เที่ยวญี่ปุ่น 30 ต.ค. - 5 พ.ย. 2018 โดยเริ่มต้นจากสนามบินโคมัตสึ
เขียนเมื่อ 2018/11/06 22:20
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42
# อังคาร 30 ต.ค. 2018
ได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นมาอีกรอบช่วง 30 ต.ค. - 5 พ.ย. 2018 รวมแล้วเป็นเวลา ๗ วัน
ครั้งนี้เป็นแค่การถือโอกาสเที่ยวในระหว่างกลับบ้าน เนื่องจากช่วงนี้เรียนอยู่ไต้หวันแต่อยากกลับไทย ไหนๆก็ต้องบินแล้วก็เลยถือโอกาสแวะญี่ปุ่นเที่ยว ดังนั้นจึงเป็นการบินจากไต้หวัน เสร็จแล้วขากลับบินกลับไทย
เป้าหมายของการเที่ยวครั้งนี้จริงๆแล้วคือการไปเยี่ยมเพื่อนคนโน้นคนนี้ที่อยู่ญี่ปุ่นมากกว่าที่จะเป็นการไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวจริงๆจังๆ สถานที่ที่ตัดสินใจแวะไปก็เลือกเอาแถบที่มีเพื่อนอยู่เป็นหลัก
ตอนนี้มีเพื่อนและคนรู้จักอยู่ญี่ปุ่นมากมาย อยู่ตามเมืองต่างๆทั่วญี่ปุ่น แต่ครั้งนี้ที่เลือกไปหาเพื่อนที่อยู่ในจังหวัดโตเกียว (東京都) และจังหวัดอิชิกาวะ (石川県)
แผนที่แสดงตำแหน่งจังหวัดอิชิกาวะ และแสดงตำแหน่งของเมืองต่างๆที่สำคัญ
เพื่อนส่วนใหญ่ที่รู้จักอยู่ที่โตเกียว แต่นอกจากนี้ยังมีเพื่อนส่วนหนึ่งเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก้าวหน้าโฮกุริกุ (北陸先端科学技術大学院大学) หรือชื่อภาษาอังกฤษคือ Japan Advanced Institute of Science and Technology ย่อเป็น JAIST อยู่ในเมืองโนมิ (能美市) จังหวัดอิชิกาวะ
จังหวัดอิชิกาวะมีเมืองคานาซาวะ (金沢市) เป็นเมืองใหญ่สุดและเป็นสถานที่เที่ยวชื่อดัง เพียงแต่ว่า JAIST อยู่ห่างจากคานาซาวะไปพอสมควร อยู่บนเขาและเดินทางลำบากด้วย ดังนั้นจึงไม่ได้มีโอกาสไปเยี่ยมเพื่อนถึงมหาวิทยาลัย
เรานัดเจอเพื่อนที่เมืองใหญ่อีกเมืองในจังหวัดนี้คือเมืองโคมัตสึ (小松市) ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยมากกว่าและนัดเจอกันสะดวก
โคมัตสึยังเป็นที่ตั้งของสนามบินโคมัตสึ (小松飛行場) ซึ่งเป็นสนามบินนานาชาติ ดังนั้นคนที่เรียน JAIST ก็มักจะบินมาลงที่สนามบินนี้ เพียงแต่ว่าสนามบินนี้ไม่มีเที่ยวบินตรงจากไทย ทำให้อาจต้องเปลี่ยนเครื่องเอา
ครั้งนี้เรามีจุดเริ่มต้นที่ไต้หวัน ซึ่งมีเที่ยวบินตรงสู่สนามบินโคมัตสึ ดังนั้นจึงเลือกที่นี่เป็นจุดเริ่มต้น มาที่โคมัตสึแล้วเจอเพื่อนที่เรียน JAIST วันแรกเที่ยวแถวๆจังหวัดอิชิกาวะ จากนั้นวันหลังๆค่อยเดินทางไปทางฝั่งโตเกียว เจอเพื่อนที่อยู่ในโตเกียว แล้วจากสนามบินที่โตเกียวก็บินกลับไทย แผนการจึงลงตัวดังนี้
นี่ยังเป็นโอกาสดีที่จะได้แวะมาดูสนามบินเล็กๆในญี่ปุ่นที่ปกติไม่น่าจะมีโอกาสได้มาง่ายๆถ้ามาจากไทย ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้รู้จักชื่อเมืองหรือชื่อสนามบินนี้มาก่อนเลยเหมือนกัน
สนามบินโคมัคสึเป็นสนามบินหลักของจังหวัดอิชิกาวะและฟุกุอิ แม้ตำแหน่งจะอยู่ในบริเวณจังหวัดอิชิกาวะ แต่ก็เกือบจะติดกับจังหวัดฟุกุอิจึงถือเป็นสนามบินของทั้งสองจังหวัดในทีเดียว ใครจะเที่ยวฟุกุอิก็ลงสนามบินนี้ได้
สำหรับเที่ยวบินนานาชาติมีเที่ยวบินเชื่อมต่อกับสนามบินเถาหยวน (ไทเป, ไต้หวัน) สนามบินเซี่ยงไฮ้ผู่ตง (เซี่ยงไฮ้, จีน) และสนามบินอินช็อน (ซออุล, เกาหลีใต้) ส่วนเที่ยวบินในประเทศมีเชื่อมต่อกับสนามบินของหลายๆเมือง รวมถึงโตเกียว
ดังนั้นแล้วเมืองโคมัตสึจึงเหมือนเป็นประตูสู่จังหวัดอิชิกาวะและฟุกุอิ เช่นเดียวกับที่นาริตะเป็นประตูสู่โตเกียว
นอกจากนี้เมืองโคมัตสึยังมีความสำคัญอีกอย่างคือเป็นที่ตั้งของบริษัทก่อสร้างโคมัตสึ (小松製作所) ซึ่งเป็นบริษัทก่อสร้างขนาดใหญ่ที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
ครั้งนี้แวะลงสนามบินโคมัตสึและพักในเมืองหนึ่งคืนเพราะต้องการไปเที่ยวในจังหวัดฟุกุอิด้วย แต่ก็ไม่ได้เที่ยวอะไรในตัวเมืองโคมัตสึเองแค่พอมีโอกาสได้เดินเล่นในเมืองตอนเช้าและเย็นเล็กน้อย
แผนคร่าวๆเป็นดังนี้
- 30 ต.ค.
