φυβλαςのβλογ
บล็อกของ phyblas



พิพิธภัณฑ์เมืองหลวง
เขียนเมื่อ 2016/12/11 21:45
แก้ไขล่าสุด 2021/09/28 16:42
#อังคาร 9 มิ.ย. 2015

พิพิธภัณฑ์เมืองหลวง (首都博物馆) เป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่อีกแห่งในปักกิ่ง ภายในจัดแสดงสมบัติทางวัฒนธรรมต่างๆของปักกิ่ง ส่วนหลักจัดแสดงประวัติศาสตร์ของปักกิ่งตั้งแต่ยุคโบราณจนถึงปัจจุบัน

หากเปรียบเทียบแล้วอาจคล้ายกับพิพิธภัณฑ์แห่งชาติจีน (中国国家博物馆) ซึ่งเคยเล่าถึงไปใน https://phyblas.hinaboshi.com/20161130

แต่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติจีนจะจัดแสดงประวัติศาสตร์ของจีนทั้งชาติ ในขณะที่พิพิธภัณฑ์เมืองหลวงจะเน้นเฉพาะปักกิ่ง (ซึ่งเป็นเมืองหลวง)

พิพิธภัณฑ์เมืองหลวงเปิดขึ้นครั้งแรกในปี 1981 โดยเดิมทีสถานที่ตั้งอยู่ที่วัดขงจื๊อซึ่งเคยเล่าไปใน https://phyblas.hinaboshi.com/20150610

แต่ว่าต่อมาในปี 2006 ได้ถูกย้ายมาอยู่ในที่ปัจจุบัน เป็นอาคารขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนถนนฉางอาน (长安街) ทางตะวันตกของถนนไป๋หยวิน (白云路)



บันทึกนี้เป็นเรื่องของการไปเที่ยวในช่วงกลางปี 2015 ซึ่งพยายามเที่ยวเก็บตกสถานที่เที่ยวมากมายก่อนจะลาจากปักกิ่งกลับบ้าน

ตอนนั้นไปกับเพื่อนคนอีกคนซึ่งเป็นคนที่เคยไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์แห่งชาติจีนมาด้วยกัน เขามาเยี่ยมปักกิ่งอีกครั้งหลังจากเว้นไป ๒ เดือน

ที่นี่อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าในสาย 1 สถานีมู่ซีตี้ (木樨地站) นั่งมาลงได้ทันทีแล้วก็จะเจออาคารพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่นี้ตั้งตระหง่านอยู่



ที่นี่ไม่มีค่าเข้าชม แต่จำกัดจำนวนเข้าชมต่อวัน การเข้าชมที่นี่ควรจะจองเอาไว้ก่อนผ่านเว็บ http://www.capitalmuseum.org.cn/zjsb/pwfw.htm

แต่หากวันไหนที่คนจองไม่เยอะต่อให้ไม่จองเอาไว้ก็สามารถเข้าได้เลยเหมือนกัน

รอบๆอาคารล้อมด้วยต้นไม้ ดูร่มรื่น



เข้ามาด้านในเจอห้องโถงใหญ่ตรงกลาง



ดูกว้างใหญ่โอ่โถงมาก และที่เห็นเป็นเสานั่นเป็นหอคอยที่ถูกสร้างอยู่ภายในอาคาร ในนั้นมีห้องจัดแสดงอยู่ด้วยตั้งแต่ส่วนชั้น ๒ ขึ้นไป



ส่วนภายในหอคอยชั้นแรกเป็นห้องชมสื่อหลายแบบ (多媒体视听室) ข้างในมีอะไรฉายให้ดูเป็นเวลา



ภายใน



อันนี้ฉายวีดิทัศน์แนะนำพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ สั้นๆ





ขึ้นมาที่ชั้น ๒ จะเจอกับส่วนจัดแสดงประวัติศาสตร์วัฒนธรรมปักกิ่งเมืองหลวงเก่าแก่ (古都北京·历史文化篇)



ห้องนี้เปรียบได้กับห้องจัดแสดงประวัติศาสตร์จีนของพิพิธภัณฑ์แห่งชาติจีน แต่สำหรับพิพิธภัณฑ์เมืองหลวงจะเน้นแค่ประวัติศาสตร์ของปักกิ่งเท่านั้น

เรื่องราวเริ่มตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ มีการขุดพบพวกเครื่องปั้นดินเผาซึ่งเก่าแก่หลายพันปี แสดงให้เห็นร่องรอยว่ามีคนอาศัยอยู่แถวปักกิ่งมานานแล้ว อันนี้ขุดเจอในเขตผิงกู่ (平谷) ทางตะวันออกของปักกิ่ง



