# จันทร์ 27 พ.ย. 2023เล่าเรื่องเที่ยวฮกไกโดตอนสุดท้าย ต่อจากตอนที่แล้ว
https://phyblas.hinaboshi.com/20231216เข้าสู่วันสุดท้ายของเที่ยวนี้ ซึ่งไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหน แค่เป็นวันสำหรับเดินทางกลับ
การเดินทางกลับนั้นไปโดยเครื่องบินจาก
สนามบินชินจิโตเสะ (
新千歳空港) เช่นเดียวกับตอนขามา โดยเราบินกลับสนามบินเซนได ส่วนพ่อแม่บินกลับสนามบินสุวรรณภูมิกรุงเทพ เวลาเที่ยวบินก็เลือกที่ใกล้เคียงกันเช่นเดียวกับตอนขามา ดังนั้นก็ไปสนามบินพร้อมกัน
สำหรับการเดินทางไปนั้นตอนขามาที่มีเพื่อนคนญี่ปุ่นขับรถมารับส่งแต่ว่าขากลับนั้นเพื่อนไม่อยู่ด้วยแล้ว เราจึงต้องเดินทางไปเอง ซึ่งการเดินทางระหว่างสนามบินกับตัวเมืองซัปโปโระนั้นวิธีที่เร็วที่สุดก็คือนั่งรถไฟไป เดินทางได้สะดวก
อย่างไรก็ตาม ถ้าจะนั่งรถไฟก็ต้องไปสถานีซัปโปโระ แต่พื้นเป็นหิมะเยอะเดินลำบาก และยิ่งมีสัมภาระมากด้วย จึงตัดสินเรียกแท็กซีไป
ตอนแรกตั้งใจว่าจะให้ทางโรงแรมช่วยเรียกแท็กซีให้ แต่เนื่องจากเวลาที่เราต้องการออกนั้นเช้ามาก คือ 6 โมงเช้า ซึ่งทางโรงแรมไม่สามารถหาแท็กซีให้ในเวลาเช้าแบบนั้นได้ จึงต้องหาทางเอาเอง แล้วก็พบว่าสามารถเรียกผ่านแอพ
ตีตีชูสิง (
滴滴出行) ซึ่งเป็นแอปสำหรับเรียกรถแท็กซีที่มีต้นกำเนิดในจีน
ที่จริงแล้วเมื่อก่อนตอนไปเที่ยวคุนหมิงก็เคยใช้มาแล้ว (เล่าไว้ใน
https://phyblas.hinaboshi.com/20180424) สะดวกดีมากทีเดียว เพิ่งรู้ว่าที่ญี่ปุ่นแอปนี้ก็นิยมเหมือนกัน แล้วครั้งนี้ก็มีโอกาสได้ใช้บริการ รถแท็กซีของตีตีนั้นแม้แต่เวลาเช้าตรู่แบบนี้ก็สามารถเรียกได้ ดีกว่าหวังพึ่งแท็กซีของโรงแรม สามารถจองล่วงหน้าก็ได้
เราเรียกรถแท็กซีให้มาตอน 6:00 แต่พอถึงเวลา 5:50 แท็กซีก็มารออยู่หน้าโรงแรมแล้ว
จากนั้นก็ออกรถ มุ่งหน้าไปยังสนามบิน
ระหว่างทางเกิดปวดอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมา เลยบอกให้แท็กซีช่วยแวะจอดที่ 7-11 ระหว่างทาง พอลองดูแผนที่แล้วตรงนั้นอยู่ที่บริเวณใกล้มิตสึอิเอาต์เล็ตพาร์กในเมืองคิตะฮิโรชิมะซึ่งแวะไปมาเมื่อวันก่อน (เขียนเล่าไว้ใน
https://phyblas.hinaboshi.com/20231213)
พอไปได้สักระยะก็พบว่าเริ่มไม่เห็นหิมะแล้ว ดูเหมือนว่าระหว่างที่ในเมืองซัปโปโระหิมะเต็มไปหมดอยู่นั้น แต่เมืองที่อยู่ลึกเข้ามาในแผ่นดินอย่างจิโตเสะนั้นไม่ได้มีหิมะตกเลย นี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่สนามบินหลักของฮกไกโดถูกตั้งที่เมืองจิโตเสะแทนที่จะเป็นในเมืองซัปโปโระ เพราะแถวนั้นหิมะตกน้อย ทำให้โอกาสที่จะบินไม่ได้เพราะหิมะลดต่ำลงไปมากนั่นเอง
