φυβλαςのβλογ
บล็อกของ phyblas



ตามรอยฮานะซากุอิโรฮะที่สถานีนิชิโองิกุโบะและนากาโนะ แล้วเดินทางกลับจากสนามบินนาริตะ
เขียนเมื่อ 2018/12/29 23:25
แก้ไขล่าสุด 2023/03/30 12:45
# จันทร์ 5 พ.ย. 2018

ต่อจาก https://phyblas.hinaboshi.com/20181227

ตื่นเช้ามาในโรงแรมที่โทโกโรซาวะ เข้าสู่วันสุดท้ายของการเที่ยวญี่ปุ่น

วันนี้ต้องไปขึ้นเครื่องบินที่สนามบินนาริตะ (成田空港なりたくうこう) ตอนเวลา 13:55 ดังนั้นช่วงเช้ายังมีเวลาเที่ยวอยู่

ถึงอย่างนั้นก็มีเวลาไม่ได้มากนัก จึงเลือกเป้าหมายที่เป็นเส้นทางที่ผ่านไปได้ง่ายและไม่กินเวลา

แล้วก็เลยตัดสินใจแวะไปตามรอยอนิเมะฮานะซากุอิโรฮะต่อ

เป้าหมายมีอยู่ ๒ ที่ ที่แรกคือสถานีนิชิโองิกุโบะ (西荻窪駅にしおぎくぼ) ตั้งอยู่ในเขตสึงินามิ (杉並区すぎなみく) ของโตเกียว

ตอนเช้าเมื่อพร้อมแล้วก็เก็บข้าวของออกจากโรงแรมเดินทางออกไปขึ้นรถไฟที่สถานีโทโกโระซาวะ



เนื่องจากเก็บเข้าของทั้งหมดออกมาแล้ว และเที่ยวไปเรื่อยๆตามทาง จึงเป็นการแบกสัมภาระไปเดินไป ลำบากอยู่แต่ก็ไม่มีปัญหา

จากโทโกโรซาวะต้องนั่งรถไฟสายโคกุบุนจิ (国分寺線こくぶんじせん) ไปลงที่สถานีโคกุบุนจิ เพื่อต่อรถไฟไปยังสายจูโอวของ JR



ระหว่างทางผ่านสถานีโคยงากุโบะ (恋ヶ窪駅こいがくぽえき) ชื่อสถานีดูน่ารักดี มีคำว่าความรักอยู่ด้วย ดูสะดุดตาจำติดใจ



เปลี่ยนรถที่สถานีโคกุบุนจิเสร็จแล้วก็นั่งสายจูโอวไปทางตะวันออก ๖ สถานีก็ถึงสถานีนิชิโองิกุโบะ



สถานีที่นี่ปรากฏในอนิเมะตอนที่ ๑๒ เป็นฉากด้านในสถานีเลย ก็เลยไม่ต้องออกไปไหน

แต่ก็มีลงไปข้างล่างเพื่อซื้อเครื่องดื่มนิดหน่อย ชาท้อ ๑๕๑ เยน




สำหรับภาพแรกที่เปรียบเทียบคือมุมนี้ ทิวทัศน์ที่มองออกไปจากบนสถานี ดูแล้วใกล้เคียงมาก




อีกมุมนึงคือม้านั่ง มองจากคนละด้านของรางรถไฟ




โอฮานะมาทำอะไรที่สถานีนี้ในเรื่องไม่ได้บอกแน่ชัด เพราะมีแค่ฉากที่สถานี ไม่เห็นฉากบริเวณย่านรอบๆสถานี แต่ดูจากฉากก่อนหน้าเดาได้ว่าเป็นที่ตั้งโรงแรมที่โทรุพักอยู่

หลังจากจบฉากนี้ไปโอฮานะก็ไปหาโควจังที่ร้านหนังสือที่อิเกบุกุโระ https://phyblas.hinaboshi.com/20181212

