φυβλαςのβλογ
บล็อกของ phyblas



[ef] ตอนที่ ๑. ณ สถานที่ที่อยู่ใกล้ท้องฟ้า (空に近い場所で)
เขียนเมื่อ 2009/05/22 09:48
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42

ตอนที่ ๑. ณ สถานที่ที่อยู่ใกล้ท้องฟ้า (空に近い場所で)

>> กลับไปบทนำ
>> อ่านต่อตอนที่ ๒

>> กลับไปหน้าสารบัญ

ᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳ

ef - a fairy tale of the two 
summer in the distant past.
Amamiya Yuuko
- singing voice in the distant sky


หลังจากอ่านหนังสือที่ห้องสมุดเสร็จ ผมก็เดินออกมาที่ระเบียงซึ่งในตอนนี้บรรยากาศช่างเงียบเหงาไม่มีแม้แต่เงาคน ทั้งๆที่ปกติเวลานี้น่าจะยังมีพวกนักเรียนที่ทำกิจกรรมชมรมหรือเป็นคณะ กรรมการเหลืออยู่หลายคน แต่ทำไมเฉพาะวันนี้ถึงกลับดูเงียบได้ขนาดนี้นะ

ได้ยินเสียงฝีเท้าตัวเองดังขึ้นจนน่าตกใจ ระเบียงทางเดินอันอบอวนไปด้วยไอแดดแห่งฤดูร้อน แม้เป็นตอนเย็นก็ยังคงร้อนอยู่ แค่เดินๆอยู่เหงื่อก็เริ่มออกแล้ว

ผมเปลี่ยนรองเท้าแล้วเดินออกไปข้างนอก พอไม่มีลมพัดเลยทำให้รู้สึกร้อนอบอ้าวราวกับร่างกายจะเดือดออกมา ยิ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นฤดูร้อน

ไม่ใช่ว่าเกลียดฤดูร้อนหรอก ถ้าเทียบกับฤดูหนาวอันแสนหดหู่แล้ว ฤดูที่อบอวนไปด้วยแสงสีอย่างตอนนี้น่าจะเรียกได้ว่าดีกว่ามาก เมื่อคิดได้แบบนี้ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะเกลียดฤดูร้อน

ไม่ได้เกลียด... งั้นเหรอ
ผมมักจะมัวคิดเรื่องนั้นอยู่บ่อยๆ
โลกนี้คงจะมีอยู่แค่สองอย่างคือสิ่งที่เกลียดกับสิ่งที่ไม่ได้เกลียด
ถึงยังไงก็คงไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นวิถีชีวิตที่สมบูรณ์หรอก ได้แต่หัวเราะในใจอยู่คนเดียว

วีถีชีวิต.. งั้นเหรอ
มองขึ้นไปบนท้องฟ้า
วิถีชีวิตที่ผมหวังเอาไว้

“อะไรน่ะ”
มีอะไรบางอย่างสีขาวปลิวลอยมาผ่านท้องฟ้าสีแดงของยามเย็น
สิ่งนั้นก็คือ... เครื่องบินกระดาษนั่นเอง............


“ไอ้บ้าที่ไหนมันปล่อยลงมาน่ะ”
ผมค่อยๆหยิบเครื่องบินกระดาษที่ลอยมาตกบนพื้นขึ้นมา
อายุก็ไม่ใช่เด็กกันแล้ว ไม่น่าเชื่อว่ายังมีคนบ้าที่เล่นของแบบนี้อยู่ในโรงเรียนนี้อีก ระหว่างที่คิดเช่นนั้น ผมก็มองไปตามหน้าต่างของอาคารเรียน.... บางทีตัวคนปล่อยอาจจะไม่อยู่แล้ว

แต่แล้วก็ปรากฏภาพของเด็กสาวคนหนึ่ง เท่าที่เห็น เธอกำลังนั่งห้อยเท้าแกว่งไปมาอยู่บนขอบตึกของดาดฟ้าซึ่งดูท่าจะไม่มีรั้วกั้น

ไปทำอะไรอยู่ในที่่แบบนั้นกันน่ะ ยิ่งไปกว่านั้น แม้จะเห็นอยู่ไกลๆแต่ดูเหมือนเธอจะเริ่มมองเห็นผม เธอเิริ่มหยุดแกว่งเท้าจากนั้นจึงมองลงมาแล้วยิ้ม