ระหว่างทางผ่าน
สวนเบียร์ซัปโปโระ (サッポロビール
庭園) ซึ่งอยู่ใน
เมืองเอนิวะ (
恵庭市) เป็นอีกเมืองที่คั่นระหว่างเมืองซัปโปโระและเมืองจิโตเสะ
แผนที่แสดงตำแหน่งเมืองเอนิวะภายใน
กิ่งจังหวัดอิชิการิ (
石狩振興局) แสดงเป็นสีชมพูเข้มที่อยู่ทางตะวันออกของเมืองซัปโปโระที่เป็นสีม่วง
จากนั้นเลยไปอีกหน่อยก็เข้าสู่เมืองจิโตเสะแล้ว นี่คือร้านสึกิยะสาขาจิโตเสะ
เริ่มเข้าสู่บริเวณในสนามบิน
แล้วก็มาถึงที่หมาย ขณะลงนั้นค่าในมิเตอร์ขึ้นว่า ๑๕,๗๑๐ เยน แต่ว่าค่าโดยสารเส้นทางสนามบินจะมีส่วนลด ๒๐% ทำให้ถูกลงไปจากในมิเตอร์ จ่ายจริงๆคือ ๑๒,๔๙๐ เยน นี่น่าจะเป็นค่าแท็กซีที่แพงที่สุดเท่าที่เคยจ่ายมาทั้งหมดในชีวิต
เข้ามาในสนามบิน จากนั้นเดินไปยังส่วนระหว่างประเทศ ระหว่างทางเห็นมีพวกร้านต่างๆอยู่แต่ว่าเวลานี้ส่วนใหญ่ไม่มีอะไรปิดจึงดูเงียบเหงา
แล้วก็มาถึงส่วนเช็คอินของสายการบินไทย ส่งพ่อแม่ที่ตรงนี้ จากนั้นเราก็เดินย้อนกลับไปยังส่วนในประเทศ
ระหว่างทางเดินไป ตรงนี้ก็เงียบเหงา
มาถึงตรงโถงกลางซึ่งผู้คนคับคั่ง
ดูรายละเอียดเที่ยวบิน ที่เราจะขึ้นคือเที่ยวบินไปเซนไดของสายการบินไอเบกซ์เวลา 9:55
ตรงนี้เป็นเครื่องสำหรับจัดการเรื่องตั๋ว มีเช็คอินผ่านเน็ตมาแล้วก็มากดผ่านเครื่องนี้เพื่อเอาตั๋ว
ได้ตั๋วออกมา
จากนั้นก็เดินผ่านเข้าไปทางนี้ ตรวจสัมภาระ แล้วก็เข้าไปยังห้องรอขึ้นเครื่อง
ภายในห้องรอขึ้นเครื่อง
มีเวลาเหลือก็มานั่งรอตรงนี้สักพัก
พอใกล้เวลาเขาก็เรียกขึ้นเครื่อง
ภาพสุดท้ายที่ถ่ายบนเครื่องบินระหว่างรอเครื่องออก
ระหว่างเครื่องบินกำลังวิ่งอยู่ภายในลานวิ่งของสนามบิน
แล้วเครื่องบินก็ออกบิน ทิวทัศน์ระหว่างนั้นสวยดีมาก
ระหว่างกำลังผ่านแถวท่าเรือ
เมืองโทมาโกไม (
苫小牧市) หลังจากนั้นเครื่องก็ออกจากแผ่นกินฮกไกโดมุ่งสู่ทะเล ได้เวลาบอกลาฮกไกโดแล้ว
บนเครื่องบินมีบริการเครื่องดื่ม
แล้วก็มาถึงสนามบินเซนไดตามเวลา ระหว่างที่เครื่องกำลังลงจอดนั้นเราเห็นเงาของเครื่องบินประดับอยู่บนทิวทัศน์ด้วย ดูแล้วสวยดี
ยิ่งลงต่ำ เงาของเครื่องบินก็ยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
แล้วก็ลงพื้น
หลังจากลงจากเครื่องแล้วมองกลับเข้ามายังเครื่องที่เราเพิ่งนั่งมา ด้านขวาคืองวงบนพื้น ซึ่งเดินลอดผ่านจากเครื่องเข้ามายังอาคารสนามบิน
จากนั้นก็นั่งรถไฟเพื่อกลับเข้าตัวเมืองเซนได
ตอนกลับมาถึงสถานีเซนไดก็เป็นเวลาประมาณเที่ยง หาร้านกินแถวนั้นก่อนที่จะเดินทางกลับหอพัก
การเที่ยวฮกไกโดก็จบลงเท่านี้ เป็นเที่ยวที่สนุก ได้เห็นหิมะอย่างเต็มอิ่ม แม้จะลำบาก แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีมากทีเดียว