วันก่อนได้มีโอกาสแวะไปยังมหาวิทยาลัยหยางหมิง (國立陽明大學) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านชานเมืองไทเป เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งหนึ่งของไต้หวัน โดยเน้นสอนคณะที่เกี่ยวกับการแพทย์เป็นหลัก เพราะเมื่อก่อนเป็นมหาวิทยาลัยแพทย์ ปัจจุบันนี้ก็มีหลายคณะ ตั้งแต่คณะทันตแพทย์ คณะพยาบาล คณะวิทยาศาสตร์ชีวภาพ มนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์
ดังนั้นแน่นอนว่าที่นี่เข้ายาก
แต่ไม่ใช่แค่เข้ายากในความหมายนั้น ยังมีอีกความหมายหนึ่งคือมหาวิทยาลัยแห่งนี้ตั้งอยู่บนเขาทำให้การเดินเข้าไปนั้นถือว่าเหนื่อยทีเดียว ทันทีที่เรามาเดินที่นี่ก็คิดในใจขึ้นมาทันทีว่า ที่นี่เป็นมหาวิทยาลัยนักปีนเขาชัดๆ ต้องปอดเหล็กพอดูถ้าจะต้องเดินขึ้นมาเรียนทุกวัน
การมาที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ก่อนอื่นนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีสือไผ (石牌站) แล้วเดินต่อประมาณ ๑๐ นาที
เราเองก็ไม่แน่ใจเส้นทาง เดินมาจนถึงซอยแห่งหนึ่ง ซึ่งเมื่อมองลึกเข้าไปก็เห็นตึกอาคารของมหาวิทยาลัย ซึ่งแสดงว่านั่นน่าจะนำทางไปสู่มหาวิทยาลัยได้
แต่... นั่นคือกับดัก!!
เพราะเมื่อเดินมาจนสุดซอยแล้วเราก็พบว่าไม่มีทางขึ้นไปสู่มหาวิทยาลัยเลย จนวนกลับมาเจอแผนที่นี้จึงรู้ว่าเรามาผิดแล้ว เป็นแผนที่วาดบนกำแพงอิฐ ดูแล้วสวยดี
สุดท้ายก็กลับมายังซอยทางเข้าที่แท้จริง
ประตูทางเข้ามหาวิทยาลัย
เมื่อเข้ามาถึงด้านหน้าสุดก็มีแผนที่ตัวมหาวิทยาลัยติดไว้ ในภาพแม้จะเป็นแผนที่สองมิติแต่จริงๆตัวมหาวิทยาลัยเป็นสามมิติ คือยิ่งเข้าไปลึกยิ่งสูง
โดยส่วนอาคารเรียนนั้นคือตำแหน่งสีเหลือง ซึ่งเป็นส่วนที่อยู่สูงสุด ส่วนสูงสุดก็คือสนามกีฬาขนาดใหญ่
เมื่อเรายิ่งเดินทางก็ยิ่งลาดชันขึ้นเรื่อยๆ
ขึ้นไปอีก ขึ้นๆๆๆ
ตึกนี้อยู่กลางมหาวิทยาลัย เป็นตึกหอประชุมและศูนย์กิจกรรม
เรามีเดินขึ้นตึกไปชั้นบนและถ่ายรูปลงมา สวยดี
แล้วก็ขึ้นสูงขึ้นไปอีก
ทางแยก ทางซ้ายไปเขตหอพัก ทางขวาไปเขตอาคารเรียน แน่นอนว่าเราต้องเลือกไปทางขวา
เราเห็นที่นี่มีรถเมล์ขึ้นมาด้วย ก็แน่ล่ะ ไม่ใช่ทุกคนที่จะปีนขึ้นมาไหว แต่ที่จริงคนที่นี่เดินอึดกว่าคนไทยเยอะนะ อย่าดูถูกเชียว มหาวิทยาลัยบนเขาแบบนี้เขาก็ยังอุตส่าห์พยายามสร้าง
และแล้วก็เดินมาเจออาคารเรียนแรก คณะพยาบาลศาสตร์
เมื่อเดินขึ้นมาเราก็แวะพักชมวิวโดยมองลงไปยังตัวเมือง นี่เราปีนขึ้นมาสูงทีเดียว
แล้วก็มาเจอตึกต่อไป เป็นอาคารคณะแพทย์ ๒
และตามด้วยอาคารเรียนคณะทันตแพทย์
และแล้วก็มาถึงอาคารเรียนส่วนที่สูงสุด ตรงนี้เป็นตึกวิจัย
จากนั้นเราก็ตัดสินใจที่จะลงแต่เพียงเท่านี้และเดินกลับลงไป เนื่องจากเหนื่อยมากและหนทางซับซ้อน วันที่มาถือเป็นวันที่อากาศร้อนวันหนึ่ง เสียดายถ้าหากขึ้นไปต่อก็คงได้เห็นสนามกีฬาขนาดใหญ่บนจุดสูงสุด คงสวยทีเดียว
โดยสรุปแล้วรู้สึกว่าถ้าหากมาเที่ยวที่นี่ เหมือนมาเที่ยวปีนเขาเล่นมากกว่ามามหาวิทยาลัย แม้จะไม่สูงเหมือนสถานที่ท่องเที่ยวที่ปีนเขานอกเมืองก็ตาม