..................
ทันทีที่เปิดประตูออก ท้องฟ้าก็ดูใกล้เข้ามา ภายใต้ท้องฟ้าสีแดงยามสายัณห์นั้น เด็กสาวกำลังนั่งยิ้มอยู่

“ทำไมใส่ชุดของฤดูหนาวล่ะ?”
จริงๆที่ต้องการจะถามไม่ใช่เรื่องนี้สักหน่อย แต่พอเห็นภาพที่ขัดตาเช่นนี้แล้วจึงได้ลองถามออกไป
.....แต่แล้วก็ดูเหมือนจะไม่ได้รับคำตอบ

เพราะมองตอนแรกจากข้างล่างคิดว่าไม่มีรั้วกั้นเลยตกใจ แต่พอได้เห็นภาพตรงหน้าก็ทำให้ความรู้สึกกังวลในตอนแรกหายไป เด็กสาวกำลังนั่งอยู่บนรั้วกั้นของดาดฟ้า

“ชุดฤดูหนาว?”
เด็กสาวหันมา


“ชุดใส่ฤดูหนาวไม่ใช่หรือนั่น? ไม่รู้ว่ามีการเปลี่ยนชุดตามฤดูหรือไงกันน่ะ?”
“อ๋อ หมายถึงชุดนี้น่ะเหรอ นี่น่ะเป็นชุดใส่ฤดูร้อนค่ะ”
“หา?”
ไม่ว่าจะมองยังไง ชุดนี้ก็เป็นชุดใส่ฤดูหนาวของโรงเรียนโอโตวะไม่ผิดแน่ แุถมยังใส่ถุงมืออีกต่างหาก

“เรียกชุดที่ใส่ในฤดูหนาวว่าชุดใส่ฤดูหนาวสินะคะ เพราะงั้นชุดนี้ใส่ในฤดูร้อนก็ต้องเป็นชุดใส่ฤดูร้อน ไม่ใช่หรือคะ?”
“มันต้องไม่ใช่อยู่แล้ว”
เป็นหลักการคิดที่ไร้เหตุผลโดยสิ้นเชิง

“ไม่เห็นจะต้องคิดมากเลย บางทีก็มีคนบอกว่าแค่มองก็รู้สึกอึดอัดแทนอยู่บ่อยๆเหมือนกันค่ะ”
แสดงว่าต่อให้โดนว่าแบบนั้นก็ไม่สนงั้นสินะ
ใส่ชุดแบบนี้อยู่ถ้าเป็นเวลาที่ร้อนมากอย่างตอนเที่ยงก็คงจะรู้สึกทรมานแย่เลย

“พอดีไม่ค่อยชอบใส่เสื้อแขนสั้นสักเท่าไหร่น่ะค่ะ... เมื่อก่อน.. มีเรื่องนิดหน่อยก็เลย...”
เธอพูดไปพร้อมกับเอามือถูที่แขนเสื้อตัวเอง

“เมื่อก่อนก็ไม่ได้คิดอะไรมากหรอกค่ะ แต่เพราะตอนนี้โตแล้วก็เลย..”
“ขอโทษด้วย งั้นฉันคงไม่ถามอะไรต่อแล้วล่ะ”
เหมือนเธอจะไม่อยากพูดเรื่องนี้สักเท่าไร ผมจึงรีบตัดบททันที
บางทีเธออาจจะได้รับบาดเจ็บเมื่อสมัยเด็กแล้วเหลือรอยแผลเป็นไว้ สำหรับเด็กผู้หญิงแล้วก็คงจะไม่อยากให้ใครเห็นผิวที่มีรอยแผลเป็นอยู่แล้วล่ะนะ เรื่องนั้นผมเองก็พอจะเข้าใจ
พอลองมองดูดีๆแล้วเธอก็ดูเข้ากับชุดใส่ฤดูหนาวได้อย่างน่าประหลาด....
แน่นอนว่าผมคงไม่พูดเรื่องน่าอายแบบนี้ออกไป

“ว่าแต่ อุตส่าห์มาที่นี่เพื่อจะมาว่าเรื่องชุดนี่โดยเฉพาะเลยหรือคะ”
“จะบ้าเหรอ”
ผมเพิ่งจะนึกถึงสิ่งที่ตั้งใจมาคุยแต่แรกได้ขึ้นมา

“คือว่านะ ดาดฟ้านี้มันเป็นที่ห้ามเข้านะ”
ปกติแล้วดาดฟ้าจะต้องล็อกกุญแจเอาไว้นี่นา แล้วทำไมตอนนี้ประตูถึงเปิดอยู่ได้ล่ะ

