# ศุกร์ 23 ก.พ. 2023บันทึกการเที่ยวมัตสึชิมะ ต่อจากตอนที่แล้วที่เดินข้ามสะพานแดงไปเที่ยวเกาะฟุกุอุระมา
https://phyblas.hinaboshi.com/20240229สถานที่เที่ยวหลักๆของมัตสึชิมะก็หมดแล้ว นอกจากนั้นที่เหลือก็มีพวกพิพิธภัณฑ์ที่อาจไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับสถานที่หลักของมัตสึชิมะ แค่ตั้งอยู่ในเมืองนี้เลยถือโอกาสแวะไปได้
จากตรงชายฝั่งสถานที่เที่ยวหลักของมัตสึชิมะ หากเดินไปตามถนนสายหลักคือ
ทางหลวงหมายเลข 45 (
国道45号) ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือเรื่อยๆก็จะพบพิพิธภัณฑ์ ๓ แห่งได้แก่
-
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์มิจิโนกุดาเตะ มาซามุเนะ (みちのく
伊達政宗歴史館)
-
เดอะมิวเซียมมัตสึชิมะ (ザ・ミュージアム MATSUSHIMA)
-
มัตสึชิมะเรโทรกัง (
松島レトロ
館)
ทั้งหมดนี้เราได้เดินแวะไป แต่ว่าล้วนมีค่าเข้าชม จึงไม่ได้เข้าชม ๒ แห่งแรก แวะแค่แห่งสุดท้ายคือมัตสึชิมะเรโทรกังเท่านั้น
เริ่มจากแห่งแรกที่ผ่านคือ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์มิจิโนกุดาเตะ มาซามุเนะ เป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เกี่ยวข้องกับดาเตะ มาซามุเนะ ผู้ครองเซนไดในยุคเซงโงกุและต้นยุคเอโดะ ค่าเข้าชม ๑๐๐๐ เยน ค่อนข้างแพง และรู้สึกว่าธรรมดา เลยตัดสินใจไม่เข้าชม
ตรงนี้เป็นที่ขายตั๋ว ค่าเข้าชม ๑๐๐๐ เยน เห็นแล้ว
แม้จะไม่ได้เข้าชมข้างใน แต่ก็สามารถเดินดูร้านขายของฝากที่อยู่ตรงทางออกของพิพิธภัณฑ์ได้
เดินดูนิดหน่อยแล้วก็ออกมา
เดินต่อไปก็เจออาคารพิพิธภัณฑ์เดอะมิวเซียมมัตสึชิมะ เป็นพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี
ตัวอาคารดูสวยดี
เข้ามาด้านในก็เจอโต๊ะที่มีพนักงานต้อนรับคอยแนะนำเกี่ยวกับที่นี่ จากตรงนี้สามารถซื้อตั๋วเข้าชมด้านในได้ ราคา ๑๔๐๐ เยน ซึ่งค่อนข้างแพง เราจึงตัดสินใจไม่ซื้อตั๋วเข้าชม
แต่แม้ว่าจะไม่ซื้อตั๋วเข้าชมก็สามารถมาเดินดูในส่วนของร้านขายของได้ ซึ่งก็มีอะไรสวยงามให้ดูมากมาย
พวกกล่องดนตรี
มีตุ๊กตาน่ารักดี
ขนมของฝากของมัตสึชิมะ
ตรงนี้มีพวกตัวการ์ตูนต่างๆที่เกี่ยวข้องกับที่นี่ เช่นโทวโฮกุซึงโกะ (
東北ずん
子)