บินจากไต้หวันไปลงโคมัตสึ เครื่องลงเวลา 18:30 พักที่เมืองโคมัตสึ
- 31 ต.ค.
เที่ยวในจังหวัดฟุกุอิทั้งวัน เดินทางไปคานาซาวะตอนเย็น พักที่เมืองคานาซาวะ
- 1 พ.ย.
เที่ยวในจังหวัดอิชิกาวะทั้งวัน พักที่เมืองคานาซาวะอีกคืน
- 2 พ.ย.
ตอนเช้าเที่ยวในคานาซาวะ ตอนสายนั่งชิงกันเซงไปเมืองทากาซากิจังหวัดกุมมะ แล้วนั่งรถไฟต่อไปพักที่เมืองฮันโนวจังหวัดไซตามะ
- 3 พ.ย.
ตอนเช้าเที่ยวในฮันโนว ตอนบ่ายเที่ยวในโตเกียว พักที่เมืองโทโกโรซาวะจังหวัดไซตามะ
- 4 พ.ย.
เที่ยวในโตเกียวทั้งวัน พักที่เมืองโทโกโระซาวะอีกคืน
- 5 พ.ย.
ตอนเช้าเที่ยวในโตเกียว ตอนสายเดินทางไปสนามบินนาริตะ ขึ้นเครื่องกลับไทยเวลา 13:55
แบ่งโดยคร่าวๆแล้วก็คือเที่ยวในภูมิภาคโฮกุริกุ ๓ วัน ภูมิภาคคันโตว ๓ วัน
โฮกุริกุ (北陸) คือจังหวัดทางภาคกลางของญี่ปุ่นส่วนที่ติดกับทะเลญี่ปุ่น ได้แก่จังหวัดฟุกุอิ อิชิกาวะ และโทยามะ แต่ครั้งนี้ไม่ได้แวะโทยามะ
ส่วนคันโตว (関東) คือภาคตะวันออกของญี่ปุ่น ได้แก่โตเกียวและเมืองรอบๆ
และเช่นเดียวกับการไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งก่อนๆ สถานที่ที่แวะไปเที่ยวนั้นมีหลายแห่งที่เป็นฉากของอนิเมะ เพราะญี่ปุ่นเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ของอนิเมะ ครั้งนี้ก็ได้เลือกแวะตามรอยของเรื่องที่มีฉากในเมืองที่อยู่ตามเส้นทางเที่ยว
เรื่องที่ได้ไปตามรอยมามีดังนี้
- จิฮายะฟุรุ (ちはやふる) จังหวัดฟุกุอิ
- กลาสลิป (グラスリップ) จังหวัดฟุกุอิ
- จาชินจังดร็อปคิก (邪神ちゃんドロップキック) จังหวัดฟุกุอิ
- ฮานะซากุอิโรฮะ (花咲くいろは) จังหวัดอิชิกาวะและโตเกียว
- ยามะโนะสึสึเมะ (ヤマノススメ) จังหวัดไซตามะและกุมมะ
- ชมรมคนไร้เพื่อน (僕は友達が少ない) จังหวัดกุมมะ
- อินเดกซ์ คัมภีร์คาถาต้องห้าม (とある魔術の禁書目録) จังหวัดโตเกียว
สำหรับการเตรียมตัวสำหรับเที่ยวนี้เราได้ทำการจองเครื่องบินผ่านเว็บ โดยขาไปจากไต้หวันสู่โคมัตสึเลือกสายการบิน EVA ของไต้หวัน ส่วนขากลับจากโตเกียวกลับไทยเลือกสายการบินนกสกู๊ต บินจากนาริตะ
ค่าเครื่องบินขาไปคิดเป็นเงินบาทแล้วก็คือ ๘๗๓๓ บาท ส่วนขากลับเป็น ๘๐๒๔ บาท ซื้อผ่านเว็บของสายการบินโดยตรงทั้งคู่
แม้ว่าขาไปจะบินจากไต้หวันซึ่งระยะทางใกล้กว่ามาก ต่างกันกว่าสองเท่า แต่ว่าเพราะโคมัตสึไม่ใช่สนามบินหลักที่คนไปกันมากราคาจึงแพงกว่าโตเกียวเป็นปกติ อีกทั้ง EVA ก็ไม่ใช่สายการบินราคาประหยัดเหมือนอย่างนกสกู๊ตด้วย
นอกจากนี้เพื่อให้สามารถใช้เน็ตในญี่ปุ่นได้จึงเตรียมซิมสำหรับต่อเน็ตโดยเฉพาะไป ตอนแรกก็มีทางเลือกมากมาย มีหลายแบบที่สามารถซื้อมาใช้ได้ แต่สุดท้ายก็เลือกใช้ SIM2FLY ของไทยซึ่งสามารถสั่งซื้อได้จากทางไต้หวันเหมือนกัน ราคา ๔๘๘ หยวนไต้หวัน
รายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการสั่ง SIM2FLY ที่ไต้หวันได้อ่านมาจากในนี้ https://someguytw.blogspot.com/2017/11/Japan-SIM-Net-AIS-Ssim2fly.html
สั่งซื้อผ่านเว็บแล้วก็ให้ส่งมาทางไปรษณีย์ ซิมที่ได้แค่รอให้ถึงวันเดินทางแล้วเอาใส่เครื่องแล้วตั้งโหมดโรมมิ่งก็ใช้งานได้เลย
ส่วนการเดินทางขณะอยู่ที่นั่นก็ใช้รถไฟเป็นหลัก มีใช้รถเมล์บ้าง ส่วนใหญ่ไม่ต้องจองล่วงหน้าเพราะรถไฟที่ญี่ปุ่นไม่ได้เต็มง่ายๆ
ที่ญี่ปุ่นมีบัตรเติมเงินสำหรับโดยสารรถไฟได้สะดวก โดยแต่ละภูมิภาคจะใช้บัตรต่างกัน ตอนอยู่ทางฝั่งอิชิกาวะใช้บัตร ICOCA ส่วนตอนอยู่แถบคันโตวใช้ Suica เมื่อใช้บัตรพวกนี้ตอนขึ้นรถไฟก็แค่แตะบัตรตอนขึ้นและตอนลง สะดวกมาก