ส่วนตรงนี้เป็นของที่ใหม่ขึ้นมาหน่อย เป็นในช่วงประมาณ 16-14 ศตวรรษก่อน ค.ศ. ซึ่งอยู่ในยุคราชวงศ์ซาง ขุดเจอในเขตผิงกู่



ของแต่ละชิ้นจะมีป้ายอธิบายพร้อมรูปประกอบ ดูแล้วเข้าใจได้ง่าย



ในยุคราชวงศ์โจวตะวันตก บริเวณปักกิ่งได้เป็นเมืองหลวงของแคว้นจี้ (蓟国, จี้กั๋ว) และแคว้นยาน (燕国, ยานกั๋ว) ซึ่งเป็นแคว้นที่ตั้งอยู่ติดกัน


รายละเอียดกว่านั้นได้เขียนไว้ในบันทึกการเที่ยวโบราณสถานหลิวหลีเหอ (琉璃河遗址) ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของปักกิ่ง https://phyblas.hinaboshi.com/20150622

วัตถุโบราณจำนวนหนึ่งในสมัยนั้นได้เก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์โบราณสถานกรุงยานยุคราชวงศ์โจวตะวันตก (西周燕都遗址博物馆) ซึ่งตั้งอยู่ตรงโบราณสถานหลิวหลีเหอตรงนั้น แต่ส่วนหนึ่งได้ถูกนำมาจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์เมืองหลวงแห่งนี้



พวกนี้เป็นอุปกรณ์สำหรับรถม้า



ภาชนะสองอันนี้ก็ขุดเจอจากที่นั่น มีจารึกข้อความไว้ด้วย เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่แสดงถึงเรื่องราวในยุคนั้นของแคว้นยาน



อันนี้เป็นภาชนะขนาดใหญ่ที่ขุดเจอจากที่เดียวกันนั้น



ต่อมาเข้าสู่ยุคจ้านกั๋ว แคว้นต่างๆแตกแยกกันยานตีแคว้นจี้แตกแล้วผนวกรวมเข้าด้วยกัน


ภาชนะโบราณช่วงยุคจ้านกั๋วที่ขุดพบในบริเวณปักกิ่ง




พอเข้ายุคราชวงศ์ฉิน จิ๋นซีฮ่องเต้ได้ทำการรวมประเทศและแบ่งเขตการปกครองใหม่ซึ่งใช้ต่อมาจนถึงยุคราชวงศ์ฮั่น การปกครองแบ่งเป็นมณฑล บริเวณปักกิ่งได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของมณฑลโยวโจว (幽州) แคว้นยานได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของโยวโจว โดยเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นแคว้นกว่างหยาง (广阳郡)

รายละเอียดเพิ่มเติมอ่านได้ในบันทึกที่เขียนถึงสุสานยุคราชวงศ์ฮั่นต้าเป่าไถ (大葆台汉墓) สุสานของหลิวเจี้ยน (刘建) ผู้ครองแคว้นกว่างหยาง ใน https://phyblas.hinaboshi.com/20150628

นี่เป็นของส่วนหนึ่งที่ขุดพบที่สุสานต้าเป่าไถ



รูปปั้นดินเผาที่ทำเป็นรูปอาคารบ้าน เป็นของที่ฝังคู่กับหลุมศพในยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันออก



รูปปั้นดินเผารูปวัวลากเกวียนสมัยราชวงศ์จิ้นที่พบในปักกิ่ง



มังกรและวัวสำริดในยุคราชวงศ์ถัง




ภาชนะระบายสามสีในยุคราชวงศ์ถัง



ต่อมาพอสิ้นสุดยุคราชวงศ์เหลียว ปักกิ่งได้ถูกตั้งเป็น ๑ ใน ๕ เมืองหลวงของราชวงศ์เหลียว ใช้ชื่อว่าหนานจิง (南京) และได้เริ่มมีความสำคัญขึ้นมาอย่างแท้จริง

รายละเอียดได้เล่าไว้ในบันทึกที่ไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์กำแพงเมืองเหลียวจิน (辽金城垣博物馆) https://phyblas.hinaboshi.com/20150501

เครื่องสำริดและเครื่องแก้วยุคราชวงศ์เหลียว



เก้าอี้ไม้ยุคราชวงศ์เหลียว



ต่อมาราชวงศ์จินโค่นล้มราชวงศ์เหลียวและปกครองตอนเหนือของจีนแทน ปักกิ่งก็ได้กลายเป็นเมืองหลวงหลักของราชวงศ์จิน

