#อาทิตย์ 27 มี.ค. 2016 หลังจากที่ตอนที่แล้วเที่ยวในไถหนานจนจบเราก็รีบเดินทางไปที่สถานีรถไฟความเร็วสูงเพื่อเดินทางกลับ
https://phyblas.hinaboshi.com/20160411 เป้าหมายต่อไปนั้นที่จริงแล้วเดิมทีตั้งใจว่าจะกลับเข้าเมืองไถหนานแล้วแวะวัด ขงจื๊อ แต่เนื่องจากเราขอเปลี่ยนตั๋วรถไฟเป็นเวลา 15:49 ทำให้ต้องรีบไปสถานีรถไฟไม่เช่นนั้นจะไม่ทันขึ้นรถไฟกลับ สถานีรถไฟความเร็วสูงของไถหนานไม่ได้อยู่ในเมือง เราจึงไม่ได้มีโอกาสกลับไปในตัวเมืองไถหนานอีกแต่เลยไปสถานีรถไฟเลย
เดิมทีมีเราคนเดียวที่เปลี่ยนตั๋วเพื่อจะกลับรอบเร็วขึ้น เพราะต้องการไปหาเพื่อนให้เร็วที่สุด แต่พอถึงเวลาปรากฏว่าแม่ก็อยากรีบกลับเร็วเหมือนกันก็เลยตั้งใจจะขอเปลี่ยน ตั๋วด้วย
แต่เพราะไม่ได้เปลี่ยนตั๋วมาตั้งแต่เมื่อวาน พอไปถึงสถานีจะไปเปลี่ยนตั๋วก็พบว่าไม่มีที่นั่งแล้วทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนได้
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังสามารถขึ้นรถไฟเที่ยวเดียวกับเราได้ เพียงแต่จะไม่มีที่นั่งประจำต้องรอให้มีที่นั่งที่ว่างไม่มีคนจองถึงจะนั่งได้
เราสละให้แม่นั่งที่ประจำ ส่วนเราก็ไปหาที่นั่งอื่น ซึ่งก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเพราะคนไม่ได้แน่นเต็มขบวนรถ
ชานชลาระหว่างรอรถ ทางขวาเป็นเส้นทางเดินรถ แต่ขบวนที่นั่งนี้ไม่ได้จอดทุกสถานี แต่จอดแค่สถานีสำคัญเหมือนกับตอนขามา
รถไฟมาแล้ว
ทิวทัศน์ระหว่างทางก็มีถ่ายเก็บไว้เป็นระยะ
แม่กับอาอี๋ลงที่เถาหยวน ส่วนเราเลยต่อไปไทเปเพื่อหาเพื่อนแล้วค่อยกลับเถาหยวนภายหลัง
ระหว่างทางก็ชมทิวทัศน์ไปแล้วก็เปิดมือถือดูอะไรใน facebook ไป มีอะไรฮาๆให้ดูพอดี วันนี้เราเจอทั้งธูปและควันมามากแล้ว ใน facebook ก็ยังเจอธูปอีก แต่เขาจุดบูชาฮีโร่ ภาพนี้ถ่ายขณะรถไฟอยู่แถว
สถานีป่านเฉียว (板橋站) เดินทางมาถึง
สถานีไทเป (台北車站) แล้ว ไม่ได้มาที่นี่ตั้งนาน จำไม่ได้ว่าเคยมากี่ครั้งแล้ว เมื่อก่อนสมัยที่อยู่ไต้หวันก็มาไทเปบ่อยๆ ส่วนใหญ่จะนั่งรถบัส แต่บางครั้งก็นั่งรถไฟ
เรานัดเจอเพื่อนไว้ที่นี่ เขาเป็นคนไทยที่มาอยู่ไต้หวันเป็นเวลานานหลายปี คุ้นเคยกับที่นี่เป็นอย่างดี
สถานีไทเปนี้รอบๆเป็นศูนย์การค้าใต้ดินขนาดใหญ่ เส้นทางค่อนข้างซับซ้อน มีของขายและของกินมากมาย
เราแวะทานที่ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่งในนั้น
จากนั้นก็ออกมาเดินเล่นด้านนอก อากาศตอนนั้นกำลังเย็นสบายน่าเดินมาก
แวะซื้อ
โยวโหยวข่า (悠遊卡) ที่ 7-11 บัตรนี้ใช้นั่งรถไฟ, รถไฟฟ้า และรถเมล์ในบริเวณไทเปได้ และยังใช้ซื้อของตามร้านต่างๆเช่น 7-11 ได้ด้วย
โยวโหยวข่ามีลวดลายหลากหลาย สามารถเลือกลายได้ตามที่ต้องการ เราเลือกลาย Cinnamoroll เพราะเห็นว่าหน้าตาคล้ายคิวเบย์ น่ารักดี
วิธีใช้ก็คล้ายๆกับบัตรรถไฟฟ้า BTS กับ MRT ของกรุงเทพฯ การซื้อบัตรนี้ต้องมีค่ามัดจำ ๑๐๐ หยวน ที่เหลือก็จ่ายค่าเติมเงิน เราเติมไป ๒๐๐ หยวน รวมแล้วจ่ายไป ๓๐๐
จากนั้นเดินมาแวะ
ร้านหนังสือเตี้ยนเจี่ยวสือ (墊腳石圖書廣場, เตี้ยนเจี่ยวสือถูซูกว๋างฉ่าง) แต่ยังไม่ได้ซื้ออะไร
ร้านนี้เป็นร้านหนังสือที่มีหลายสาขา มีอยู่หลายแห่งทั่วไต้หวัน สาขานี้เป็นสาขาถนน