ส่วนเรื่องที่พัก ครั้งนี้แม้จะได้ไปเจอกับเพื่อนหลายคน แต่ว่าแต่ละคนก็ไม่ได้สะดวกจะให้พักด้วย เลยไม่ได้พักกับใคร ต้องหาโรงแรมที่พักคนเดียว
เนื่องจากไปคนเดียว ตัวเลือกที่ดีเพื่อที่จะประหยัดเงินก็คือพักพวกเกสเฮาส์หรือไม่ก็โรงแรมแคปซูล ซึ่งเป็นการพักรวมกับคนอื่น
นี่ไม่ใช่ประสบการณ์แปลกใหม่ เมื่อก่อนเคยพักโฮสเทลมาแล้วตอนที่เที่ยวฮิโรชิมะ https://phyblas.hinaboshi.com/20130419
แล้วก็ตอนที่เที่ยวที่ฟินแลนด์ https://phyblas.hinaboshi.com/20140713
ส่วนโรงแรมแคปซูลนั้นเห็นคนพูดถึงกันมาก่อนหน้าแต่ยังไม่เคยลองด้วยตัวเอง แต่โดยรวมแล้วก็ไม่ได้ต่างจากโฮสเทลมากนัก คือพักรวมกับคนอื่นเหมือนกัน แค่เตียงดูมิดชิดเป็นส่วนตัวกว่าและไม่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนมากมาย
การจองนั้นจองผ่านเว็บรากุเตง (楽天) ทั้งหมด https://travel.rakuten.co.jp
ครั้งนี้รวมแล้วพักทั้งหมด ๖ คืน แต่ย้ายที่พักบ่อย รวมแล้วพัก ๔ ที่ แบ่งเป็นฝั่งจังหวัดอิชิกาวะ ๒ ที่ ๓ คืน จังหวัดไซตามะ ๒ ที่ ๓ คืน
- คืนแรกพักที่เกสต์เฮาส์มิกกะอิจิ ในเมืองโคมัตสึ จังหวัดอิชิกาวะ ๓๐๐๐ เยน
``` https://travel.rakuten.co.jp/HOTEL/153651/153651.html
- คืนที่สองและสามพักที่เกสต์เฮาส์นางนเดะ ในเมืองคานาซาวะ จังหวัดอิชิกาวะ สองคืน ๒๘๐๐×๒ = ๕๔๐๐ เยน
``` https://travel.rakuten.co.jp/HOTEL/158318/158318.html
- คืนที่สี่พักที่เรียวกังโอกุมุซาชิ ในเมืองฮันโนว จังหวัดไซตามะ ๕๓๐๐ เยน
``` https://travel.rakuten.co.jp/HOTEL/54628/54628.html
- คืนที่ห้าและหกพักที่โรงแรมแคปซูล เดอะเบดแอนด์สปา ในเมืองโทโกโรซาวะ จังหวัดไซตามะ สองคืน ๓๔๘๐+๓๒๘๐ = ๖๗๖๐ เยน (คืนแรกเป็นวันเสาร์จึงแพงกว่า)
``` https://travel.rakuten.co.jp/HOTEL/153243/153243.html
ทั้งเกสต์เฮาส์และโรงแรมแคปซูลไม่มีห้องน้ำในตัวและต้องพักรวมกับคนอื่นๆ มีคืนนึงที่พักในเรียวกังมีห้องส่วนตัวเลยแพงกว่าหน่อย แต่ก็ไม่ได้เลือกแบบมีห้องน้ำในตัว ต้องใช้ร่วมกับคนอื่นเช่นกัน โดยรวมแล้วถือว่าพักอยู่อย่างประหยัด
ค่าโรงแรมทั้งหมดจ่ายผ่านบัตรเครดิต ทำให้ไม่ต้องเตรียมเงินสดไปมาก
เงินสดเตรียมไปทั้งหมด ๔๐๐๐๐ เยน (ธนบัตรหมื่น ๔ ใบ) ถือว่าไม่เยอะเพราะค่าโรงแรมกับค่าชิงกันเซงจ่ายด้วยบัตรเครดิตไปแล้ว ที่ต้องจ่ายด้วยเงินสดจึงเหลือแค่ค่ารถไฟธรรมดา รถเมล์ แล้วก็ซื้ออาหารและของต่างๆ
ข้อมูลคร่าวๆสำหรับการเดินทางเที่ยวนี้ก็มีเท่านี้ สำหรับรายละเอียดจะเล่าต่อๆไป
เริ่มต้น ออกเดินทางบินจากสนามบินนานาชาติเถาหยวนของไต้หวันด้วยสายการบิน EVA
เนื่องจากเที่ยวแค่ ๗ วันแล้วเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่อากาศค่อนข้างหนาวจึงทำให้สัมภาระน้อย มีแค่กระเป๋าสะพายหลังใบนึงกระเป๋าถือใบนึง จึงตัดสินใจไม่โหลดขึ้นเครื่อง ทำแบบนี้ช่วยให้ประหยัดเวลาตอนอยู่ในสนามบินไปได้ด้วยเพราะไม่ต้องรอรับกระเป๋า
มีเรื่องราวระหว่างก่อนขึ้นเครื่องเล็กน้อย ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับการเที่ยวญี่ปุ่นครั้งนี้โดยตรงจึงขอข้ามไป แยกไปเล่าไว้ใน https://phyblas.hinaboshi.com/20181031
บนเครื่องบินก่อนออกเดินทาง คนส่วนใหญ่ที่ขึ้นเที่ยวบินนี้เป็นคนไต้หวันมากกว่าคนญี่ปุ่น และเท่าที่ดูผ่านๆเหมือนจะไม่เห็นคนชาติอื่น
จากหน้าต่างก่อนเครื่องออก
ภาพแถวๆเถาหยวนจากหน้าต่างเครื่องบินหลังเครื่องออก