ศิลาจารึกที่หลุมศพในยุคราชวงศ์จิน



เงินตราที่ใช้ในยุคราชวงศ์จิน



ต่อมาถึงยุคราชวงศ์หยวนปักกิ่งก็ยังคงถูกใช้เป็นเมืองหลวงตลอดทั้งยุค

ในส่วนนี้เป็นห้องเล็กๆห้องหนึ่งที่มีการจำลองย่านค้าขายริมน้ำโดยมีแบบจำลองเรือและมีภาพวาดเป็นฉากหลัง ในยุคราชวงศ์หยวนได้มีการปรับปรุงคลองใหญ่ต้ายวิ่นเหอ (大运河) เพื่อเชื่อมหางโจวและปักกิ่ง สินค้าถูกส่งตามคลองจากทางใต้มาทำให้การค้าขายทางน้ำรุ่งเรือง



แผ่นศิลาจารึกบนหลังเต่าที่ขุดพบภายในบริเวณตัวเมืองปักกิ่ง



พอเข้ายุคราชวงศ์หมิงในปี 1368 เมืองหลวงก็ได้ถูกย้ายไปหนานจิงอยู่ระยะหนึ่งแล้วก็เปลี่ยนกลับมาใช้ปักกิ่งเป็นเมืองหลวงอีกครั้งในปี 1421 มีการสร้างพระราชวังขึ้นใหญ่โตในปักกิ่ง ซึ่งรู้จักกันทุกวันนี้ในชื่อว่าพระราชวังต้องห้าม (紫禁城)

นอกจากนี้ยังไม่ได้สร้างกำแพงเมืองและป้อมประตูเมืองโดยปรับปรุงจากของเดิมที่สร้างในสมัยราชวงศ์หยวนขึ้น ปัจจุบันป้อมบางส่วนก็ยังคงหลงเหลืออยู่เช่น เต๋อเซิ่งเหมิน (德胜门) ดังที่เล่าไปใน https://phyblas.hinaboshi.com/20150411

ในนี้มีการทำแบบจำลองเสมือนว่าเรายืนอยู่บนกำแพงเมืองปักกิ่งแล้วมองออกไปเห็นหอธนูป้อมเต๋อเซิิ่งเหมินที่ยื่นออกมาเพื่อใช้รับศึกศัตรู และฉากหลังเป็นภาพการบุกของทหารมองโกลจากนอกกำแพงเมือง



เหตุการณ์ที่จำลองในภาพคือศึกในปี 1449 รายละเอียดเพิ่มเติมอ่านได้ในบันทึกเรื่องสุสานจิ่งไท่ (景泰陵) ที่เขียนใน https://phyblas.hinaboshi.com/20150419

ในนั้นยังมีแสดงอาวุธและกระสุนเหล็กที่ใช้ที่ป้อมประตูด้วย



ส่วนผนังในห้องนี้ มีการนำเหตุการณ์สำคัญของฝั่งยุโรปมาเทียบเพื่อให้เห็นวิวัฒนาการตามเวลาด้วย เส้นเวลาจะสัมพันธ์กัน เช่นปลายยุคราชวงศ์หมิงจะตรงกับช่วงที่ชาวยุโรปเริ่มออกสำรวจทะเล เช่น วัชกู ดา กามา (Vasco da Gama) เฟร์ดินานด์ มาเจลลัน (Ferdinand Magellan)



จากนั้นเข้าสู่ยุคราชวงศ์ชิง ซึ่งในยุคนี้เมืองหลวงอยู่ที่ปักกิ่งตลอดไม่มีการย้ายไปไหน




พระสูตรและมงกุฎที่พบที่วัดเมี่ยวอิ้ง (妙应寺) วัดเจดีย์ขาวซึ่งเล่าไปใน https://phyblas.hinaboshi.com/20161122




ปลายยุคราชวงศ์ชิงเริ่มเข้าสู่สมัยใหม่



แล้วก็เริ่มเข้าสู่ยุคสาธารณรัฐจีน ช่วง 1912 หลังจากโค่นล้มราชวงศ์ชิงได้ ปักกิ่งยังคงเป็นเมืองหลวงไปจนถึงปี 1928 จึงถูกย้ายไปที่หนานจิง และอยู่ไปจนถึงปี 1937 เจอสงครามกับญี่ปุ่นจึงย้ายเมืองหลวงไปที่ฉงชิ่ง จบศึกในปี 1945 ย้ายกลับมาหนานจิงอีก



