φυβλαςのβλογ
บล็อกของ phyblas



เมืองแว็กเครอ เมืองที่ได้แวะด้วยความบังเอิญเพราะขึ้นรถไฟผิด
เขียนเมื่อ 2014/06/05 02:16
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42
#จันทร์ 5 พ.ค. 2014

หลังจากที่เมื่อวานข้ามไปเที่ยวชมหอพักนักศึกษาที่สวยที่สุดในโลกที่เดนมาร์กมาแล้ว https://phyblas.hinaboshi.com/20140603

ต่อจากนี้ก็จะเป็นการเที่ยวในสวีเดนล้วนๆ ไม่ได้ข้ามไปฝั่งเดนมาร์กแล้ว แต่เป้าหมายที่เราจะไปวันนี้เดินทางไกลยิ่งกว่าข้ามฝั่งไปเดนมาร์กเสียอีก

การเที่ยววันนี้เป็นการลุยเดี่ยว ไม่ได้ไปกับคนในครอบครัว เพราะพวกเขายังอยากเที่ยวโคเปนเฮเกนอีกวันเพราะมันเป็นเมืองที่มีอะไรน่าเที่ยวมากมาย

แต่เราอยากจะไปเที่ยวเมืองอื่นที่ยังไม่ได้ไปมากกว่า จะได้รู้จักเมืองมากขึ้น และเมืองที่เลือกไปครั้งนี้ก็มีปราสาทสวยที่มีชื่อเสียง นั่นคือเมืองคาลมาร์ (Kalmar)

เรื่องเกี่ยวกับคาลมาร์จะพูดถึงในภายหลัง แต่ตอนนี้สิ่งที่ต้องเล่าถึงก่อนก็คือปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด นั่นคือการซื้อตั๋วรถไฟผิด!

วันที่ผ่านมารถไฟที่เรานั่งนั้นล้วนเป็นของเออเรซุนด์สโทก (öresundståg) ซึ่งมีระบบที่ค่อนข้างเรียบง่าย คือเวลาซื้อตั๋วจะระบุแค่ต้นทางกับปลายทาง จะขึ้นรถไฟรอบไหนเวลาไหนก็ได้ไม่จำกัด

และรถไฟของเออเรซุนด์สโทกนั้นก็มีเส้นทางที่เดินทางไปถึงเมืองคาลมาร์ได้ เพียงแต่ไม่มีเส้นทางโดยตรง ต้องเปลี่ยนรถ

จากการค้นดูข้อมูลในเว็บทำให้รู้ว่ารถไฟจากคริครานสตาไปคาลมาร์นั้นมีรอบที่ออกเดินทาง เวลา 7:02 และจะไปถึงคาลมาร์เวลา 9:59 โดยระหว่างทางต้องเปลี่ยนรถไฟสองรอบ ครั้งแรกที่เมืองแฮสเลโฮล์ม เมืองเดียวกับที่แวะไปแล้วเมื่อวาน ครั้งที่สองที่เมืองอาลเวสตา (Alvesta)

เราเดินทางออกจากหมู่บ้านซึ่งพักอยู่ตั้งแต่เช้าก่อนหกโมงเช้าเพื่อไปขึ้นรถบัสให้ถึงสถานีรถไฟคริครานสตาก่อนเจ็ดโมง พอไปถึงเหลือเวลาไม่มากก็รีบไปซื้อตั๋วทันที เนื่องจากช่องขายตั๋วยังไม่เปิดเพราะเช้าเกินไปก็เลยได้แต่ซื้อตั๋วจากตู้

ที่เครื่องนั้นเราได้ซื้อตั๋วรถไฟของเออเรซุนด์สโทกเพื่อเดินทางจากคริครานสตาไปคาลมาร์ จากนั้นก็ขึ้นรถไฟรอบ 7:02 ทันตามที่วางแผนไว้

