# เสาร์ 5 ส.ค. 2023
ต่อจากตอนที่แล้วทีได้เดินทางมาถึง
สถานีอากิตะ (秋田駅) https://phyblas.hinaboshi.com/20230809เป้าหมายในการมาเที่ยวครั้งนี้ก็คือมาชมงาน
เทศกาลอากิตะคันโตว (秋田竿燈まつり) ซึ่งเป็นงานเทศกาลที่จัดขึ้นที่เมืองอากิตะทุกวันที่ 3-6 สิงหาคมของทุกปี
รายละเอียดของเทศกาลอาจดูได้ที่เว็บไซต์หลักของงานเทศกาลนี้
https://www.kantou.gr.jpในงานเทศกาลนี้จะมีคนเดินถือโคมไฟกระดาษที่แขวนบนแท่งไม้หลายอันเป็นแผงดูสวยงาม แถมยังไม่ใช่แค่ถือด้วยมือธรรมดาแต่บางทีก็เล่นท่ายาก เช่นรองด้วยหัวหรือไหล่หรือก้น ดูเหมือนเป็นกายกรรม ดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์
งานนี้โดยหลักแล้วจัดขึ้นในเวลากลางคืน โดยจะเริ่มเดินขบวนเวลา 18:50 และจบลงเวลา 21:00
แต่นอกจากนี้แล้วในช่วงเวลากลางวันก็มีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลอยู่เช่นกัน จึงไม่จำเป็นว่าจะต้องรอแต่ตอนกลางคืน
ในตอนนี้จะเขียนเล่าเรื่องตั้งแต่เดินทางมาถึงสถานีอากิตะ เข้าพักในโรงแรม แล้วก็ไปชมส่วนจัดงานเทศกาลในตอนกลางวัน
หลังจากเดินทางมาถึงสถานีอากิตะก็เดินออกจากชานชลา
ด้านบนทางเดินที่เชื่อมระหว่างชานชลาต่างๆ สถานีนี้เป็นจุดเปลี่ยนของรถไฟหลายสายจึงดูใหญ่และวุ่นวายทีเดียว
เดินออกมาจากที่ตรวจตั๋ว
ที่ตั้งเด่นอยู่ตรงนี้คือหัวของนามาฮาเงะ (なまはげ) เป็นยักษ์ในตำนานของแถบ
คาบสมุทรโองะ (男鹿半島) ทางตอนเหนือของจังหวัดอากิตะ ถือเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของจังหวัดอากิตะ
ออกมาก็เป็นทางเดินยาวภายในสถานี ซึ่งมีการตกแต่งสวยงาม เห็นด้านบนมีโคมไฟกระดาษของงานคันโตวมัตสึริ
เดินไปทางฝั่งตะวันตกของสถานี
ตรงนี้มีตุ๊กตาหมาอากิตะ (
秋田犬) ขนาดใหญ่ตั้งเด่น เพราะจังหวัดอากิตะนั้นยังมีชื่อเสียงในฐานะต้นกำเนิดของหมาพันธุ์นี้
ทางเดินในนี้ยาวทีเดียว ระหว่างทางมีพวกร้านขายของด้วย แต่เรายังไม่ได้แวะดูอะไรตอนนี้ ไว้ตอนขากลับ ตอนนี้รีบมุ่งหน้าไปโรงแรม
ทางเดินลอยเชื่อมยาวออกจากสถานี มีชื่อว่าโปโปโรด (ぽぽろーど)
ทิวทัศน์ที่มองจากหน้าต่างทางเดินลอยโปโปโรด
จากนั้นก็เดินลงมาตรงนี้
จากนั้นเดินไปทางใต้ ระหว่างทางผ่านร้านอนิเมตสาขาอากิตะด้วย แต่ก็ไม่ได้แวะเข้าไป
เดินมานิดหน่อยก็ถึงโรงแรมอัลฟาวันอากิตะ (アルファーワン
秋田) ที่จองเอาไว้ โรงแรมนี้อยู่ใกล้สถานีมาก ถือว่าสะดวกมาก ราคาค่าที่พักคือ ๖๓๐๐ เยน
เมื่อเข้ามาก็ไปที่เคาน์เตอร์เพื่อเช็กอิน แต่ว่าต้องมานั่งรอเขาเก็บกวาดห้องอยู่พักนึง
