# ศุกร์ 4 เม.ษ. 2025ช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ซากุระกำลังบานสวยอยู่นั้นมันไม่นาน ปีนี้บานเร็วก็ร่วงเร็ว จึงพยายามไปชมที่โน่นนี่ก่อนที่จะหมดช่วง
คราวนี้ได้ลองแวะไปที่
สวนสาธารณะริมทะเลสาบเซย์นัมโมริ (
西南杜の
湖畔公園) ซึ่งอยู่ใน
เขตโจวนัง (
城南区) ทางตอนใต้ของเมืองฟุกุโกะ เป็นสวนสาธารณะขนาดพอประมาณแห่งหนึ่งที่สามารถเห็นได้สะดุดตาเมื่อมองจากแผนที่ แต่ก็ไม่ได้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักนัก แต่ก็มีซากุระอยู่จำนวนหนึ่งซึ่งบานสวยงามในฤดูใบไม้ผลิ
นอกจากซากุระแล้วที่นี่ก็ยังมีดอก
โคบุชิ (
辛夷) เป็นดอกไม้ในสกุลแมกโนเลีย ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า
Magnolia kobusดอกไม้ที่บานสวยในฤดูใบไม้ผลิไม่ได้มีแค่ดอกซากุระเท่านั้น ที่จริงแล้วมีพืชอีกหลายชนิดที่ผลิดอกบานสวนคล้ายกัน แค่ในญี่ปุ่นอาจไม่ได้เจอได้มากเท่า
สวนสาธารณะแห่งนี้กินพื้นที่กว้างและมีส่วนที่ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดินหลายแห่งในสายนานากุมะ ที่เดินทางไปได้ง่ายที่สุดจากใจกลางเมืองก็คือ
สถานีนานากุมะ (
七隈駅) แต่นอกจากนี้
สถานีอุเมบายาชิ (
梅林駅) และ
สถานีโนเกะ (
野芥駅) ซึ่งอยู่ถัดมาก็ไม่ห่างจากที่นี่เช่นกัน สวนนี้รายล้อมด้วยสถานีเหล่านี้
ครั้งนี้เราตัดสินใจไปลงที่สถานีนานากุมะ

ออกมาด้านนอกสถานี

มองออกไปฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว ที่นี่อยู่ค่อนข้างไกลจากใจกลางเมือง แค่นั่งรถไฟใต้ดินมาก็ใช้เวลาแล้ว แต่ก็ยังพอมีเวลาก่อนฟ้าจะมืดสนิท

จากสถานีเดินไปทางตะวันตก ผ่านร้าน
ราเมงพีซ (ラーメンピース) นี่ก็เป็นร้านขึ้นชื่อร้านนึงของแถบนี้เหมือนกัน ไว้ถ้ามีโอกาสแวะมาย่านนี้ก็อาจกินที่นี่ก็ได้ แต่ว่าตอนนี้อยากรีบไปชมซากุระก่อนฟ้ามืด

ระหว่างทางก็ผ่าน
โรงเรียนประถมนานากุมะ (
七隈小学校)

ข้ามฝั่งถนนไปทางใต้แล้วก็เดินเข้าซอยนี้



แล้วก็มาถึงหน้าทางเข้าสวนสาธารณะ

ที่มีรั้วล้อมรอบอยู่นี้เป็นสนามเทนนิส

จากริมสนามมองลงไปยังย่านชุมชนรอบสวน

ตรงริมสนามนี้เริ่มเห็นต้นซากุระอยู่จำนวนหนึ่ง กำลังสวย



จากนั้นตรงทางเดินระหว่างสนามเทนนิสกับสนามฟุตบอลมีดอกโคบุชิ





มาอีกฝั่งของสนามก็มีดอกซากุระอีกหน่อย



ตรงนี้เป็นส่วนลานกว้างใจกลางสวน แต่ว่าตอนนี้กำลังปิดก่อสร้างอยู่

แล้วก็ออกมาตรงย่านชุมชนข้างๆ

เดินข้ามไปยังฝั่งตะวันตกของสวน

ตรงนี้มีซากุระต้นใหญ่ที่กำลังบานสวยและมีคนมานั่งเล่นอยู่ใต้นี้ด้วย


มีพวกเด็กมาเล่นแบดมินตันกันอยู่ตรงนี้ด้วย


ก็เดินเสร็จเพียงเท่านี้ ที่จริงยังไม่ได้เดินทั่วหมด แต่ว่าฟ้ามืดแล้ว และบริเวณที่เหลือก็ดูจะไม่มีอะไรมากแล้ว ก็เลยพอแค่นี้

แล้วก็เดินออกมา ระหว่างทางดูเปลี่ยวและมีแสงไฟน้อยอยู่ กลางคืนคงจะน่ากลัว







แล้วก็ออกมาถึงถนนใหญ่


มาถึงสถานีอุเมบายาชิ ถ้าจะกลับละก็ขึ้นรถไฟใต้ดินจากที่นี่กลับได้เลย แต่เราตั้งใจจะไปหาอะไรกินก่อนจึงยังไม่ได้เข้าไป

ลองดูในแผนที่แล้วพบว่าใกล้ๆสถานีนี้มีร้านราเมงอยู่ คือร้าน
ราเมงยุเมมิยะ (らーめんゆきみ
家) ดูแล้วน่ากิน

