φυβλαςのβλογ
บล็อกของ phyblas

# พฤหัส 30 ก.ค. 2015

เข้าสู่วันที่ ๖ ในการเที่ยวพม่า หลังจากที่เมื่อวานเดินทางมาถึงพุกามในตอนเย็น https://phyblas.hinaboshi.com/20150908

วันนี้ตื่นเช้ามาตอนตีห้าจากนั้นหกโมงกว่าก็ไปทานข้าวเช้าที่โรงอาหาร ตอนเช้าโรงอาหารโล่งไม่มีใครเลย อาหารมีอยู่ไม่กี่อย่าง แต่ไข่ดาวกับไส้กรอกที่นี่ก็อร่อยดี



จากนั้นก็รอแท็กซีมารับตอนเจ็ดโมง ค่าเหมาแท็กซีวันนี้อยู่ที่ ๓๕๐๐๐ จ๊าด เราเริ่มเที่ยวจากเจดีย์ที่อยู่ฝั่งตะวันออกของย่านเมืองเก่า จากนั้นก็เข้าไปในกำแพงเมือง

หมู่เจดีย์ทางตะวันออกได้แก่
- เจดีย์ทีโลมีนโล (ထီးလိုမင်းလိုဘုရားhtilominlo buyar)
- เจดีย์อุปาลีเธน (ဥပါလိသိမ်upali thein)
- เจดีย์อานานดา (အာနန္ဒာဘုရားananda buyar)

ส่วนหมู่เจดีย์ภายในย่านเมืองเก่าได้แก่
- วิหารมะฮาบอดี (မဟာဗောဓိကျောင်းmahar bawdi kyaung)
- เจดีย์บูพะยา (ဗူးဘုရားbu buyar)
- เจดีย์กอดอปะลีน (ကောတော့ပလ္လင်ဘုရားgawdawpalin buyar)
- เจดีย์ชเวกูจี (ရွှေဂူကြီးဘုရားshwegugyi buyar)
- เจดีย์ธะบยีนญู (သဗ္ဗညုဘုရားthatbyinnyu buyar)
- เจดีย์ปะโทธาเมีย (ပုထိုးသားများဂူဘုရားPahtothamya gubuyar)
- เจดีย์มีมะลองจอง (မီးမလောင်ကျောင်းmimalaung kyaung)

นอกจากนี้ภายในย่านเมืองเก่ายังมี
- พิพิธภัณฑ์โบราณคดีพุกาม (ပုဂံရှေးဟောင်းသုတေသနပြတိုက်bagan shehawngthutethana pyataik)
- ปราสาทพุกาม (ပုဂံနန်းတော်bagan nandaw) ซึ่งเป็นของสร้างใหม่จำลอง



เริ่มที่แรกคือเจดีย์ทีโลมีนโล ที่นี่ถูกตั้งชื่อตามกษัตริย์องค์หนึ่งของราชวงศ์พุกามผู้สั่งให้สร้าง คือพระเจ้าทีโลมีนโล ครองราชย์ปี 1211 - 1234



พระพุทธรูปด้านใน



ภายในมีหนังสือขายอยู่มากมาย มีหลายภาษาด้วย เพื่อนผู้ร่วมเดินทางติดใจหนังสือตรงนี้เลยนั่งอ่านอยู่สักพัก เราเองก็อ่านไปด้วยระหว่างรอ



ถัดมาต่อด้วยเจดีย์อุปาลีเธน ซึ่งเป็นเจดีย์เล็กๆที่ไม่มีอะไรมาก ชื่อของที่นี่มาจากชื่อพระในสมัยพระเจ้าทีโลมีนโล





ต่อด้วยเจดีย์อานานดา



ที่นี่เป็นเจดีย์ที่มีขนาดใหญ่และสวยเด่นมากแห่งหนึ่ง ยอดเจดีย์นั้นเดิมทีเป็นสีขาว ที่เห็นเป็นสีทองเพราะมีการบูรณะในปี 1990



บรรยากาศในลานรอบๆเจดีย์ ซึ่งขณะนั้นฝนกำลังตกทำให้การเดินออกมากลางแจ้งทีนึงเป็นเรื่องลำบากทีเดียว






ด้านในวิหารใต้เจดีย์




ขณะกำลังชมอยู่นั้นเจอคนญี่ปุ่นที่ดูเหมือนว่าจะมาทำสารคดีอะไรสักอย่างทำให้ต้องหลีกทางให้ เขาบอกว่าถ้าเขากำลังถ่ายทำอยู่ห้ามถ่ายรูปเขาแต่ว่าก่อนเริ่มสามารถถ่ายได้เราก็เลยขอถ่ายรูปพวกเขาสักหน่อยแล้วก็รีบหลีกไปทางอื่นปล่อยให้พวกเขาถ่ายไป