อาหารบนเครื่อง
เที่ยวบินครั้งนี้เจออากาศไม่ดีทำให้แกว่งไปมาจนเมาเครื่อง ตอนที่อาหารมาถึงเลยกินไม่ค่อยลง เลยตัดสินใจเรียกพนักงานบนเครื่องบอกว่าขอยา แต่เขาก็ไม่มีให้ บอกว่าถ้าจะเอายาต้องให้หมอมาดูอาการ เลยไม่เอา แต่เขาก็แจกยาดมมาให้แทน สักพักอาการก็เหมือนจะดีขึ้น
เส้นทางบินมีผ่านเกาะคิวชูและชิโกกุด้วย ทำให้ได้มองเห็นจากบนเครื่อง
ช่วงที่เครื่องใกล้ลงนั้นฟ้าได้มืดไปแล้ว เห็นชายฝั่งแถวจังหวัดฟุกุอิและอิชิกาวะ
เครื่องลงถึงสนามบินตามเวลา 18:30
ข้อความต้อนรับเป็นภาษาต่างๆ มีภาษาไทยด้วย เขียนว่า "ยินดีต้อนรุบสู่ โฮกุริกุ"
จากนั้นเราเดินมาจนถึงด่านตรวจคนเข้าเมือง ที่นี่นอกจากตรวจหนังสือเดินทางตามปกติแล้วยังมีการตรวจอุณหภูมิร่างกายด้วยเหมือนจะคัดกรองคนที่เป็นไข้
ระหว่างกำลังตรวจก็เกิดนึกขึ้นมาได้ว่าลืมกระเป๋าใบนึงไว้บนเครื่อง เพราะเราถือกระเป๋าขึ้นเครื่องสองใบ แล้วตอนลงจากเครื่องก็ดันถือมาใบเดียว
พอบอกพนักงานที่สนามบินไปเขาก็ให้เรารออยู่ตรงนั้นสักพัก จากนั้นก็เห็นคนถือกระเป๋ามา เขาก็ถามรายละเอียดต่างๆเพื่อยืนยันให้แน่ใจว่าเราเป็นเจ้าของกระเป๋าจริงไม่มั่ว เช่นชื่อและเลขที่นั่ง แล้วก็มีการให้เขียนชื่อและเซ็นรับรองด้วย
จากนั้นก็ต้องเข้าแถวคิวใหม่ จึงเสียเวลาไปพอสมควร แต่ดีที่คนไม่เยอะมากจึงไม่ต้องรอนานนัก
จุดรอรับกระเป๋า แต่เราไม่ได้มีกระเป๋าจึงเดินผ่านมาเลย แต่ตอนออกมาเจอพนักงานเรียกตรวจกระเป๋าอย่างละเอียดแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน เลยถามเขาว่าทำไมตรวจละเอียด เขาก็บอกว่าจะมีการสุ่มตรวจละเอียดแบบนี้เป็นบางช่วงเวลา พอดีจังหวะไม่ดีเป็นวันนี้เท่านั้นเอง
หลังจากที่เสียเวลาไปกับอะไรต่างๆพอสมควรก็ผ่านออกมาด้านนอกได้ตอนเลยทุ่มนึงมาเล็กน้อย รถเมล์ที่รับส่งระหว่างสนามบินกับตัวเมืองโคมัตสึมีรอบ 19:00 ซึ่งเลยมาแล้ว ทำให้ต้องรอรอบต่อไปคือ 19:20
ตารางเวลาเดินรถ https://www.komatsuairport.jp/access/bus_komatsu.html
ที่สนามบินเห็นคนไต้หวันกลุ่มใหญ่ ดูแล้วน่าจะมาเป็นคณะทัวร์
ยังเหลือเวลาก่อนที่รถเมล์รอบต่อไปจะมา ก็เลยเดินเล่นภายในห้องรอรับส่งผู้โดยสาร
เดินออกมาด้านนอกก็จะเจอป้ายรถเมล์ซึ่งสามารถไปยังที่ต่างๆหลายแห่ง ส่วนป้ายนี้คือที่จะไปยังสถานีรถไฟโคมัตสึ
ตั๋วสำหรับขึ้นรถเมล์สามารถซื้อตั้งแต่ก่อนขึ้นรถได้ที่เครื่องนี้
กดเลือกสถานีที่จะไปที่จอได้ สำหรับสถานีโคมัตสึราคา ๒๗๐ เยน
เงินที่เตรียมมาทั้งหมดมีแต่ธนบัตรใบละ ๑๐๐๐๐ เยน และนี่เป็นครั้งแรกของเที่ยวนี้ที่จะได้จ่ายเงิน ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะเครื่องสามารถใช้ใบละ ๑๐๐๐๐ จ่ายได้ สามารถทอนเงิน ๙๗๓๐ เยนมาได้ ได้เหรียญและธนบัตรทอนออกมาเยอะ
รอจนใกล้เวลารถเมล์ก็มา
บนรถมีคนขึ้นอยู่แค่นี้ น้อยกว่าที่คิด คนส่วนใหญ่น่าจะตรงไปเมืองหลักๆอย่างคานาซาวะหรือฟุกุอิเลยมากกว่า น้อยคนที่จะมาแวะเข้าเมืองโคมัตสึซึ่งเป็นแค่เมืองที่ไม่ใหญ่นัก
ภาพสนามบิน ถ่ายก่อนจากไป
แล้วรถก็มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองโคมัตสึไปยังปลายทางที่สถานีรถไฟ
ตอนต่อไป https://phyblas.hinaboshi.com/20181108
ได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นมาอีกรอบช่วง 30 ต.ค. - 5 พ.ย. 2018 รวมแล้วเป็นเวลา ๗ วัน