แต่พอมาถึงก็พบว่าร้านปิดอยู่

ลองดูหน้าร้านแล้วก็มีเขียนป้ายบอกว่าวันนี้ซุปหมดเลยปิดร้านแล้ว ไว้คราวหลังถ้าแวะมาอีกมาช่วงเที่ยงน่าจะดีกว่า

พอไม่ได้กินร้านนี้ก็เลยต้องไปหาร้านอื่น แต่ว่าแถวสถานีนี้ไม่มีร้านอยู่ใกล้ๆเลยจึงต้องเดินไปอีกสถานีนึงเพื่อหาร้านอื่น แล้วระหว่างทางก็แบบว่าดูเงียบเหงา แสงไฟก็น้อยด้วย ให้ความรู้สึกเป็นบ้านนอก ทั้งที่ยังอยู่ในเมืองฟุกุโอกะ แถวนี้ถือว่าไกลจากใจกลางเมืองพอสมควร เรียกได้ว่าเป็นชานเมือง บรรยากาศเลยต่างจากย่านใจกลางเมืองที่คับคั่งที่เราอาศัยอยู่นัก



แล้วก็มาเจอร้านราเมงอีกร้าน คือร้าน
โชไดนางาฮามะราเมงมุเมย์ (
初代長浜ラーメン
無銘) ซึ่งก็ดูน่ากิน แต่ว่าเป็นร้านราเมงกระดูกหมูแบบที่พบได้ทั่วไปในฟุกุโอกะ และเมื่อวานเพิ่งกินฮากาตะราเมงมา แม้เราจะชอบฮากาตะราเมงแต่ว่ากินต่อเนื่องกันทุกวันก็เบื่อได้เหมือนกัน วันนี้จึงตั้งใจจะกินราเมงชนิดอื่น ดังนั้นร้านนี้จึงขอผ่าน

จากนั้นเดินมาต่อมุ่งหน้าไปยังสถานีโนเกะ แถวนี้เรียกว่าเป็นย่าน
โนเกะ (
野芥) ซึ่งอยู่ใน
เขตซาวาระ (
早良区) ไม่ใช่เขตโจวนังแล้ว

แล้วก็มาถึงร้านที่เป็นเป้าหมาย ชื่อร้าน
ชินฮากาตะโชวยุราเมงบัลตีเอ (
新博多醤油ラーメンバルティーエ) เป็นร้านราเมงที่ดูแปลกน่าสนใจ

ร้านนี้ใช้พื้นที่ร่วมกับอิซากายะ

เมื่อเข้ามาในร้านก็พบว่าเป็นร้านมืดๆ เปิดไฟแค่สลัว และมีประตูเชื่อมกับร้านอิซากายะข้างๆซึ่งเปิดไฟสว่าง ไม่รู้ทำไมร้านราเมงมืดแต่อิซากายะกลับสว่าง ที่จริงมันควรจะกลับกัน แต่แบบนี้ก็แปลกไปอีกแบบ

ภายในร้านมีแต่โต๊ะเคาน์เตอร์ ซึ่งมีจานขาวขนาดใหญ่วางอยู่ และมีกีตาร์ไฟฟ้าแขวนอยู่ ไม่รู้ใช้ทำอะไร

จากที่นั่งที่เรานั่งอยู่ ตรงนี้มีเมนูวางอยู่ และมองไปเห็นเจ้าของร้านอยู่ด้านในส่วนครัว เวลานั้นไม่มีลูกค้าคนอื่นเลย ดูเงียบเหงา

ส่วนเมนูก็มีแค่ ๓ แบบ และแต่ละแบบก็จำกัดจำนวนที่ทำได้ในแต่ละวันไว้ชัดเจนเนื่องจากวัตถุดิบ ดูจำนวนแล้วก็น้อยขนาดนี้เลย แถมอันขวาสุดคือราเมงโชวยุเครื่องในวัว (
牛もつ
醤油ラーメン) ก็ขายหมดแล้วด้วย น่าจะถือเป็นเมนูเด่นของร้านนิยมที่สุด เพราะหาของแบบนี้ที่อื่นได้ยาก แต่วันนึงขายแค่ ๑๐ ชามเท่านั้น

เราสั่งอันซ้ายสุดคือราเมงโชวยุไก่ (
鶏醤油ラーメン) ซึ่งราคาถูกสุด ๗๕๐ เยน
แล้วที่สั่งก็มา ชามมีขนาดใหญ่ทำให้ดูเหมือนราเมงมีน้อย แต่ที่จริงดูจะปริมาณปกติ

มีเครื่องปรุงวางอยู่นิดหน่อย เช่นกระเทียมและวาซาบิ

เราหยิบกระเทียมใส่ลงไปเต็มเลย ใส่แล้วอร่อยขึ้นมาก โดยรวมแล้วถือว่าอร่อยมาก ไม่ผิดหวังเลย ถึงขนาดรู้สึกว่าดีแล้วที่ร้านที่แวะไปตอนแรกนั้นปิดเลยทำให้เราได้มากินร้านนี้

กินเสร็จก็เดินไปอีกนิดก็ถึงสถานีโนเกะ



แล้วก็นั่งรถไฟใต้ดินรอบ 20:00 กลับ

ก็เป็นอีกวันที่อยู่จนกลับช้า แต่ก็ได้ชมดอกซากุระและดอกโคบุชิสวยและยังได้กินราเมงอร่อยๆ ถือว่าคุ้มและเต็มอิ่มไปอีกวัน