แต่พอถึงปี 1949 เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์ยึดอำนาจเข้าปกครองจีนได้สำเร็จ เมืองหลวงก็ถูกย้ายกลับมาอยู่ปักกิ่งอีกครั้ง และอยู่มาถึงปัจจุบัน

ในช่วงปี 1928-1949 ซึ่งปักกิ่งไม่ได้เป็นเมืองหลวงอยู่นั่นปักกิ่งได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นเป่ย์ผิง (北平) ก่อนที่จะเปลี่ยนกลับมาอีกที

เรื่องราวช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ ที่จีนรบกับญี่ปุ่นในปี 1937-1945 ปักกิ่งเป็นสมรภูมิรบที่สำคัญซึ่งถูกญี่ปุ่นยึดได้แต่ก็ได้คืนตอนญี่ปุ่นแพ้สงคราม



ตามมาด้วยการเข้ายึดเมืองปักกิ่งของพรรคคอมมิวนิสต์ในช่วงสงครามกลางเมืองในปี 1949 ทางรัฐบาลจีนเรียกว่าเป็นการปลดปล่อยปักกิ่ง เพราะเป็นการปล่อยจากอำนาจการปกครองของรัฐบาลก๊กมินตั๋งของเจียงไคเชก หลังเหตุการณ์ครั้งนั้นจีนก็เข้าสู่ยุคสาธารณรัฐประชาชนจีน



ส่วนจัดแสดงของห้องนี้ก็สิ้นสุดลงที่ตรงนี้

ส่วนตรงนี้เป็นที่ขายของฝาก





จบแล้วขึ้นมาที่ชั้น ๓ ก็พบว่าวันนั้นชั้นนี้ปิดอยู่ จึงต่อไปยังชั้น ๔



ในชั้น ๔ ประกอบไปด้วย ๓ ห้อง



ห้องแรกเป็นห้องจัดแสดงงานศิลปะพระพุทธรูปโบราณ




ถัดมาเป็นห้องจัดแสดงงานศิลปะเครื่องกระเบื้องเคลือบโบราณ





แบบจำลองแสดงการทำเครื่องกระเบื้อง



สุดท้ายเป็นห้องแสดงสมบัติทางวัฒนธรรมเกี่ยวกับอุปรากรจีน



ต่อมาขึ้นมายังชั้น ๕ ตรงส่วนนี้จัดแสดงเรื่องราวพื้นบ้านของปักกิ่งในสมัยโบราณ








ดูจบชั้น ๕ แล้ว ในอาคารส่วนหลักมีอยู่แค่นี้



แต่ว่ายังเหลือในส่วนของหอคอยที่ยังไม่ได้ดู



ส่วนของหอคอยก็มีอยู่หลายชั้น แต่วันที่ไปดูเหมือนว่าชั้น ๒ และ ๓ จะปิดอยู่จึงขึ้นไปเริ่มดูจากชั้น ๕



ชั้น ๕ เป็นส่วนจัดแสดงงานศิลปะเครื่องหยก







ส่วนของ
หอคอยมี ๖ ชั้น สามารถเดินขึ้นไปชั้น ๖ ได้โดยผ่านชั้น ๕ ชั้นนี้ไม่มีในส่วนเชื่อมกับอาคารส่วนหลักโดยตรง



ชั้น ๖ เป็นส่วนแสดงหอคอยโบราณ



แนะนำหอคอยต่างๆในปักกิ่ง



ตำแหน่งหอคอยต่างๆในบริเวณปักกิ่ง



บรรยากาศภายในนี้ทำเป็นสวนร่มรื่น



ภายในมีป้ายแนะนำหอคอยแห่งต่างๆหายในปักกิ่ง พร้อมกับสมบัติบางส่วนที่พบจากในนั้น


เช่นอันนี้เป็นเจดีย์ขาวของวัดเมี่ยวอิ้ง (妙应寺) ซึ่งเคยเขียนถึงไปใน https://phyblas.hinaboshi.com/20161122



นี่เป็นสมบัติที่เจอภายในเจดีย์ขาว ถูกนำมาเก็บไว้ที่นี่ เป็นของที่ใส่เข้าไปตอนที่ซ่อมแซมเจดีย์ในปี 1753 สมัยจักรพรรดิเฉียนหลง