ส่วนเราครั้งนี้พอได้ถ่ายฉากนี้เสร็จก็ไม่อะไรแล้ว ขึ้นรถไฟต่อไปยังสถานีนากาโนะ (中野駅なかのえき) ในเขตนากาโนะ (中野区なかのく) อยู่ถัดมาทางตะวันออกอีก ๔ สถานี



อนึ่ง นากาโนะ (Nakano) เป็นชื่อเขตในโตเกียว ระวังอย่าสับสนกับนางาโนะ (Nagano) ซึ่งเป็นชื่อจังหวัดในภาคกลาง (เล่าถึงไปในนี้ https://phyblas.hinaboshi.com/20181208) เป็นคนละที่กัน

เพียงแต่ว่าหลายคนชอบทับศัพท์ Nagano เป็นนากาโนะ ซึ่งแบบนั้นทำให้สับสนกับชื่อเขต Nakano ได้ง่าย

รถไฟที่ขึ้นมานี้เป็นขบวนรถไฟที่วิ่งในสายของรถไฟใต้ดินโตเกียวสายโทวไซ (東西線とうざいせん) ซึ่งลากยาวตั้งแต่สถานีมิตากะ (三鷹駅みたかえき) ในเมืองมิตากะ (三鷹市みたかし) ทางตะวันตกไปสุดที่สถานีนิชิฟุนาบาชิ (西船橋駅にしふなばしえき) ในเมืองฟุนาบาชิ (船橋市ふなばしし) จังหวัดจิบะ ทางตะวันออกสุด



เพียงแต่ว่าจริงๆคือตั้งแต่ช่วงสถานีมิตากาถึงนากาโนะนั้นไม่นับเป็นส่วนหนึ่งของรถไฟไต้ดินโตเกียว รถไฟแค่วิ่งอยู่บนทางของสายจูโอวของ JR บนดิน ไม่ได้อยู่ใต้ดิน

ตั้งแต่ช่วงถึงก่อนสถานีนากาโนะนี้จึงมีรถไฟของ JR วิ่งปนกับรถไฟของสายใต้ดิน และจะแยกทางกันที่สถานีนากาโนะ ดังนั้นสถานีนากาโนะจึงถือเป็นจุดเริ่มต้นจริงๆของรถไฟใต้ดินสายโทวไซ และยังเป็นจุดเปลี่ยนรถไฟที่สำคัญด้วย

ตัวสถานีนากาโนะปรากฏในอนิเมะตอนที่ ๑๒

เริ่มแรก ฉากที่โอฮานะเดินออกมาจากรถไฟ รถไฟที่เห็นแถบสีส้มนี้เป็นรถไฟของ JR




ต่อมา ป้ายของสถานี แต่พยายามลองหาที่หน้าตาเหมือนกันแล้วไม่เจอ ยังไงก็มีแถบสีเหลืองแทรกอยู่ ข้อความก็ไม่เหมือนเดิม มีการเพิ่มภาษาจีนและเกาหลีมาด้วย และใช้อักษรคันจิเป็นหลักแทนฮิรางานะ




แล้วก็ตึกโถงทางเดินที่ดูเด่นอยู่ทางเหนือของสถานีถนนร้านค้านากาโนะซันมอล (中野なかのサンモール商店街しょうてんがい)




ฉากที่โอฮานะยืนร้องไห้อยู่ในสถานี ตำแหน่งถ่ายที่ถูกต้องจริงน่าจะต้องเดินไปอีกหน่อยเพื่อให้ตึกด้านหลังตรงกัน




อีกฉากหนึ่ง หลังโอฮานะร้องไห้เสร็จก็มองไปยังถนนร้านค้า แต่ฉากนี้ไม่สามารถถ่ายเห็นด้านล่างแบบเดียวกันได้เพราะปัจจุบันได้มีการสร้างหลังคาเชื่อมจากสถานีไปถึงตรงนั้นแล้ว




มองจากด้านล่าง



แถวนี้ไม่ได้ถูกใช้เป็นฉากแค่ตรงสถานีเท่านั้น บริเวณรอบๆก็มีปรากฏด้วย จึงเดินออกจากสถานีลงมาด้านล่าง



