φυβλαςのβλογ
บล็อกของ phyblas



ปราสาทอากิตะ ป้อมโจวซากุโบราณสมัยนาระแห่งแคว้นเดวะซึ่งตั้งอยู่ทางเหนือสุด
เขียนเมื่อ 2023/08/16 07:03
แก้ไขล่าสุด 2023/08/17 05:23
# อาทิตย์ 6 ส.ค. 2023

บันทึกการเที่ยวอากิตะวันที่ ๒ ต่อจากตอนที่แล้วที่ได้ได้มาถึงอากิตะแล้วเข้าชมเทศกาลอากิตะคันโตวไป https://phyblas.hinaboshi.com/20230814

วันนี้เป็นวันเดินทางกลับ โดยจะกลับเซนไดโดยนั่งชิงกันเซงไปตอนบ่าย แต่ช่วงเช้ายังมีเวลาอีกหน่อยจึงไปเที่ยวที่อื่นภายในเมืองอากิตะต่อ

เป้าหมายแรกที่เลือกไปเที่ยววันนี้ก็คือปราสาทอากิตะ (秋田城あきたじょう) ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองอากิตะ

ปราสาทอากิตะเป็นปราสาทโบราณที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงสมัยนาระ (ปี 710-794) ซึ่งถือเป็นปราสาทยุคโบราณกว่าปราสาทญี่ปุ่นที่เป็นที่รู้จักส่วนใหญ่ซึ่งถูกสร้างขึ้นในช่วงสมัยหลังจากนั้น ปราสาทแบบนี้เรียกว่าโจวซากุ (城柵じょうさく)

โจวซากุนั้นถูกสร้างขึ้นหลายแห่งในภูมิภาคโทวโฮกุ มีจุดประสงค์เพื่อการบุกเบิกและปกครอง และต่อสู้กับชนกลุ่มน้อยทางตอนเหนือซึ่งสมัยก่อนเป็นแดนห่างไกลมีประชากรน้อย

ในจำนวนโจวซากุทั้งหมด ปราสาทอากิตะถือว่าตั้งอยู่ทางตอนเหนือที่สุด ไม่มีโจวซากุที่ถูกสร้างค่อนไปทางเหนือมากกว่านี้อีกแล้ว

อนึ่ง ปราสาทคุโบตะ (久保田城くぼたじょう) ที่ใจกลางเมืองอากิตะซึ่งได้แวะไปมาเมื่อวาน (https://phyblas.hinaboshi.com/20230811) บางทีก็ถูกเรียกว่าเป็นปราสาทอากิตะเช่นกัน ดังนั้นต้องระวังสับสน ปราสาทคุโบตะนั้นเป็นปราสาทยุคเอโดะเช่นเดียวกับปราสาทส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นที่คุ้นเคยกันดี

ตัวปราสาทอากิตะนั้นปัจจุบันเหลือแต่เพียงซาก และมีบางส่วนที่ถูกจำลองขึ้นมาใหม่ สามารถเข้าชมได้ นอกจากนี้ข้างๆยังมีการสร้างพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ซากปราสาทอากิตะ (秋田城跡歴史資料館あきたじょうあとれきししりょうかん) ซึ่งจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของปราสาทนี้ ค่าเข้าชม ๒๑๐ เยน

การเดินทางนั้นไปได้โดยนั่งรถเมล์จากสถานีอากิตะไป ซึ่งก็มีหลายสายที่สามารถไปได้ ใช้เวลา ๒๐ นาที ค่าโดยสาร ๓๗๐ เยน



เริ่มแรกเราตื่นมาตอนเช้า กินอาหารที่ชั้น ๑ ของโรงแรมอัลฟาวันอากิตะที่พักอยู่ สามารถเข้ากินได้ตั้งแต่ ุ6:30 ค่าอาหารไม่ได้แถมมากับค่าพักโรงแรม แต่สามารถกินได้โดยจ่ายเพิ่ม ๑๐๐๐ เยน



อาหารเช้ามีมากมายให้เลือกหยิบ มีที่เป็นอาหารท้องถิ่นของจังหวัดอากิตะด้วย



มุมเครื่องดื่ม



บรรยากาศภายในร้าน



หยิบเอามานั่งกิน



ทางขวานี่คือเส้นอินานิวะอุดง (稲庭いなにわうどん) ของขึ้นชื่อจากเมืองอินานิวะ (稲庭町いなにわちょう) ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของเมืองยุซาวะ (湯沢市ゆざわし) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดอากิตะ



หลังจากกินเสร็จก็กลับขึ้นห้องไปนั่งอยู่หน้าจอคอมหาข้อมูลเรื่องที่เที่ยวไปเรื่อยๆ จนถึงประมาณ 8 โมงครึ่งก็เช็กเอาต์ออกจากโรงแรมไปเพื่อเริ่มการเที่ยวในวันนี้