จากนั้นลงมาดูในส่วนชั้น ๔ เป็นส่วนแสดงงานศิลปะเครื่องสำริด







การเดินเที่ยวที่นี่จบลงเพียงเท่านี้ คิดว่าคุ้มค่าทีเดียวที่ได้มา มีของโบราณให้ดูมากมาย แม้ว่าจะไม่มากเท่าพิพิธภัณฑ์แห่งชาติจีนก็ตาม เพราะของจากทั้งประเทศกับของจากแค่ปักกิ่งขอบเขตมันก็แตกต่างกันมาก แต่ถึงอย่างนั้นปักกิ่งก็ถือว่ามีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีสมบัติทางวัฒนธรรมเยอะมาก

เที่ยวเสร็จก็พากันเดินไปกินข้าวที่ร้านเนื้อย่างเกาหลีที่ตั้งอยู่ใกล้ๆพิพิธภัณฑ์ ชื่อร้านเกาหลีอู (高丽屋) อยู่บนฝั่งตรงข้ามของถนนไป๋หยวินข้ามจากฝั่งพิพิธภัณฑ์ไปทางตะวันออก




-----------------------------------------

囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧囧

ดูสถิติของหน้านี้

หมวดหมู่

-- ท่องเที่ยว >> พิพิธภัณฑ์
-- ประเทศจีน >> จีนแผ่นดินใหญ่ >> ปักกิ่ง

ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาของบทความไปลงที่อื่นโดยไม่ได้ขออนุญาตโดยเด็ดขาด หากต้องการนำบางส่วนไปลงสามารถทำได้โดยต้องไม่ใช่การก๊อปแปะแต่ให้เปลี่ยนคำพูดเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เขียนในลักษณะการยกข้อความอ้างอิง และไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม ต้องให้เครดิตพร้อมใส่ลิงก์ของทุกบทความที่มีการใช้เนื้อหาเสมอ

สารบัญ

รวมคำแปลวลีเด็ดจากญี่ปุ่น
มอดูลต่างๆ
-- numpy
-- matplotlib

-- pandas
-- manim
-- opencv
-- pyqt
-- pytorch
การเรียนรู้ของเครื่อง
-- โครงข่าย
     ประสาทเทียม
ภาษา javascript
ภาษา mongol
ภาษาศาสตร์
maya
ความน่าจะเป็น
บันทึกในญี่ปุ่น
บันทึกในจีน
-- บันทึกในปักกิ่ง
-- บันทึกในฮ่องกง
-- บันทึกในมาเก๊า
บันทึกในไต้หวัน
บันทึกในยุโรปเหนือ
บันทึกในประเทศอื่นๆ
qiita
บทความอื่นๆ

บทความแบ่งตามหมวด



ติดตามอัปเดตของบล็อกได้ที่แฟนเพจ

  ค้นหาบทความ

  บทความแนะนำ

ตัวอักษรกรีกและเปรียบเทียบการใช้งานในภาษากรีกโบราณและกรีกสมัยใหม่
ที่มาของอักษรไทยและความเกี่ยวพันกับอักษรอื่นๆในตระกูลอักษรพราหมี
การสร้างแบบจำลองสามมิติเป็นไฟล์ .obj วิธีการอย่างง่ายที่ไม่ว่าใครก็ลองทำได้ทันที
รวมรายชื่อนักร้องเพลงกวางตุ้ง
ภาษาจีนแบ่งเป็นสำเนียงอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน
ทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจากประวัติศาสตร์ความเป็นมา
เรียนรู้วิธีการใช้ regular expression (regex)
การใช้ unix shell เบื้องต้น ใน linux และ mac
g ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียง "ก" หรือ "ง" กันแน่
ทำความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
ค้นพบระบบดาวเคราะห์ ๘ ดวง เบื้องหลังความสำเร็จคือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หอดูดาวโบราณปักกิ่ง ตอนที่ ๑: แท่นสังเกตการณ์และสวนดอกไม้
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง
เที่ยวเมืองตานตง ล่องเรือในน่านน้ำเกาหลีเหนือ
ตระเวนเที่ยวตามรอยฉากของอนิเมะในญี่ปุ่น
เที่ยวชมหอดูดาวที่ฐานสังเกตการณ์ซิงหลง
ทำไมจึงไม่ควรเขียนวรรณยุกต์เวลาทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ

บทความแต่ละเดือน

2024年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

2023年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

2022年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

2021年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

2020年

1月 2月 3月 4月
5月 6月 7月 8月
9月 10月 11月 12月

ค้นบทความเก่ากว่านั้น

ไทย

日本語

中文