“คุณเองก็เข้ามาเหมือนกันไม่ใช่หรือคะ”
เธอมีท่าทางเหมือนงอนนิดหน่อย

“ฉันอุตส่าห์มาที่นี่เพื่อเตือนนะ อย่าบ่ายเบี่ยงไปเรื่องอื่นสิ”
“เพิ่งจะเคยถูกคนพบเห็นเข้านี่ล่ะ แย่จังเลย”
“โชคดีแล้วที่ไม่ใช่อาจารย์มาพบเข้า ว่าแต่เธอเข้ามาได้ยังไงน่ะ”
ไม่เพียงแต่ดาดฟ้าจะเป็นสถานที่ห้ามเข้าเท่านั้น พูดให้ถูกคือตั้งแต่ที่เข้าโรงเรียนมาแ้ล้วได้ยินว่าเป็นสถานที่ห้ามเข้า ก็แทบจะลืมไปแล้วว่ามีสถานที่แบบนี้อยู่ด้วย
ดังนั้นสำหรับนักเรียนแล้ว น่าจะถือว่าเป็นสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยล่ะนะ

“อ๋อ เรื่องนั้นเองหรือคะ ฉันอยู่ชมรมดาราศาสตร์ เลยได้รับอนุญาตให้ขึ้นมาได้เป็นกรณีพิเศษน่ะค่ะ”
“ถ้าจะโกหกละก็ น่าจะให้เนียนกว่านี้หน่อยนะ เวลาแบบนี้มันมีดาวให้ดูซะที่ไหน ว่าแต่ ในโรงเรียนนี้น่ะมีชมรมดาราศาสตร์อยู่ด้วยเหรอ”
แถมยังไม่เห็นมีกล้องส่องทางไกลหรืออะไรมาเลยด้วยสิ

“มีสิคะ เพียงแต่ว่า ชมรมถูกยุบไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วน่ะค่ะ”
“ยุบ?”
“ค่ะ ตอนนี้พวกรุ่นพี่ปี ๓ อีกไม่นานก็กำลังจะจบออกไปแล้ว ปี ๒ ก็ไม่มีใคร ก็เหลือแต่ฉันที่อยู่ปี ๑ เท่านั้น”
“แค่ปี ๑ งั้นเหรอ”
ก็ น่าจะเป็นอย่างนั้นอยู่หรอก ไม่ว่าจะดูยังไงเด็กคนนี้ก็น่าจะเป็นรุ่นน้อง แต่เท่าที่กะดูนึกว่าน่าจะอายุน้อยกว่าสัก ๓ หรือ ๔ ปีซะอีก

“ก็หวังอยู่หรอกนะว่าจะมีใครสักคนมาเข้าชมรม แต่ว่าโลกนี้ อะไรๆมันคงไม่ตามใจเราไปซะหมดสินะคะ”
“แค่ตัวคนเดียวก็คงจะทำอะไรไม่ได้ล่ะนะ”
ช่วงนี้กำลังรู้สึกเบื่อหน่าย ต่อให้เป็นเรื่องน่าเบื่อก็คงคุยต่อไปเรื่อยๆได้

“นั่นสินะคะ ยังไงก็คงทำอะไรไม่ได้จริงๆ... แต่ว่า..”
“อะไร”
“ที่ไหนที่ฉันเ้ข้าไปเกี่ยวข้องด้วย มักจะมีอันเป็นไปก่อนเวลาอันควรทุกทีเลยน่ะค่ะ”
“หมายความว่าไง”
“รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวหายนะเลย แล้วยังพาคนรอบข้างเข้ามาเกี่ยวด้วยอีก ไม่เคยรู้ตัวมาก่อนเลยน่ะค่ะ”
พูดเรื่องน่ากลัวแบบนั้นออกมาได้ นี่มันใช่เรื่องที่จะมาบอกคนที่เพิ่งพบกันเป็นครั้งแรกซะที่ไหนกันล่ะ

“เอาเถอะ ฉันแค่มาเตือนเท่านั้นล่ะ ยังไงก็อย่ามานั่งในที่อันตรายแบบนี้เลยนะ”
“แหม ใจดีจังเลยนะคะ”
เธอยิ้มมาอย่างกวนๆ รู้สึกเหมือนกับโดนแหย่เล่นอยู่ยังไงยังงั้่น