ระหว่างทางเดินไปทางเหนือ ถนนร้านค้าเป็นโถงทางเดินสวยงาม



เดินมานิดเดียวก็ถึงแล้ว ตึกนี้เองคือตึกที่แม่ของโอฮานะทำงานอยู่



มุมนี้ตรงกับที่ปรากฏในเรื่อง




ส่วนนี่เป็นภาพย่านเมืองใกล้ๆตรงนั้น ปรากฏในตอนที่ ๑๑ ไม่เจอมุมที่เหมือนกันพอดี แต่ดูแล้วมุมนี้องค์ประกอบต่างๆใกล้เคียง






เมื่อชมฉากที่ต้องการเสร็จหมดก็ไม่มีอะไรแล้ว ได้เวลาเดินกลับเข้าสถานี การเที่ยวจบลงเท่านี้ จากนี้ไปคือการเดินทางไปยังสนามบิน




จากนากาโนะไปยังสนามบินนาริตะก็มีทางเลือกอยู่หลายทาง สำหรับตอนนี้เวลากระชั้นชิดเข้ามาแล้วจึงตัดสินใจไปนั่งรถด่วนซึ่งขึ้นที่สถานีนิปโปริ (日暮里駅にっぽりえき) ครั้งก่อนที่มาโตเกียวแล้วกลับไปนาริตะก็ใช้เส้นทางนี้เหมือนกัน https://phyblas.hinaboshi.com/20140423



การจะไปนิปโปริก็มีทางเลือกอยู่หลายทางอีก แต่ที่สั้นที่สุดคือนั่งรถไฟใต้ดินไปต่อรถไฟสายยามาโนเตะที่สถานีทากาดะโนะบาบะ (高田馬場駅たかだのばばえき)

เพียงแต่ว่าที่จริงยังมีทางอื่นคือนั่งสายจูโอวไปต่อสายยามาโนเตะที่สถานีชินจุกุหรือสถานีคันดะ แบบนี้จะถูกกว่าเล็กน้อยเพราะนั่งแต่รถไฟของ JR ตลอดทาง แต่อ้อมไกลกว่า

ถึงสถานีทากาดะโนะบาบะ ชื่อสถานีนี้จริงๆตอนที่ได้ยินครั้งแรกนึกว่า "บาบะ" หมายถึง ババ ที่แปลว่า "คุณยาย" แต่จริงๆคือ 馬場 ที่แปลว่า "สนามม้า"



ต้องออกมาจากสถานีเพื่อเปลี่ยนรถไฟอยู่แล้ว จึงถือโอกาสเดินเล่นแถวๆนั้นดูนิดนึง





แล้วก็กลับเข้าไปนั่งรถไฟต่อ




ถึงสถานีนิปโปริ



เดินไปยังทางขึ้นรถไฟของเคย์เซย์





ที่ไปขึ้นคือรถด่วนพิเศษสไกไลเนอร์ (スカイライナー) เป็นรถไฟด่วนพิเศษที่วิ่งจากสถานีเคย์เซย์อุเอโนะไปยังสนามบินนาริตะ โดยมีแวะจอดแค่ที่สถานีนิปโปริ จากนั้นก็ตรงดิ่งถึงสนามบินเลย

ค่าโดยสารจริงๆจากที่นี่ไปถึงนาริตะราคา ๑๒๓๕ แต่ต้องบวกค่ารถไฟด่วนพิเศษอีก ๑๒๓๐ ทั้งหมดใช้บัตร Suica จ่ายได้ด้วยบัตร Suica ที่เครื่องขายอัตโนมัติ แล้วก็จะได้ตั๋วสำหรับขึ้นรถด่วนพิเศษมา