ครั้งนี้เป็นแค่การถือโอกาสเที่ยวในระหว่างกลับบ้าน เนื่องจากช่วงนี้เรียนอยู่ไต้หวันแต่อยากกลับไทย ไหนๆก็ต้องบินแล้วก็เลยถือโอกาสแวะญี่ปุ่นเที่ยว ดังนั้นจึงเป็นการบินจากไต้หวัน เสร็จแล้วขากลับบินกลับไทย
เป้าหมายของการเที่ยวครั้งนี้จริงๆแล้วคือการไปเยี่ยมเพื่อนคนโน้นคนนี้ที่อยู่ญี่ปุ่นมากกว่าที่จะเป็นการไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวจริงๆจังๆ สถานที่ที่ตัดสินใจแวะไปก็เลือกเอาแถบที่มีเพื่อนอยู่เป็นหลัก
ตอนนี้มีเพื่อนและคนรู้จักอยู่ญี่ปุ่นมากมาย อยู่ตามเมืองต่างๆทั่วญี่ปุ่น แต่ครั้งนี้ที่เลือกไปหาเพื่อนที่อยู่ในจังหวัดโตเกียว (東京都) และจังหวัดอิชิกาวะ (石川県)
แผนที่แสดงตำแหน่งจังหวัดอิชิกาวะ และแสดงตำแหน่งของเมืองต่างๆที่สำคัญ
เพื่อนส่วนใหญ่ที่รู้จักอยู่ที่โตเกียว แต่นอกจากนี้ยังมีเพื่อนส่วนหนึ่งเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก้าวหน้าโฮกุริกุ (北陸先端科学技術大学院大学) หรือชื่อภาษาอังกฤษคือ Japan Advanced Institute of Science and Technology ย่อเป็น JAIST อยู่ในเมืองโนมิ (能美市) จังหวัดอิชิกาวะ
จังหวัดอิชิกาวะมีเมืองคานาซาวะ (金沢市) เป็นเมืองใหญ่สุดและเป็นสถานที่เที่ยวชื่อดัง เพียงแต่ว่า JAIST อยู่ห่างจากคานาซาวะไปพอสมควร อยู่บนเขาและเดินทางลำบากด้วย ดังนั้นจึงไม่ได้มีโอกาสไปเยี่ยมเพื่อนถึงมหาวิทยาลัย
เรานัดเจอเพื่อนที่เมืองใหญ่อีกเมืองในจังหวัดนี้คือเมืองโคมัตสึ (小松市) ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยมากกว่าและนัดเจอกันสะดวก
โคมัตสึยังเป็นที่ตั้งของสนามบินโคมัตสึ (小松飛行場) ซึ่งเป็นสนามบินนานาชาติ ดังนั้นคนที่เรียน JAIST ก็มักจะบินมาลงที่สนามบินนี้ เพียงแต่ว่าสนามบินนี้ไม่มีเที่ยวบินตรงจากไทย ทำให้อาจต้องเปลี่ยนเครื่องเอา
ครั้งนี้เรามีจุดเริ่มต้นที่ไต้หวัน ซึ่งมีเที่ยวบินตรงสู่สนามบินโคมัตสึ ดังนั้นจึงเลือกที่นี่เป็นจุดเริ่มต้น มาที่โคมัตสึแล้วเจอเพื่อนที่เรียน JAIST วันแรกเที่ยวแถวๆจังหวัดอิชิกาวะ จากนั้นวันหลังๆค่อยเดินทางไปทางฝั่งโตเกียว เจอเพื่อนที่อยู่ในโตเกียว แล้วจากสนามบินที่โตเกียวก็บินกลับไทย แผนการจึงลงตัวดังนี้
นี่ยังเป็นโอกาสดีที่จะได้แวะมาดูสนามบินเล็กๆในญี่ปุ่นที่ปกติไม่น่าจะมีโอกาสได้มาง่ายๆถ้ามาจากไทย ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้รู้จักชื่อเมืองหรือชื่อสนามบินนี้มาก่อนเลยเหมือนกัน
สนามบินโคมัคสึเป็นสนามบินหลักของจังหวัดอิชิกาวะและฟุกุอิ แม้ตำแหน่งจะอยู่ในบริเวณจังหวัดอิชิกาวะ แต่ก็เกือบจะติดกับจังหวัดฟุกุอิจึงถือเป็นสนามบินของทั้งสองจังหวัดในทีเดียว ใครจะเที่ยวฟุกุอิก็ลงสนามบินนี้ได้
สำหรับเที่ยวบินนานาชาติมีเที่ยวบินเชื่อมต่อกับสนามบินเถาหยวน (ไทเป, ไต้หวัน) สนามบินเซี่ยงไฮ้ผู่ตง (เซี่ยงไฮ้, จีน) และสนามบินอินช็อน (ซออุล, เกาหลีใต้) ส่วนเที่ยวบินในประเทศมีเชื่อมต่อกับสนามบินของหลายๆเมือง รวมถึงโตเกียว
ดังนั้นแล้วเมืองโคมัตสึจึงเหมือนเป็นประตูสู่จังหวัดอิชิกาวะและฟุกุอิ เช่นเดียวกับที่นาริตะเป็นประตูสู่โตเกียว
นอกจากนี้เมืองโคมัตสึยังมีความสำคัญอีกอย่างคือเป็นที่ตั้งของบริษัทก่อสร้างโคมัตสึ (小松製作所) ซึ่งเป็นบริษัทก่อสร้างขนาดใหญ่ที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
ครั้งนี้แวะลงสนามบินโคมัตสึและพักในเมืองหนึ่งคืนเพราะต้องการไปเที่ยวในจังหวัดฟุกุอิด้วย แต่ก็ไม่ได้เที่ยวอะไรในตัวเมืองโคมัตสึเองแค่พอมีโอกาสได้เดินเล่นในเมืองตอนเช้าและเย็นเล็กน้อย
แผนคร่าวๆเป็นดังนี้
- 30 ต.ค.