ที่จริงอยากชวนเขาคุยมากกว่านี้สักหน่อยแต่เห็นเขากำลังยุ่งๆอยู่ก็เลยไม่ไป เวลาเที่ยวอยู่ต่างแดนแล้วเจอคนคุยภาษาที่เราเข้าใจได้อยู่แล้วมันรู้สึกดีเหมือนมีคนใกล้ตัวอยู่ด้วย มักมีความรู้สึกอยากเข้าไปคุย ไม่ว่าจะเป็นคนไทย คนญี่ปุ่น หรือคนจีนก็ตาม

ระหว่างรอหนุ่มแทจ็อนชมเจดีย์อย่างละเอียดเรามีหยิบอาเตอลีเยของอาช่ามาเล่นต่อรอ เล่นไปจนถึงตอนที่เริ่มสำรวจโรงงานแก้ว https://phyblas.hinaboshi.com/20150815



หลังจากนั้นพอจะออกจากที่นี่กลับพบว่าหาไม่เจอว่าทางออกอยู่ตรงไหน เพราะเจดียืมีสี่ด้านแต่ละด้านมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่อยู่ดูคล้ายๆกันหมด แต่มันก็ต่างกันเล็กน้อยดังนั้นเราจึงต้องไปย้อนดูรูปของพระพุทธรูปที่ถ่ายตอนเข้ามาทีแรกสุดเพื่อจะได้รู้ว่าฝั่งไหนคือทางที่เข้ามาทีแรก ในที่สุดก็หาทางออกที่ถูกต้องได้





เรากลับมาขึ้นรถเพื่อไปที่ถัดไปต่อ คราวนี้ได้เวลาเข้าสู่กำแพงเมือง ผ่านประตูตะวันออกชื่อประตูธะระบา (သရပါတံခါးtharabar dagar) นี่เป็นประตูเดียวที่ยังหลงเหลือในสภาพดีจากประตู ๑๒ แห่งบนกำแพงเมืองที่สร้างขึ้นในป 849 เราให้แท็กซีหยุดรถเพื่อลงไปถ่ายสักหน่อย



จากนั้นก็เข้าไปชมเจดีย์แรกภายในกำแพง ชื่อเจดีย์มะฮาบอดี มาจากคำภาษาบาลีว่ามหาโพธิ์ โดยถูกจำลองมาจากวัดมหาโพธิ์ที่อินเดีย



เจดีย์นี้เล็กนิดเดียวแต่ก็มีรายละเอียดพอสมควร




พระพุทธรูปด้านใน



เราเดินเสร็จก่อนในขณะที่เพื่อนผู้ร่วมเดินทางยังเดินดูเก็บรายละเอียดอยู่ ระหว่างนั้นเราจึงนั่งรอและหยิบอาช่าขึ้นมาเล่นต่อ แต่ก็ไปได้ไม่ไกล ยังคงอยู่ภายในโรงแก้ว





จากนั้นมาต่อกันที่ถัดไปคือเจดีย์บูพะยา ซึ่งมีลักษณะเด่นคือตั้งอยู่ริมน้ำ



เจดีย์ทองริมน้ำดูสวยงามมาก แต่ก็ไม่มีอะไรนอกจากศาลาหนึ่งหลังกับเจดีย์ทองเล็กๆ



ระหว่างที่เข้าชมที่นี่เรามีแวะห้องน้ำด้วย และก็พบว่าห้องน้ำที่นี่สุดจะบรรยายเลยทีเดียว ไม่ขอพูดว่าเป็นยังไงแต่เอาเป็นว่าถ้าเลือกได้อย่าเข้าห้องน้ำที่นี่ดีกว่า



ที่ถัดมาคือเจดีย์กอดอปะลีน



พระพุทธรูปด้านใน



ภายในก็มีขายหนังสือ





จากนั้นหยุดเรื่องเจดีย์ไว้สักพักนึงก่อน มาแวะชมพิพิธภัณฑ์โบราณคดีพุกาม ซึ่งถูกสร้างเป็นอาคารหน้าตาสวยงามคล้ายปราสาท



ภายในประกอบด้วย ๓ ชั้น แต่ว่าที่เปิดให้ชมคือชั้นหนึ่งกับชั้นสองส่วนชั้นสามไม่ให้คนขึ้น