เวลาเข้าออกสถานีจะยุ่งยากเล็กน้อย เพราะค่าโดยสารระหว่างสถานีจ่ายด้วยบัตร Suica ต้องแตะบัตร เสร็จแล้วก็ต้องสอดตั๋วรถด่วนเข้าเครื่องตรวจด้วย จึงจะผ่านเข้าไปได้ ตอนขาออกก็เหมือนกัน

ทางเข้าไปขึ้นรถด่วน




ระหว่างรอเจอรถไฟด่วนพิเศษอีกชนิดนึง ซึ่งแม้จะเป็นด่วนพิเศษเหมือนกันแต่ไม่ต้องเสียค่าโดยสารเพิ่ม วิ่งกันคนละเส้นทาง เวลาก็ต่างกันเยอะด้วย มีหยุดระหว่างทางหลายสถานี จึงดูไม่ค่อยด่วนจริงๆเท่าไหร่




ส่วนรถไฟที่จะขึ้น ที่ต้องเสียตังค์คือขบวนนี้



ตั๋วรถด่วน



บนรถไฟ




แล้วก็ออกเดินทางตรงดิ่งจากนิปโปริไปสู่สนามบินโดยไม่มีการหยุดพัก จนเดินทางมาถึง



ตอนที่ถึงสถานีดูแล้วยังมีเวลานิดหน่อย เลยลองแวะไปดูที่สถานีของ JR ซึ่งมีเครื่องขายบัตร Suica นอกจากนี้ก็ยังใช้เพื่อดูประวัติการใช้งานด้วย ในเครื่องสามารถแสดงประวัติการใช้ย้อนไปได้จำนวนนึง




นอกจากนี้ก็พิมพ์ออกมาได้ด้วย ที่พิมพ์ออกมานี้สามารถเห็นประวัติไล่ตั้งแต่ซื้อบัตรมา



เสร็จแล้วก็มาที่ส่วนขาออก ดูรอบเที่ยวบิน ยืนยันว่าไม่มีปัญหา

13:55 バンコク นกสกู๊ต XW101 ช่อง B



เช็กอิน




แล้วก็ไปรอขึ้นเครื่อง หน้าตาเครื่องบินของนกสกู๊ตเห็นกี่ทีก็ชวนให้ยิ้มได้



เครื่องบินที่นี่ไม่มีอาหารให้ แต่ว่าต้องนั่งยาวตั้ง ๖ ชั่วโมงกว่าและไม่ได้เตรียมน้ำเผื่อไป นั่งนานขนาดนี้โดยไม่ดื่มน้ำเลยยังไงก็ไม่ไหว สุดท้ายต้องยอมซื้อน้ำบนเครื่อง ซึ่งแพงมากแต่ก็ต้องยอมไม่งั้นคอแห้งตาย ราคาค่าน้ำเปล่าขวดนึงคิดเป็นเงินไทย ๗๐ บาท แต่พอดีไม่ได้พกเงินบาทเลยจ่ายเป็นเงินญี่ปุ่นแทน คิดเป็นเงิน ๒๐๐ เยน เพียงแต่ว่าเงินเยนต้องจ่ายเป็นธนบัตรเท่านั้น ใช้เศษเหรียญไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องจ่ายธนบัตร ๑๐๐๐ เยนไป แล้วได้ทอนเป็นเงินไทย ๒๐๐ บาท



จริงๆถ้าคิดตามอัตราแลกเปลี่ยนตอนนั้นแล้ว ๑๐๐๐ เยนก็ควรจะประมาณ ๒๙๐ บาท แสดงว่าอัตราแลกเปลี่ยนก็คิดโหดด้วย เลยเหมือนกับจ่ายไป ๙๐ บาทเพื่อซื้อน้ำขวดเดียวเล็กๆ

ก็เป็นบทเรียนว่าถ้านั่งสายการบินต้นทุนต่ำแบบนี้น่าจะเตรียมน้ำไว้ ซื้อจากสนามบินเอาก็ได้ ยังไงก็ยังถูกกว่าซื้อบนเครื่อง

แล้วเครื่องบินก็กลับถึงสนามบินดอนเมืองอย่างปลอดภัย การเที่ยวครั้งนี้ก็จบลงเท่านี้