ก่อนอื่นต้องเดินไปยังสถานีอากิตะเพื่อขึ้นรถเมล์



จุดขึ้นรถเมล์หน้าสถานีอยู่ตรงโน้น



แต่ว่าไม่สามารถข้ามถนนไปโดยตรงได้ ต้องเดินขึ้นทางลอย




ภาพบริเวณจุดขึ้นรถเมล์ ถ่ายจากด้านบนทางลอย



แล้วก็เดินลงมาตรงนี้



จุดขึ้นรถเมล์มีรถเมล์มาจอดเยอะ ต้องมาหาว่ารถที่จะขึ้นนั้นออกจากป้ายไหน ต้องใช้เวลาในการตามหาอยู่ ในที่สุดก็เจอ รถเมล์ที่จะขึ้นนั้นมีปลายทางอยู่ที่สถานีทสึจิซากิ (土崎駅つちざきえき) ทางตอนเหนือของเมืองอากิตะ ขึ้นจากป้ายหมายเลข ๕



รถเมล์ที่เราขึ้นนั้นเป็นรอบ 9:00 พอใกล้เวลารถเมล์ก็มาจอดก่อน



ภายในรถ คนโล่งมาก ที่ขึ้นมานอกจากเราแล้วก็มีคุณยายที่นั่งด้านหน้าอีกคน



แล้วรถก็ออก ระหว่างทางเส้นทางก็ผ่านสระบัวหน้าสวนสาธารณะเซนชู (千秋公園せんしゅうこうえん) ซึ่งเมื่อวานก็เพิ่งได้เที่ยวไปแล้ว



เนื่องจากกระจกรถเมล์มีคราบเกาะอยู่เต็ม ภาพที่ถ่ายผ่านกระจกจึงออกมาพร่ามัวไม่ชัดเจน

และทางซ้ายก็เป็นลานกว้างนิงิวาอิ (にぎわい広場ひろば) ที่เป็นที่จัดงานแข่งขันในเทศกาลอากิตะคันโตว แต่ตอนนี้เงียบเหงาอยู่



จากนั้นก็ผ่านถนนใหญ่คันโตวซึ่งเป็นสถานที่จัดงานตอนกลางคืน ตอนนี้เป็นเวลากลางวันจึงดูเงียงเหงาหน่อย



แล้วก็มาผ่านอาคารที่ว่าการเมืองอากิตะ (秋田市役所あきたしやくしょ)



ส่วนฝั่งตรงข้ามกันนั้นเป็นที่ว่าการจังหวัดอากิตะ (秋田県庁舎あきたけんちょうしゃ)




ผ่านอาคารศูนย์การศึกษาชั่วชีวิตจังหวัดอากิตะ (秋田県生涯学習あきたけんしょうがいがくしゅうセンター)



แล้วในที่สุดก็มาถึงที่หมายคือป้ายหน้าพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ซากปราสาทอากิตะ



ป้ายรถเมล์ฝั่งที่ลงนั้นอยู่หน้าพิพิธภัณฑ์ แต่เราตั้งใจจะไปชมตัวซากปราสาทก่อนแล้วค่อยมาเดินชมพิพิธภัณฑ์ ก็เดินข้ามถนนไปทางตะวันอก



ฝั่งนี้มีป้ายรถเมล์ขากลับ มีตารางรถเมล์บอกด้วย รอรถเมล์รอบ 10:05 น่าจะกำลังดี



จากนั้นก็เดินขึ้นไปตรงนี้





แล้วก็มาถึงบริเวณภายในปราสาทอากิตะแล้ว ที่เห็นเป็นพื้นที่มีท่อนไม้ปักอยู่คือโครงตัวอาคารที่ถูกทำไว้ให้รู้ว่าเมื่อก่อนมีการสร้างอาคารไว้ตรงนี้ แต่ไม่ได้มีการสร้างจำลองอาคารขึ้นมาใหม่จริงๆ



ส่วนตรงนี้คือประตูตะวันออกของตัวป้อมด้านใน ตอนนี้เราอยู่ด้านในปราสาท ดังนั้นถ้าผ่านประตูนี้ไปก็คือเป็นบริเวณด้านนอกของส่วนชั้นในปราสาท เพียงแต่ก็ยังถือว่าอยู่ในส่วนชั้นนอกของปราสาทอยู่




เดินผ่านประตูออกมาก็จะพบแบบจำลองย่อส่วนของอาคารภายในปราสาทอากิตะ




หลังจากนั้นเดินขึ้นไปทางเหนือ




ก็เจอศาลเจ้าโกโกกุจังหวัดอากิตะ (秋田県護国神社あきたけんごこくじんじゃ) ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตัวปราสาทอากิตะโดยตรง แต่ถูกสร้างขึ้นในปี 1869 ในบริเวณปราสาทนี้