บินจากไต้หวันไปลงโคมัตสึ เครื่องลงเวลา 18:30 พักที่เมืองโคมัตสึ
- 31 ต.ค.
เที่ยวในจังหวัดฟุกุอิทั้งวัน เดินทางไปคานาซาวะตอนเย็น พักที่เมืองคานาซาวะ
- 1 พ.ย.
เที่ยวในจังหวัดอิชิกาวะทั้งวัน พักที่เมืองคานาซาวะอีกคืน
- 2 พ.ย.
ตอนเช้าเที่ยวในคานาซาวะ ตอนสายนั่งชิงกันเซงไปเมืองทากาซากิจังหวัดกุมมะ แล้วนั่งรถไฟต่อไปพักที่เมืองฮันโนวจังหวัดไซตามะ
- 3 พ.ย.
ตอนเช้าเที่ยวในฮันโนว ตอนบ่ายเที่ยวในโตเกียว พักที่เมืองโทโกโรซาวะจังหวัดไซตามะ
- 4 พ.ย.
เที่ยวในโตเกียวทั้งวัน พักที่เมืองโทโกโระซาวะอีกคืน
- 5 พ.ย.
ตอนเช้าเที่ยวในโตเกียว ตอนสายเดินทางไปสนามบินนาริตะ ขึ้นเครื่องกลับไทยเวลา 13:55
แบ่งโดยคร่าวๆแล้วก็คือเที่ยวในภูมิภาคโฮกุริกุ ๓ วัน ภูมิภาคคันโตว ๓ วัน
โฮกุริกุ (北陸) คือจังหวัดทางภาคกลางของญี่ปุ่นส่วนที่ติดกับทะเลญี่ปุ่น ได้แก่จังหวัดฟุกุอิ อิชิกาวะ และโทยามะ แต่ครั้งนี้ไม่ได้แวะโทยามะ
ส่วนคันโตว (関東) คือภาคตะวันออกของญี่ปุ่น ได้แก่โตเกียวและเมืองรอบๆ
และเช่นเดียวกับการไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งก่อนๆ สถานที่ที่แวะไปเที่ยวนั้นมีหลายแห่งที่เป็นฉากของอนิเมะ เพราะญี่ปุ่นเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ของอนิเมะ ครั้งนี้ก็ได้เลือกแวะตามรอยของเรื่องที่มีฉากในเมืองที่อยู่ตามเส้นทางเที่ยว
เรื่องที่ได้ไปตามรอยมามีดังนี้
- จิฮายะฟุรุ (ちはやふる) จังหวัดฟุกุอิ
- กลาสลิป (グラスリップ) จังหวัดฟุกุอิ
- จาชินจังดร็อปคิก (邪神ちゃんドロップキック) จังหวัดฟุกุอิ
- ฮานะซากุอิโรฮะ (花咲くいろは) จังหวัดอิชิกาวะและโตเกียว
- ยามะโนะสึสึเมะ (ヤマノススメ) จังหวัดไซตามะและกุมมะ
- ชมรมคนไร้เพื่อน (僕は友達が少ない) จังหวัดกุมมะ
- อินเดกซ์ คัมภีร์คาถาต้องห้าม (とある魔術の禁書目録) จังหวัดโตเกียว
สำหรับการเตรียมตัวสำหรับเที่ยวนี้เราได้ทำการจองเครื่องบินผ่านเว็บ โดยขาไปจากไต้หวันสู่โคมัตสึเลือกสายการบิน EVA ของไต้หวัน ส่วนขากลับจากโตเกียวกลับไทยเลือกสายการบินนกสกู๊ต บินจากนาริตะ
ค่าเครื่องบินขาไปคิดเป็นเงินบาทแล้วก็คือ ๘๗๓๓ บาท ส่วนขากลับเป็น ๘๐๒๔ บาท ซื้อผ่านเว็บของสายการบินโดยตรงทั้งคู่
แม้ว่าขาไปจะบินจากไต้หวันซึ่งระยะทางใกล้กว่ามาก ต่างกันกว่าสองเท่า แต่ว่าเพราะโคมัตสึไม่ใช่สนามบินหลักที่คนไปกันมากราคาจึงแพงกว่าโตเกียวเป็นปกติ อีกทั้ง EVA ก็ไม่ใช่สายการบินราคาประหยัดเหมือนอย่างนกสกู๊ตด้วย
นอกจากนี้เพื่อให้สามารถใช้เน็ตในญี่ปุ่นได้จึงเตรียมซิมสำหรับต่อเน็ตโดยเฉพาะไป ตอนแรกก็มีทางเลือกมากมาย มีหลายแบบที่สามารถซื้อมาใช้ได้ แต่สุดท้ายก็เลือกใช้ SIM2FLY ของไทยซึ่งสามารถสั่งซื้อได้จากทางไต้หวันเหมือนกัน ราคา ๔๘๘ หยวนไต้หวัน
รายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการสั่ง SIM2FLY ที่ไต้หวันได้อ่านมาจากในนี้ https://someguytw.blogspot.com/2017/11/Japan-SIM-Net-AIS-Ssim2fly.html
สั่งซื้อผ่านเว็บแล้วก็ให้ส่งมาทางไปรษณีย์ ซิมที่ได้แค่รอให้ถึงวันเดินทางแล้วเอาใส่เครื่องแล้วตั้งโหมดโรมมิ่งก็ใช้งานได้เลย
ส่วนการเดินทางขณะอยู่ที่นั่นก็ใช้รถไฟเป็นหลัก มีใช้รถเมล์บ้าง ส่วนใหญ่ไม่ต้องจองล่วงหน้าเพราะรถไฟที่ญี่ปุ่นไม่ได้เต็มง่ายๆ
ที่ญี่ปุ่นมีบัตรเติมเงินสำหรับโดยสารรถไฟได้สะดวก โดยแต่ละภูมิภาคจะใช้บัตรต่างกัน ตอนอยู่ทางฝั่งอิชิกาวะใช้บัตร ICOCA ส่วนตอนอยู่แถบคันโตวใช้ Suica เมื่อใช้บัตรพวกนี้ตอนขึ้นรถไฟก็แค่แตะบัตรตอนขึ้นและตอนลง สะดวกมาก