จากนั้นรถไฟก็ไปถึงแฮสเลโฮล์มเวลา 7:23 แล้วรออีก ๑๗ นาทีเพื่อต่อรถไฟเวลา 7:40 และรถไฟไปถึงสถานีอาลเวสตามเวลา 8:24

นี่คือสถานีรถไฟอาลเวสตา เราไม่มีเวลาออกนอกสถานีรถไฟเพราะว่ามีเวลาแค่ ๑๔ นาทีกว่ารถที่ต่อจะมาถึง เท่าที่ดูแล้วเมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆเงียบๆไม่มีอะไรมาก ถึงจะแวะเดินก็คงจะไม่มีอะไร



รถที่จะไปคาลมาร์นั้นมาตามเวลาตอน 8:38 และพอมันมาเราก็ก้าวขึ้นไปทันที



...โดยไม่ได้ฉุกคิดเลยว่ารถไฟขบวนนี้เป็นของ SJ ไม่ใช่เออเรซุนด์สโทกเหมือนอย่างสองขบวนที่นั่งมาตอนแรก

พอขึ้นไปแล้วเจอคนตรวจตั๋วเขาก็บอกทันทีว่าตั๋วผิด ตอนแรกเราก็งง แต่พอเขาบอกว่านี่เป็นรถไฟคนละบริษัทกันก็เริ่มจะพอเข้าใจสถานการณ์ รถไฟนี้คือรถไฟที่จะไปถึงคาลมาร์เวลา 9:59 ตามที่วางแผนไว้ เพียงแต่มันเป็นรถไฟของ SJ ตั๋วที่เราซื้อนั้นไม่ใช่ตั๋วที่จะขึ้นรถไฟเที่ยวนี้ได้

ที่ถูกต้องคือตอนซื้อตั๋วเราต้องซื้อว่านั่งเออเรซุนด์สโทกจากคริครานสตามาลงอาลเวสตา แล้วค่อยซื้อตั๋ว SJ จากอาลเวสตาไปคาลมาร์ แต่ที่เราซื้อคือตั๋วเออเรซุนด์สโทกโดยตรงจากคริครานสตาถึงคาลมาร์ ซึ่งสามารถไปได้เช่นกัน แต่มันไม่ใช่รอบนี้

เขาบอกว่าให้เราลงที่สถานีถัดไปแล้วให้รอรถไฟที่เป็นของเออเรซุนด์สโทก ซึ่งดูเวลาแล้วก็คือจะมาเวลา 9:47 ก็คือหลังจากขบวนนี้ไปหนึ่งชั่วโมง และเราจะสามารถไปถึงคาลมาร์ได้ในเวลา 10:59 ซึ่งช้าจากแผนเดิมไปอีกหนึ่งชั่วโมงพอดี

ในที่สุดเราก็ต้องมาลงที่สถานีซึ่งอยู่ต่อมาจากอาลเวสตา นั่นคือเมืองแว็กเครอ (Växjö) ชื่อเมืองนี้ตัว xj อ่านออกเสียงเป็นเสียงพิเศษคล้าย "คร" เช่นเดียวกับ "คร" ตัวหลังของชื่อเมืองคริครานสตา

นี่คือหน้าตาของรถไฟ SJ ซึ่งเรานั่งมาแค่สถานีเดียว



พอออกมาหน้าสถานีแล้วมองไปรอบๆก็พบว่าเมืองนี้เป็นเมืองใหญ่ไม่ใช่เล่น ความจริงแล้วมันเป็นเมืองที่ใหญ่ยิ่งกว่าเมืองคริครานสตาหรือเมืองคาลมาร์ที่เราจะไปเสียอีก และเป็นถึงเมืองที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดโครโนแบรี (Kronoberg) ซึ่งเป็นจังหวัดหนึ่งทางภาคใต้ของสวีเดน ตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดสโกเนซึ่งเราอยู่ กับจังหวัดคาลมาร์ซึ่งเรากำลังจะเดินทางไป

เมื่อรู้ว่าต้องรอรถไฟเที่ยวต่อไปถึงหนึ่งชั่วโมงจะให้นั่งอุดอู้อยู่ในสถานีรถไฟก็เสียเวลาเปล่า ไหนๆโชคชะตาก็พาให้เรามาลงที่เมืองนี้โดยไม่ได้ตั้งใจแล้วก็ขอเดินสำรวจเมืองสักหน่อย โชคดีที่เมืองนี้เป็นเมืองใหญ่ มีอะไรให้เดินเยอะ ถ้าเป็นที่เมืองอาลเวสตาละก็คงจะไม่มีอะไรให้เดิน คงจะน่าเบื่อแย่

อาคารสถานีรถไฟ



ด้านหน้าสถานีเป็นจุดขึ้นรถเมล์หลักของเมืองมีป้ายรถเมล์ไปโน่นนี่เป็นจำนวนมาก



เราได้รู้เอาตอนนั้นเองว่าที่นี่เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยด้วย เห็นมีรถเมล์ไปได้



มหาวิทยาลัยที่นี่ชื่อมหาวิทยาลัยลินเน (Linnéuniversitetet) ซึ่งมีวิทยาเขตอยู่สองที่คือที่เมืองแว็กเครอนี้และที่เมืองคาลมาร์อีกที่ สองแห่งนี้เคยเป็นมหาวิทยาลัยแยกกันมาก่อน แต่เพิ่งรวมตัวกันในปี 2010 ชื่อมหาวิทยาลัยตั้งตามชื่อนักพฤกษศาสตร์ชื่อดังของสวีเดนคอร์ล ฟอน ลินเน (Carl von Linné) หรือที่คนมักจะรู้จักชื่อเขาในชื่อภาษาละติดว่าคาโรลุส ลินนาเออุส (Carolus Linnaeus) ชื่อภาษาอังกฤษของมหาวิทยาลัยนี้คือ Linnaeus University

หน้าสถานีมีร้านอาหารไทยด้วย



เริ่มเดินชมเมืองไปเรื่อยๆตามทาง เมืองนี้เท่าที่ดูไม่มีตึกสูงๆเลย





จากตรงนี้จะเห็นป้ายบอกทางไปพิพิธภัณฑ์แก้ว (Glasmuseum) เมืองแว็กเครอนี้เรียกว่าเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรแห่งแก้ว (Glasriket) ซึ่งหมายถึงพื้นที่บริเวณรอบๆเมืองนี้ ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องการทำเครื่องแก้วมาตั้งแต่สมัยอดีต คนที่มาเที่ยวแถวนี้มักจะแวะโรงงานผลิตแก้วกันด้วย



เราเดินต่อไปตามทาง






ถึงแล้ว ที่นี่คือพิพิธภัณฑ์แก้ว แต่ว่ามันปิดอยู่เพราะเป็นวันจันทร์ น่าเสียดายเหมือนกัน



ข้างๆนั้นมีกังหันลมตั้งอยู่



จากนั้นเดินต่อมาก็จะเจอกับทะเลสาบแว็กเครอ (Växjösjön) เป็นทะเลสาบเล็กๆที่ตั้งอยู่ใกล้ใจกลางเมืองมากที่สุด เมืองนี้ยังถูกรายล้อมด้วยทะเลสาบเล็กๆอีกหลายแห่ง



รอบๆทะเลสาบนี้เป็นสวนสาธารณะ



ทิวทัศน์สวยๆริมทะเลสาบ





มีเป็ดว่ายน้ำอยู่ด้วย



บ้านเมืองตามริมฝั่งทะเลสาบ






เดินเลียบทะเลสาบไปเรื่อยๆรู้สึกว่าชักเริ่มไกลจากตัวเมือง ก็เลยเริ่มวกกลับเข้าทางเดิม





มหาวิหารแว็กเครอ (Växjö domkyrka) แม้ว่าจะเรียกว่ามหาวิหารก็ตามแต่หากเทียบกับมหาวิหารแห่งอื่นในสวีเดนแล้วที่นี่ถือว่ามีขนาดค่อนข้างเล็ก



