หลังจากที่ได้ลงตอนแรกไปไม่นานก็ได้เริ่มแปลตอน ๒ ต่อ ซึ่งเป็นตอนที่ต้องใช้เวลานานมากในการแปล
เนื่องจากเป็นตอนที่น่าจะถือว่าแปลยากทีุ่สุดในเรื่องแล้ว เพราะมีทหารพูดเต็มไปหมด ซึ่งตรงทหารพูดนั้นฟังยากมาก ซึ่งทำให้ต้องใช้ซับอังกฤษช่วยเยอะมากมายในตอนนี้
ระยะเวลาแปลก็เกือบสัปดาห์ได้ แปลไปเรื่อยๆวันละนิด รวมๆแล้วเกิน ๑๐ ชั่วโมงแน่นอน
แปลเสร็จไปตอนช่วงต้นเดือนสิงหาคมแต่ยังไม่ได้อัปลงเนื่องจากยังขาดคนที่ทำหน้าที่ตรวจคุณภาพ(qc) แต่คิดว่าคงจะได้อัปลงภายในอีกไม่กี่วันนี้
ตอนนี้เป็นตอนที่จะได้เห็นฉากรบกับเนวรอยอย่างดุเดือดเป็นครั้งแรก
เรือรบญี่ปุ่นที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์ได้ถูกนำมาใส่ไว้ในตอนนี้อยู่หลายลำทีเดียว นอกเหนือจากอาคางิที่ได้กล่าวถึงไปแล้วในตอนที่ ๑
ที่เห็นได้ชัดก็คือชุดเรือพิฆาตคาเงโร่(陽炎型駆逐艦,かげろうかたくちくかん) ซึ่งเป็นชุดเรือพิฆาตที่ถูกใช้จริงในสงครามโลกครั้งที่ ๒ มีทั้งหมด ๑๙ ลำด้วยกัน แต่ที่เหลือรอดหลังสงครามมีแค่ลำเดียว คือยุคิคาเซะ(雪風,ゆきかぜ)
http://en.wikipedia.org/wiki/Kagero_class_destroyer
ลำที่ปรากฎชื่อในตอนนี้ก็คือ อุระคาเซะ(浦風,うらかぜ) อิโซคาเซะ(磯風,いそかぜ) ทานิคาเซะ(谷風,たにかぜ)
นี่เป็นรูปของเรือพิฆาตอิโซคาเซะ ลองเอามาเทียบกับรูปที่ปรากฏในเรื่องดู จะเห็นว่าคล้ายกันมาก แต่ของจริงเขียนชื่อด้วยคาตาคานะ ส่วนในอนิเมะเขียนชื่อด้วยฮิรางานะ
ส่วนนี่ก็รูปยุคิคาเซะ เรือลำเดียวในกลุ่มที่เหลือรอดหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒
หลังจากจบสงครามโลกครั้งที่ ๒ แล้ว ยุคิคาเซะได้ตกไปเป็นของจีนและถูกเปลี่ยนชื่อเป็นตานหยาง(丹陽,Dān yáng)
http://en.wikipedia.org/wiki/Japanese_destroyer_Yukikaze
ในตอนนี้มีสำนวนที่สำคัญโผล่มา นั่นคือ "หนูจนตรอกกัดแมว"(窮鼠猫を噛む,きゅうそねこをかむ) ซึ่งเป็นคำที่กัปตันเรืออาคางิเป็นคนพูดตอนที่ถูกเนวรอยไล่ต้อน
คำอธิบายก็ตามรูปเลย
ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