สรุปรวมค่าใช้จ่ายวันที่ 5 พ.ย. 2018 ทั้งหมด

- เติมเงิน Suica ที่สถานีโทโกโรซาวะ 2000 เยน
- รถไฟจากโทโกโรซาวะไปโคกุบุนจิ 206 เยน (ใช้ Suica)
- ซื้อชาท้อ ที่สถานีฮิงาชิโองิกุโบะ 151 เยน
- รถไฟจากโคกุบุนจิไปนากาโนะ 302 เยน (ใช้ Suica)
- รถไฟจากนากาโนะไปทากาดะโนะบาบะ 165 เยน (ใช้ Suica)
- รถไฟจากทากาดะโนะบาบะไปนิปโปริ 165 เยน (ใช้ Suica)
- เติมเงิน Suica ที่สถานีนิปโปริ 890 เยน
- รถไฟจากนิปโปริไปสนามบินนาริตะ 1230+1235 เยน (ใช้ Suica)

รวมแล้วจ่ายเงินสด 3041 เยน



สุดท้ายนี้เป็นการสรุปค่าใช้จ่ายเที่ยวนี้ทั้งหมด

ส่วนที่ใช้ใช้บัตรเครดิตจ่ายและคิดเป็นเงินไทย
- ค่าตั๋วเครื่องบิน 8732.75+8023.58 = 16756.33 บาท
- ซิมต่อเน็ต 539.22 บาท

รวม 16756.33+539.22 ≈ 17300 บาท

ส่วนที่ใช้บัตรเครดิตจ่ายและคิดเป็นเงินญี่ปุ่น
- ค่าที่พักแต่ละคืน 3000+2800+2800+5300+3480+3280 = 20660 เยน
- ชิงกันเซง 11460 เยน

ค่าใช้จ่ายเงินสดแต่ละวัน
4100+4624+5968+6130+2510+4230+3041 = 30603 เยน

รวมส่วนที่จ่ายเป็นเงินญี่ปุ่นทั้งหมด 30603+11460+20660 = 62723 เยน
แปลงเป็นเงินไทยได้ประมาณ 18500 บาท

รวมทั้งหมดเบ็ดเสร็จ
18500+17300 = 35800 บาท



บันทึกการเที่ยวครั้งนี้จบลงเท่านี้ รวมทั้งหมดเที่ยว ๗ วัน ยาว ๓๙ ตอน

>> ย้อนกลับไปอ่านตอนแรกได้ที่นี่

นี่เป็นการเยือนญี่ปุ่นครั้งที่ ๓ และได้ความทรงจำที่ประทับใจเช่นเดียวกับครั้งก่อนๆ

ปีหน้าก็จะมีการเที่ยวญี่ปุ่นอีก ติดตามอ่านบันทึกการเดินทางครั้งต่อไปกันได้



-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

หมวดหมู่

-- ประเทศญี่ปุ่น >> โตเกียว
-- ประเทศญี่ปุ่น >> จิบะ
-- ท่องเที่ยว >> รถไฟ
-- ท่องเที่ยว >> ตามรอย

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

สารบัญ

รวมคำแปลวลีเด็ดจากญี่ปุ่น
มอดูลต่างๆ
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
การเรียนรู้ของเครื่อง
-- โครงข่าย
     ประสาทเทียม
ภาษา javascript
ภาษา mongol
ภาษาศาสตร์
maya
ความน่าจะเป็น
บันทึกในญี่ปุ่น
บันทึกในจีน
-- บันทึกในปักกิ่ง
-- บันทึกในฮ่องกง
-- บันทึกในมาเก๊า
บันทึกในไต้หวัน
บันทึกในยุโรปเหนือ
บันทึกในประเทศอื่นๆ
qiita
บทความอื่นๆ

บทความแบ่งตามหมวด



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  ค้นหาบทความ

  บทความแนะนำ

ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ

ไทย

日本語

中文