“เธอจะขึ้นมาแอบบนดาดฟ้านี่ยังไงก็เรื่องของเธอ แต่ถ้าตกลงไปตายละก็คงจะแย่”
“แล้ว ทำไมคุณต้องเดือดร้อนแทนด้วยล่ะคะ?”
“ฉันแค่ไม่ชอบเห็นใครตายน่ะ ก็เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่เหรอ?”
“นั่นเป็นค่านิยมส่วนบุคคลของคุณสินะคะ”
ที่เธอพูดมาดูเหมือนกำลังโกรธนิดหน่อย
แค่คุยอยู่โดยที่ไม่คิดอะไร แต่กลับรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างจากตัวเูธอ จริงๆก็รู้สึกอย่างนั้นอยู่แต่ว่า....
“แต่ยังไงคุณก็คงไม่ได้ตั้งใจจะมีค่านิยมอะไรแบบนั้นสินะคะ....”


“รุ่นพี่ฮิมุระ ยู”
เธอเรียกชื่อผมขึ้นมาด้วยเสียงที่อ่อนโยน
“เธอเป็นใครกัน”

เพราะเป็นนักเรียนโรงเรียนเดียวกัน เรื่องที่จะถูกรู้จักชื่อก็คงจะไม่แปลกอะไร แต่ว่าผมกลับรู้สึกเหมือนเคยได้ยินเสียงนี้ ทั้งวิธีการพูดและรอยยิ้มนั้น เหมือนถูกเก็บอยู่ในความทรงจำเก่าๆที่ยังคงติดตรึงมาจนถึงตอนนี้

“ลืมจริงๆด้วยสินะ รู้สึกช็อกจังเลย”
“ช่วยตอบเรื่องที่ถามก่อนได้มั้ย”
“อย่าทำหน้าตาน่ากลัวแบบนั้นสิคะ โดยเฉพาะต่อหน้าเด็กผู้หญิง”
เธอพูดด้วยเสียงเหมือนต่อว่านิดหน่อย ทำไมต้องทำท่าโกรธขนาดนั้นด้วยนะ

อยู่ดีๆผมกลับรู้สึกเจ็บขึ้นมาจากตรงไหนสักแห่ง เริ่มจะหายใจได้ไ่ม่ทั่วท้อง
เธอยิ้มขึ้นอีกครั้ง

“ยูโกะค่ะ”
“ยูโกะ?”
“ค่ะ เพราะฉะนั้นขอร้องล่ะค่ะ อย่าพูดว่าลืมอีกเลยนะคะ”
ยูโกะ.....?

“ถึงจะทำใจไว้แล้วก็เถอะ แต่ถ้าหากถูกคุณลืมละก็ คงจะรู้สึกเศร้ามากจนไม่อาจจะยืนขึ้นได้อีก”

“ถ้าหาก....”

......ถ้าหากยังลืมอยู่ละก็ โปรดอย่าพูดอะไรเลยจนกว่าจะนึกออก......


“ถ้ายังคิดว่าไม่มีอะไรอีกละก็ เราก็จากกันทั้งอย่างนี้เลยก็ได้ค่ะ”

อยู่ดีๆก็กลับรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงระฆังดังก้องอยู่ในหัว
“เธอคือ....”

เสียงระฆังที่ดังขึ้น ดังขึ้น จนเริ่มรู้สึกปวดหู
เด็กๆที่กำลังร้องไห้ตามหาคนสำคัญ
“โบสถ์”

ระฆังที่โบสถ์ดังขึ้น ราวกับจะบอกถึงความสูญเสียทุกสิ่ง สภาพเมืองที่กลายเป็นซากปรักหักพัง ผู้คนกำลังขุดคุ้ยซากตึก พลางเรียกชื่อของใครบางคน ถอนหายใจอย่างท้อแท้ ตะโกนออกมาด้วยความโศกเศร้าที่อัดแน่นอยู่ในใจ เหล่าผู้คนที่กำลังสิ้นหวัง ไม่มีที่จะให้พึ่งพิง ในสถานที่ที่วันธรรมดาถูกเปลี่ยนให้เป็นฝันร้ายนั้น ผู้คนต่างตกอยู่ในวังวนของความคิดต่างๆนานา


ผม ได้แต่มองดูโลกที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงนี้ด้วยความหวาดกลัว และหยุดเท้าลงโดยไม่ตั้งใจ ในตอนนั้นก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่มือ ภาพใบหน้าที่เห็นอยู่ข้างๆในตอนนั้น.....