แล้วก็ได้ห้องที่ชั้น ๘ ขึ้นลิฟต์ไป
หน้าลิฟต์ชั้น ๘ มีตู้ขายน้ำอัตโนมัติด้วย
นอกจากนี้ก็มีตู้ให้กดเอาน้ำแข็งฟรีด้วย
ทางเดินระหว่างห้อง
ห้องที่เราเข้าพัก เพียงแต่ว่าตอนที่เข้าพักไม่ได้ถ่ายภาพไว้ ภาพนี้ถ่ายวันรุ่งขึ้นหลังจากที่พักแล้วกำลังจะออก
ห้องน้ำก็ดีทีเดียว
ทิวทัศน์ที่มองจากหน้าต่างห้องพัก มองเห็นตัวสถานีและบริเวณรอบๆ ไม่เลวเลย
หลังจากพักอยู่ในห้องสักครู่แล้วก็ออกมาเดินเที่ยว โดยเริ่มจากถนนคนเดินในร่มที่ลากต่อจากทางเดินลอยโปโปโรด
เลี้ยวขวามาเป็นล้านกว้างอาโกรา (アゴラ
広場) เป็นลานที่ใช้จัดกิจกรรมต่างๆ
ตอนที่ไปนั้นที่นี่กำลังจัดการแสดงฮีโร่อยู่
เดินผ่านลานกว้างมาเป็นถนนฮิโระโควจิ (
広小路)
เดินไปทางซ้ายไปทางตะวันตกอีกนิดหน่อยเจอ
สวนสาธารณะเซนชู (千秋公園) ซึ่งเป็นสถานที่เที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมืองนี้
ที่คูด้านใต้ของสวนสาธารณะนี้เป็นสระบัว มองไปเห็นบัวเต็มไปหมดดูสวยงาม
มองข้ามสระบัวไปนั้นเป็นโรงเรียนมัธยมปลายโคกุงากุกัง (
国学館高等学校) อยู่ภายในบริเวณสวนสาธารณะ
ฝั่งตรงข้ามนั้นเป็นลานกว้างนิงิวาอิ (にぎわい
広場) ซึ่งเป็นสถานที่จัดการแข่งขันของงานเทศกาลอากิตะคันโตวในช่วงกลางวัน
เราข้ามฝั่งมาดูงานแข่งขันนี้สักหน่อย
ตอนที่ไปมีทีมนึงกำลังแสดงอยู่ พวกเขาถือโคมไฟกระดาษที่ผูกติดเป็นแผงแล้วก็ประคองมันด้วยมือ
บางทีก็เล่นท่ายาก โดยประคองด้วยด้วยไหล่หรือหัว เยี่ยมไปเลย ทำยังไงไม่ให้หล่นลงมาได้ ดูแล้วไม่ง่ายเลย
มีผู้ชนมานั่งชมกันมากมาย แม้ว่าจะแดดร้อนแทบแย่
อาคารที่อยู่ทางใต้ของลานกว้างนี้เป็น
หอศิลป์จังหวัดอากิตะ (秋田県立美術館) ป้ายบอกรายละเอียดเกี่ยวกับการแข่งขัน มีบันทึกคะแนนของแต่ละทีมไว้
รอบๆบริเวณลานกว้างประดับไปด้วยโคมไฟกระดาษ
ตรงนี้มีคุณป้าขายบาบาเฮระไอซ์ (ババヘラアイス) ซึ่งเป็นไอศกรีมที่เป็นของกินขึ้นชื่ออย่างหนึ่งของอากิตะ
เราไม่ได้ซื้อเพราะคนต่อคิวกันยาว แต่ก็ได้ถ่ายภาพมา ดูแล้วสวยดีน่ากินทีเดียว คิดแล้วก็เสียดายที่ไม่ได้ลองซื้อกินตอนนั้น
สำหรับการชมเทศกาลอากิตะคันโตวในช่วงกลางวันก็มีอยู่เท่านี้ ไม่ได้มีอะไรมากนัก ไว้เดี๋ยวพอถึงกลางคืนจะมีอะไรให้ดูเยอะกว่านี้อีกมาก ซึ่งจะมาเล่าต่อไปอีกที
หลังจากนั้นช่วงเวลาระหว่างกลางวันจนถึงฟ้ามืดจะเป็นการเที่ยวไปตามสถานที่เที่ยวในบริเวณนี้ โดยเริ่มจากสวนสาธารณะเซนชูซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามนี้
https://phyblas.hinaboshi.com/20230811