ส่วนด้านในตรงนี้จึงจะเป็นส่วนจัดแสดงที่ต้องเสียเงินซื้อตั๋วเข้าไปชม เราไม่ได้ซื้อตั๋วจึงแค่มาถ่ายตรงหน้าทางเข้านี้
ส่วนตรงนี้เป็นทางออก
เดินในนั้นเสร็จก็ออกมาแล้วเดินไปตามถนนต่อ
แล้วก็มาถึงมัตสึชิมะเรโทรกัง ซึ่งเป็นที่จัดแสดงพวกของเก่าช่วยปลายยุคโชววะ คือช่วงประมาณ 1970 ทำให้ได้เห็นอะไรย้อนอดีต ถ้าใครที่เกิดและโตช่วงยุคนั้นได้มาดูก็คงรู้สึกหวนระลึก เราเองจริงๆแล้วเกิดไม่ทัน เพราะคนที่เกิดทันคือรุ่นอายุสัก ๕๐ แล้ว แต่ว่าก็เคยมีโอกาสได้ฟังเพลงเก่ายุคนั้นและดูหนังเก่าบ้าง จึงพอจะมีอารมณ์ร่วมได้ในระดับนึง แต่ยังไงถ้าใครเกิดทันน่าจะสนุกกับที่นี่ได้มากกว่า
เมื่อเข้ามาถึงก็เจอคุณลุงที่เป็นเจ้าของที่นี่นั่งอยู่ตรงโต๊ะเคาน์เตอร์ทางซ้าย จ่ายค่าเข้าชมตรงนี้ ราคา ๔๐๐ เยน ถือว่าไม่แพงถ้าเทียบกับปริมาณของที่จัดแสดงที่นี่ แม้ว่าจะมีพื้นที่ไม่มาก แต่ของถูกวางอัดแน่นเบียด เนื้อหาเต็มที่
เครื่องเล่นแผ่นเสียง และโปสเตอร์นักร้องยุคปลายโชววะ พอดีมีโอกาสได้ฟังเลยรู้จักอยู่หลายคนเหมือนกัน ภายในห้องนี้ก็เปิดเพลงของนักร้องยุคนี้อยู่ด้วย ได้บรรยากาศอยู่
เดินต่อมามีชั้นหนังสือที่มีมังงะเก่าๆ
เดินเลี้ยวมาเป็นส่วนจัดแสดงพวกข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน
ตุ๊กตาเก่าๆ
พวกเครืองสำอาง
โทรทัศน์ โทรศัพท์ แล้วก็กล้องถ่ายรูปยุคเก่าที่ใช้ฟิล์ม
เราเอากล้องดิจิทัลของตัวเองมาวางเนียนแล้วถ่ายไปด้วย ดูเผินๆก็แยกไม่ออกเหมือนกันหรือเปล่า?
เครื่องพิมพ์ดีดเก่า
แว่นดูภาพสามมิติ ลองส่องดูได้
เครื่องโทรศัพท์เก่า และอย่างอื่น
เปียโนเล็กซึ่งเขียนว่าเป็นของเก่าถึงยุคเมย์จิเลย
นาฬิกา
ต่อมาแถวนี้เป็นพวกเกี่ยวกับโรงเรียน
กระดานดำมีเขียนอะไรมากมาย
กระเป๋า
ลูกคิดและโต๊ะเรียนเด็ก
ของเกี่ยวกับกีฬา
ถัดมาก็สุดห้องแล้ว มีห้องน้ำอยู่ แวะเข้าได้
ต่อมาแถวนี้เป็นส่วนที่จัดแสดงพวกเกม ซึ่งส่วนหนึ่งใหม่กว่ายุคโชววะ เป็นช่วงต้นยุคเฮย์เซย์ ซึ่งก็คือแถวยุค 1990 กว่า ปลายศตวรรษที่ 20 น่าจะมีคนเกิดทันเยอะกว่า
ตลับเกมเก่า เช่นพวกมาริโอ
มีเครื่องเกมด้วย ไม่รู้ถ้าหยิบมาเปิดจะเล่นได้จริงๆหรือเปล่า
ด้านใต้ก็มีอีก
เกมตกปลา
ตรงนี้มีของไม่เข้ายุคอยู่ด้วย ไอดอลวง 48 มาได้ไงหนอ...