“นึกออกแล้ว”
ภาพในอดีตได้หยุดลงตรงนี้ พลันมองไปที่เด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าในขณะนี้ เมื่อมองให้ดีก็รู้สึกได้ถึงเค้าลางจากอดีตที่ยังคงเหลืออยู่

“จำได้แล้ว... ฉันจำได้แล้วล่ะ ยูโกะ”
“ขอบคุณมากค่ะ”
“ไม่ใช่เรื่องที่ต้องขอบคุณซะหน่อย”
ไม่อยากได้ยินคำขอบคุณแบบนั้นเลย
สำหรับผมซึ่งอยากจะลืมอดีตไปซะ ได้พยายามที่จะลบเรื่องเกี่ยวกับเธอออกไปจากความทรงจำ

“ยูโกะ เธอน่ะ”
“คะ”
“เปล่า ไม่มีอะไรหรอก”
ผมส่ายหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็เดินเข้าใกล้เธออีกก้าว

“อย่าทิ้งของแบบนี้ลงไปสิ มันจะกลายเป็นขยะนะ”
ผมหยิบเครื่องบินกระดาษขึ้นมา

“อุตส่าห์ตั้งใจพับมาอย่างดี ถูกเรียกว่าเป็นขยะแบบนี้ดูโหดร้ายจัง....”
“ถ้าภูมิใจมากก็ควรจะเก็บรักษามันเอาไว้อย่างดีสิ”
“นั่นสินะคะ ควรเก็บรักษามันเอาไว้สินะคะ ถ้างั้น...”

“ช่วยเก็บรักษามันเอาไว้ด้วยนะคะ จะพับปีกเก็บไปก็ได้แต่ห้ามทิ้งเด็ดขาดเลยนะคะ”

“เดี๋ยวสิ หมายความว่าไงกันน่ะ”
“เครื่องบินอันนี้ ให้รุ่นพี่ฮิมุระค่ะ”
“อะไรนะ”
ยูโกะยิ้มอย่างร่าเริง จ้องมองมาที่ผม

“แค่รู้สึกเสียดายน่ะค่ะ”
“เสียดาย?”
“ปกติฉันจะชินกับการอยู่ที่นี่คนเดียวน่ะสิ แต่กลับมีคนเข้ามา แต่ถ้าเป็นคุณละก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะเป็นคนที่อยากเจอมาโดยตลอด”

“รับไปเถอะค่ะ เป็นของที่ระลึกในการพบกันอีกครั้ง”
“เธอกำลังพูดเรื่องอะไรน่ะ ไม่สิ ยิ่งไปกว่านั้นของแบบนี้น่ะมันไม่จำเป็นสำหรับฉันหรอกนะ”
การพบกันใหม่ครั้งนี้ไม่เห็นจะน่าระลึกถึงตรงไหนเลย
อย่างน้อย สำหรับผมแล้วก็คงจะรับไว้ไม่ได้หรอก

“ฉันน่ะ”
เธอแกว่งมือที่กำลังยื่นเครื่องบินกระดาษให้

“จนถึงตอนนี้ก็ยังโกรธคุณไม่หาย”
ไม่เห็นมีท่าทีเหมือนว่าจะเป็นแบบนั้นเลยสักนิด แถมยังออกจะดูสนุกสนานออกขนาดนั้น แล้วทำไมถึง

“ใช่ ตลอดเวลาเลยล่ะค่ะ ดีจังเลยที่ได้พบกันอีก ทีนี้ก็สามารถจะยืนยันได้แล้วสินะคะ”
“ยืนยัน?”
“ใช่ คุณน่ะ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจถึงความเจ็บปวดของคนที่โดนปฏิเสธที่จะช่วยเหลืออยู่อีกสินะคะ”
บางทีเธออาจจะฝังใจกับเหตุการณ์ในครั้งนั้น
ทันใดนั้นโลกก็ดูราวกับถูกแช่แข็งไว้ ทุกอย่างหยุดนิ่งไม่มีการขยับ ไม่มีเสียงอะไรดังขึ้นมาเลย

“แค่ล้อเล่นน่ะค่ะ”
สักพักก็กลับได้ยินเสียงที่มีชีวิตชีวาขึ้นมา บรรยากาศได้กลับมาอีกครั้ง