สวี่ชาง (許昌) ตั้งอยู่ที่ถนนสวี่ชาง
จากนั้นกลับมายังห้างใต้ดิน แวะร้าน
จ๋าจื้อเฟิง (雜誌瘋) เป็นร้านที่ขายพวกของเกี่ยวกับอนิเมะ มีมังงะและนิตยสารที่นำเข้าจากญี่ปุ่น
เรามาเจอกันนี้เข้า เป็นนิตยสาร
manga time kirara ☆ magika (まんがタイムきらら☆マギカ) เล่มที่ 13 และ 14 ซึ่งออกตั้งแต่ปี 2014 เก่ามากแล้ว ดังนั้นเลยถูกขายแบบลดราคา เดิมราคาเล่มละ ๒๗๕ หยวน แต่ว่าลดเหลือ ๕๐ หยวนเท่านั้น เราจึงไม่รอช้ารีบซื้อมาทันที
นิตยสารนี้ตีพิมพ์มังงะล้อเลียนเรื่องมาโดกะ มีผู้เขียนมากมาย ตีพิมพ์ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2012 โดยออก ๒ เดือนต่อเล่ม
ด้านหลังเล่ม ของเล่ม 14 เป็นรูปจากเรื่อง
hanayamata (ハナヤマタ) ซึ่งฉายเป็นอนิเมะอยู่ในช่วงนั้น (ก.ค. 2014)
หนังสือมีหน้าสีอยู่หลายหน้า แต่ส่วนใหญ่เป็นขาวดำ กระดาษที่ใช้เป็นแบบถูกๆทำให้น้ำหนักเบาถือสบาย
ภายในเล่ม 13
เล่ม 14
สารบัญอยู่หน้าสุดท้าย มีรูปจากเรื่อง
gochuumon wa usagi desu ka ? (ご注文はうさぎですか?) พอซื้อเสร็จก็ดึกพอสมควร สองทุ่มครึ่งแล้ว ได้เวลาเดินทางกลับไปเถาหยวน ถ้ากลับดึกจะยิ่งหารถยาก
เดินไปขึ้นรถไฟ ค่ารถไฟ ๓๘ หยวน ใช้โยวโหยวข่าขึ้น
บนรถไฟคนหนาแน่น ไม่มีที่นั่ง ต้องยืนตลอดทาง
กลับมาถึงสถานีเถาหยวนด้วยความเหนื่อยล้า
ที่ผนังในสถานีรถไฟมีการ์ตูนสั้นๆแปะอยู่ เนื้อหาเกี่ยวกับชายชาวไต้หวันที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วรู้จักกับสาวชาว ญี่ปุ่น เธอช่วยพาเขาเที่ยว จากนั้นเธอก็แวะมาเที่ยวไต้หวันบ้างแล้วเขาก็เป็นฝ่ายพาเที่ยว
สถานีเถาหยวนตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่เราเคยมาใช้บริการประจำ ตอนนี้ตัวสถานีหลักถูกย้ายไปอยู่ด้านบน
ภาพของสถานีเถาหยวนเมื่อ ๕ ปีก่อนดูได้ที่
https://phyblas.hinaboshi.com/20110528 เพื่อที่จะกลับโรงแรมต้องเดินมาขึ้นรถเมล์ซึ่งอยู่หน้า
ห้างถงหลิ่ง (統領百貨) ที่ต้องนั่งไปคือสาย 105 ป้ายรถเมล์ทีนี่มีบอกเส้นทางเดินรถอย่างละเอียด แล้วก็มีบอกเวลาด้วยว่ารถเมล์แต่ละสายจะมาถึงเมื่อไหร่ เมื่อไหร่ที่ไทยจะสามารถทำแบบนี้ได้นะ
ว่าไปแล้วก็คิดถึงสมัยก่อนตอนที่อยู่ไต้หวันซึ่งเรานั่งรถเมล์ไปเรียนทุกวัน เขียนถึงเอาไว้ใน
https://phyblas.hinaboshi.com/20110413 แต่ละสายมีช่วงเวลาและความถี่ในการวิ่งไม่เหมือนกัน รายละเอียดสามารถดูได้ที่ป้ายทั้งหมด บางสายมีเวลาเขียนไว้ตายตัว
รอไม่นานรถเมล์ก็มา นี่เป็นรอบเกือบสุดท้ายแล้วเพราะสายนี้หมดตอนสี่ทุ่มกว่า
ภายในรถเมล์ คนขึ้นกันเยอะแต่ด้านหลังยังพอมีที่ให้นั่ง
โรงแรมฮาราซึรุที่เราพักนั้นอยู่ ใกล้ป้าย
กงหยวนตูซื่อ (公園都市) เราก็ไปลงตรงนั้น
ลงมาแล้วยังต้องเดินไปอีกหน่อยจึงจะถึงโรงแรม
ระหว่างทางผ่านสวนสาธารณะ
ย่านนี้ดูเงียบสงบน่าอยู่ ระหว่างเดินผ่านรู้สึกมีความสุขมาก หวนคิดถึงสมัยก่อนที่พักอยู่เมืองนี้ ตอนนั้นไม่ได้อยู่ย่านนี้แต่ก็คล้ายๆกัน เทียบกันแล้วแถบนี้ห่างจากใจกลางเมืองมากกว่า
แล้วก็กลับมาถึงโรงแรม
จากนั้นก็รีบเข้าไปพักผ่อนเอาแรงเพื่อจะเตรียมเที่ยวต่อในวันรุ่งขึ้น
https://phyblas.hinaboshi.com/20160415