มองอีกมุมหนึ่ง เท่าที่ดูดูเหมือนจะไม่มีมุมที่สามารถถ่ายตัวโบสถ์นี้แบบเต็มๆโดยไม่มีอะไรบังได้เพราะมีทั้งต้นไม้และตึกรายล้อมอยู่มาก



จากป้ายหากไปต่อจากตรงนี้ก็เป็นถนนใหญ่ที่พาไปถึงมหาวิทยาลัยลินเนซึ่งอยู่ทางใต้ของเมือง แต่ก็อยู่ไกลออกไปมากถ้าเดินไปจะนานมาก เราไม่มีเวลามากขนาดนั้นจึงไม่ได้ไป ความจริงแล้วมหาวิทยาลัยนี้มีปราสาทเทเลบอรี (Teleborgs slott) เป็นปราสาทที่สวยงามอีกแห่ง แต่ไม่ใช่ของเก่าอะไรเพราะเพิ่งถูกสร้างเมื่อปี 1900 นี้เอง



จากแถวหน้ามหาวิหารแว็กเครอเราเดินต่อไปเพื่อไปยังจตุรัสกลางเมือง ระหว่างทางก็ถ่ายตึกสวยๆไปเรื่อยๆ






ที่นี่คือจตุรัสกลางเมือง (Stortorget)




จากตรงนี้เดินต่อไปก็เป็นถนนสายหลัก (Storgatan) ของเมือง เป็นย่านร้านค้าใจกลางเมือง เป็นย่านที่สวยงาม







เราเดินไปตามถนนสายหลักนี้จนสุดท้าย จากนั้นก็ย้อนกลับมาที่สถานีรถไฟก่อนถึงเวลารถไฟออกเพียงประมาณสิบกว่านาที ที่จริงอยากเดินให้มากกว่านี้เหมือนกัน เมืองนี้ที่จริงใหญ่พอสมควร ยังมีอะไรอยู่อีก แต่หลักๆก็เท่าที่เดินไปนี่เองคือเป็นย่านใจกลางเมือง

กลับมารอรถไฟเพื่อจะไปยังคาลมาร์ต่อ ระหว่างรอก็เห็นผู้หญิงสองคนกำลังคุยภาษาไทยกันอยู่ก็เลยเข้าไปทัก ก็ทำให้รู้ว่าพวกเขาเป็นคนไทยที่อาศัยอยู่ที่นี่ กำลังเรียนหนังสืออยู่ อยู่ที่นี่มาสองสามปีแล้ว พูดภาษาสวีเดนได้



ทั้งสองคนขึ้นรถไฟคันเดียวกับที่เราขึ้นไปด้วย แต่ว่าลงแค่ที่สถานีถัดไปคือสถานีโฮฟมานทอร์ป (Hovmantorp) ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆข้างๆเมืองแว็กเครอ ไม่ได้ถามเหมือนกันว่าเขาไปทำอะไร มีเวลาคุยกันไม่นานสักเท่าไหร่ เท่าที่คุยเขาบอกว่าเมืองแว็กเครอนี้มีคนไทยอาศัยอยู่ไม่น้อยเลย ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่เพราะเห็นร้านอาหารไทยตั้งอยู่เด่นหน้าสถานี แถมเมืองอื่นๆอีกหลายแห่งก็มีคนไทยอยู่เช่นกัน ทำให้รู้ว่าคนไทยอยู่สวีเดนกันเยอะ

รถไฟแล่นไปเรื่อยๆเพื่อมุ่งหน้าไปยังคาลมาร์ ระหว่างทางผ่านสถานีเอมมาโบดา (Emmaboda) เป็นเมืองเล็กๆที่มีความสำคัญตรงที่เป็นจุดเปลี่ยนของรถไฟ มีรถไฟที่ไปเมืองคาร์ลสกรูนา (Karlskrona) ซึ่งเป็นเมืองท่าที่เป็นเมืองหลักของจังหวัดเบลกินเย (Blekinge)