“อย่าทำหน้าหดหู่แบบนั้นสิคะ รุ่นพี่ฮิมุระเนี่ยดูจะจริงจังมากเลยนะคะ”


“อ้อ แต่ที่ว่าให้เก็บรักษาเครื่องบินกระดาษนี่ไว้น่ะไม่ได้ล้อเล่นนะคะ ไว้ฉันจะมาดูด้วยว่าทิ้งมันไปหรือยัง”
เสียงใสๆที่ดูเหมือนจะไม่เอาความอะไร ได้แว่วผ่านหูผมไป เกิดความรู้สึกอยากจะขยำเครื่องบินกระดาษในมือทิ้งไปซะจริงๆ แต่ก็ระงับเอาไว้

“เป็นของที่ระลึกที่งี่เง่าดี”
“ฮะๆ คุณนี่ไม่เปลี่ยนไปเลยนะคะ ยังคงนิสัยไม่ดีอยู่เหมือนเดิม”
เธอถอนหายใจเบาๆแล้วค่อยๆเดินจากไป

“แล้วเจอกันใหม่นะคะ....... พี่ชาย...”
“...........”
ผมไม่ได้เรียกยูโกะที่กำลังเดินจากไปให้หยุด


พี่ชาย.... งั้นเหรอ ไม่ได้ยินเสียงเรียกแบบนั้นมานานแค่ไหนแล้วนะ คำที่ไม่น่าจะได้ยินอีก พอถูกใครเรียกแบบนั้น หัวใจก็กลับสั่นไหวขึ้นมา

-“พี่ชาย”-
.........!
เสียงนั้นดังก้องขึ้นมาจากที่ไหนสักแห่ง
ไฟกำลังเริ่มปะทุขึ้นมาภายในหัว
ภาพในตอนนั้นค่อยๆปรากฏขึ้นมาอย่างช้าๆ ผมค่อยๆปิดตาลง...
ไม่ได้! พอแค่นั้นแหละ จะไปนึกถึงมันไม่ได้ นั่นเป็นความทรงจำที่ไม่ควรจะไปนึกถึง

ผมมองไปที่เครื่องบินกระดาษที่กำลังถืออยู่ในมือ
ถ้ายังมองไม่เห็นความเป็นจริงแล้วละก็ จะปล่อยให้อดีตที่มืดมนนั่นมาบดบังปัจจุบันไม่ได้

“เฮ้อ...”
ผมถอนหายใจออกไป
ไม่เป็นไร ผมยังพอจะควบคุมความคิดของตัวเองได้
รู้สึกเหมือนเสียความเป็นตัวของตัวเองไปชั่วขณะ
ผมต้องทำให้มันหายไปให้ได้

“จริงสิ ต้องรีบไปทำงานพิเศษแล้ว”
ตะวันใกล้จะตกดินแล้ว ไม่ใช่เวลาที่จะมาอยู่ในที่แบบนี้คนเดียวแล้วด้วยสิ

“ไปดีกว่า”
ผมพูดขึ้น พร้อมกับวิ่งออกไป
ใช่ ถ้าไม่รีบวิ่งละก็

ไม่มีเวลาจะไปนึกถึงอดีตที่ไม่มีวันหวนคืนนั่นหรอก ไม่ใช่แค่ผมเท่านั้นหรอก ไม่ว่าใครก็ตาม....
ในตอนนั้น เสียงจั๊กจั่นก็ได้ดังขึ้น
ฤดูร้อนเหรอ..... ก็ไม่ได้เกลียดอะไรหรอกนะ

ᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳᅳ



-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

หมวดหมู่

-- บันเทิง >> เกม >> vn

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

สารบัญ

รวมคำแปลวลีเด็ดจากญี่ปุ่น
มอดูลต่างๆ
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
การเรียนรู้ของเครื่อง
-- โครงข่าย
     ประสาทเทียม
ภาษา javascript
ภาษา mongol
ภาษาศาสตร์
maya
ความน่าจะเป็น
บันทึกในญี่ปุ่น
บันทึกในจีน
-- บันทึกในปักกิ่ง
-- บันทึกในฮ่องกง
-- บันทึกในมาเก๊า
บันทึกในไต้หวัน
บันทึกในยุโรปเหนือ
บันทึกในประเทศอื่นๆ
qiita
บทความอื่นๆ

บทความแบ่งตามหมวด



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  ค้นหาบทความ

  บทความแนะนำ

ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ

ไทย

日本語

中文