้านในก็เห็นประตูด้านอื่น ซึ่งออกไปก็เป็นสระน้ำเช่นกัน
ระหว่างนั่งเล่นในนี้เขาก็แจกชาให้ดื่มด้วย แต่ดูแล้วน่าจะเป็นแค่ชาที่แช่ไว้ในตู้เย็น ไม่ได้ชงเอา นอกจากนี้ก็ให้บัตรส่วนลดร้านขนมที่อยู่ข้างๆ คือร้าน
โคยคาเฟยูซึยกัง (Koiカフェゆうすい
館)
จากนั้นเขาก็ทำการเล่าบรรยายประวัติศาสตร์ของที่นี่ให้ฟังด้วย
หลังจากนั่งเล่นสักพักแล้ว เราก็ออกมา แล้วก็เดินไปร้านขนมที่เขาให้บัตรส่วนลดมา
ภายในร้าน ดูบรรยากาศดี สวยงามน่านั่งดี
นี่คือ
คันซาราชิ (かんざらし) ซึ่งเป็นขนมขึ้นชื่อของเมืองนี้ ราคา ๕๐๐ เยน แต่ว่าได้ส่วนลด ๑๐๐ เยน เหลือ ๔๐๐ เยน
กินเสร็จก็ได้เวลาแล้ว สถานที่เที่ยวหลักๆในบริเวณนี้ก็มีอยู่เท่านี้ ที่จริงแล้วเมืองชิมาบาระยังมีสถานที่เที่ยวอีกหลายแห่ง ถ้าจะไปอีกก็ไปได้ แต่ว่าที่ไปได้สะดวกก็มีประมาณเท่านี้ เราจึงจบการเที่ยวในเมืองชิมาบาระลงเท่านี้
สำหรับขากลับนั้นเราไม่ได้จะนั่งเรือกลับ แต่กลับโดยรถไฟ โดยไปขึ้นที่
สถานีชิมาบาระ (
島原駅)
ตัวสถานีอยู่ไม่ไกลจากที่ว่าการเมืองและตัวปราสาทชิมาบาระ เราจึงต้องเดินย้อนกลับไป ใช้เวลาสักพัก
แล้วก็มาถึงสถานีชิมาบาระ ได้เวลาขึ้นรถไฟออกจากที่นี่
ในตอนต่อไปจะเป็นการนั่งรถไฟผ่านเมืองต่างๆของจังหวัดนางาซากิ แล้วมุ่งหน้าสู่จังหวัดซางะ