จากนั้นเดินมาดูส่วนถัดมา
ตรงนี้เป็นพวกซูเปอร์ฮีโร่
และส่วนถัดมาเกี่ยวกับพวกรถไฟ
สุดท้าย ที่หน้าทางเข้าออกมีพวกลายเซ็นที่พวกคนดังแวะที่นี่
การชมภายในนี้ก็จบลงแค่นี้ ใช้เวลาอยู่ในนี้ประมาณครึ่งชั่วโมง ได้เวลาเดินจากไป
หลังจากนี้ก็ไม่มีที่เที่ยวไหนที่ตั้งใจจะแวะอีก ได้เวลาเดินทางกลับ โดยขากลับนี้เราจะนั่งรถไฟกลับจากทาง
สถานีทากางิมาจิ (
高城町駅) ซึ่งเป็นคนละสถานีกับตอนขามา แต่ก็อยู่บนสายเดียวกัน แค่ถัดไปทางเหนืออีก ๑ สถานี
ป้ายหน้าทางเข้า จากตรงนี้เดินตามถนนต่อไปทางเหนือ
ข้ามสะพานใหญ่มัตสึชิมะ (
松島大橋) ข้ามแม่น้ำทากางิ (
高城川)
ทิวทัศน์จากบนสะพาน
หลังข้ามสะพานมา
ลอดใต้ทางรถไฟไปเพื่อไปยังฝั่งตะวันออกของรางรถไฟ ทางเข้าสถานีทากางิมาจิอยู่ทางนั้น
จากนั้นมองไปตามรางไปทางโน้นก็เริ่มเห็นอาคารสถานี
ในจังหวะนั้นรถไฟกลับเซนไดกำลังออกพอดี เราเห็นแล้วก็อยากวิ่งไปเพื่อให้ทันรถไฟนั้น แต่ตอนนี้ร่างกายกำลังไม่ค่อยดี เป็นหวัดและเจ็บคออยู่ ถ้าวิ่งแล้วหอบขึ้นมาจะทรมานหนัก เลยได้แค่เดินไปเรื่อยๆ
พอมาถึงสถานี เข้าไปในชานชลา ก็พบว่ารถไฟวิ่งออกไปพอดี ขึ้นไม่ทัน แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะว่ารถไฟที่ผ่านสถานีนี้มีอยู่มาก รอขึ้นรอบต่อไปก็ไม่นาน ขณะนั้นเวลา 16:29 และรถไฟรอบต่อไปคือ 16:41
ระหว่างรอก็ออกมาเดินเล่นหน้าสถานี
เจอตู้กดน้ำอัตโนมัติก็เลยกดซื้อน้ำมะเขือเทศกระป๋อง ๑๑๐ เยน เอามานั่งดื่มแก้เจ็บคอระหว่างอยู่บนรถไฟ
แล้วก็เข้ามารอที่ชานชลา
ชานชลาท่ามกลางหิมะและพระอาทิตย์ยามเย็น ดูสวยงามมาก
อาคารสถานี มองจากชานชลา
แล้วรถไฟก็มา ได้เวลาขึ้นรถไฟเดินทางกลับ
หลังจากรถไฟออกจากสถานีก็ผ่านมาจอดที่สถานีมัตสึชิมะไคงังซึ่งเป็นสถานีหลักของจุดท่องเที่ยวเมืองมัตสึชิมะที่เรามาลงเมือตอนเช้า คนขึ้นที่สถานีนี้จนเต็มแน่นไม่มีที่นั่งเลย หลายคนคงมาตอนเช้าและกำลังเดินทางกลับเวลานี้เหมือนกัน ดีที่เราขึ้นรถไฟจากสถานีก่อนหน้าเลยได้นั่งสบายตลอดทาง
จากนั้นรถไฟก็เดินทางกลับเซนไดเวลา 17:24 จบการเที่ยววันนี้ลงเท่านี้ เป็นอีกวันที่ได้เที่ยวเต็มอิ่ม ทิวทัศน์ของมัตสึชิมะนั้นสวยงามสมคำร่ำลือ ยิ่งปกคลุมด้วยหิมะก็ยิ่งสุดยอด
ตารางสรุปค่าใช้จ่าย
รถไฟ อาโอบะโดริ-มัตสึชิมะไคงัง 8:54 ~ 9:37 |
418 |
นั่งเรือชมอ่าว |
1000 |
คันรันเตย์+พิพิธภัณฑ์มัตสึชิมะ |
200 |
เอนตซืออิง |
500 |
ข้าวหน้าหอยนางรม |
1250 |
วัดซึยงัง |
700 |
ปราสาทมัตสึชิมะ |
300 |
เกาะฟุกุอุระ |
200 |
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์มิจิโนกุดาเตะ มาซามุเนะ |
1000 |
เดอะมิวเซียมมัตสึชิมะ |
1400 |
มัตสึชิมะเรโทรกัง |
400 |
รถไฟ ทากางิมาจิ-อาโอบะโดริ 16:41 ~ 17:24 |
418 |
รวม |
5086 |