ส่วนเรื่องที่พัก ครั้งนี้แม้จะได้ไปเจอกับเพื่อนหลายคน แต่ว่าแต่ละคนก็ไม่ได้สะดวกจะให้พักด้วย เลยไม่ได้พักกับใคร ต้องหาโรงแรมที่พักคนเดียว
เนื่องจากไปคนเดียว ตัวเลือกที่ดีเพื่อที่จะประหยัดเงินก็คือพักพวกเกสเฮาส์หรือไม่ก็โรงแรมแคปซูล ซึ่งเป็นการพักรวมกับคนอื่น
นี่ไม่ใช่ประสบการณ์แปลกใหม่ เมื่อก่อนเคยพักโฮสเทลมาแล้วตอนที่เที่ยวฮิโรชิมะ https://phyblas.hinaboshi.com/20130419
แล้วก็ตอนที่เที่ยวที่ฟินแลนด์ https://phyblas.hinaboshi.com/20140713
ส่วนโรงแรมแคปซูลนั้นเห็นคนพูดถึงกันมาก่อนหน้าแต่ยังไม่เคยลองด้วยตัวเอง แต่โดยรวมแล้วก็ไม่ได้ต่างจากโฮสเทลมากนัก คือพักรวมกับคนอื่นเหมือนกัน แค่เตียงดูมิดชิดเป็นส่วนตัวกว่าและไม่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนมากมาย
การจองนั้นจองผ่านเว็บรากุเตง (楽天) ทั้งหมด https://travel.rakuten.co.jp
ครั้งนี้รวมแล้วพักทั้งหมด ๖ คืน แต่ย้ายที่พักบ่อย รวมแล้วพัก ๔ ที่ แบ่งเป็นฝั่งจังหวัดอิชิกาวะ ๒ ที่ ๓ คืน จังหวัดไซตามะ ๒ ที่ ๓ คืน
- คืนแรกพักที่เกสต์เฮาส์มิกกะอิจิ ในเมืองโคมัตสึ จังหวัดอิชิกาวะ ๓๐๐๐ เยน
``` https://travel.rakuten.co.jp/HOTEL/153651/153651.html
- คืนที่สองและสามพักที่เกสต์เฮาส์นางนเดะ ในเมืองคานาซาวะ จังหวัดอิชิกาวะ สองคืน ๒๘๐๐×๒ = ๕๔๐๐ เยน
``` https://travel.rakuten.co.jp/HOTEL/158318/158318.html
- คืนที่สี่พักที่เรียวกังโอกุมุซาชิ ในเมืองฮันโนว จังหวัดไซตามะ ๕๓๐๐ เยน
``` https://travel.rakuten.co.jp/HOTEL/54628/54628.html
- คืนที่ห้าและหกพักที่โรงแรมแคปซูล เดอะเบดแอนด์สปา ในเมืองโทโกโรซาวะ จังหวัดไซตามะ สองคืน ๓๔๘๐+๓๒๘๐ = ๖๗๖๐ เยน (คืนแรกเป็นวันเสาร์จึงแพงกว่า)
``` https://travel.rakuten.co.jp/HOTEL/153243/153243.html
ทั้งเกสต์เฮาส์และโรงแรมแคปซูลไม่มีห้องน้ำในตัวและต้องพักรวมกับคนอื่นๆ มีคืนนึงที่พักในเรียวกังมีห้องส่วนตัวเลยแพงกว่าหน่อย แต่ก็ไม่ได้เลือกแบบมีห้องน้ำในตัว ต้องใช้ร่วมกับคนอื่นเช่นกัน โดยรวมแล้วถือว่าพักอยู่อย่างประหยัด
ค่าโรงแรมทั้งหมดจ่ายผ่านบัตรเครดิต ทำให้ไม่ต้องเตรียมเงินสดไปมาก
เงินสดเตรียมไปทั้งหมด ๔๐๐๐๐ เยน (ธนบัตรหมื่น ๔ ใบ) ถือว่าไม่เยอะเพราะค่าโรงแรมกับค่าชิงกันเซงจ่ายด้วยบัตรเครดิตไปแล้ว ที่ต้องจ่ายด้วยเงินสดจึงเหลือแค่ค่ารถไฟธรรมดา รถเมล์ แล้วก็ซื้ออาหารและของต่างๆ
ข้อมูลคร่าวๆสำหรับการเดินทางเที่ยวนี้ก็มีเท่านี้ สำหรับรายละเอียดจะเล่าต่อๆไป
เริ่มต้น ออกเดินทางบินจากสนามบินนานาชาติเถาหยวนของไต้หวันด้วยสายการบิน EVA
เนื่องจากเที่ยวแค่ ๗ วันแล้วเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่อากาศค่อนข้างหนาวจึงทำให้สัมภาระน้อย มีแค่กระเป๋าสะพายหลังใบนึงกระเป๋าถือใบนึง จึงตัดสินใจไม่โหลดขึ้นเครื่อง ทำแบบนี้ช่วยให้ประหยัดเวลาตอนอยู่ในสนามบินไปได้ด้วยเพราะไม่ต้องรอรับกระเป๋า
มีเรื่องราวระหว่างก่อนขึ้นเครื่องเล็กน้อย ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับการเที่ยวญี่ปุ่นครั้งนี้โดยตรงจึงขอข้ามไป แยกไปเล่าไว้ใน https://phyblas.hinaboshi.com/20181031