ภายในศาลเจ้า











หลังจากชมศาลเจ้าเสร็จก็เดินต่อมาทางตะวันออกก็เจอประตูตะวันออกชั้นนอกของปราสาทอากิตะ ถ้าเดินออกจากประตูนี้ไปก็ถือเป็นส่วนนอกปราสาทแล้ว



หน้าประตูมีป้ายอธิบายเกี่ยวกับที่นี่ให้อ่านนิดหน่อยด้วย




จากนั้นเดินออกประตูมา




เบื้องหน้านี้ก็เป็นสวน ไม่มีอะไรมาก



ทางขวาเป็นบ่อน้ำ



เดินออกมาสักพักเห็นว่าไม่มีอะไรก็เดินกลับเข้าประตูไปตามทางเดิม



จากนั้นขากลับเปลี่ยนมาเดินขึ้นไปทางเหนือหน่อย



ก็เจอเสาโทริอิทางเข้าตัวศาลเจ้าโกโกกุซึ่งตะกี้ไมไ่ด้เดินผ่านมา



เดินผ่านเสาโทริอิเข้ามาเรื่อยๆก็จะกลับไปถึงหน้าตัวอาคารหลักของศาลเจ้า




จากนั้นก็เดินกลับเข้าประตูตะวันออกส่วนกลางปราสาทมายังด้านในที่มีโครงอาคาร



ตรงนี้มีสะพาน ซึ่งสามารถเดินเพื่อข้ามไปยังส่วนพิพิธภัณฑ์ได้ ไม่ต้องเดินลงกลับไปยังถนนด้านล่าง




ระหว่างทางมีป้ายอธิบาย ภาพทางซ้ายแสดงให้เห็นว่าพื้นที่ส่วนด้านในปราสาทอากิตะนั้นในปัจจุบันโดนถนนตัดผ่าน และเราก็กำลังอยู่บนสะพานที่ข้ามถนนนั้น ปัจจุบันตัวกำแพงและประตูไม่เหลือแล้ว ที่ถูกสร้างจำลองขึ้นใหม่มีแค่ส่วนด้านตะวันออกเท่านั้น



เมื่อข้ามมาก็เจอตัวอาคารพิพิธภัณฑ์




เดินเข้าไปชมภายในพิพิธภัณฑ์




ภายในไม่ใหญ่มาก และเราก็มีเวลาเหลือไม่มากในการชมที่นี่ก่อนที่รถเมล์จะมา จึงได้แค่ดูผ่านๆแบบรีบๆ











ห้องส่วนด้านใน






ส่วนห้องตรงนี้เป็นที่ฉายหนัง




เราเดินชมในพิพิธภัณฑ์แบบรีบๆจนถึงใกล้เวลาก็จึงรีบมาที่ป้ายรถเมล์ ซึ่งรถเมล์ก็มาช้าไป ๒ นาที



หลังจากนั้นก็ขึ้นรถเมล์เพื่อกลับไปยังสถานีอากิตะ โดยผ่านเส้นทางเดิม ระหว่างทางก็ผ่านอาคารที่ว่าการเมืองอากิตะ ซึ่งข้างๆนั้นเป็นแผงขายอาหารในงานเทศกาล แต่ตอนที่ผ่านไปนั้นก็ดูจะยังเช้าไปจึงดูเงียบเหงา



จากนั้นก็กลับมาถึงสถานีอากิตะ



ในตอนต่อไปจะไปเที่ยวสถานที่เที่ยวอีกแห่งภายในเมืองอากิตะด้วยเวลาที่เหลืออยู่ ซึ่งเป็นที่เที่ยวสุดท้ายที่ได้แวะเที่ยวในการเที่ยวอากิตะครั้งนี้ https://phyblas.hinaboshi.com/20230817



-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

หมวดหมู่

-- ท่องเที่ยว >> ปราสาท☑ >> ปราสาทญี่ปุ่น
-- ประเทศญี่ปุ่น >> อากิตะ
-- ท่องเที่ยว >> ศาสนสถาน >> ศาลเจ้า
-- ท่องเที่ยว >> พิพิธภัณฑ์

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

สารบัญ

รวมคำแปลวลีเด็ดจากญี่ปุ่น
มอดูลต่างๆ
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
การเรียนรู้ของเครื่อง
-- โครงข่าย
     ประสาทเทียม
ภาษา javascript
ภาษา mongol
ภาษาศาสตร์
maya
ความน่าจะเป็น
บันทึกในญี่ปุ่น
บันทึกในจีน
-- บันทึกในปักกิ่ง
-- บันทึกในฮ่องกง
-- บันทึกในมาเก๊า
บันทึกในไต้หวัน
บันทึกในยุโรปเหนือ
บันทึกในประเทศอื่นๆ
qiita
บทความอื่นๆ

บทความแบ่งตามหมวด



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  ค้นหาบทความ

  บทความแนะนำ

ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ

ไทย

日本語

中文