ที่เห็นสีสวยๆนี้เป็นรถไฟของเครอซาโทเกน (krösatågen) เป็นรถไฟท้องถิ่นอีกแห่งทางภาคใต้ของสวีเดน ขบวนนี้เดินทางจากเมืองเอมมาโบดาไปเมืองคาร์ลสกรูนา



รถไฟผ่านเมืองเอมมาโบดาก็เท่ากับว่าเข้าเขตจังหวัดคาลมาร์แล้ว ในที่สุดก็จะไปถึงคาลมาร์ซึ่งเป็นเป้าหมายที่แท้จริงหลังจากที่เสียเวลาล่าช้ากว่าแผนเดิมไปหนึ่งชั่วโมง



แต่ว่าหนึ่งชั่วโมงนี้ก็คุ้มค่าไม่สูญเปล่า เพราะได้เดินเที่ยวเพิ่มอีกเมือง ซึ่งเป็นเมืองที่ไม่รู้จักมาก่อนเลยแต่กลับสวยงามน่าเดินมากกว่าที่คิด จริงอยู่ว่าไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวแต่ก็ถือเป็นเมืองใหญ่ที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของสวีเดน การได้มารู้จักก็เป็นประสบการณ์ที่ดี แถมที่สำคัญคือได้มาเจอคนไทยโดยบังเอิญด้วย

นี่แหละการเดินทาง ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ้างก็ถือเป็นรสชาติอย่างหนึ่ง เป็นประสบการณ์ พอเจออะไรไม่ตรงไปตามแผนเราก็ปรับเปลี่ยนหาแผนอื่นมาทดแทนได้ บางทีอาจจะเจออะไรที่ดีกว่าที่ตั้งใจไว้ตอนแรกด้วยซ้ำไป

เรียกได้ว่าการซื้อตั๋วผิดครั้งนี้กลายเป็นโชคของเรา เลยทำให้ไม่รู้สึกเสียใจเลยที่ซื้อตั๋วผิด อย่างไรก็ตามโชคแบบนี้คงไม่ได้เจอง่ายๆ ดังนั้นต่อจากนี้ไปเราจึงระวังเต็มที่เพื่อไม่ให้ซื้อตั๋วผิดอีก

แต่เรื่องผิดพลาดของวันนี้มันไม่ได้มีอยู่แค่นี้ ตอนหน้าจะเจออะไรที่ลำบากอีกเช่นกัน แต่ก็กลับพลิกผันกลายเป็นเรื่องดีอีกเช่นเคย จะเป็นยังไงติดตามอ่านกันต่อได้ https://phyblas.hinaboshi.com/20140607


-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

หมวดหมู่

-- ต่างแดน >> ยุโรป >> สวีเดน
-- ท่องเที่ยว >> รถไฟ
-- ท่องเที่ยว >> ทะเลสาบ

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

สารบัญ

รวมคำแปลวลีเด็ดจากญี่ปุ่น
มอดูลต่างๆ
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
การเรียนรู้ของเครื่อง
-- โครงข่าย
     ประสาทเทียม
ภาษา javascript
ภาษา mongol
ภาษาศาสตร์
maya
ความน่าจะเป็น
บันทึกในญี่ปุ่น
บันทึกในจีน
-- บันทึกในปักกิ่ง
-- บันทึกในฮ่องกง
-- บันทึกในมาเก๊า
บันทึกในไต้หวัน
บันทึกในยุโรปเหนือ
บันทึกในประเทศอื่นๆ
qiita
บทความอื่นๆ

บทความแบ่งตามหมวด



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  ค้นหาบทความ

  บทความแนะนำ

ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ

บทความแต่ละเดือน

2024年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

2023年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

2022年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

2021年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

2020年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

ค้นบทความเก่ากว่านั้น

ไทย

日本語

中文