บนเครื่องบินก่อนออกเดินทาง คนส่วนใหญ่ที่ขึ้นเที่ยวบินนี้เป็นคนไต้หวันมากกว่าคนญี่ปุ่น และเท่าที่ดูผ่านๆเหมือนจะไม่เห็นคนชาติอื่น
จากหน้าต่างก่อนเครื่องออก
ภาพแถวๆเถาหยวนจากหน้าต่างเครื่องบินหลังเครื่องออก
อาหารบนเครื่อง
เที่ยวบินครั้งนี้เจออากาศไม่ดีทำให้แกว่งไปมาจนเมาเครื่อง ตอนที่อาหารมาถึงเลยกินไม่ค่อยลง เลยตัดสินใจเรียกพนักงานบนเครื่องบอกว่าขอยา แต่เขาก็ไม่มีให้ บอกว่าถ้าจะเอายาต้องให้หมอมาดูอาการ เลยไม่เอา แต่เขาก็แจกยาดมมาให้แทน สักพักอาการก็เหมือนจะดีขึ้น
เส้นทางบินมีผ่านเกาะคิวชูและชิโกกุด้วย ทำให้ได้มองเห็นจากบนเครื่อง
ช่วงที่เครื่องใกล้ลงนั้นฟ้าได้มืดไปแล้ว เห็นชายฝั่งแถวจังหวัดฟุกุอิและอิชิกาวะ
เครื่องลงถึงสนามบินตามเวลา 18:30
ข้อความต้อนรับเป็นภาษาต่างๆ มีภาษาไทยด้วย เขียนว่า "ยินดีต้อนรุบสู่ โฮกุริกุ"
จากนั้นเราเดินมาจนถึงด่านตรวจคนเข้าเมือง ที่นี่นอกจากตรวจหนังสือเดินทางตามปกติแล้วยังมีการตรวจอุณหภูมิร่างกายด้วยเหมือนจะคัดกรองคนที่เป็นไข้
ระหว่างกำลังตรวจก็เกิดนึกขึ้นมาได้ว่าลืมกระเป๋าใบนึงไว้บนเครื่อง เพราะเราถือกระเป๋าขึ้นเครื่องสองใบ แล้วตอนลงจากเครื่องก็ดันถือมาใบเดียว
พอบอกพนักงานที่สนามบินไปเขาก็ให้เรารออยู่ตรงนั้นสักพัก จากนั้นก็เห็นคนถือกระเป๋ามา เขาก็ถามรายละเอียดต่างๆเพื่อยืนยันให้แน่ใจว่าเราเป็นเจ้าของกระเป๋าจริงไม่มั่ว เช่นชื่อและเลขที่นั่ง แล้วก็มีการให้เขียนชื่อและเซ็นรับรองด้วย
จากนั้นก็ต้องเข้าแถวคิวใหม่ จึงเสียเวลาไปพอสมควร แต่ดีที่คนไม่เยอะมากจึงไม่ต้องรอนานนัก
จุดรอรับกระเป๋า แต่เราไม่ได้มีกระเป๋าจึงเดินผ่านมาเลย แต่ตอนออกมาเจอพนักงานเรียกตรวจกระเป๋าอย่างละเอียดแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน เลยถามเขาว่าทำไมตรวจละเอียด เขาก็บอกว่าจะมีการสุ่มตรวจละเอียดแบบนี้เป็นบางช่วงเวลา พอดีจังหวะไม่ดีเป็นวันนี้เท่านั้นเอง
หลังจากที่เสียเวลาไปกับอะไรต่างๆพอสมควรก็ผ่านออกมาด้านนอกได้ตอนเลยทุ่มนึงมาเล็กน้อย รถเมล์ที่รับส่งระหว่างสนามบินกับตัวเมืองโคมัตสึมีรอบ 19:00 ซึ่งเลยมาแล้ว ทำให้ต้องรอรอบต่อไปคือ 19:20
ตารางเวลาเดินรถ https://www.komatsuairport.jp/access/bus_komatsu.html
ที่สนามบินเห็นคนไต้หวันกลุ่มใหญ่ ดูแล้วน่าจะมาเป็นคณะทัวร์
ยังเหลือเวลาก่อนที่รถเมล์รอบต่อไปจะมา ก็เลยเดินเล่นภายในห้องรอรับส่งผู้โดยสาร
เดินออกมาด้านนอกก็จะเจอป้ายรถเมล์ซึ่งสามารถไปยังที่ต่างๆหลายแห่ง ส่วนป้ายนี้คือที่จะไปยังสถานีรถไฟโคมัตสึ
ตั๋วสำหรับขึ้นรถเมล์สามารถซื้อตั้งแต่ก่อนขึ้นรถได้ที่เครื่องนี้
กดเลือกสถานีที่จะไปที่จอได้ สำหรับสถานีโคมัตสึราคา ๒๗๐ เยน
เงินที่เตรียมมาทั้งหมดมีแต่ธนบัตรใบละ ๑๐๐๐๐ เยน และนี่เป็นครั้งแรกของเที่ยวนี้ที่จะได้จ่ายเงิน ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะเครื่องสามารถใช้ใบละ ๑๐๐๐๐ จ่ายได้ สามารถทอนเงิน ๙๗๓๐ เยนมาได้ ได้เหรียญและธนบัตรทอนออกมาเยอะ
รอจนใกล้เวลารถเมล์ก็มา
บนรถมีคนขึ้นอยู่แค่นี้ น้อยกว่าที่คิด คนส่วนใหญ่น่าจะตรงไปเมืองหลักๆอย่างคานาซาวะหรือฟุกุอิเลยมากกว่า น้อยคนที่จะมาแวะเข้าเมืองโคมัตสึซึ่งเป็นแค่เมืองที่ไม่ใหญ่นัก
ภาพสนามบิน ถ่ายก่อนจากไป
แล้วรถก็มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองโคมัตสึไปยังปลายทางที่สถานีรถไฟ
ตอนต่อไป https://phyblas.hinaboshi.com/20181108