ชั้นหนึ่ง
- แบบจำลองพระราชวังและแบบแปลนของพระราชวังของพม่าในเมืองอื่นๆ
- ศิลาจารึกและวิวัฒนาการของตัวอักษร
- วิถีชีวิตชาวบ้าน เช่นอุปกรณ์ทำนา ชุมชนสมัยโบราณที่มีเจดีย์ลอกานานดาเป็นศูนย์กลาง
- สถาปัตยกรรมสมัยพุกาม มีแบบจำลองเจดีย์ต่างๆเยอะแยะมากมายหลายแห่ง
- ศิลปะ เช่นทรงผม เครื่องแต่งกาย

ชั้นสอง
- รูปวาดเจดีย์ต่างๆ เปรียบเทียบอดีตปัจจุบัน
- พระพุทธรูป

อย่างไรก็ตามในนี้ห้ามถ่ายรูปดังนั้นจึงไม่สามารถนำรูปกลับมาฝากได้ น่าเสียดายเหมือนกัน ได้แต่ถ่ายด้านหน้าทางเข้า



ใช้เวลาอยู่ในนี้นานพอสมควรดูอย่างละเอียดทีเดียว และเพราะฝนตกด้วยก็เลยกว่าจะออกก็เป็นเวลาเที่ยงแล้ว



หลังออกจากพิพิธภัณฑ์เสร็จแล้วเราก็ไปต่อที่ปราสาทพุกาม ซึ่งความจริงแล้วนี่เป็นของที่สร้างขึ้นมาใหม่ ไม่ใช่ของดั้งเดิม



จ่ายค่าชม ๕๐๐๐ จ๊าดแล้วเข้ามาชมด้านใน



ภาพที่ถ่ายได้ภายใน









จากนั้นกลับมาชมเจดีย์แถวนั้นกันต่อ ที่อยู่ข้างๆปราสาทนั้นคือเจดีย์ชเวกูจี



ด้านในวิหารเจดีย์



ภายในเจดีย์มีของวางขายอยู่หลายอย่างและมีเด็กพยายามตื๊อให้ซื้อของ ถึงอย่างนั้นเราก็ไม่ได้ซื้ออะไร



เจดีย์นี้สามารถปีนขึ้นไปด้านบนเพื่อถ่ายรูปทิวทัศน์รอบๆจากมุมสูงได้ เห็นเจดีย์ข้างๆหลายแห่ง มองไปทางนี้เห็นเจดีย์อานานดา



ส่วนทางนี้เห็นพระราชวัง





เสร็จแล้วก็เดินลงมาแล้วขึ้นรถต่อ มายังเจดีย์ถัดไปที่อยู่ใกล้ๆกันคือเจดีย์ธะบยีนญู มาจากภาษาบาลีว่าสัพพัญญู สูง ๖๑ เมตร เป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในพุกาม



แม้จะสูงแต่ว่าไม่สามารถขึ้นไปได้ ได้แค่ดูภายใน





จากนั้นข้างๆกันมีเจดีย์ปะโทธาเมีย ซึ่งเป็นเจดีย์เล็กๆ



ด้านในมีงานแกะสลัก






จากนั้นก็เป็นเจดีย์สุดท้ายภายในบริเวณด้านในกำแพงเมืองแล้ว นั่นคือเจดีย์มีมะลองจอง ก็เป็นเจดีย์เล็กๆอีกแห่ง



สามารถปีนขึ้นไปด้านบนได้แต่ก็ไม่เห็นอะไรมากเพราะไม่สูง



มองทางนี้เห็นเจดีย์ธะบยีนญูและเจดีย์ปะโทธาเมียซึ่งอยู่ใกล้



การเที่ยวเจดีย์ในเขตเมืองเก่าก็สิ้นสุดลงแค่นี้ แต่ก็ไม่ได้หมดแค่นี้ ยังมีเจดีย์รอให้ชมอีกหลายแห่ง ต่อจากนี้ไปเราจะออกจากประตูเมืองเก่าทางใต้แล้วไปชมเจดีย์ส่วนที่อยู่ทางใต้ต่อไป https://phyblas.hinaboshi.com/20150912



แถมท้ายอีกนิด พอดีช่วงนี้เพิ่งลง photoshop CC เลยลองพยายามฝึกแต่งภาพดู ลองเอาเจดีย์อานานดามาทำเป็นภาพแบบไล่สีดู ทำแบบนี้แล้วก็สวยไปอีกแบบ

-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